เปิดห้ามรบกวน

Do Not Disturb นี้เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้มาก เพราะสามารถเปิดหรือปิดเพื่อให้เครื่องเงียบได้ ไม่ส่งการแจ้งเตือนในขณะที่เรากำลังทำงาน, นอน หรือทำธุระสำคัญที่ไม่ต้องการการรบกวน แนะนำให้ลองนำไปปรับใช้ดูตามสถานการณ์นะครับเรียบเรียงโดยทีมงาน MacThai

ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถืออัจฉริยะ หรือ สมาร์ทโฟน (Smartphone) จะเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ 6 ของทุกคน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หรือบางครั้ง ผู้ใช้ก็ต้องการเวลาส่วนตัว ปลอดภัยจากสายเรียกเข้าหรือแจ้งเตือนทั้งหลาย และในปัจจุบันสมาร์ทโฟนแทบทุกรุ่นจึงมีตัวช่วยดีๆ อย่าง "โหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb)" ต่อไปนี้ขอเรียกว่า "โหมด Do Not Disturb" มาให้ได้ใช้งานกัน

บทความเกี่ยวกับ ปิดแจ้งเตือน อื่นๆ

โหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) คืออะไร ?

สำหรับโหมด Do Not Disturb นั้น แปลเป็นไทยได้ตรงตัวว่า ห้ามรบกวน ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้สำหรับปิดเสียงเรียกเข้า ปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ ของสมาร์ทโฟน แม้ว่าจะมีสายเข้าหรือแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันใด ๆ เราก็ไม่สามารถรับรู้ได้ เนื่องจาก โหมด Do Not Disturb ได้ปิดกั้นการเข้าถึงของแจ้งเตือนเหล่านี้ไว้หมดแล้ว

โหมด Do Not Disturb เหมาะที่จะใช้งานในเวลาพักผ่อนหรือยามค่ำคืน เพราะบางทีอาจมีแจ้งเตือนไม่พึงประสงค์เข้ามารบกวนเวลาพักผ่อน ฉะนั้น ถ้าอยากให้ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนสมบูรณ์แบบ ก็ควรที่จะเปิด Do Not Disturb เอาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่โหมดนี้ สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติได้ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ต้องเสียเวลากับการเปิด-ปิดโหมดนี้ทุก ๆ วัน

ส่วนการใช้งานโหมด Do Not Disturb ในสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone และสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ส่วนใหญ่จะมีโหมดนี้มาให้อยู่แล้ว แต่บางคนอาจใช้แค่กดเปิด-ปิดโหมดอย่างเดียว หรือบางคนอาจไม่ทราบว่าตั้งเวลาเพื่อเปิด-ปิดโหมดนี้อย่างไร ขอบอกเลยว่าไม่ยากเลยล่ะ

เปิดใช้งาน Do not Disturb บน iPhone

สำหรับโหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) มีให้ใช้งานทั้งบน iPhone, iPad และ iPod Touch วิธีการก็ง่ายมาก ๆ ดังนี้

  1. เข้าไปที่ "เมนู Settings"
  2. เลือก "เมนู Do Not Disturb"

หลังจากที่เปิดโหมดนี้แล้ว จะเห็นว่ามีรูปไอคอนพระจันทร์เสี้ยวบริเวณมุมขวาบนของหน้าจอ

เปิดห้ามรบกวน

เปิดห้ามรบกวน

หากต้องการตั้งเวลาใน โหมด Do Not Disturb ให้เข้าไปตั้งค่าในเมนูเดียวกัน แล้วทำตามขั้นตอน ดังนี้

  1. เลือก "เมนู กำหนดเวลา" หรือ "เมนู Schedule"
  2. จากนั้น ให้กำหนดเวลาตามต้องการ

ซึ่ง โหมด Do Not Disturb จะไม่มีผลต่อนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้แต่อย่างใด ฉะนั้น มั่นใจได้เลยว่าต่อให้เลือกโหมดนี้ คุณก็จะยังตื่นตามเวลานาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้

เปิดห้ามรบกวน

นอกจากนี้ ในโหมด Do Not Disturb บน iOS ยังสามารถตั้งค่าอื่น ๆ ได้อีก ในกรณีที่กลัวจะพลาดรับสายหรือแจ้งเตือนสำคัญ เช่น

  • การปิดเสียงเรียกเข้าและแจ้งเตือน: สามารถเลือกปิดเสียงตลอดเวลา หรือปิดเฉพาะเวลาที่ล็อคตัวเครื่อง
  • การรับสายเข้า: สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดรับสายจากทุกคน, ปิดการรับสายทุกสาย, รับสายได้เฉพาะรายชื่อที่ตั้งรายการโปรด หรือกลุ่มรายชื่อบางกลุ่มที่ตั้งค่าไว้
  • การรับสายโทรซ้ำ: หากปิดการรับสายจากทุกคน แต่มีสายเข้าจากเบอร์เดิมซ้ำกัน 2 ครั้งภายใน 3 นาที อนุญาตให้สายครั้งที่ 2 ดังขึ้น

เปิดใช้งาน Do not Disturb บนสมาร์ทโฟน Android

เนื่องจากสมาร์ทโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android นั้นมีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น แถมแต่ละรุ่นต่างก็ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันที่แตกต่างกันไป ใน บทความนี้ จะเป็นวิธีการเปิดโหมด Do Not Disturb บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 และ Android 10 เป็นต้น

