อะไรเอ่ย หัวเป็นหนามถามไม่พูด

อะไรเอ่ย หัวเป็นหนามถามไม่พูด



อะไรเอ่ย หัวเป็นหนามถามไม่พูด






๑. ความหมายของปริศนาคำทาย


          ปริศนาคำทาย หมายถึง ปัญหาหรือคำถามซึ่งผู้ถามอาจจะถามตรง ๆ หรือถามทางอ้อมก็ตาม คำถามอาจจะใช้ถ้อยคำธรรมดาเป็นภาษาร้อยแก้ว หรือจะมีสัมผัสแบบภาษาร้อยกรองก็ได้ ภาษาที่ใช้นั้นเป็นภาษาสั้น ๆ ง่าย ๆ กระชับความ แต่ยากแก่การตีความในตัวปริศนาอยู่บ้าง ส่วนคำตอบ  มักจะเป็นสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวันในสมัยนั้น ๆ และในบางคำถามมักจะมีเค้าหรือแนวทางสำหรับคำตอบ ซึ่งผู้ตอบจะต้องใช้ความสังเกต ความคิดและไหวพริบในการคิดหาคำตอบ

๒. ที่มาของปริศนาคำทาย

        ปริศนาคำทาย เกิดจากความต้องการลองภูมิปัญญากัน จึงมีการทายปริศนา ในสมัยก่อนนิยมเล่นกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มักจะเล่นกันในยามว่างจากการทำงาน

๓. จุดมุ่งหมายของปริศนาคำทาย

     1.    เพื่อพักผ่อนหย่อนอารมณ์

     2.    ส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสติปัญญา

     3.    เพื่อให้ทราบภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย  วัฒนธรรม ความเชื่อ

     4.    เพื่อสอนให้เด็กรู้จักธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

๔. ลักษณะของปริศนาคำทาย

๔.๑  นิยมใช้คำคล้องจองกันโดยไม่กำหนดจำนวนคำในแต่ละวรรค เป็นข้อความสั้น ๆ กะทัดรัดหรืออาจผูกเป็นปริศนากลอน ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนทำให้จำได้ง่าย


๔.๒ เนื้อหานั้นมักจะนำมาจากสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา เช่น ของใช้ คน สัตว์ ผัก พืช เวลา สถานที่ เครื่องใช้ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เชาว์ปัญญา ฯลฯ ซึ่งผู้ผูกปริศนาจะต้องเป็นคนช่างสังเกต แล้วนำเอาสิ่งที่สังเกตเห็นมาผูกปริศนาให้ผู้อื่นใช้ปัญญาเพื่อแก้หรือทาย


๔.๓  จำนวนข้อความคำถามจะมีความสั้นยาวไม่เท่ากัน คือ อาจจะมีเพียงตอนเดียว สองตอน สามตอน หรือมากกว่านี้ แต่ข้อความทุกตอนจะเป็นการบอกคำตอบอยู่ในตัวเป็นนัยๆ ซึ่งเมื่อนำคำตอบมารวมกันจะเป็นลักษณะของสิ่งที่ทายนั่นเอง


