ถ้าต้องการจะเปิดมุมมอง backstage จะต้องคลิกที่แท็บใด

1.ลักษณะเด่นของโปรแรกม Microsoft Word 2010 และ 2013

  1  การดำเนินการตามมาตรฐานเกี่ยวกับการป้อนและแก้ไขข้อมูล    

  • การย้ายเมาส์พอยเตอรืไปตำแหน่งใดๆ  บนหน้าจอ
  • การเลื่อนเอกสารขึ้นลง
  • การขึ้นบรรทัดใหม่อัติโนมัติ
  • การแทรกและลบข้อมูล
  • การค้นหาคำ
  • การแทนที่คำที่ต้องการแก้ไขด้วยคำหรือข้อความใหม่
  • การตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ของภาษาโดยอัติโนมัติ
  • พจนานุกรมคำศัพท์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

            2.  การดำเนินการตามมาตรฐานเกี่ยวกับรูปแบบการพิมพ์

  • การปรับระยะห่างระหว่างบรรทัดหรือย่อหน้า
  • การแทรกสัญลักษณ์และตัวอักษรพิเศษ
  • การปรับเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร
  • การจัดวางข้อมูลในรูปแบบต่างๆ  เช่น  จัดชิดซ้าย  ชิกขวา  หรือจัดกึงกลาง
  • การจัดระยะห่างระหว่างตัวอักษรเป็นสัดส่วน
  • การใส่ลำดับเลขหน้า  หัวกระดาษและท้ายกระดาษ
  • สามารถจัดหน้าเอกสารได้หลายคอลัมน์ในหนึ่งหน้า
  •  มีรูปแบบตัวอักษรให้เลือกใช้หลากหลาย

3.  การดำเนินการขั้นสูง

  •  การแก้ไขคำผิดโดยอัตโนมัติ
  •  มีการกำหนดข้อความอัตโนมัติ
  •  มีรูปแบบฟอร์มอัตโนมัต
  •  มีการจัดรูปแบบโดยอัตโนมัติ
  •  มีรูปแบบทางคณิตศาสตร์
  •  มีรูปการเรียงลำดับอัตโนมัติ
  •  มีคำแนะนำ/ช่วยเหลืออัติโนมัติ
  •  มีดัชนี  และตารางของเนื้อหา (สารบัญ)
  •  ทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ  ในชุดสำนักงาน
  •  สร้างเอกสารรูปแบบ HTML  หรือเว็บเพจได้

2.การเข้าสู่โปรแกรม Microsoft Word 2013 และ 2013

1.คลิกที่ Start

2.คลิกที่ All program

3.คลิกที่ Microsoft Office

4. เลือก Microsoft Word

3.ส่วนประกอบต่างๆ บนหน้าต่างโปรแกรม Microsoft Word 2010 และ Word 2013

เมื่อเข้าสู่โปรแกรม  Microsoft Office Word 2010 แล้วจะปรากฏหน้าต่างโปรแกรม ดังนี้

ถ้าต้องการจะเปิดมุมมอง backstage จะต้องคลิกที่แท็บใด

1.                  แท็บเครื่องมือด่วน ( Quick Access Toolbar ) เป็นแถบเครื่องมือเพื่อให้สามารถเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มปุ่มคำสั่งที่ใช้งานบ่อยๆไว้ที่แถบนี้ได้ด้วย

2.                  ชื่อแฟ้ม และ โปรแกรม (Title Bar)  เป็นส่วนที่แสดงชื่อของโปรแกรมและชื่อไฟล์เอกสารที่เรากำลังใช้งานอยู่

3.                  แท็บคำสั่ง(Menu Bar) เป็นเมนูคำสั่งหลักของโปรแกรมซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

4.                  แถบ Ribbon เป็นแถบที่รวบรวมคำสั่งต่างๆ ของเมนูหรือทูลบาร์ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกใช้งานง่ายขึ้น

5.                  แบบอักษร( Font ) เป็นแท็บกำหนดรูปแบบและลักษณะพิเศษให้กับตัวอักษรและข้อความ

6.                  แถบไม้บรรทัด ( Ruler ) เป็นแถบแสดงมุมมองไม้บรรทัด

7.                  ปุ่มปิด  เปิดไม้บรรทัด เป็นทางลัดสำหรับการเปิด/ปิด มุมมองไม้บรรทัด

8.                  เคอร์เซอร์แสดงตำแหน่งพิมพ์ (Cursor) ตัวกะพริบเล็กๆ บนจอภาพ ทำหน้าที่บอกให้เราทราบว่าตัวอักขระที่เราจะป้อนตัวตอไปปรากฏอยู่ที่ใด