เปิดใช้งานโหมด Do Not Disturb บนสมาร์ทโฟน Android 11

  • เริ่มต้นด้วยการลาก "แถบ Notification" จากขอบบนหน้าจอ
  • จะเห็นว่ามี "ปุ่ม Do Not Disturb" เป็นคีย์ลัดให้กดเปิด-ปิดง่าย ๆ จากนั้นก็กดที่ปุ่มนี้ได้เลย

เปิดห้ามรบกวน

ภาพจาก: https://www.digitaltrends.com/mobile/do-not-disturb-mode-in-android/

แต่ถ้าต้องการปรับค่าอย่างละเอียด ให้เข้าไปตั้งค่าดังนี้

  1. ไปที่ "เมนู Settings"
  2. เลือก "เมนู Sound & Vibration"
  3. เลือก "เมนู Do Not Disturb"
  4. จะมีเมนูย่อยให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ People, Apps และ Alarms & other interruptions

ภาพจาก: https://www.digitaltrends.com/mobile/do-not-disturb-mode-in-android/

  • People: การตั้งค่าตามรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ (Contact) เลือกทั้งค่าได้ทั้งสายโทรเข้า (Call) ข้อความ (Message) ว่าจะเปิดรับสายทั้งหมด ปิดรับสายทั้งหมด แจ้งเตือนเฉพาะรายชื่อที่มีใน Contact หรือแจ้งเตือนเฉพาะกลุ่มรายชื่อคนโปรด (Starred Contact) 
  • Apps: แอปพลิเคชัน สามารถกดเพิ่มแอปเพื่อปิดแจ้งเตือนทั้งหมดเมื่อเปิดโหมด Do Not Disturb ได้ โดยไม่ต้องเข้าไปในแต่ละแอปพลิเคชันให้ยุ่งยาก
  • Alarms & other interruptions: คือ การเปิด-ปิดเสียงนาฬิกาปลุกและเสียงประเภทอื่น ๆ เช่น เสียงจากเกม วิดีโอ, เสียงคีย์บอร์ดขณะพิมพ์ข้อความ, เสียงแจ้งเตือน Reminders และปฏิทินกิจกรรม (Calendar Events)

ภาพจาก: https://www.digitaltrends.com/mobile/do-not-disturb-mode-in-android/

และอีกเมนูที่แยกออกมา คือ Schedules สำหรับตั้งเวลาเพื่อเปิดโหมด Do Not Disturb ในทุก ๆ วัน สำหรับใช้งานช่วงเวลานอนหลับพักผ่อน กิจวัตรประจำวันที่ไม่อยากให้ผู้อื่นมารบกวน หรือช่วงการประชุมสำคัญที่สามารถเลือก Event ใน Calendar มาใส่ใน Schedules ได้เลย หรือจะเลือกเป็นช่วงเวลาแทนก็ได้ ตัวอย่างเช่น

  • เปิดโหมดจนกว่าจะกลับมาปิดอีกครั้ง (Until I turn it off)
  • เลือกใช้งานเป็นเวลากี่นาที กี่ชั่วโมง (มีให้เลือกตั้งแต่ 15 นาทีจนถึง 12 ชั่วโมง)
  • Ask every time สำหรับคนขี้ลืมที่ต้องการให้ระบบคอยถามเรื่อย ๆ

เปิดใช้งานโหมด Do Not Disturb บนสมาร์ทโฟน Android 10

การใช้งานโหมด Do Not Disturb บนสมาร์ทโฟน Android และ iPhone ถือว่าเป็นฟีเจอร์สำคัญสำหรับหลาย ๆ คน เพราะบางครั้ง การติดต่อสื่อสารไม่ได้จำกัดแค่ในเวลางานหรือเวลาตื่น แต่อาจมีเรื่องเร่งด่วนเข้ามาในช่วงที่กำลังพักผ่อนนอนหลับ เพื่อไม่ให้เรื่องด่วนทั้งหลายทำให้เสียอารมณ์ Do Not Disturb ช่วยได้

เปิดโหมดห้ามรบกวนคืออะไร

คุณปิดเสียงโทรศัพท์ได้ด้วยโหมดห้ามรบกวน โหมดนี้จะปิดเสียง หยุดการสั่น และบล็อกสิ่งรบกวนการมองเห็นได้ โดยคุณเลือกสิ่งที่จะบล็อกและสิ่งที่จะอนุญาตได้

โหมดห้ามรบกวนไอโฟนคืออะไร

คุณสมบัติโฟกัสใน iOS 15 และ iPadOS 15 เป็นต้นไปช่วยให้คุณใช้โหมดห้ามรบกวนเพื่อปิดเสียงสายเรียกเข้า การเตือน และการแจ้งเตือนที่ได้รับในขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ คุณยังสามารถตั้งเวลา "ห้ามรบกวน" และอนุญาตให้บางคนโทรติดต่อคุณได้อีกด้วย เมื่อเปิดโหมดห้ามรบกวน ไอคอนพระจันทร์เสี้ยว จะปรากฏในแถบสถานะและบนหน้าจอล็อค

เปิดโหมดพระจันทร์คืออะไร

คำตอบคือฟีเจอร์ห้ามรบกวน หรือ Do Not Disturb เป็นฟีเจอร์หนึ่งที่ออกมาเพื่อป้องกันการติดต่อมือถือระหว่างเวลาที่ไม่เหมาะสม และเหมาะกับการใช้งานเวลานอนหรือประชุมเป็นต้น ทั้งนี้วิธีการเปิดนั้นสามารถใช้งานได้ง่ายแค่