๔.๔  ไม่นิยมถามตรง ๆ แต่จะใช้สิ่งเปรียบเทียบ


๔.๕  มีการท้าทายให้ผู้ไขปริศนาพยายามคิด

๕. ประเภทของปริศนาคำทาย

๕.๑ ปริศนาคำทายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น


อะไรเอ่ยเขียวชอุ่มพุ่มไสวไม่มีใบมีแต่เม็ด=ฝน


๕.๒ ปริศนาคำทายเกี่ยวกับพืช เช่น อะไรเอ่ยต้นเท่าครกใบปรกดิน= ตะไคร้


๕.๓ ปริศนาคำทายเกี่ยวกับสัตว์ อะไรเอ่ย สี่เท้าเดินมาหลังคามุงสังกะสี = เต่า


๕.๔ ปริศนาคำทายเกี่ยวกับอาชีพ


อะไรเอ่ย ข้างโน้นก็เขาข้างนี้ก็เขาเรือสำเภาแล่นตรงกลาง = กี่ทอผ้า


๕.๕ ปริศนาคำทายเกี่ยวกับอวัยวะ อะไรเอ่ยไม่ใกล้ไม่ไกลมองเห็นรำไร = จมูก


๕.๖ ปริศนาคำทายเกี่ยวกับศาสนา-ประเพณี อะไรเอ่ย หัวเป็นหนามถามไม่พูด = พระพุทธรูป


๕.๗ ปริศนาคำทายเกี่ยวกับวรรณกรรม พระรามชอบสีอะไร = สีดา


๕.๘ปริศนาคำทายเกี่ยวกับเชาว์ปัญญา อะไรอยู่บนฟ้า = วรรณยุกต์โท



 ๖. คุณค่าของปริศนาคำทาย


          ปริศนาคำทายมีคุณค่ามากมาย  มีรายละเอียดดังนี้

          .  คุณค่าในด้านความบันเทิง  ปริศนาคำทายเป็นการเล่นเพื่อการพักผ่อนในยามว่าง  ผู้ทายจะรู้สึกสนุกสนานตรงที่ได้คิดตีปริศนาคำทายที่มีผู้ผูกไว้  ความตื่นเต้นอยู่ที่การได้รับคำตอบว่าผิดหรือถูก  ตลอดจนการเล่นคำ  เล่นอักษรของคำทายปริศนาด้วยตัวอย่างเช่น

               สุกคุ้ม  สุกเคลือ  สุกยอด  สุกเซน  สุกต้นเต้น  สุกไกล  สุกข้อ  สุกหนาม  สุขก้นขัน (หมากเขือ  หมากหลอด หมากเป็น  หมากส้าน  หมากไฟ  หมากค้อ  หมากขาม  หมากมี้  หมากพริก)

          .  คุณค่าในด้านวัฒนธรรมและประเพณี  คือช่วยสะท้อนสภาพความเป็นอยู่เกี่ยวกับสังคม เช่น อาหารการกิน สิ่งของเครื่องใช้ ศาสนาและประเพณี  ตลอดจนการละเล่นต่าง  ซึ่งสืบทอดกันมา ตัวอย่าง เช่น

               เข้าแปดออกสิบเอ็ด  แม่นหยัง (เข้าพรรษา ออกพรรษา)

               คนเฮ็ดบ่ได้ใช้  คนใช้บ่ได้เฮ็ด  แม่นหยัง  (โลงศพ)

               คุกลุกเข้าเล้า  แม่นหยัง  (ครกมองครกตำข้าว)

               บักขี้คร้านนั่งท่าอยู่เฮือน  แม่นหยัง (โอ่งตุ่มน้ำ)

               อีหยังหูอยู่เทิงหัว  มีตาเต็มโต  (แห)


          .  คุณค่าด้านภาษา  ปริศนาแสดงออกถึงลักษณะการใช้ภาษาในหลายรูปแบบ เช่น เป็นร้อยกรอง  คำผวน  คำสองแง่สองง่าม และคำเปรียบเทียบ ตัวอย่าง เช่น

               ม้าอีขาวหางยาวต้วยก้น  แม่นหยัง  (ต้นกล้วย)

               ขู่หลู่อยู่ไหฮั่ว คืออีหยัง (หัวไฮหัวไร่)

               ไผมากะยอก  เข่าบ่เข่าให้คลำเบิ่ง  แม่นหยัง (ลับมีด)

               จับขาหง่าง  เอาบั๊กแดงยัดใส่  (มีดสะนากหนีบหมาก)


          .  คุณค่าด้านการศึกษาอบรม  ปริศนาช่วยฝึกให้คนคิดเป็น  และแก้ปัญหาเป็น เป็นการฝึกสติปัญญาให้แก่เด็ก  อบรมให้เด็กรู้จักสังเกตและสนใจสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น