9.                  แท็บเลื่อน(Scroll Bar)  แถบสี่เหลี่ยมยาวที่อยู่ริมขวาสุดของโปรแกรม ใช้สำหรับเลื่อนดูข้อความบนจอภาพขึ้นหรือลง แนวตั้งหรือแนวนอนได้

10.              มุมมอง ย่อ/ขยาย (View Bar) แสดงมุมมองในเอกสารแบบต่างๆ

11.              แท็บสถานะ(Status Bar) แสดงสถานะการทำงานปัจจุบันบนหน้าจอ

4.การเริ่มต้นก่อนใช้งานโปรแกรม Microsoft Word 2010 และ Word 2013

การทำงานที่ง่ายขึ้น

การกำหนด Ribbon เอง

คุณสามารถกำหนด Ribbon ใน Word 2010 เองได้เพื่อสร้างแท็บและกลุ่มเฉพาะทีมหรือเฉพาะบริษัทสำหรับคำสั่งที่ใช้บ่อยที่สุดในงานองค์กรของคุณเพิ่มเติม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนด Ribbon เอง ให้ดูที่ การกำหนด Ribbon เอง

มุมมอง Microsoft Office Backstage

ในมุมมอง Microsoft Office Backstage ผู้ใช้สามารถดำเนินการทุกอย่างกับแฟ้มโดยที่พวกเขาไม่ต้องเข้าไปทำในแฟ้มนั้น นวัตกรรมล่าสุดในส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Microsoft Office Fluent และคุณลักษณะเสริมที่ใช้คู่กับ Ribbon นั่นคือ มุมมอง Backstage ซึ่งเป็นที่ที่คุณจะจัดการกับแฟ้มของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง การบันทึก การพิมพ์ การใช้งานร่วมกัน การตั้งค่าตัวเลือก และการตรวจหา Metadata หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ซ่อนอยู่ในแฟ้ม

ถ้าต้องการจะเปิดมุมมอง backstage จะต้องคลิกที่แท็บใด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ การแนะนำมุมมอง Backstage

เมื่อเชื่อมต่อเอกสารกับ SharePoint 2010 ผู้สร้างเอกสารสามารถใส่ Metadata ของเอกสารได้เช่นกัน ผู้สร้างเอกสารที่กำลังทำงานร่วมกันในแฟ้มใดแฟ้มหนึ่งสามารถใช้มุมมอง Backstage เพื่อเข้าถึงโปรไฟล์ของผู้สร้างรายอื่นๆ และเพื่อโต้ตอบกับเวิร์กโฟลว์ได้

การนำทางและการค้นหาในเอกสารที่มีความยาวมาก

ใน Word 2010ผู้ใช้สามารถนำทางในเอกสารที่มีความยาวมากได้อย่างรวดเร็ว พวกเขายังสามารถจัดระเบียบเอกสารใหม่ได้อย่างง่ายดายด้วยการลากแล้วปล่อยส่วนหัวแทนการคัดลอกและวาง และสามารถค้นหาเนื้อหาได้โดยใช้การค้นหาเพิ่มเติม ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องทราบแน่นอนถึงสิ่งที่กำลังค้นหาในการค้นหาสิ่งนั้น

ถ้าต้องการจะเปิดมุมมอง backstage จะต้องคลิกที่แท็บใด

ใน Word 2010 คุณสามารถดำเนินการดังต่อไปนี้

  • ย้ายไปมาระหว่างหัวเรื่องต่างๆ ในเอกสารโดยการคลิกที่ส่วนต่างๆ ในผังเอกสาร

  • ยุบระดับเค้าร่างเพื่อซ่อนหัวเรื่องที่ซ้อนกันอยู่ ซึ่งช่วยให้ทำงานกับผังได้โดยง่าย แม้แต่ในเอกสารขนาดยาวที่ซับซ้อนและมีโครงสร้างซ้อนกันอยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม

  • พิมพ์ข้อความลงในกล่องค้นหาเพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ในทันที

  • ลากแล้วปล่อยหัวเรื่องภายในเอกสารของคุณเพื่อจัดเรียงโครงสร้างใหม่ คุณยังสามารถลบหัวเรื่องและเนื้อหาได้

