ในการขับร้องเพลงไทยให้ได้ความไพเราะซาบชึ้ง เกิดจากการผู้ขับร้องใส่อารมณ์และความรู้สึกในบทเพลง การใส่อารมณ์ในการบัขร้องเป็นเรื่องที่ทำค่อนข้างยาก ผู้ขับร้องที่จะร้องเพลงให้ได้อารมณ์นั้น ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการขับร้องมาเป็นระยะเวลาพอสมควร การสร้างอารมณ์ในการชับร้องต้องอาศัยส่วนประกอบอื่น ๆ 1.การใช้เสียงพิเศษ -เสียงพิเศษที่ใช้ในการชับร้องเป็นเทคนิคที่นักร้องในสมัยโบราณนิยมใช้กันมากและนักร้องทุก ๆ คนจะพยายามฝึกฝนเสียงต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อให้การขับร้องเพลงได้ไพเราะยิ่งขึ้นแต่การใช้เสียงพิเศษนี้ไม่ใช่จะทำได้ทุกคน นักร้องที่ไม่ได้ฝึกฝนไม่สามารถจะทำได้ เพราะเป็นสิ่งที่ยากพอสมควร 2.การแสดงออกถึงอารมณ์ในการขับร้อง -การขับร้องเพลงไทยให้ได้ความไพเราะซาบชึ้ง เกิดจากผู้ขับร้องใส่อารมณ์และความรู้สึกในบทเพลง การใส่อารมณ์ในการขับร้องเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ผู้ขับร้องที่จะร้องเพลงให้ได้อารมณ์นั้น 3.การแสดงออกทางบุคลิกภาพ -บุคลิกภาพของนักเรียนและนักดนตรีมีความสำคัญมาก ผู้บรรเลงและผู้ขับร้องจะอยู่ในอาการที่สงบเสงี่ยม เรียนร้อย นุ่มนวล อ่อนโยน ไม่กระด้าง ลักษณะของผู้ที่จะฝึกขับร้องเพลง ผู้ที่จะสามารถขับร้องเพลงให้ไพเราะได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะตัวหลายประการซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้ที่มีความสามารถในการฝึกหัดขับร้องเพลง ควรมีลักษณะ ดังนี้ 1. มีความสุขพลานามัยสมบรูณ์ 2. บุคลิกภาพที่ดี 3. มีเสียงกังวานแจ่มใส 4. ออกเสียงให้ถูกต้องตามอัขรวิธี 5. เป็นผู้รู้จังหวะ 6. เป็นผู้ชอบการแสดง 7. เป็นผู้ที่มีความจำอยู่ในเกณฑ์ดี 8. เป็นผู้มีสมองปราดเปรือง Show การขับร้องเพลงสากล หมายถึง การเปล่งเสียงและถ้อยคำเป็นทำนองอย่างไพเราะ ด้วยคุณภาพเสียงที่ดี ถ้อยคำที่เป็นเนื้อร้องต้องร้องออกมาอย่างถูกต้องและชัดเจน สอดคล้องกับลีลาและจังหวะ รูปแบบการขับร้อง 1.1 การฝึกออกเสียง เป็นการเริ่มต้นการฝึกหัดร้องเพลง เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับระดับเสียงดนตรี โดยเทียบกับเสียงของเครื่องดนตรี 1.2 การฝึกการบังคับเสียง เป็นการบังคับเสียงให้ออกมาโดยถูกทิศทางชึ่งอาจต้องใช้อวัยวะภายในปากเป็นส่วนช่วยในการเปล่งเสียง ได้แก่ คอ ลิ้นปี่ เพดาน ปุ่มเหงือก ไรฟัน ลิ้น คากและปาก เป็นต้น 1.3 การฝึกกล้าเนื้อคอ เพื่อให้เกิดความแข็งแรง สามารถบังคับกล้ามเนื้อให้เปล่งเสียงตามที่ต้องการ มักจะใช้กับการร้องที่ต้องการเสียงที่อ่อนพลิ้ว สั่นระรัว เช่น การครั่นเสียง เป็นต้น 1.4 การฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง การฝึกกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องเพื่อให้แข็งแรงจะเป็นประโยชน์ในการขับร้องเพลงที่มีเสียงสูง ซึ่งในขณะเปล่งเสียงสูงผู้ร้องต้องเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องแล้วค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมา โดยให้ลมบริเวณหน้าท้องเลื่อนขึ้นมา เสียงที่เปล่งออกมามีน้ำหนัก ดังลึก ทำให้ช่วยยืดเสียงได้ยาวต่อไป การฝึกด้วยวิธีนี้บ่อย ๆ จะทำให้เกิดเสียงใส น้ำเสียงมีพลัง การร้องจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น การฝึกไล่เสียง การใช้ลมหายใจ การใช้คำในการขับร้อง ขั้นตอนการขับร้องเพลงไทยประกอบด้วยอะไรบ้างหลักการขับร้องเพลงไทยเป็นหลักที่ครอบคลุมองค์ประกอบและเทคนิคของการขับร้องอย่างครบถ้วน ประกอบไปด้วยหลักการขับร้อง 5 ประการ ได้แก่ 1) ดาด หมายถึง ลักษณะการขับร้องธรรมดาที่ยังไม่มีเทคนิคลีลา 2) ประคบเสียงเป็นเทคนิคการบังคับเสียงร้องให้ไพเราะ 3) ประคบคำ เป็นเทคนิคการออกเสียงคำ ร้องให้ไพเราะ 4) กนกคอ เป็นเทคนิคการตกแต่งทำนอง ...
การขับร้องเพลงไทยมีกี่ประเภท อะไรบ้างการร้องเพลงไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ร้องธรรมดาหรือร้องเล่น ไม่ต้องพะวงถึงบันไดเสียงและจังหวะ ร้องคนเดียวสบายๆ ตามความสะดวก ร้องประกอบดนตรี อาจจะเป็นการร้องคลอด้วยดนตรี หรือร้องรับด้วยวงมโหรี ปี่พาทย์ ซึ่งจะต้องร้องให้ถูกบันไดเสียงและถูกต้องตามจังหวะจะโคน
องค์ประกอบหลักๆของการขับร้องเพลงไทย มี 3 องค์ประกอบ คือข้อใดทำนองเพลง ประสบการณ์ <p>จังหวะเพลง</p> <p>อารมณ์เพลง</p>
ลักษณะเด่นของการขับร้องเพลงไทยคืออะไรการขับร้องเพลงคือการเปล่งเสียงออกเป็น ทำนองมีจังหวะแน่นอน สม่ำเสมอ ในการร้อง ความสำคัญในการขับร้องเพลงไทย คือนิยม เพลงนี้จะมีทั้งทำนองและเนื้อร้อง การร้องนี้จะ ฝึกหัดร้องกันเป็นเพลงแรก ในทำนองเดียวกัน ถือทำนองเป็นส่วนสำคัญ ถ้อยคำที่ร้องนั้นจะ เสาวณีย์ ซื่อตรง ก็ได้ทำการวิเคราะห์ทางร้อง
|