               ผู้อยู่ฮิมห้วยสานมอง  ผู้อยู่หนองกองก้น  (แมงมุมหอย)

               สุกบ่หวาน  บานบ่หอม  (พริก,  ดอกฝ้าย)

               บ่มีตีนขึ้นผา  บ่มีตาขึ้นไม้  บ่มีไส้กินคน  บ่มีขนเกือกม่อง (งูเครือวัลย์มีดจอง (กระจ่า) )    


          .  คุณค่าสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมสิ่งแวดล้อม  ดังรายละเอียด

               .  การสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในชนบทอีสานจะมีการสร้างเรือนเป็นเรือนไม้มีเสาสูง  มุงด้วยแฝกหรือหญ้าคา ตัวอย่างเช่น

                    จับหลิด  ติดปัก  (ไม้ขัดตาหนู)

                    มีกกบ่มีใบ  มีใบบ่มีตา  (ต้นเสา  ใบพาย)

๕.๒ สะท้อนให้เห็นเครื่องใช้ที่สำคัญ  ได้นำมาผูกเป็นปริศนา  ดังตัวอย่าง

มีหูสองหู  หม่องกลางเป็นหลุม  (หม้อ)

ซ้างสามขา  พญาดำขึ้นขี่  ปี่น้อยเสพนำ  (ก่อนเส้า  หม้อนึ่ง)

หน่าสั่นฟันขาว  มักกินนำยอดภูเขา  (ขวาน)

๕.๓ สะท้อนให้เห็นเครื่องมือการประกอบอาชีพ  เพื่อให้ครอบครัวมีความสุข

ดังตัวอย่าง

                    ใบอยู่ใต้ฮาก  หมากอยู่ใต้ดิน  (ไถ)

                    เถ้าแก่หลังโกง  ลงน้ำบ่ขุ่น  (เบ็ด)

                    แม่ฮ้อง  ลูกออกหากิน  (ปืน)

                    บักน้อย  แก่ไส้ลอดขอน  (กระสวย)

               .  ปริศนาคำทายบอกถึงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ  บอกถึงสติปัญญาความเป็นคนช่างสังเกตของคนอีสาน สามารถนำเอาธรรมชาติที่มีมาผูกเป็นปริศนา  ทั้งที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์อวัยวะส่วนต่าง  ของร่างกาย  ลักษณะของพืช  สัตว์ ตัวอย่างเช่น

                    สุกเต็มดิน  เก็บกินบ่หมด  (แสงแดด)

                    เห็นบ่เอา  เอาบ่กิน  กินบ่ขี่  ขี่บ่เหม็น  (ตา มือ ปาก ก้น)

                    หีบน้อย  ใส่ผ่าเหลือง  คนหมดเมืองไขบ่ออก (ไข่)

                    บ่มีขา  มีแต่หัว  กะหย่างได้ (หอย)

                    ต้นท่อเข็ม  ใบเต็มน้ำ  (ผักแว่น)

               .  ปริศนาคำทายที่บอกถึงวัฒนธรรมความเชื่อ  ปริศนาคำทายประเภทนี้เกิดขึ้นได้ เพราะคนในท้องถิ่นมีความเชื่อถือศรัทธาในลัทธิศาสนาเดียวกัน  จะเห็นว่าคนในภาคอีสานนับถือพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำภาค ตัวอย่างเช่น

                    คนสามบ้านกินน่ำส่างเดียว บ่เหยียบฮอยกัน (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)

                    แดง  อยู่ในถ้ำ  ฝนบ่ฮำจั๊กเทือ  แดดกล้า  เดือนห่าจังคอยฮำ  (พระพุทธรูป)

               .  ปริศนาคำทายบอกความสามารถทางภาษา  การสื่อความหมายในด้านภาษานำมาผูกเป็นปริศนาเล่นกัน  ทำให้มีชีวิตชีวา ดังตัวอย่าง