  • เลื่อนระดับหรือลดระดับหัวเรื่องที่ระบุ หรือหัวเรื่องใดหัวเรื่องหนึ่งพร้อมด้วยหัวเรื่องที่ซ้อนกันทั้งหมดของหัวเรื่องนั้น ขึ้นหรือลงภายในลำดับชั้น

  • เพิ่มหัวเรื่องใหม่ลงในเอกสารของคุณเพื่อสร้างเค้าร่างพื้นฐานหรือแทรกส่วนหัวใหม่โดยไม่ต้องเลื่อนดูภายในเอกสาร

  • ทราบได้ว่าบุคคลอื่นกำลังแก้ไขเนื้อหาโดยการเรียกดูหัวเรื่องที่มีตัวบ่งชี้การเขียนร่วมกัน

  • ดูรูปขนาดย่อของหน้าทั้งหมดในเอกสาร และคลิกที่รูปเหล่านั้นเพื่อย้ายไปมาภายในเอกสารของคุณ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ การนำทางในเอกสารของคุณ

ด้านบนของหน้า

การกู้คืนงานที่ยังไม่บันทึก

ขณะนี้ การกู้คืนเอกสาร Word ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะปิดแฟ้มของคุณโดยไม่ได้บันทึก หรือคุณต้องการตรวจทานหรือกลับไปยังรุ่นก่อนหน้าของแฟ้มที่คุณทำงานกำลังอยู่ก็ตาม เช่นเดียวกับใน Word รุ่นก่อนหน้า การเปิดการใช้งานการกู้คืนอัตโนมัติจะเป็นการบันทึกรุ่นไว้ในขณะที่คุณทำงานกับแฟ้มตามช่วงเวลาที่คุณเลือกไว้

แต่ในขณะนี้ คุณสามารถเก็บแฟ้มรุ่นที่ถูกบันทึกอัตโนมัติครั้งล่าสุดไว้ได้ในกรณีที่คุณปิดแฟ้มนั้นโดยบังเอิญทั้งที่ยังไม่ได้บันทึก ซึ่งทำให้คุณสามารถคืนค่าแฟ้มนั้นได้อย่างง่ายดายในครั้งต่อไปที่คุณเปิดแฟ้มนั้น นอกจากนี้ ขณะที่คุณกำลังทำงานกับแฟ้ม คุณยังสามารถเข้าถึงรายการแฟ้มที่ถูกบันทึกอัตโนมัติได้จากมุมมอง Microsoft Office Backstage อีกด้วย

ด้านบนของหน้า

การทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น

Word 2010 ช่วยให้คุณทำงานกับผู้ร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Word 2010 ยังรวมเอาคุณลักษณะที่รักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เมื่อคุณใช้งานของคุณร่วมกับผู้อื่น และปกป้องความปลอดภัยของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจากแฟ้มที่อาจไม่ปลอดภัย

การบันทึกเอกสารและงานนำเสนอโดยตรงจาก Word ไปยัง SharePoint

ผู้ใช้สามารถบันทึกเอกสาร Word 2010 จากมุมมอง Backstage ไปยังไลบรารีเอกสาร SharePoint 2010 ได้โดยตรง เมื่อคุณคลิก บันทึกและส่ง ในมุมมอง Backstage แล้วคลิก บันทึกไปยัง SharePoint โปรแกรม Word จะแสดงรายการไลบรารีเอกสารที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ บันทึกเอกสารลงใน SharePoint จาก Office 2010

การทำงานบนเอกสารเดียวกันในเวลาเดียวกัน

ใน Word 2010 คุณสามารถทำงานร่วมกันได้จากภายใน Word คุณไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารด้วยสิ่งที่แนบมากับอีเมล หรือบันทึกเอกสารแบบร่างด้วยชื่อต่างๆ เช่น TSP_final_2_FINAL.docx สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่เปิดเอกสารของคุณและเริ่มทำงาน คุณจะสามารถเห็นได้ว่ามีบุคคลอื่นกำลังทำงานร่วมกับคุณอยู่หรือไม่ และยังเห็นตำแหน่งที่บุคคลนั้นทำการแก้ไขได้อีกด้วย คุณสามารถทำงานร่วมกันบนเอกสารใดๆ ก็ตามที่บันทึกไปยังไซต์ Microsoft SharePoint Foundation 2010 ที่สนับสนุนเวิร์กสเปซ หรือบันทึกไปยัง OneDrive

