ทำให้เกิดความขาดแคลนของทรัพยากรณ์การแพทย์ โดยเฉพาะ เครื่องผลิตออกซิเจน เนื่องมาจากประชาชนเกิดความตื่นกลัวว่าหากติดแล้วอาจจะไม่มีเตียงให้รักษา อาจจะต้องพักรักษาตนเองที่บ้าน (รอเตียง) ทำให้มีผู้ผลิตรายใหม่ ในต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน และผู้ที่นำเข้ารายใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เกิดเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นใหม่ๆ จำนวนมากในช่วงนั้น ซึ่งก็ส่งผลให้มีผู้ที่ลักลอบนำเข้ามาจำนวนมากเช่นกัน ทำให้เครื่องประเภทที่ไม่ได้มาตราฐาน ไหลเวียนอยู่ภายในประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน เราก็ได้ผ่านพ้นวิกฤติ ในช่วงนั้นมาได้แล้ว แต่ก็ควรจะเฝ้าระวังสินค้าที่ไม่ได้มาตราฐานการแพทย์ ซึ่งใช่ว่าจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น แต่มีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ซึ่งผมมีเขียนบทความไว้สำหรับท่านที่กำลังหาเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ใช้งาน แต่ไม่มีควาามรู้ใดๆเลย ย้อนกลับไปก่อนที่จะมีโรคระบาด ซึ่งเครื่องผลิตออกซิเจนก็จะมีให้เลือกไม่กี่แบรนด์ให้เลือกเท่านั้นหลักๆที่ติดตลาด และมีมานานแล้วก็จะมี Yuwell, Longfian, Canta, Invacare ซึ่ง 1 ในนั้นก็จะมีแบรนด์ Devilbiss ที่เป็นแบรนด์อเมริกาแท้ (ผลิตจากประเทศอเมริกา) โดยส่วนใหญ่หลายๆท่านอาจจะไม่เลือกใช้ด้วยรูปลักษณ์ สีดำ และชื่อ Devil ที่ดูน่ากลัวยังไงชอบกล มาทำความรู้จักกับแบรนด์ Devilbiss Devilbiss มีที่มายังไง Devilbiss ก่อตั้งเมื่อปี คศ.1888 ชื่อนี้มีที่มาจาก Dr.Allen DeVilbiss ผู้คิดค้นนวัตกรรมทางการแพทย์ ได้คิดริเริ่มอุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะการหายใจติดขัดผิดปกติ ให้หายใจได้สะดวกขึ้น ในยุคสงครามช่วง คศ. 1800 ซึ่งอุปกรณ์ช่วยเหลือในทางการแพทย์ด้านทางเดินหายใจค่อนข้างมีจำกัด และไม่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากนัก โดย Dr.Allen มองเห็นว่าควรจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้ผู้ป่วยหายใจได้ง่ายขึ้น ผู้ป่วยบางเคสมักจะมีอาการเหนื่อย หอบหืด เป็นหวัด และมีเสมหะมากในทางเดินหายใจ และในยุคเริ่มแรก ก็จะมีเครื่องพ่นละอองยาแบบมือบีบซึ่ง ใช้พ่นยา แต่ด้วยการนวัตกรรมในยุคนั้นยังไม่ดีนัก Dr.Allen จึงรู้สึกไม่พอใจกับอุปกรณ์ที่เค้าใช้กับคนไข้ เนื่องจากยังไม่ได้ตอบโจทย์มากนัก ทำให้ Dr.Allen ได้เริ่มคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า ตัวทำสารละลายให้เกิดเป็นไอละเหย ซึ่งเป็น เครื่องพ่นละอองยา ที่ใช้กันในปัจจุบัน ที่ใช้สำหรับพ่นตัวยาละลายเสมหะ และแก้โรคภูมิแพ้ที่ทำให้เป็นหวัดอยู่บ่อยๆ โดยตัวขวดจะมีการบรรจุตัวยา