                    ฮ่องแฮงฮังนกเขา  เฮือนสี่เสาห่าห่อง  ไม่ปล้องเดียวพันงา

                    หมาโตเดียวพันแข่ว  แก้วหน่วยเดียวพันแสง  แกงต่อนเดียวพันถ่วย

                    กล้วยหน่วยเดียวพันหวี  ปลีฮวงเดียวพันกาบ

               (สวิง  กี่ตำหูก  รุ้งกินน้ำ  ฟืม  ดวงอาทิตย์  ปูน (กินหมากปลีกล้วย พลับพลึง)

                    สุกแคะ  สุกขา  สุกคาฮัง  สุกคาฮู

                    หย่างตั้บ   ปิ้นโต  แม่นหยัง  (โป้ตีน)

                    ม้าอีขาวหางยาวต้วยก้น  แม่นหยัง (ต้นกล้วย)

                    ตกปุ๊กข่างซี้  (ขี้ซ้าง)

               (ขนมครก  ข้าวเกรียบว่าว  ขนมรังผึ้ง  ข้าวหลาม)

                    ห่อนึงพันหัว  หัวหนึ่งพันปาก  หน่าผากพันฮอย  แม่นหยัง


               (รังมดแดง  จอมปลวก  เขียง)

วิธีการเล่นปริศนาคำทาย

  1. ผู้เล่นได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ขบขัน เป็นการพัฒนาจิตใจให้แจ่มใส

  2. ฝึกให้ผู้เล่นเป็นผู้มีนิสัยช่างสังเกต ช่างคิด ฉลาดเฉลียวในการฝึกปัญญาของผู้เล่น

  3. ผู้เล่นจะได้รับความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น สำนวนภาษา สังคมวิทยา และธรรมชาติวิทยา

  4. เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

  5. เป็นการสร้างความสามัคคีสร้างมนุษยสัมพันธ์ในหมู่ผู้เล่นอีกด้วย

  6. เป็นการพัฒนาการใช้ภาษา

  7. เป็นการฝึกให้มีไหวพริบ เชาวน์ ปัญญาดี



ตัวอย่างของปริศนาคำทาย





ปริศนาเกี่ยวกับบุคคล

ปริศนาคำทาย

เฉลย

ใครหือชื่อตกแล้ว ไม่หล่น คิดวัตถุชอบกล แปลกไซร้ ของนี้แหละให้ผล พิลึก ช่วยการเป็นไทได้ แต่เบื้องโบราณ

พระร่วง ทรงคิดกะละออม หรือครุ ขึ้นมาใส่น้ำส่งส่วยไปยังเมืองขอม

ใครเอ่ยแต่เด็กกล้า รบแรง พ่อออกนามว่าแขง เศิกไซร้ เป็นขุนจึ่งจัดแจง จาฤกประวัติของตนไว้ คู่ด้าวแดนตน

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

อะไรเอ่ย สามขาเดินมาหลังคามุงสำลี

คนแก่ถือไม้เท้า

อะไรเอ่ย หัวเป็นหนามถามไม่พูด

พระพุทธรูป


ปริศนาเกี่ยวกับสัตว์

ปริศนาคำทาย

เฉลย

อะไรเอ่ยรถยนต์ก็ไม่ใช่ รถไฟก็ไม่เชิง วิ่งเตลิดเปิดเปิงอยู่กลางป่า

กิ้งกือ หมายความว่ากิ้งกือเดินอยู่ทั่วไป

อะไรเอ่ยคนสามแสน หามแกนไม้ประดู่

กิ้งกือ แกนไม้ประดู่ หมายถึงตัวกิ้งกือมีสีแดงคล้ายสีของไม้ประดู่แดง

อะไรเอ่ยเขียวเหมือนพระอินทร์ บินเหมือนนก ศรปักอก นกก็ไม่ใช่

แมลงทับ

อะไรเอ่ยเรือนสองเสา หญ้าคาสองตับ นอนไม่หลับลุกขึ้นร้องเพลง

ไก่ เรือนสองเสา หมายถึงไก่มี ๒ ขา หญ้าคาสองตับ หมายถึง ปีกไก่ทั้งสองข้างมีลักษณะเหมือนตับ หญ้าคาที่ใช้มุงหลังคาบ้าน

