การผสมเครื่องดื่มมีกี่วิธี อะไรบ้าง

บทท่ี 5 41 หลักการผสมเคร่ืองด่ืมประเภทตา่ ง ๆ ความหมายของค็อกเทล (Cocktail) Cocktail หมายถึง เครื่องดื่มที่ใช้เหล้าชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นเครื่องปรุงหลัก และ ปรุงแต่งกลิ่นและรสให้ชวนดื่มยิ่งขึ้นด้วยการผสมเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีกลิ่นและรสที่ต่าง ๆ กันตามปกติแล้ว Cocktail ทุกตารับจะมีเหล้าอยู่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์หรือน้อยที่สุด จะต้องไม่ต่ากว่าครึ่งนึงของเครื่องปรุงทั้งหมด เหล้าที่นิยมใช้ผสมค็อกเทลอาจจะใช้ ยิน วิสกี้ รัม วอดก้า บรั่นดี และอื่น ๆเ มื่อผสมเครื่องปรุงเข้าด้วยกันแล้วบางตารับก็เพียงคน พอเข้ากันบางตารับก็ต้องเขย่าอย่างแรงกับน้าแข็งค็อกเทลที่ผสมแล้วนิยมเสิร์ฟเย็นจัดใน แก้วค็อกเทลสัน้ เครอ่ื งดื่มทีใ่ ช้ดม่ื ในชว่ งเวลาต่าง ๆ เราควรศึกษาและรู้จักว่าเครื่องดื่มอะไรควรจะใช้ดื่มในเทศกาลพิเศษ และใช้ สาหรับโอกาสต่าง ๆ อยา่ งไร เครื่องดมื่ ท่คี วรเลอื กดื่มมี 4 ประเภท คือ 1.แอพเพอริทฟิ คอ็ กเทล เป็นเคร่อื งดมื่ ประเภทดม่ื กอ่ นอาหาร 2.สะติมิวแลนน์ เหมาะสาหรับบารุงร่างกาย เพราะมีครีม ไข่ นมสด ผสมอยู่ ส่วนมากนยิ มดื่มในตอนเชา้ พร้อมกับอาหารหรือหลงั อาหาร 3.ค็อกเทล เครื่องดื่มที่นิยมดื่มในงานเลี้ยงต่าง ๆ มีรสหวานและมีการผสมผลไม้ ตา่ ง ๆ เป็นเครอ่ื งด่ืมสาหรับโอกาสพเิ ศษหรืองานปาร์ตี้ 4.ไฮบอล หรือลองดริ๊งค์ (Highball or long Drink) นิยมใช้ดื่มแก้กระหาย มีน้า ผลไม้และน้าเช่อื มเป็นสว่ นผสม ทาให้มรี สเปรยี้ ว หวานดม่ื เพอ่ื ความสดช่ืน

42 หลักในการผสมเครอื่ งดื่ม 1. บาร์เทนเดอร์ต้องผสมเหล้าด้วยท่วงท่าที่นุ่มนวล คล่องแคล่ว ว่องไว เติมส่วนผสมไม่ ถูกสว่ นและเรียงตามลาดบั เขยา่ ให้ถูกวธิ ี 2. การจัดแต่งเหล้าค็อกเทลต้องคอยตรวจตราดูว่า จัดแต่งได้สวยงามดีหรือไม่ ส่วนผสม ต่างๆเข้ากนั ดหี รอื ไม่ กลิน่ ดีหรอื ไม่ มีกล่นิ เหล้าหรอื ไม่ เยน็ จัดหรอื ไม่ วธิ ีการผสมเครือ่ งดมื่ การผสมเครอื่ งดม่ื มกี รรมวิธหี ลายอยา่ งท้งั แบบง่าย ๆโดยไมต่ อ้ งใช้อปุ กรณ์อะไร และแบบที่มีการ ใช้อปุ กรณ์ต่าง ๆ มากขนึ้ ตามลาดับ 1.การรินหรอื เท (Pouring or pouring) 2.การคน (People) 3.การเขยา่ (Shaking) 4.การปน่ั (Spinning) 5.การจดั ชน้ั (Floor arrangement) ความแตกต่างของดกี รหี รือเปอร์เซน็ ต์ในเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์ บาร์เทน เดอร์ (Bartender) ที่ดีควรรู้จักเครื่องดื่มของตนเอง รู้จักแขก และรู้จัdตนเองก่อนที่จะหยิบ อุปกรณผ์ สมเคร่อื งดื่มหรอื Cocktail Chacker ถา้ ลกู คา้ ต้องการขับรถกลับบ้านเอง หรือมีปัญหา เกี่ยวกับสุขภาพ หรือดื่มได้เฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์น้อย บาร์เทนเดอร์ ควรใส่ใจดูแล ลกู ค้าและจดั หาเคร่อื งดม่ื ที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความสดช่นื