และมีมือบีบด้านหลัง เพื่อควบคุมไอละอองของตัวยาได้ รวมถึงแกนด้านหน้า ที่ยาวเพื่อช่วยให้ตัวเข้าไปยังทางเดินหายใจได้โดยตรง โดยการทดลองประกอบ และทดสอบด้วยอุปกรณ์จากสิ่งที่เหลือใช้ในทางการแพทย์ และทำการประกอบที่หลังบ้านของเขา จนสำเร็จ และนำไปเสนอต้นแบบผลิตภัณฑ์ตัวนี้ให้กับโรงงานผลิตหลายๆที่ เพื่อทำการผลิตออกวางจำหน่ายให้กับผู้ป่วยที่ต้องพ่นยาสามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่ก็ถูกโรงงานหลายๆที่ปฏิเสธสิ่งประดิษฐ์ของ Dr.Allen เนื่องจากเทคโนโลยี และความเคยชินของยุคนั้น ทำให้หลายๆที่ยังไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ
ภาพเครื่องพ่นละอองยาชนิด Air pump และ Ultra Sonic Dr.Allen Devilbiss ได้เสียชีวิตลงในปี 1917 ในวัย 74 ปี ซึ่งหลังจากนั้นก็มีหนึ่งในหุ้นส่วน และทายาทได้สานต่อธุรกิจ โดยบริษัท Devilbiss ได้ร่วมกับบริษัท Drive Medical ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัสดุอุปกรณ์สำหรับดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นผู้ป่วย ไม้เท้าช่วยพยุง เก้าอี้อาบน้ำ เตียงผู้ป่วย ที่นอนผู้ป่วย สำหรับ Devibiss นั้นก็เป็นชื่อที่ผ่านมาในทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียวครับ และผ่านเหตุการณ์สำคัญต่างๆของโลกมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทั้งเอเชีย และยุโรป ปัจุบันโรงงานผลิตหลักของ Devilbiss เครื่องผลิตออกซิเจน Devilbiss มีแบบไหนบ้าง เครื่องผลิตออกซิเจน Devilbiss นั้นมีหลายชนิดเริ่มตั้งแต่ ที่เคยมีเขียนรีวิวแบบพกพา รุ่น iGo2 ไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งก็ถือเป็นนวัตกรรม ใหม่ที่ทาง Devilbiss คิดค้นเทคโนโลยี Smart Dose เพิ่มขึ้นมาในระบบ ถือเป็นที่สุดของเครื่องพกพาเลยก็ว่าได้ครับ >>รีวิว เครื่องผลิตออกซิเจน Devilbiss igo2 สำหรับพกพา ใช้บนรถ ใช้บนเครื่องบิน ใช้เดินทางข้ามประเทศได้ !!<< สำหรับบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเครื่องชนิดที่ใช้ในบ้าน เสปคเบื้องต้นของ Devilbiss 525KS คุณสมบัติหลัก
ขนาด/น้ำหนัก
สำหรับจุดเด่นของ Devilbiss 525KS รุ่นนี้มีอะไรบ้าง? "Devilbiss 525KSการันตีเสียงการทำงานที่ระดับไม่เกิน 40 เดซิเบล ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างเงียบในระดับที่ดี ไม่รบกวนการพักผ่อน" น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายง่าย กรณีต้องเคลื่อนย้ายในแนวราบมีล้อสามารถเข็นได้สะดวก กรณีต้องยกขึ้นรถ หรือเคลื่อนย้ายก็ไม่ได้เป็นปัญหาหนักมาก แต่ไม่ถึงขนาด ผู้ป่วย ผู้สูงอายุมายกเองได้นะครับ "Devilbiss น้ำหนักเพียง 16 กก. หลายท่านก็ตกใจ 16 กก. เบาตรงไหน แน่นอนครับว่าน้ำหนักคงยังมากอยู่แต่เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ 