การบันทึกบัญชีทุนหุ้นส่วน มี 2 วิธี คือ วิธี อะไร บ้าง

1.วิธีทุนคงที่ (Fixed Capital Method) ห้างหุ้นส่วนจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงในส่วนทุนของหุ้นส่วนที่มีลักษณะถาวร เช่น เงินลงทุนเริ่มแรก การเพิ่มทุน และการลดทุน ไว้ในบัญชีทุนหุ้นส่วน สําหรับการเปลี่ยนแปลงจากเรื่องอื่นๆ เช่น การรับส่วนแบ่งผลจากการดําเนินงาน เงินเดือน โบนัส ดอกเบี้ย ฯลฯ จะบันทึกไว้ในบัญชีกระแสทุน

2.วิธีทุนเปลี่ยนแปลง (Alternative Capital Method) ห้างหุ้นส่วนจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงในส่วนทุนของหุ้นส่วนทุกรายการ เช่น เงินลงทุนเริ่มแรก การเพิ่มทุน การลดทุน ส่วนแบ่งกําไรขาดทุนเงินเดือน หุ้นส่วน โบนัสหุ้น ส่วน ดอกเบี้ยเงินทุน ฯลฯ ในบัญชีทุนบัญชีเดียว

คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้


คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน


คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

username/password ไม่ถูกต้อง กรุณาทำการกรอกใหม่

session ของการเข้าสู่ระบบได้สิ้นสุดแล้ว กรุณา reload หน้าเว็บอีกครั้งและเข้าสู่ระบบใหม่อีกครั้ง

ท่านได้เข้าสู่ระบบอยู่แล้ว กรุณาออกจากระบบก่อนหากท่านต้องการเปลี่ยน user

“ห้างหุ้นส่วน” เป็นการจัดตั้งธุรกิจโดยบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เป็นเจ้าของและมีผลประโยชน์ในกิจการร่วมกัน มีบัญชีทุนหุ้นส่วนแยกแสดงส่วนได้ส่วนเสียของแต่ละบุคคล

          การจัดตั้งห้างหุ้นส่วนนั้นมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ

1.       ห้างหุ้นส่วนสามัญ (Ordinary Partnership)

2.       ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล (Registered Ordinary Partnership)

3.       ห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership)

          เมื่อบุคคลสองคนได้ ตกลงกันที่จะดำเนินกิจการร่วมกัน จำเป็นต้องมีการลงทุนแรกเริ่มของห้างหุ้นส่วน โดยหุ้นส่วนทั้งสองคนจะต้องนำเงินหรือทรัพย์สิน หรือเงินและทรัพย์สินอื่นมาลงทุนเพื่อร่วมดำเนินกิจการด้วยกัน

1.       ลงทุนเป็นเงินสด

2.       ลงทุนด้วยทรัพย์สิน

3.       ลงทุนด้วยเงินสดและทรัพย์สิน

          เนื่องจากในกิจการ ห้างหุ้นส่วนผู้เป็นหุ้นส่วนอาจลงทุนไม่เท่ากัน ทำให้มีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการไม่เท่ากัน หรือมีการกำหนดอัตราส่วนแบ่งกำไรขาดทุนไม่เท่ากัน การบันทึกส่วนได้ส่วนเสียของผู้เป็นหุ้นส่วน จึงจำเป็นต้องแยกบัญชีของแต่ละคนเรียกว่าบัญชีทุนหุ้นส่วน ซึ่งมี 2 แบบ คือ วิธีทุนคงที่ และ วิธีทุนเปลื่ยนแปลง

1.      วิธีทุนคงที่ (Fixed Capital Method) ห้างหุ้นส่วนจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงในส่วนทุนของหุ้นส่วนทุกรายการ เช่น เงินลงทุนเริ่มแรก การเพิ่มทุน การลดทุน ส่วนแบ่งกําไรขาดทุนเงินเดือน หุ้นส่วน โบนัสหุ้น ส่วน ดอกเบี้ยเงินทุน ฯลฯ ในบัญชีทุนบัญชีเดียว

การบัญชีเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วน

ส่วนในทุนและส่วนในกำไรขาดทุนของหุ้นส่วน

ส่วนในทุนของผู้เป็นหุ้นส่วน    หมายถึง เงินสดหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ผู้เป็นหุ้นส่วนนำมาลงทุนในตอนจัดตั้ง สิทธิส่วนได้เสียของผู้เป็นหุ้นส่วนอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังจากดำเนินงาน เนื่องจากผู้เป็นหุ้นส่วนอาจนำเงินสดมาลงทุนเพิ่ม ถอนทุน หรือได้รับส่วนแบ่งกำไร
ส่วนในกำไรขาดทุน    เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการแบ่งกำไรหรือขาดทุนระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วน

