เครื่องหมายการค้า คืออะไร ทำไมถึงต้องมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ถ้ายื่นจดทะเบียนแล้วจะมีผลดีกับธุรกิจอย่างไร คำถามเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่กำลังเริ่มคิดจะทำธุรกิจ Show เครื่องหมายการค้า (TRADEMARK) เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง หมายถึง เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ เพื่อแสดงว่าสินค้าหรือบริการที่ใช้กับเครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างกับสินค้าหรือบริการที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เครื่องหมายการค้าจึงมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการตลาด โดยมีส่วนทำให้ผู้บริโภคจดจำภาพลักษณ์และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ตลอดจนสร้างความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้า ตลอดจนสร้างเสริม ความนิยมที่มีต่อบริษัทด้วย เนื่องจากผู้บริโภคมักสร้างและพัฒนาความผูกพันกับเครื่องหมายการค้าบางอย่าง นอกจากนี้เครื่องหมายการค้ายังเป็นแรงจูงใจให้บริษัทลงทุนในการรักษาคุณภาพของสินค้าหรือบริการเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องหมายการค้ามีชื่อเสียงในทางบวกอย่างยั่งยืน คุณค่าของเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีและได้รับการดูแลถือเป็นทรัพย์สินทางธุรกิจที่มีค่า และสำหรับบางบริษัท อาทิ Coca-Cola หรือ IBM อาจเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดเลยทีเดียว เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเครื่องหมายการค้า ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับสินค้าหรือบริการที่มีเครื่องหมายการค้าที่ตนรู้จักและตรงตามความคาดหวัง ดังนั้น การเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่มีภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีจึงช่วยสร้าง ความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับบริษัทได้ ด้วยเหตุผลข้างต้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงตระหนักถึงความสำคัญของการจดทะเบียนและใช้เครื่องหมายการค้าในการสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้าหรือบริการ ทำให้ตนมีสิทธิที่จะใช้เครื่องหมายการค้านั้นแต่เพียงผู้เดียวตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ทั้งนี้ เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนอาจทำสัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตนได้ เพื่อเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติม โดยอาจทำในรูปข้อตกลงแฟรนไชส์ อีกทั้งเครื่องหมายการค้ายังเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่นำมาใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้ด้วย นอกจากนี้ เครื่องหมายการค้ายังเป็นเครื่องมือสำคัญในการค้าระหว่างประเทศ เจ้าของเครื่องหมายการค้าจึงจำเป็นต้องจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองสิทธิในประเทศต่าง ๆ ก่อนส่งออกสินค้าไปจำหน่าย เพื่อป้องกันปัญหา การละเมิดเครื่องหมายการค้า หรือมิให้ผู้ประกอบการรายอื่นนำเครื่องหมายการค้าไปจดทะเบียนในต่างประเทศโดยไม่ใช่เจ้าของแท้จริง โดยปัจจุบัน ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีพิธีสารกรุงมาดริด (Madrid Protocol) ตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพื่อรับความคุ้มครองในประเทศต่าง ๆ โดยยื่นคำขอจดทะเบียนต่อสำนักงานเดียวในครั้งเดียว ด้วยภาษาเดียว (อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือสเปน) รวมทั้งเสีย ค่าธรรมเนียมเพียงครั้งเดียว ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้บริการแนะนำแนวทางการจดทะเบียนในประเทศไทย และขยายการคุ้มครองไปต่างประเทศภายใต้พิธีสารกรุงมาดริด (Madrid Protocol) ที่ครอบคลุมเครือข่ายใน 126 ประเทศ ครอบคลุมการค้าคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของการค้าทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือน กุมภาพันธ์ 2564 จาก องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก) นอกจากนี้ เครื่องหมายทางการค้ายังหนึ่งในทรัพย์สินทางปัญญาที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของความตกลงว่าด้วยสิทธิในทางทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับการค้า (Agreement on Trade-Related Aspects of Intellectual Property Rights หรือความตกลง TRIPS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) และเป็นความตกลงระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกําหนดกฏเกณฑ์ระหว่างประเทศสําหรับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยกําหนดระดับของการคุ้มครองขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลของประเทศสมาชิก WTO จะต้องให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินทางปัญญา โดยคํานึงถึงความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ที่จะเกิดกับสังคมทั้งในระยะยาวและระยะสั้น รวมถึงระบุหลักการสําคัญว่าการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาควรจะสนับสนุน การสร้างนวัตกรรม และการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์กับทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้รวมถึงเศรษฐกิจและสังคมด้วย 2.