• ควรบรโิ ภคเครือ่ งดมื่ ประเภทแอลกอฮอล์อย่างมีสติ 43 • บุคคลท่มี อี ายุไมต่ ่ากวา่ เกณฑต์ ามทีก่ ฎหมาย ซง่ึ กค็ อื อายุ 20 ปีข้ึนไปเท่าน้ันที่จะได้รับอนุญาต ใหบ้ ริโภคเคร่อื งด่มื ประเภทแอลกอฮอล์ได้ • ห้ามบริโภคเคร่ืองดื่มประเภทแอลกอฮอล์ก่อนขับข่ีรถ หากคุณจ่าเป็นต้องเดินทาง ให้ผู้อื่นขับ ใหแ้ ทน หรือโดยสารรถสาธารณะ หรอื แท็กซี่ เป็นต้น และกรุณาขา้ มถนนอยา่ งระมัดระวัง • ห้ามบริโภคยาผสมกับเคร่ืองด่ืมประเภทแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด กรุณาปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกรก่อนบริโภคเครื่องดื่มประเภทน้ีหากคุณอยู่ระหว่างการรักษาด้วยยา ท้ังน้ี จะรวมถึงยาท่ี ขายตามเคาน์เตอร์ท่ัวไป อย่างเช่น ยานอนหลับ ยาแก้หวัด และยาแก้ไอ เป็นต้น ควรหลีกเล่ียง การบริโภคเครอื่ งด่มื ประเภทแอลกอฮอล์หากคุณอยู่ระหว่างการรักษาด้วยยาแก้อกั เสบ ยาแก้โรค ขอ้ อักเสบ ยาแกโ้ รคซึมเศร้า หรอื ยาชนิดอน่ื ๆ • ไม่ควรบริโภคเคร่ืองดื่มประเภทแอลกอฮอล์ขณะต้ังครรภ์ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารก ในครรภไ์ ด้ สต็อกเหลา้ พ้ืนฐานท่ีควรมีในบาร์เหล้า 1.บรนั่ ดี 2.วิสก้ี 3.ยิน 4.วอดก้า 5.รมั 6.เตกวิ ลา่ 7.เชอรี่ 8.พอร์ต 9.เวอรม์ ุธ

ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือผสม cocktail (หรือ mocktail) กันสักแก้วหนึ่ง .. ก็ควรต้องรู้ก่อนว่า เราจะสามารถผสมได้อย่างไรบ้าง ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป .. ซึ่งนั่นก็หมายความถึง วัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันด้วยครับ
มาดูกันเลยว่ามีวิธีการอะไรบ้าง

1. Shake & Strain (การเขย่าและกรอง) ... วิธีการนี้ คือการนำเอาส่วนผสมทั้งหมดมาเขย่ารวมกัน (หรือรวมกันแล้วเขย่า) เมื่อได้ความเย็นที่ต้องการแล้ว ก็เทเอาเฉพาะส่วนที่เป็น"น้ำ" ออกมาเท่านั้น ซึ่งเราจะใช้อุปกรณ์ก็คือ shaker (หากใช้ boston shaker ก็จะต้องใช้ strainer เป็นตัวช่วยในการกรอง --- ดูจากคลิปก่อนหน้านี้ได้เลยครับ) .... วัตถุประสงค์ของวิธีการนี้ คือ เน้นสำหรับส่วนผสมที่อาจเข้ากันได้ยาก มีความเย็นที่เหมาะสม และไม่ทำให้เสียรสชาติของแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น margarita


2. Shake (การเขย่า) ... เขย่าอย่างเดียวครับ ไม่ต้องกรอง ถ้าเป็น shaker ธรรมดา เมื่อเขย่าเสร็จแล้ว ก็เปิดฝาและฝากรองออก แล้วเทส่วนผสมทั้งหมดที่อยู่ใน shaker ลงในแก้ว จากนั้น ตกแต่งพร้อมเสิร์ฟได้ทันที (หรืออาจจะ top ด้วย Soda หรือ น้ำอัดลม) วิธีการนี้ จะเป็นการเน้นให้เครื่องดื่มเย็นจัด และคงความเย็นได้นาน เน้นรสชาติกลมกล่อม



*** ข้อควรระวังของวิธีการสองแบบแรก คือ ห้ามนำส่วนผสมที่เป็น โซดา น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่อัดแก๊ส ใส่ลงใน shaker .. เพราะจะเกิดแรงดัน และเป็นอันตรายได้


3. Stir (การคนผสม) วิธีนี้ง่ายมาก เพียงเทส่วนผสมที่ต้องการทั้งหมด ใส่ลงใน Mixing Glass(กระบอกผสม) หรือ กระบอก shaker .. แล้วใช้ช้อนบาร์ คนแบบกระทุ้งประมาณ 7-8 รอบ เสร็จแล้วเทใส่แก้วพร้อมเสิร์ฟ หรืออาจจะทำการกรอง แล้วเทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งรออยู่ก็ได้ ซึ่งจะเรียกว่า "Stir & Strain" ....... การผสมแบบนี้ จะเน้นเครื่องดื่มที่ไม่ต้องเย็นมากนัก ไม่ต้องการให้น้ำแข็งละลายมาก และเน้นความเข้มข้นของเครื่องดื่ม