ตัวอย่าง       เอ และบี ตกลงเป็นหุ้นส่วนกัน โดย เอนำเงินสดมาลงทุน 300,000 บาท บี นำอุปกรณ์สำนักงาน 150,000 บาท และเครื่องตกแต่ง 50,000 บาท มาลงทุน ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงแบ่งกำไรขาดทุนเท่ากัน

จากข้างต้น พบว่าสินทรัพย์ หรือเงินทุนทั้งสิ้นของห้างเท่ากับ 500,000 บาท เอมีสิทธิส่วนได้เสีย 300,000 บาท บีมีสิทธิส่วนได้เสีย 200,000 บาทหรืออัตราส่วน 3 : 2 อัตราส่วนแบ่งผลกำไรขาดทุนเท่ากันคือ 1 : 1        

ต่อมา ห้างหุ้นส่วนเอและบี ดำเนินงานมีผลกำไรสุทธิ 100,000 บาท สิทธิส่วนได้เสียของผู้เป็นหุ้นส่วนจะเพิ่มขึ้น ดังนี้
สินทรัพย์ ทุน - เอ ทุน - บี
ทุน ณ วันเริ่มกิจการ 500,000 300,000 200,000
ส่วนแบ่งกำไร 100,000 50,000 50,000
ทุน ณ วันสิ้นงวด 600,000 350,000 250,000
เมื่อวันสิ้นงวดบัญชีส่วนในทุนของ เอ เท่ากับ 350,000 และ ส่วนในทุนของ บี เท่ากับ
250,000 อัตราส่วนทุนของเอและบี เปลี่ยนเป็น 7 : 5 อัตราส่วนแบ่งกำไรขาดทุนยังเท่าเดิมคือ 1 : 1

วิธีการใช้บัญชีทุน บัญชีกระแสทุน และบัญชีเงินถอน
การบันทึกบัญชีของห้างหุ้นส่วนมี 2 วิธี                                                                                                      

1. วิธีทุนคงที่ (Fised Capital Method) หรือวิธีทุนไม่เปลี่ยนแปลง ต้องเปิดบัญชีของหุ้นส่วนแต่ละคนขึ้น 3 บัญชี คือ บัญชีทุน บัญชีกระแสทุน และบัญชีเงินถอน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

1.1 บัญชีทุน (Capital Account) การใช้บัญชีทุนของห้างหุ้นส่วนต้องแยกบัญชีทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนขึ้น เช่น บัญชีทุน - เอ บัญชีทุน - บี หรือ บัญชีทุน - ซี เป็นต้น รายการที่ต้องนำมาบันทึกในบัญชีทุนมีลักษณะเป็นการถาวร ได้แก่

                              1.1.1 ลงทุนครั้งแรกด้วยเงินสดและสินทรัพย์อื่น

                1.1.2 เพิ่มทุนเป็นเงินสด หรือสินทรัพย์
               1.1.3 ถอนทุน
1.2 บัญชีกระแสทุน (Current Account) ใช้บันทึกรายการที่ทำให้ทุนของผู้เป็นหุ้นส่วน เพิ่ม หรือลดได้ มีลักษณะไม่เป็นการถาวร ได้แก่

1.2.1 ดอกเบี้ยทุน
              1.2.2 เงินเดือนที่คิดให้หุ้นส่วน
              1.2.3 โบนัสหุ้นส่วนผู้จัดการ
             1.2.4 ส่วนแบ่งผลกำไรขาดทุน

1.3 บัญชีเงินถอน (Drawing Account) ใช้บันทึกรายการของผู้เป็นหุ้นส่วนที่เกิดขึ้น ได้แก่

                                  1.3.1 ถอนกำไรไปใช้ล่วงหน้า รวมทั้งถอนเงินสดหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ไปใช้
                                   1.3.2 ในวันสิ้นงวดบัญชี ต้องโอนปิดบัญชีเงินถอนไปยังบัญชีกระแสทุน เพื่อหายอดคงเหลือของบัญชีกระแสทุน ถ้ากิจการใช้ระบบบัญชีทุนคงที่  