เมื่อคุณเปิดเอกสารที่ใช้ร่วมกัน Word จะแคชเอกสารนั้นโดยอัตโนมัติ เพื่อที่คุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงเอกสารนั้นแบบออฟไลน์ จากนั้น Word จะทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นให้ตรงกันโดยอัตโนมัติเมื่อคุณกลับมาออนไลน์อีกครั้ง เมื่อคุณต้องทำงานนอกสำนักงาน คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการบันทึกสำเนาภายในเครื่อง หรือการผสานการเปลี่ยนแปลงนั้นไปยังเอกสารเซิร์ฟเวอร์ด้วยตนเองเมื่อคุณกลับมาที่สำนักงานอีกต่อไป

ใน Word 2010 ผู้เขียนหลายๆ คนสามารถทำงานในเอกสารพร้อมกันได้ และโปรแกรม Office Online ทำให้คุณสามารถทำงานในเอกสารของคุณได้

หมายเหตุ ในขณะนี้ SkyDrive คือ OneDrive และ SkyDrive Pro คือ OneDrive for Business อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ที่ จาก SkyDrive เป็น OneDrive

ผู้เขียนหลายรายสามารถแก้ไขเอกสารเดียวกันได้พร้อมๆ กัน และการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนจะได้รับการทำข้อมูลให้ตรงกันอยู่ตลอดเวลา ผู้สร้างสามารถบล็อกการเข้าถึงขอบเขตเอกสารในขณะที่กำลังทำงานกับเอกสารเหล่านั้นได้

ปลอดภัยกว่าด้วยมุมมองที่ได้รับการป้องกัน

ในมุมมองที่ได้รับการป้องกัน แฟ้มจะถูกเปิดขึ้นโดยปิดใช้งานฟังก์ชันการแก้ไขไว้ แฟ้มจากตำแหน่งที่ตั้งที่อาจไม่ปลอดภัย เช่น อินเทอร์เน็ต หรือ สิ่งที่แนบมากับอีเมล หรือแฟ้มที่มีเนื้อหาแบบแอกทีฟ เช่น แมโคร การเชื่อมต่อข้อมูล หรือ ตัวควบคุม ActiveX จะถูกตรวจสอบและสามารถเปิดได้ใน มุมมองที่ได้รับการป้องกัน คุณสามารถเปิดใช้งานแฟ้มจากแหล่งที่เชื่อถือได้โดยการคลิก เปิดใช้งานการแก้ไข หรือสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับแฟ้มนั้นในมุมมอง Microsoft Office Backstage ได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มุมมองที่ได้รับการป้องกัน ให้ดูที่ มุมมองที่ได้รับการป้องกันคืออะไร

การค้นหาและเอา Metadata และข้อมูลส่วนบุคคลที่ซ่อนอยู่ในแฟ้มออก

ก่อนที่คุณจะให้ผู้อื่นร่วมใช้เอกสารของคุณ คุณสามารถใช้ ตัวตรวจสอบเอกสาร เพื่อตรวจหา Metadata ข้อมูลส่วนบุคคล หรือเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ ที่อาจเก็บอยู่ในเอกสารนั้นได้

ตัวตรวจสอบเอกสารสามารถค้นหาและเอาข้อมูลต่อไปนี้ออกได้

  • ข้อคิดเห็น

  • เวอร์ชัน

  • การเปลี่ยนแปลงที่ติดตาม

  • คำอธิบายประกอบที่เป็นหมึก

  • ข้อความที่ซ่อน

  • คุณสมบัติเอกสาร

  • ข้อมูลแบบ XML แบบกำหนดเอง

  • ข้อมูลในส่วนหัวและส่วนท้าย

ตัวตรวจสอบเอกสารจะช่วยให้คุณสามารถแน่ใจได้ว่าเอกสารที่คุณใช้ร่วมกับผู้อื่นไม่มีข้อมูลส่วนตัว หรือเนื้อหาที่องค์กรของคุณอาจไม่ต้องการให้เผยแพร่ซ่อนอยู่ นอกจากนี้ องค์กรของคุณยังสามารถกำหนดตัวตรวจสอบเอกสารเองเพื่อเพิ่มการตรวจหาเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตัวตรวจสอบเอกสาร ให้ดูที่ เอาข้อมูลที่ซ่อนไว้และข้อมูลส่วนบุคคลออกโดยการตรวจสอบเอกสาร.

