จุดแข็งของตัว เอง มีอะไรบ้าง

SWOT มีประโยชน์มากในการวิเคราะห์ธุรกิจ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ SWOT ประยุกต์ในการวิเคราะห์ตัวเองได้เช่นกัน ซึ่งผลของการ SWOT ตัวเอง ก็จะคล้ายๆกับการทำ SWOT องค์กรเลย นั่นก็คือ มันเป็นการทำให้เราวิเคราะห์ตัวเองด้วยหลักการ SWOT Analysis จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของตัวเราเอง มองเห็นถึงจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และ อุปสรรค เพื่อพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้

จุดแข็งของตัว เอง มีอะไรบ้าง

S (Strength) หมายความว่า จุดแข็งของตัวเราที่ทำให้ได้เปรียบคนอื่น
W (Weakness) หมายความว่า จุดอ่อนของตัวเราที่เสียเปรียบคนอื่น
O (Opportunity) หมายความว่า โอกาสที่เกิดขึ้นที่ช่วยส่งเสริมตัวเรา
T (Threat) หมายความว่า อุปสรรคที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อตัวเรา

จุดแข็ง (Strengths)

จุดแข็งของตัวเราคือการมองจากปัจจัยภายใน หรือ ตัวเรานั่นเอง การวิเคราะห์และประเมินตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้เรารู้ตัวเองว่าเรามีจุดแข็งอะไร เราอาจจะต้องลองตั้งคำถามให้กับตัวเองดังต่อไปนี้ หรือไปถามคนในครอบครัว คนใกล้ชิด หรือ เพื่อน ว่าเรามีจุดแข็งอะไร แล้วมาเปรียบเทียบกับที่ตัวเราเองคิด จะได้ข้อมูลที่ไม่อคติจนเกินไป และพฤติกรรมเป็นอะไรที่ได้เปรียบ มีจุดเด่น ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็มี

ตัวอย่างของจุดแข็ง ที่ลองเทียบกับตัวเองดูว่ามีข้อไหนที่สำคัญและนำมาเป็นจุดแข็งของตัวเองได้

  • เชื่อมั่นในตนเองสูง ส่งผลให้เกิดความมั่นใจ
  • ความคิดเป็นระบบ
  • สื่อสารได้ดี สามารถถ่ายทอดผลงานออกมาได้ดี
  • มีความกล้า กล้าเรียนรู้ กล้าลองในสิ่งแปลกใหม่ กล้าได้กล้าเสีย
  • มีน้ำใจ
  • มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีเพื่อนเยอะ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
  • ซื่อสัตย์ ไม่โกหก
  • มีความอดทนสูง
  • รู้จักกาลเทศะ
  • เป็นคนละเอียด รอบคอบ
  • มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง
  • ชอบอ่านหนังสือ หมั่่นพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
  • ใช้คอมพิวเตอร์ ในระดับดี ทั้งงานเอกสารและงานมัลติมีเดีย
  • เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้หลายภาษา
  • ร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ถนัดงานเขียนบทความ สารคดี เรื่องสั้น วรรณกรรมร่วมสมัย
  • รู้ภาษาที่ 2 ที่ 3 เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น หรือ ถ้าเป็นจุดแข็งสุดๆ ต้องเป็นภาษาที่คนเรียนน้อย เช่น ภาษารัสเซีย ภาษาอารบิค

จุดอ่อน (Weakness)

การวิเคราะห์จุดอ่อน เรามองเห็นไหมว่าเราอ่อนหรือขาดเรื่องอะไร ทำยังไงถึงรู้ว่าเราขาดหรืออ่อนเรื่องอะไรนั้น วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเข้าไปอ่านในการประกาศรับสมัครงานขององค์กรหรือหน่วยงานนั้น ๆ หรือ ถามเพื่อนๆ หัวหน้างาน หรือ ถ้ายังเราอยู่ลอง ครู อาจารย์ ว่าเราขาดคุณสมบัติของไหน หรือ ความสามารถไม่พอ

ตัวอย่างของจุดอ่อน ที่ลองเทียบกับตัวเองดูว่ามีข้อไหนที่เหมือนกับจุดอ่อนของเรา

  • ไม่กล้าแสดงออก
  • ตัดสินใจช้า
  • ใส่ใจในรายละเอียดมากไป
  • คิดเล็กคิดน้อย
  • มีโลกส่วนตัวสูง สันโดษ ไม่ชอบให้ใครก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว
  • ไม่เด็ดขาด ใจอ่อน ขี้โลเล
  • พูดเร็ว ปากจัด พูดก่อนคิด
  • เฉื่อยชา
  • รักความสบาย ขี้เกียจ
  • เกลียดการถูกบังคับ
  • มีโรคประจำตัว
  • ใช้เงินสุรุ่ยสุหร่าย
  • ชอบคิด ชอบวางแผน แต่ไม่ลงมือทำ
  • ผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ลงมือทำทันที
  • ปรับตัวช้า ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
  • TOEFL TOEIC ไม่ถึงเกณฑ์

โอกาส (Opportunities)

โอกาสหมายถึงปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แม้มีโอกาสมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เพราะไม่เคยตั้งใจสังเกต หรือเตรียมพร้อมที่จะคว้าโอกาสไว้จึงมักจะต้องเสียโอกาสดีในชีวิตไป แต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จหลายคนมักจะมีความสามารถในการมองเห็นโอกาสก่อนใคร ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะวิเคราะห์ว่าอันไหนเป้นโอกาสหรืออุปสรรค์สำหรับเรา ต้องลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