4. Build & Pour (การรินหรือเท) เป็นวิธีการที่เรา ๆ คนไทยรู้จักและคุ้นเคยมากที่สุด เนื่องจากเป็นการผสมที่ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มาก ... พูดแบบติดปากคือ "ชงเหล้า" นั่นเอง ... เพียงเทส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้ว (ที่ใส่น้ำแข็งรอไว้) เท่านั้น เสร็จแล้วอาจคนเบา ๆ ให้เข้ากัน พร้อมดื่มได้ทันที .... ในวิธีการนี้ อาจใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Pourer (จุกริน) เป็นตัวช่วยในการเทก็ได้ครับ ซึ่งจุกรินบางประเภทจะมีการกำหนดปริมาณที่แม่นยำในการเทแต่ละครั้งได้ ..โดยไม่ต้องตวง


5. Layer (การทำชั้น) คือวิธีการรินให้เครื่องดื่มนั้นเรียงกันเป็นชั้น อุปกรณ์ที่ใช้คือ ที่ริน (Pourer) และช้อนบาร์ (Barspoon) โดยเทรินเหล้าตามน้ำหนักของเหล้า รินให้เรียงกันเป็นชั้นสวยงาม โดยใช้ช้อนบาร์ลดความแรงของเหล้าขณะริน วิธีนี้ใช้สำหรับผสมเครื่องดื่มที่ต้องการดื่มแบบเพียวๆ เน้นสีสัน และความเข้มกลมกล่อมของรสชาติ .... หากเรามีการจุดไฟลงไปด้วย หรือคนไทยเราจะคุ้นเคยกับคำว่า "เหล้าร้อน" ที่ดื่มแล้ว "เร่าร้อน" ....เราก็จะเรียกวิธีการนี้ว่า flaming ยกตัวอย่างเช่น B52 (มี 3 ชั้น -- ตัวอย่างตามภาพครับ) หรือ สุดยอดของ Layer ก็คือ Rainbow (มี 7 ชั้น) ...... การผสมเช่นนี้ ควรต้องมีความชำนาญพอสมควร จึงจะได้สีและชั้นที่สวยงาม


6. Blend (การปั่น) ในการปั่น อุปกรณ์ที่ใช้คือ เครื่องปั่น (Blender) เป็นวิธีการผสมส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากันได้อย่างละเอียด ซึ่งต้องการปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน และมีความเย็นจัด ดื่มง่าย


เอาล่ะครับ.... รู้จักวิธีการผสมกันไปแล้ว ในบทต่อไปก็จะเริ่มรู้จัก "เหล้า" กันแล้วล่ะ อดใจรอกันสักหน่อยนะครับ

การผสมเครื่องดื่มแบบ Blend มีวิธีการทำอย่างไร

การปั่น (Blender) คือการปั่นด้วยเครื่องไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องดื่มเย็นจัด โดยการใส่ส่วนผสมที่ต้องการลงในเครื่องปั่นพร้อมน้ำแข็งจะได้เครื่องดื่มเป็นเกล็ดเย็นจัด การผสมเครื่องดื่มโดยการปั่น.
มีความเย็นพอประมาณ.
ต้องการให้เหล้าผสมเข้ากันได้ดี.
คงความเข้มข้นของรสชาติให้เหมือนเดิม.
สีสรรและกลิ่นไม่เปลี่ยน.

เครื่องดื่มชนิดใดเป็นการผสมโดยใช้วิธีการ mudding

Muddling คืออะไร คือ เทคนิคการขยี้หรือบดส่วนผสมในการทำค็อกเทลเพื่อให้มีน้ำผลไม้ รสชาติ กลิ่นอะโรมา ออกมา โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Muddler เทคนิคนี้นิยมใช้ในการทำ Mojito Caipirinha Caipiroska เป็นต้น

อุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมเครื่องดื่มมีอะไรบ้าง

หมวดหมู่ ใน อุปกรณ์ผสมค๊อกเทล.
ขวดเชคเกอร์ผสมเครื่องดื่ม, เครื่องเขย่าเชคเกอร์.
จิกเกอร์ กรวยตวงเหล้า.
ช้อนตวง.
ช้อนบาร์.
ทีกรองน้ำแข็ง.
ที่รินเหล้า พัวเรอร์ จุกปิดขวดโซดา.
แผ่นยางรอง บาร์แมท.
ไม้ทุบน้ำแข็ง.

เครื่องดื่มแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

ประเภทของเครื่องดื่ม เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (non- alcoholic beverage).
น้ำนม (milk).
กาแฟ (coffee).
ชา (tea).
โกโก้ (cocoa).
น้ำผลไม้ น้ำผัก (juice).
เครื่องดื่มสมุนไพร.
น้ำหวาน เป็นต้น.
เครื่องดื่มอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (carbonated beverage).