อะไรเอ่ยวิ่งโทง ๆ มีธงข้างหลัง

สุนัข โทง ๆ หมายถึงไม่สวมเสื้อผ้าธง ตามธรรมชาติของสุนัขเวลาวิ่งหางจะโบกไปมาเหมือนธง

อะไรเอ่ยสี่ตีนเดินมาหลังคามุงกระเบื้อง

เต่า

อะไรเอ่ยตีนเป๋อ ๆ คะเย่อกินใบไผ่

ช้าง คำว่าเป๋อ หมายความถึง เฉย ๆ และธรรมชาติของช้างของกิน หน่อไม้ ใบไผ่ และพืชอื่น

อะไรเอ่ยสี่ตีนเชื่อง ๆ ไม่มุงกระเบื้องแต่มุงเข็ม

ช้าง คำว่าเป๋อ หมายความถึง เฉย ๆ และธรรมชาติของช้างของกิน หน่อไม้ ใบไผ่ และพืชอื่น

อะไรเอ่ยแหวนกับแหวนชนกันที่หันอากาศ เกิดเป็นสัตว์ประหลาด ชอบกินหญ้า

วัว แหวนกับแหวนชนกัน คือการสะกดคำมีตัวอักษร ว. ๒ ตัว = วัว

อะไรเอ่ยชื่อเหมือนคนตายมีปีกบินได้ หากินกับดอกไม้

ผีเสื้อ

นกอะไรไม่ใช่ของเรา

นกเขา

อะไรเอ่ยมัจฉาหนึ่งหน้ายาวราวสักฟุต

ปลาม้า

มัจฉาหนึ่งชื่อบอกเป็นฝรั่ง

ปลาทู หมายถึงออกเสียงเหมือนคำในภาษาอังกฤษ

มัจฉาหนึ่งดุร้ายใคร ๆ ชัง

ปลาเสือ

มัจฉาหนึ่งถูกขังไม่ดิ้นรน

ปลากระป๋อง

อะไรเอ่ยชื่ออยู่บนฟ้ากายาอยู่ในน้ำ

ปลาดาว

อะไรเอ่ยชื่ออยู่ป่ากายาอยู่ในน้ำ

ปลาเสือ

อะไรเอ่ยชื่ออยู่ในครัว ตัวอยู่ในดิน

แมงกระชอน กระชอน คือของใช้ในครัว สำหรับกรองกะทิ


ปริศนาเกี่ยวกับเครื่องใช้ในครัว

ปริศนาคำทาย

เฉลย

อะไรเอ่ยชักออกมาดำ ตำเข้าไปแดง มีแสงไฟ

ไม้ขีด สมัยก่อนไม้ขีดไฟจะมีหัวขีดที่ทำจากฟอสฟอรัสสีดำ เมื่อนำไปเสียดสี (ขีด) กับข้างกล่อง จะเป็นไฟสีเทา ต้องเอาไปทิ้ง

อะไรเอ่ย ซื้อมาเป็น สีดำ นำมาใช้เป็นสีแดง พอสิ้นแสงกลายเป็นสีเทา ต้องเอาไปทิ้ง

ถ่านไม้ ที่มีสีดำเพราะนำไม้ไปเผาก่อนแล้วจึงนำมาใช้

อะไรเอ่ยนั่งบนตอหัวร่อคัก ๆ นั่งบนตักหัวร่อคึก ๆ

หม้อข้าวบนเตาไฟ

อะไรเอ่ยม้าสามขา เจ้าพระยาขึ้นขี่ใส่หมวกกำมะหยี่ สูบบุหรี่ ควันปุ๋ย

คือ โม่ ในสมัยโบราณทุกบ้านจะต้องมีโม่ไว้สำหรับบดข้าว หรือเมล็ดพืชให้เป็นแป้ง เพื่อนำไปประกอบอาหาร ลักษณะของโม่เป็นหินกลม ๒ แผ่น



ปริศนาเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ในการประกอบอาชีพ

ปริศนาคำทาย

เฉลย

อะไรเอ่ย ข้างโน้นก็เขาข้างนี้ก็เขาเรือสำเภาแล่นตรงกลาง

กี่ทอผ้า

อะไรเอ่ยคนแก่หลังโกง ลงน้ำไม่ขุ่น

เบ็ดตกปลา เบ็ดมีลักษณะงองุ้มเหมือนคนแก่หลักโกง

อะไรเอ๋ยกดหัวท้องป่อง

สาแหรก หวายที่ผูกด้านล่างถักยึดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดกว้างพอ ที่วางก้นกระบุงหรือกระจาดได้ มีสายขึ้นมามุมละเส้นนำปลายมาถักรวมกันและถักที่คั่น สำหรับสอดไม้คาน สาแหรกจะสูงประมาณ ๑-๑.๒๐ เมตร เวลาจะนำกระบุงหรือกระจายใส่ต้องกดส่วนบนให้ตรงกลางป่องออก เพื่อจะได้นำกระบุงหรือกระจาดวางบนกันสาแหรกได้สะดวก

อะไรเอ่ยตัวอยู่นา ตาอยู่บ้าน อยู่นากัดข้าว อยู่บ้านกัดฝา

ตะปู

อะไรเอ่ยดำมิดหมี ยิ่งตียิ่งกัด ดำเหมือนหมัดยิ่งกัดยิ่งดี

สิ่วกับค้อน เพราะสิ่วและค้อนทำด้วยเหล็กมีสีดำ เวลาใช้สกัดไม้จะต้องใช้สิ่วกดลงไปบนไม้แล้วใช้ค้อนตีลงบนด้ามสิ่ว เพื่อเจาะในเนื้อไม้

อะไรเอ่ยหน้าขาว ๆ ตัวยาวศอก พอตัดขนออกยาวแค่วา

ขวาน เป็นปริศนาที่ผู้ทายจะต้องใช้เชาวน์ในการตอบ หมายถึงหากตัดพยัญชนะตัวหน้าคือ ข. และพยัญชนะสะกดตัวท้ายคือ น. จะเหลือแต่ตรงกลางคือ "วา"

ปริศนาคำทายอะไรเอ่ย

ปริศนาคำทาย.

อะไรเอ่ยอยู่ในวังไม่สั่งไม่ออกมา

อะไรเอ่ย อยู่ในวัง ท่านไม่สั่งไม่ออกมา (เฉลย : น้ำมูก)

อะไรเอ่ยต้นเท่าครกใบปรกดิน

ต้นเท่าครกใบปรกดิน คำตอบคือ ตะไคร้ ต้นกล้วยกับต้นอ้อยอาจจะไม่สงสัยในคำตอบ เพราะขนาดลำต้นและใบใกล้เคียงกับคำทาย แต่ตะไคร้ทำไมถึงต้นเท่าครกได้ทั้ง ๆ ที่ขนาดลำต้นประมาณนิ้วมือ ที่คำทายเป็นเช่นนี้คงเนื่องมาจากใช้ขนาดทั้งกอของตะไคร้จึงวัดขนาดได้ประมาณเท่าครก ต้นเท่าลำหวาย ใบกระจายเต็มคลอง คำตอบคือ บัว

อะไรเอ่ยไม่ใกล้ไม่ไกลมองเห็นรำไร

2. อะไรเอ่ยใกล้ก็ไม่ใกล้ไกลก็ไม่ไกลมองเห็นอยู่ไรๆ (จมูก)