  • มีครอบครัวที่อบอุ่น และ มีเพื่อนที่เข้าใจและคอยให้กำลังใจ
  • ครอบครัวให้การสนับสนุนในด้านการศึกษาเป็นอย่างดี และ ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นไป
  • รู้จักกับบุคคลหลากหลายอาชีพ และมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
  • เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ ไม่ถูกสังคมกีดกัน และเพื่อนๆ ยอมรับฟังความคิดเห็น
  • มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากสถานศึกษา ผู้คนและในสถานที่ต่างๆ
  • ได้มีโอกาสในฝึกใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน
  • ในยุคนี้มีแหล่งความรู้อยู่มากไม่ว่าจะเป็น Youtube , Google , Facebook และฟรีไม่เสียตังค์มากมาย เหมาะกับการพัฒนาตัวเอง
  • ออนไลน์ทำให้มีช่องทางการค้าขาย สามารถทำเป็นอาชีพเสริมและอาชีพหลักได้มากมาย
  • อาชีพในยุคนี้มีมากมายกว่าอดีตมาก และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะสร้างงานและอาชีพใหม่มากมาย

 อุปสรรค (Threats)

อุปสรรคจริง ๆ แล้วเป็นปัจจัยภายนอกเช่นกัน ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในชีวิตการทำงานของซึ่งเราไม่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดขึ้นได้ การวิเคราะห์อุปสรรคจะช่วยให้เราสามารถหาทางป้องกัน หลีกเลี่ยง หรือเตรียมแผนรับมือได้ดีขึ้น

  • ตลาดมีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีคู่แข่งหลากหลายสถาบัน คู่แข่งทางออน์ไลน์ก็สูง
  • สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว หรือ ตกต่ำ อาจจะรุนแรงถึงขั้นต้องออกจากงาน
  • ความมั่นคงในการทำงานต่ำลงเมื่อเทียบกับสมัยก่อน เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นยุคที่มี Disruptive Technology
  • กฎระเบียบต่างๆ ที่ออกมาเอื้อทุนใหญ่ๆ ทำให้คนธรรมดาๆ โอกาสไต่เต้าทางสังคมน้อยกว่าในอดีต
จุดแข็งของตัว เอง มีอะไรบ้าง

เมื่อคุณวิเคราะห์ได้ครบทุกข้อ จงลองจับคู่จุดแข็งกับโอกาสว่าคุณมีศักยภาพสำหรับโอกาสที่คุณมีหรือยัง หรือ ลองจับคู่จุดอ่อนกับอุปสรรคว่าจะวางแผนหาแนวทางแก้ไขได้อย่างไรบ้าง และอาจจะพบโอกาสใหม่ๆ หรือ ปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อสำเร็จตามเป้าหมายที่เราต้องการ

เช่นเดียวกับกลยุทธ์พิชัยสงคราม “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”  เช่นเดียวกันกับตัวเรา หากเรายังไม่เคยได้ทำความรู้จักตัวเราเอง ยังมองไม่เห็นข้อดี ข้อเสีย แล้วเราจะปรับปรุง พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร จะประสบความสำเร็จดังฝันได้หรือไม่ ลองนำ SWOT มาปรับใช้ดู

จุดแข็งของตัวเองคืออะไร

จุดแข็งคือสิ่งที่เกิดจากตัวเรา อยู่ในตัวเรา เป็นทักษะ ความถนัด ความสามารถที่ทำให้เราโดดเด่น แตกต่าง และได้เปรียบคนอื่น ตัวอย่างเช่น มีความเชื่อมั่น มั่นใจในตัวเองสูง เรียนรู้เข้าใจได้เร็ว มีความคิดที่เป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ ขยัน มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ กล้าแสดงออก มีน้ำใจ ไม่พูดโกหก ซื่อสัตย์ พูด อ่าน เขียน ได้ ...

จุดเด่นของตัวเอง มีอะไรบ้าง

ตัวอย่าง ข้อดี / จุดเด่น / จุดแข็ง.
ชอบลงมือทำ/ ชอบลองทำอะไรใหม่ๆ.
ใส่ใจรายละเอียด.
ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี.
มุ่งมั่น / ทุ่มเท.
มีความคิดสร้างสรรค์.
มุ่มั่นตั้งใจ แน่วแน่.
มีระเบียบวินัย / ที่โฟกัส ในการทำงาน.
มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น.

จุดแข็งควรตอบอย่างไร

ตัวอย่างจุดแข็งที่ควรตอบ ลำดับแรกในการพูดถึงจุดแข็งของเราคือการเลือกทักษะของเราให้ตรงกับลักษณะของงาน พร้อมแสดงออกว่าสามารถนำจุดแข็งตรงไหน นำช่วยมาพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มทักษะอื่นๆ เข้าไปได้ด้วย เช่น – เป็นคนตรงต่อเวลา – มีความตั้งใจและรับผิดชอบต่อหน้าที่ – เป็นคนซื่อสัตย์

จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร

S (Strength) หมายถึง จุดแข็งของตัวเราที่ทำให้ได้เปรียบคนอื่น W (Weakness) หมายถึง จุดอ่อนของตัวเราที่ทำให้เสียเปรียบคนอื่น O (Opportunity) หมายถึง โอกาสที่เกิดขึ้นที่จะช่วยส่งเสริมเรา T (Threat) หมายถึง อุปสรรคที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อเรา