การช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงในเอกสารรุ่นสุดท้าย

ก่อนที่คุณจะให้ผู้อื่นร่วมใช้เอกสารรุ่นสุดท้าย คุณสามารถใช้คำสั่ง กำหนดให้เป็นขั้นสุดท้าย เพื่อทำให้เอกสารเป็นแบบอ่านอย่างเดียว และเพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าคุณกำลังให้ผู้อื่นร่วมใช้เอกสารที่เป็นรุ่นสุดท้าย เมื่อเอกสารหนึ่งถูกกำหนดให้เป็นขั้นสุดท้าย คำสั่งพิมพ์ แก้ไข และเครื่องหมายในการพิสูจน์อักษรจะถูกปิดใช้งาน และบุคคลที่ดูเอกสารนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเอกสารนี้โดยบังเอิญได้

คำสั่ง กำหนดให้เป็นขั้นสุดท้าย ไม่ใช่คุณลักษณะความปลอดภัย บุคคลใดๆ สามารถแก้ไขเอกสารซึ่งถูกกำหนดให้เป็นขั้นสุดท้ายได้โดยการปิดคุณลักษณะ กำหนดให้เป็นขั้นสุดท้าย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดู การช่วยป้องกันการเปลี่ยนกับไฟล์เวอร์ชันสุดท้าย

การทำให้เข้าถึงเอกสารได้ง่ายขึ้น

ตัวตรวจสอบการช่วยสำหรับการเข้าถึงจะช่วยระบุและแก้ปัญหาการเข้าถึงในเอกสารของคุณ เพื่อที่คุณจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นซึ่งทำให้ผู้ทุพพลภาพไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาของคุณได้

ถ้าเอกสารของคุณมีปัญหาการเข้าถึงใดๆ มุมมอง Microsoft Office Backstage จะแสดงการแจ้งเตือนเพื่อให้คุณทำการตรวจทานและแก้ไขปัญหา (ถ้าจำเป็น) ในเอกสารของคุณ คุณสามารถดูการแจ้งเตือนได้ด้วยการคลิกแท็บ แฟ้ม ภายใต้ เตรียมสำหรับการใช้ร่วมกัน ให้คลิก ตรวจหาปัญหา แล้วคลิก ตรวจสอบการช่วยสำหรับการเข้าถึง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดู ตัวตรวจสอบการช่วยสำหรับการเข้าถึง

ด้านบนของหน้า

การเตรียมความพร้อมอย่างรวดเร็ว

ต่อไปนี้คือทรัพยากรเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ผู้ใช้พบคำสั่งและคุณลักษณะที่ต้องการใช้ได้อย่างรวดเร็ว

  • หลักสูตรการฝึกอบรมสำหรับ Office 2010

  • คำแนะนำแบบโต้ตอบสำหรับ Office 2010

5.การปรับฟอนต์เริ่มต้นให้เหมาะกับการทำงาน

เริ่มต้นด้วยเอกสารเปล่า หรือถ้าเอกสารของคุณมีข้อความที่จัดรูปแบบด้วยคุณสมบัติที่คุณต้องการใช้อยู่แล้ว ให้เลือกข้อความนั้น

  1. บนแท็บ หน้าแรก ให้คลิกตัวเปิดใช้กล่องโต้ตอบ ฟอนต์ แล้วคลิกแท็บ ฟอนต์

    ถ้าต้องการจะเปิดมุมมอง backstage จะต้องคลิกที่แท็บใด

  2. เลือกตัวเลือกที่คุณต้องการนำไปใช้กับฟอนต์เริ่มต้น เช่น สไตล์ฟอนต์และขนาดฟอนต์ ถ้าคุณเลือกข้อความในขั้นตอนที่ 1 คุณสมบัติของข้อความที่เลือกจะถูกตั้งค่าในกล่องโต้ตอบ

    ถ้าต้องการจะเปิดมุมมอง backstage จะต้องคลิกที่แท็บใด
  3. คลิก ตั้งเป็นค่าเริ่มต้น และตั้งขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงของคุณ:

    • เลือก เฉพาะเอกสารนี้ใช่ไหม ถ้าคุณต้องการนำการเปลี่ยนแปลงของคุณไปใช้กับเอกสารปัจจุบันเท่านั้น

    • เลือก เอกสารทั้งหมดยึดตามเทมเพลต Normal .dotm ใช่ไหม ถ้าคุณต้องการนำการเปลี่ยนแปลงของคุณไปใช้กับเอกสารที่ยึดตามเทมเพลต Normal

      ถ้าต้องการจะเปิดมุมมอง backstage จะต้องคลิกที่แท็บใด
  4. คลิก ตกลง เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงของคุณไปใช้

6.การออกจากโปรแกรม Microsoft Word 2010 และ 2013กดปุ่ม X บนซ้ายของโปรแกรม