Show
รวมรีวิวซอฟต์แวร์ทดแทนอาศัยช่วงที่กระแสโอเพนซอร์สยังไม่ตก มาทำอะไรเล่นสนุกๆ ได้ประโยชน์กันดีกว่าครับ ปัญหาใหญ่อันหนึ่งของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สคือมีเยอะมากจนเลือกไม่ถูก บางโปรแกรมก็ดีเวอร์ บางโปรแกรมก็เด็กหัดเขียน ดังนั้นถ้าเรามีข้อมูลของโปรแกรมที่ลองใช้แล้ว เฮ้ย เข้าท่าว่ะ ก็จะมีประโยชน์ต่อคนอื่นที่กำลังหาโปรแกรมประเภทเดียวกัน อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่า Blognone จะมีรีวิวโปรแกรมขนานใหญ่ เข้าใจถูกต้องแล้วครับ เพียงต่อตอนนี้ยังไม่มีรีวิวที่ว่า เพราะคนรีวิวก็คือคนอ่านของเราน่ะเอง 1 คน 1 โปรแกรม จะรีวิวซอฟต์แวร์ได้แค่ไหนกันเชียว อัพเดต มีคนเสนอว่าไม่น่าจะจำกัดแพลทฟอร์มของโปรแกรม เลยแก้กติกาเป็นโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการอะไรก็ได้ หรือจะเป็น web-based ก็ได้แล้วครับ กติกา
ฟอร์แมต ชื่อโปรแกรม ชนิด (เว็บ - ใส่ลิงก์ได้ใช้ html a ปกติ) [license] เขียนบรรยายารายละเอียดของโปรแกรม ไม่เกิน 4 บรรทัด ตัวอย่าง Mozilla Firefox เว็บเบราว์เซอร์ (เว็บไซต์) [Open Source - MPL/GPL] Firefox เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ข้อดีของโปรแกรมคือโหลดหน้าเว็บได้รวดเร็ว ทนทานต่อไวรัสและสปายแวร์ สามารถดูเว็บเป็นแท็บได้ และปรับแต่งความสามารถของโปรแกรมได้จาก Add-ons จำนวนมากมาย Get latest news from Blognone Follow @twitterapi Open-Source Software คืออะไร ?คำว่า "โอเพ่นซอร์ส" (Open Source) เป็นคำที่อยู่คู่วงการซอฟต์แวร์มานาน แต่ความหมายที่แท้จริงของคำนี้คืออะไร Source ในที่นี้หมายถึงอะไร ทำไมต้องเป็นคำว่า "โอเพ่น (Open)" หรือที่แปลว่า "เปิด" มาค้นหาคำตอบกันใน บทความนี้ จากเมนูสารบัญด้านล่างนี้ได้เลย บทความเกี่ยวกับ Software License อื่นๆ ความหมายของคำว่า Open-Source Softwareโอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์ (Open Source Software) จริงๆ แล้วมันคือ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ หรือ แอปพลิเคชัน ที่ทางผู้พัฒนารายแรกของซอฟต์แวร์นั้นๆ เปิดเผยที่มา หลักการของซอฟต์แวร์นั้นให้บุคคลภายนอก ผู้ใช้งาน ผู้พัฒนารายอื่นได้ใช้งาน รวมถึงการนำ รหัสต้นฉบับ หรือ ซอร์สโค้ด (Source Code) ของซอฟต์แวร์ไปแจกจ่าย ทำซ้ำ ศึกษา ดัดแปลง พัฒนาต่อยอดได้อีก โดยไม่ผิดกฏหมาย หรือกฏการใช้แต่อย่างใด นิยามของ Open-Source Software จะต้องมีลักษณะอย่างไร ?