2. วิธีทุนเปลี่ยนแปลง (Alternative Capital Method) วิธีนี้จะเปิดบัญชีทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนเพียงบัญชีเดียวเท่านั้น ใช้บันทึกรายการลงทุนครั้งแรก เพิ่มทุน ถอนทุน และรายการจัดสรรกำไรขาดทุน ผลตอบแทนต่าง ๆ อาทิเช่น ดอกเบี้ยทุน เงินเดือน ที่คิดให้หุ้นส่วน โบนัส และส่วนแบ่งกำไรขาดทุน ถ้ามีการถอนกำไรไปใช้ล่วงหน้าให้เปิดบัญชีเงินถอน และโอนไปบัญชีทุนในวันสิ้นงวด
สำหรับวิธีทุนเปลี่ยนแปลงนี้ ถ้ามีรายการถอนกำไรไปใช้ล่วงหน้า (ถอนใช้ส่วนตัว ที่ไม่ใช่ถอนทุน) ให้บันทึกในบัญชีเงินถอน และโอนปิดไปบัญชีทุนเมื่อวันสิ้นงวดบัญชี

รายการที่มีผลทำให้เงินทุนของห้างหุ้นส่วนเปลี่ยนแปลงไป

รายการซึ่งทำให้ทุน หรือ สิทธิส่วนได้เสียของผู้เป็นหุ้นส่วนเพิ่มขึ้น คือ
1. การลงทุนเพิ่ม
2. ผู้เป็นหุ้นส่วนชำระหนี้ให้แก่ห้างหุ้นส่วน
3. ส่วนแบ่งผลกำไรจากการดำเนินงาน
4. ส่วนแบ่งกำไรจากการปรับปรุงสินทรัยพ์ หนี้สิน ของห้างหุ้นส่วน
5. ห้างหุ้นส่วนคิดเงินเดือน เงินโบนัส หรือ ดอกเบี้ยทุน ให้กับผู้เป็นหุ้นส่วน
รายการที่ทำให้ทุนหรือสิทธิส่วนได้เสียของผู้เป็นหุ้นส่วนลดลง คือ
1. ผู้เป็นหุ้นส่วนถอนเงินสดหรือสินทรัพย์อื่นของห้างไปใช้ส่วนตัว
2. ห้างหุ้นส่วนชดใช้ หรือ รับเอาหนี้สินส่วนตัวของผู้เป็นหุ้นส่วน
3. ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการดำเนินงาน
4. ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการปรับปรุงสินทรัพย์ หนี้สิน ของห้างหุ้นส่วน
5. ห้างหุ้นส่วนคิดดอกเบี้ย จากวันที่ผู้เป็นหุ้นส่วนถอนกำไรไปใช้ล่วงหน้า

การเปิดบัญชีห้างหุ้นส่วน ( Opening The Books)

การบันทึกการเปิดบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้น ใช้วิธีการเช่นเดียวกับกิจการค้าเจ้าของคนเดียวเพียงแต่จำแนกทุนของหุ้นส่วนแต่ละคน แบ่งได้เป็น 4 กรณี ดังนี้คือ

1. หุ้นส่วนนำเงินสดมาลงทุน เช่น เอ บี และซี เป็นหุ้นส่วนกัน นำเงินสดมาลงทุน ดังนี้

จำนวน 20,000 บาท 30,000 บาท และ 40,000 บาท ตามลำดับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2547 การบันทึกบัญชี
ในสมุดรายวันทั่วไป ดังนี้
2547
ม.ค. 1                    เงินสด                                                  90,000

ทุน – เอ                                                 20,000
ทุน - บี                                                  30,000
ทุน – ซี                                                  40,000

เอ บี และซี นำเงินสดมาลงทุน เมื่อวันที่ 1 มกราคา 2547
2. หุ้นส่วนนำสินทรัพย์อื่น ๆ มาลงทุน วิธีนี้จะต้องตีค่าสินทรัพย์ก่อนว่ามีมูลค่าเท่าใด การใช้ราคาทุนเดิม (Original Cost) หรือราคาตามบัญชี (Book Value) นั้น ไม่ถูกต้อง ส่วนใหญ่นิยมใช้ราคาตลาด (Fair Market Value) บันทึกราคาสินทรัพย์ แต่อย่างไรก็ดีการใช้ราคาใดนั้นผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะต้องยินยอมด้วย

เช่น เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2547 เอ บี และ ซี นำเงินสด สินทรัพย์ และหนี้สินมาลงทุน ดังนี้
                            เอ                 บี                     ซี                             รวม
เงินสด             2,000                 4,000             3,000                     9,000
ลูกหนี้             3,000                  2,000             5,000                     10,000
เครื่องตกแต่ง    4,000                 7,500             3,500                     15,000
อาคาร                 -                         -                 200,000                 200,000
เจ้าหนี้             7,500                     9,500             18,000                 35,000

ยอดทุน             1,500                     4,000         193,500                 199,000

การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้
2547
ม.ค. 1                     เงินสด                                                 9,000
                               ลูกหนี้                                                 10,000
                              เครื่องตกแต่ง                                     15,000
                              อาคาร                                             200,000
                                                            เจ้าหนี้                                                 35,000
                                                            ทุน - เอ                                                  1,500
                                                            ทุน - บี                                                   4,000
                                                            ทุน - ซี                                                 193,500
                                              เอ บี และ ซี นำเงินสด สินทรัพย์ และหนี้สินมาลงทุน

3. หุ้นส่วนนำแรงงานมาลงทุน แรงงาน หมายถึง ความสามารถทางด้านความคิด ซื่อเสียง สติปัญญา กำลังกาย ของหุ้นส่วนนำมาลงทุน เรียกว่า ค่าความนิยม (Goodwill) และต้องมีการตกลงระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วน ว่าจะมีการบันทึกในบัญชีหรือไม่ ถ้ามีการบันทึกในสมุดบัญชีของห้างจะใช้มูลค่าเท่าใด ขึ้นอยู่กับข้อตกลงดังนี้

3.1 ถ้าให้สิทธิรับคืนทุน จะต้องบันทึกค่าความนิยมให้กับหุ้นส่วนผู้นั้น และบันทึกไว้ในสมุดบัญชีของห้าง เช่น เอ บี เป็นหุ้นส่วนกัน โดย เอ และบี นำเงินสด 40,000 และ 30,000 บาทตามลำดับ และ บี ยังนำแรงงานมาลงทุนด้วย ซึ่งตกลงคิดเป็นมูลค่า 20,000 บาท และให้สิทธิ บี มีสิทธิรับคืนทุน กิจการเริ่มวันที่ 1 เมษายน 2547 บันทึกบัญชีดังนี้
2547
เม.ย. 1                 เงินสด                                                     70,000
                            ค่าความนิยม                                           20,000
                                                               ทุน - เอ                                                   40,000
                                                               ทุน - ซี                                                     50,000
                                เอ และ บี นำเงินสดและแรงงานมาลงทุน

3.2 ไม่มีสิทธิรับคืนทุน วิธีนี้ไม่มีการบันทึกค่าแรงงานในบัญชี เพียงแต่เขียนไว้ในสัญญาหุ้นส่วนเท่านั้น

วิธีการบันทึกบัญชีทุนหุ้นส่วนมีกี่วิธี

การบันทึกบัญชีของห้างหุ้นส่วนมี 2 วิธี 1. วิธีทุนคงที่ (Fised Capital Method) หรือวิธีทุนไม่เปลี่ยนแปลง ต้องเปิดบัญชีของหุ้นส่วนแต่ละคนขึ้น 3 บัญชี คือ บัญชีทุน บัญชีกระแสทุน และบัญชีเงินถอน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

การบันทึกบัญชีวิธีใดที่ผู้เป็นหุ้นส่วนจะมีบัญชีทุนคนละ 2 บัญชี คือ บัญชีทุนและบัญชีกระแสทุน

1. วิธีทุนคงที่ (Fixed Capital Method) การบันทึกบัญชีตามวิธีนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนจะมีบัญชีทุนคนละ 2 บัญชี คือ บัญชีทุน และบัญชีกระแสทุน โดยวิธีนี้จะบันทึกเงินสด หรือสินทรัพย์อื่นที่ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนนำมาลงทุนไว้ในบัญชีทุน ส่วนการเปลี่ยนแปลงรายการอื่นของส่วนในทุนก็จะบันทึกไว้เป็นชื่อบัญชีแยกต่างหาก บัญชีที่เกี่ยวข้อง ...

การแบ่งกำไรขาดทุนมีกี่วิธี

การแบ่งผลกำไรขาดทุนให้ผู้เป็นหุ้นส่วนนั้น ควรระบุไว้ในสัญญาการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต โดยปกติหลักเกณฑ์การแบ่งผลกำไรขาดทุนที่นิยมปฏิบัติกันมีวิธีการแบ่งผลกำไรขาดทุน ดังนี้ 1. แบ่งเท่ากัน 2. แบ่งตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน 3. แบ่งตามอัตราส่วนทุน

ทุนคงที่บันทึกบัญชียังไง

1. วิธีทุนคงที่ ห้างหุ้นส่วนจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงในส่วนทุนของหุ้นส่วนที่มี ลักษณะถาวร เช่น เงินลงทุนเริ่มแรก การเพิ่มทุน และการลดทุน ไว้ในบัญชีทุนหุ้นส่วน ส าหรับการเปลี่ยนแปลงจากเรื่องอื่นๆ เช่น การรับส่วนแบ่งผลจากการด าเนินงาน เงินเดือน โบนัส ดอกเบี้ย ฯลฯ จะบันทึกไว้ในบัญชีกระแสทุน