เครื่องหมายบริการ คือ เครื่องหมายที่ใช้ หรือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับบริการ เพื่อแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมายบริการนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมายบริการของบุคคลอื่น 3.เครื่องหมายรับรอง คือ เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้หรือจะใช้ เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการรับรองเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด ส่วนประกอบ วิธีการผลิต คุณภาพ หรือคุณลักษณะอื่นใดของสินค้านั้น หรือเพื่อรับรองเกี่ยวกับสภาพ คุณภาพ ชนิด หรือคุณลักษณะอื่นใดของบริการนั้น 4.เครื่องหมายร่วม คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้หรือจะใช้ โดยบริษัทหรือวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกันหรือโดยสมาชิกของสมาคม สหกรณ์ สหภาพ สมาพันธ์ กลุ่มบุคคลหรือองค์กรอื่นใดของรัฐหรือเอกชนอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้านั้นแตกต่างไปจากสินค้าของบุคคลอื่น เช่น Apple Samsung TOYOTA เครื่องหมายบริการค้า เครื่องหมายที่ใช้กับบริการเพื่อแสดงว่าบริการนั้นแตกต่างไปจากบริการของบุคคลอื่น เช่น นกแอร์ ธนาคารกรุงไทย เครื่องหมายรับรอง เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้รับรองเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้าหรือบริการนั้น เช่น ISO เชลล์ชวนชิม อาหารฮาลาล เครื่องหมายร่วม เครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายบริการที่ใช้ในบริษัทเดียวกันหรือใช้ในองค์การ / กลุ่มบุคคล/ สมาชิกเดียวกัน เช่น กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มมิตรผล ลักษณะของเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนได้ 1.มีลักษณะบ่งเฉพาะ : ต้องเป็นเครื่องหมายที่มีลักษณะพิเศษ 2.ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย : ต้องไม่มีลักษณะต่าง ๆ 3.ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของบุคคลอื่น : เครื่องหมายการค้าที่จะจดทะเบียน ต้องไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้ว จนอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด หลักฐานการจดทะเบียน
สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียน
ตัวทีเอ็ม ตัวยก (Trademark) จะใช้สำหรับเครื่องหมายการค้าที่รอการจดทะเบียน โดยถือว่ายังไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ตัวเอสเอ็ม ตัวยก (Service Mark) ใช้สำหรับเครื่องหมายบริการที่เจ้าของกรรมสิทธิ์จัดทำขึ้นมา
เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้ว
ตัวอาร์ในวงกลม (Registered Trademark) เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการที่จดทะเบียนแล้วจะใช้สัญลักษณ์นี้
สำหรับ © ตัวซีในวงกลม ย่อมาจากคำว่า Copyright (ลิขสิทธิ์) เป็นเครื่องหมายแสดงว่างานชิ้นนั้นมีลิขสิทธิ์ ใช้กับงานสร้างสรรทุกประเภท
สิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าเครื่องหมายการค้าที่ “ยังไม่จดทะเบียน”– มีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้จดทะเบียน – แต่หากมีบุคคลอื่นมาละเมิดสิทธิจะฟ้องคดีการละเมิดสิทธิเครื่องหมายการค้า หรือเรียกค่าเสียหาย ไม่ได้ *เว้นแต่จะเป็นการลวงขาย คือ การที่เอาสินค้าของตน ไปขายให้คนทั่วไปเชื่อว่าเป็นสินค้าของคนที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น เครื่องหมายการค้าที่ “จดทะเบียนแล้ว”– เจ้าของเครื่องหมายการค้า“มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว” ที่จะใช้เครื่องหมายการค้าของตน – สามารถโอนสิทธิ/รับมรดก/ทำสัญญาอนุญาติให้บุคคลอื่นใช้ได้ – มีสิทธิที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ หากมีผู้ละเมิดสิทธิ – มีสิทธิฟ้องเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายเครื่องหมายการค้าของตนได้ ประโยชน์ของเครื่องหมายการค้าในแง่ของ “ เจ้าของเครื่องหมายการค้า ” -คุ้มครองผลประโยชน์ทางการค้าให้กับเจ้าของเครื่องหมายการค้า -เพิ่มมูลค่าให้กับชื่อเสียงทางการค้า (กู๊ดวิลล์) *ขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้เครื่องหมายการค้าเพื่อให้ผู้บริโภคจดจำ และจำแนกความแตกต่างกับสินค้าคู่แข่งได้ ข้อใดเป็นเครื่องหมายทางการค้า1. เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) คือเครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายเกี่ยวข้องกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เช่น บรีส มาม่า กระทิงแดง เป็นต้น
เครื่องหมายทางการค้าหมายถึงอะไรเครื่องหมายการค้า คือ เครื่องหมายที่ใช้เพื่อแยกแยะหรือแสดงว่าสินค้า ที่ใช้ เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เครื่องหมายบริการ คือ เครื่องหมายที่ใช้เพื่อแยกแยะหรือแสดงว่าบริการที่ใช้ เครื่องหมายบริการนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมายบริการของบุคคลอื่น
เครื่องหมายรวมมีอะไรบ้าง(Halal) เป็นต้น 4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) คือ เครื่องหมาย การค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือวิสาหกิจใน กลุ่มเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่นใด ของรัฐหรือเอกชน เช่น ตราช้าง ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด เป็นต้น
เครื่องหมายการบริการมีอะไรบ้างเครื่องหมายบริการ (Service Mark)
ส่วนเครื่องหมายบริการ จะใช้กับธุรกิจบริการ เช่น สัญลักษณ์จำปีของการบินไทย หรือรูปหัวนกของสายการบินนกแอร์ รูปดอกบัวของธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น สินค้าของธุรกิจพวกนี้คือ “บริการ”
|