ตัวอย่างกระบวนการพัฒนา Open-Source Software ภาพจาก : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:OSSD_process_data_diagram.png จากเดิมที่ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ถูกเขียนโปรแกรมซับซ้อน สร้างขึ้นด้วยรหัสต่าง ๆ จำนวนมาก ถูกตั้งค่าให้เป็นระบบปิดและรักษาความลับโดยเจ้าของซอฟต์แวร์นั้น ๆ แต่หลักของ Open-Source Software นั้นจะแตกต่างจากซอฟต์แวร์ทั่วไปโดยสิ้นเชิง ทุกคนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึง Source Code ได้ มีความยืดหยุ่นมากกว่าในการปรับแต่ง และผู้พัฒนาเหล่านี้นี่เองที่จะช่วยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ หรือเจอปัญหาใด ๆ ในซอฟต์แวร์ ประวัติความเป็นมาของ Open-Source SoftwareOpen-Source Software เดิมทีนั้น มีชื่อว่า "ซอฟต์แวร์เสรี" (Free Software) เกิดขึ้นครั้งแรกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) จนกระทั่งปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ได้นำคำว่า Open Source มาใช้แทน ซึ่งชุดรหัสต้นฉบับ หรือ ซอร์สโค้ด (Source Code) ชุดแรก ๆ ในยุคนั้นก็คือ The Linux Kernel และ Unix Kernel ในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) แม้จะไม่ได้ถูกเผยแพร่ในฐานะซอฟต์แวร์ฟรี แต่นี่ก็ถือเป็นชุด Source Code ชุดแรก ๆ เลยก็ว่าได้ และหลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) คำว่า "โอเพ่นซอร์ส (Open Source)" ได้ถูกเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ภายในงานอีเวนต์ "Open Source Summit" โดยกลุ่มทีมงานจากบริษัท Netscape และทีมงานชั้นนำ Open-Source Software ไม่ได้มีแค่ในซอฟต์แวร์ประยุกต์ถึงแม้คำว่า Open Source จะเป็นภาพจำว่า สิ่งที่เป็น Open Source จะมีแต่ซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่เป็น Open Source เช่น ระบบปฏิบัติการ หรือ Operation System อย่างที่หลายคนคุ้นเคยก็น่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ Linux ที่พัฒนามาจากระบบ Unix รองรับหลายภาษา เช่น PHP, Ruby, Python ฯลฯ เป็นระบบปฏิบัติการที่เปิดกว้าง รองรับการปรับแต่งจากนักพัฒนา (Developer) ใช้งานเป็นส่วนประกอบพื้นฐานร่วมกับ Windows ได้ ถึงแม้ว่า โอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์ (Open-Source Software), ฟรีแวร์ (Freeware) และ แชร์แวร์ (Shareware) สามารถใช้งานได้ฟรีเหมือนกัน แต่มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หลัก ๆ คือเงื่อนไขการใช้งานที่มากน้อยและการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ต่อนั่นเอง
ตัวอย่าง Open-Source Software ที่หลายคนอยู่จักส่วน Open-Source Software ในชีวิตประจำวันนั้นมีเยอะมาก ๆ บางคนอาจไม่ทราบเลยด้วยซ้ำไปว่า โปรแกรมที่ใช้งานเป็นประจำเป็น Open Source แม้จะไม่ได้นำโปรแกรมไปปรับแต่งโค้ดหรือทำอะไรเพิ่มเติม แต่รู้ไว้ใช่ว่าก็ไม่น่าเสียหาย โปรแกรม LibreOfficeภาพจาก : https://libreoffice.th.uptodown.com/windows โปรแกรม LibreOffice เป็นโปรแกรมจัดการเอกสาร Open Source แต่นอกเหนือจากการปรับแต่ง Source Code แล้ว การใช้งานจัดการเอกสารก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีเครื่องมือให้ใช้งานแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Documents, Spreadsheet, Presentations หรือจะเป็น LibreOffice Dictionaries, LibreOffice Translator ที่เป็นผลงานการปรับแต่งเพิ่มเติมจาก Source Code
โปรแกรม VLC Media Playerภาพจาก : https://libreoffice.th.uptodown.com/windows คงไม่มีใครไม่รู้จัก โปรแกรมดูหนังฟังเพลงสามัญประจำเครื่อง อย่าง โปรแกรม VLC Media Player ที่มีฟีเจอร์ให้เลือกแบบครบ ๆ ไม่ว่าจะในแง่ของการแสดงภาพ เสียง ซับไตเติล (Subtitle) รองรับสกุลไฟล์ภาพและเสียงที่หลากหลาย ใช้งานได้บนแทบทุกระบบปฏิบัติการ เรียกได้ว่ามีโปแกรมเดียวก็ไม่ต้องดาวน์โหลดอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว
เบราว์เซอร์ Mozilla Firefoxภาพจาก : https://blog.mozilla.org/ux/2021/06/content-design-considerations-for-the-new-firefox/ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเบราว์เซอร์สำหรับท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่าง Mozilla Firefox เป็นอีกเบราว์เซอร์ที่ครองใจชาวไทยมานานแสนนาน แน่นอนว่ายังพัฒนาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะในแง่ฟีเจอร์การใช้งาน การทำงานของเบราว์เซอร์ที่รวดเร็ว มีระบบความปลอดภัยในการป้องกันมัลแวร์ (Malware) สปายแวร์ (Spyware) และอันตรายอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นเบราว์เซอร์ที่พัฒนาในทุกด้านอยู่เสมอจริง ๆ
โปรแกรม FileZillaภาพจาก : https://filezilla-project.org/client_screenshots.php โปรแกรม FileZilla เป็นโปรแกรม FTP Client สำหรับรับส่งไฟล์ระหว่างเครื่องลูกข่ายกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ใช้งานง่าย ๆ เพียงลากไฟล์ที่ต้องการและวางในโปรแกรม (Drag & Drop) และยังมีความพิเศษในหลาย ๆ ด้าน เช่น ระบบ TimeOut Detection ตรวจสอบปัญหาการรับส่งข้อมูล, สนับสนุนการเชื่อมต่อผ่าน Firewall และรวมไปถึง โปรโตคอล ด้านความปลอดภัย (Security Protocol) ต่างๆ อาทิ SSL หรือแม้แต่ SFTP (Secure File Transfer Protocol)
Open-Source Software มีประโยชน์อย่างไร ?Open Source เป็นประเภทซอฟต์แวร์ฟรีที่สามารใช้งาน แจกจ่ายเปิดให้ผู้พัฒนาเข้าไปปรับแต่งโค้ดได้ จึงทำให้ซอฟต์แวร์ต้นฉบับเดิม ๆ ถูกพัฒนาเพิ่มจากเดิม มีการแก้ไขข้อบกพร่อง โดยทั้งหมดนี้ยังอยู่ในเงื่อนไข "ฟรี" และถือว่ามีต้นทุนที่ต่ำเมื่อเทียบกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบปิด นอกจากนี้ Open-Source Software ในปัจจุบันมีความปลอดภัยที่มากขึ้น เสถียร เนื่องจากได้รับพัฒนาความปลอดภัยจากผู้ใช้งานส่วนมาก และไม่ต้องซอฟต์แวร์อัปเดตครั้งใหญ่ เพราะใคร ๆ ก็เข้าไปปรับแต่งซอฟต์แวร์ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ แม้บางบริษัทจะปิดตัวหรือยุติการพัฒนาซอฟต์แวร์บางรุ่น แต่ตัว Source Code จะยังคงอยู่และถูกพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ โดยผู้ใช้และนักพัฒนาคนอื่น ๆ และยังเป็นประเภทของซอฟต์แวร์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ด้วยรูปแบบการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ที่ไม่ซับซ้อน และไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ใด ๆ อีกด้วย ที่มา : opensource.com , www.lenovo.com , www.thebalancecareers.com , www.synopsys.com , www.computer.org , cloudtweaks.com , www.thailibrary.in.th
ทำไม Open Source ไม่ได้รับความนิยมโปรแกรม open source จุดอ่อนคือไม่มีการพัฒนาหรือพัฒนาที่ล่าช้า ช่องโหว่เยอะโดนโจมตี้ง่ายเพราะเปิดเผย แต่ก็มี กฏหมายของ open source หลายอย่างที่ทำให้นักพัฒนาไม่อยากเอาไปพัฒนาต่อ เช่น หากเอาโค๊ตโปรแกรมไป คุณต้องเปิดเผยโค๊ตด้วย หรือไม่ต้องจ่ายเงิน
โปรแกรมโอเพนซอร์สที่รู้จักมีอะไรบ้างตัวอย่างโปรแกรมที่เป็น Open Source ก็อย่างเช่น PHP, MySQL, OpenOffice เป็นต้น นอกจากโปรแกรมแล้ว ยังมีระบบปฏิบัติการ OpenSource อย่างระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาใช้ทดแทนวินโดวส์ของไมโครซอฟต์นั่นเอง
Freeware กับ Open Source ต่างกันอย่างไรOpen-Source Software แตกต่างจาก Freeware และ Shareware อย่างไร ? ถึงแม้ว่า โอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์ (Open-Source Software), ฟรีแวร์ (Freeware) และ แชร์แวร์ (Shareware) สามารถใช้งานได้ฟรีเหมือนกัน แต่มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หลัก ๆ คือเงื่อนไขการใช้งานที่มากน้อยและการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ต่อนั่นเอง Freeware.
โปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ตใดเป็นโปรแกรมที่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์โปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ต (Web Browser)
โปรแกรมที่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ เช่น Internet Explorer (IE) Open Source / Freeware เช่น Mozilla Firefox, Opera, Safari, Maxthon, Google Chrome.
|