5 ลิตรเหมือนกัน หรือเครื่องรุ่นเก่าๆที่หนักที่ 20-30 กก. แล้ว ก็ถือว่าเบากว่าไม่น้อยเลยครับ ^ ^ " ระบบเซนเซอร์วัดค่าเรียลไทม์ ต้องบอกก่อนว่า เครื่องแบรนด์อื่นๆในท้องตลาดก็มีเช่นกันครับ แต่มีไม่กี่รุ่น ที่เป็นการจับออกซิเจนได้เรียลไทม์ และรวดเร็วแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่นเกิดปัญหาท่อรั่วลมไม่ออก เซนเซอร์ก็จะมีการตรวจ และแจ้งเตือนทันทีภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 นาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากๆ "หรืออีกในกรณี เหตุการณ์จริงที่แอดมินพบเจอมา คือผู้ดูแลเปิดเครื่อง แต่ดันลืมปรับออกซิเจนลูกลอยยังคงอยู่ที่เลข 0 คนไข้ไม่ได้รับออกซิเจน ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาทันที"
สำหรับอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของเครื่องทั่วไปจะอยู่ที่ 8,000 - 20,000 ชั่วโมงแล้วแต่รุ่น "Devilbiss จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยได้นานถึง 30,000 ชั่วโมง ด้วยคุณภาพของสาร และการออกแบบผลิตที่คัดสรรมาอย่างดี เกรดที่ดีที่สุด ทำให้มีอายุการใช้งานที่เรียกได้ว่าใช้ได้นานที่สุดเท่าที่มีมา" หมายเหตุเพิ่มเติม เมื่อครบอายุการใช้งาน สารผลิตออกซิเจนจะเสื่อมสภาพ ทำให้ค่าออกซิเจนดรอปลงจนเหลือเพียงค่าอากาศปกติคือ 21% ต้องทำการเปลี่ยนอะไหล่เพื่อใช้งานต่อเนื่อง ไส้กรองอากาศชนิด Hepa Filter ไส้กรองอากาศชนิด Hepa filter คุณสมบัติคือสามารถกรองฝุ่นได้ละเอียดขนาด 0.3 ไมครอน เล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 และฝุ่นที่ลอยในอากาศแน่นอนครับ ซึ่งระบบ Hepa Filter นั้นยังสามารถ กรองแบคทีเรีย เชื้อโรคในอากาศได้อีกด้วยนะ ตัวไส้กรองไม่ต้องทำการล้างใดๆ เปลี่ยนง่ายๆ อายุการใช้งาน 6 เดือน - 1 ปี ไส้กรองอากาศ เปรียบเสมือนประตูบานแรกในการผลิตออกซิเจน เพราะเครื่อผลิตออกซิเจนจะดูดอากาศผ่านไส้กรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นและเชื้อโรคก่อน หากไส้กรองคุณภาพต่ำ ส่งผลให้ฝุ่นหรือเชื้อโรคเล็ดลอดเข้าระบบได้ อาจจะส่งผลให้ระบบภายในเสื่อมสภาพได้ก่อนครบอายุการใช้งานครับ ข้อต่อวาล์วออกซิเจนต่อตรง รูปแบบเครื่องผลิตออกซิเจนโดยทั่วไปอาจจะมีจุดที่ใส่กระปุกน้ำที่ต่างกันไป บางแบรนด์ต้องต่อสายโยงเข้าเครื่อง บางแบรนด์ก็มีเกลียวให้หมุน Devibiss นั้นทำเกลียวขึ้นมาเพื่อให้สามารถใส่กระปุกน้ำเข้าตัวเครื่องโดยตรงได้เลย ไม่ต้องต่อสายระโยงระยางไปมาให้ยุ่งยาก หรือสามารถต่อข้อต่อเพิ่มเพื่อแยกกระปุกน้ำออกจากตัวเครื่องก็สามารถทำได้เช่นกันครับ วัสดุการดีไซน์ ด้วยรูปทรงจะทำออกเป็นแนวเรียบหรู วัสดุโดยรอบใช้พลาสติกชนิดหนาตัวพลาสติก และสีที่ใช้ป้องกันไฟฟ้า และไฟฟ้าสถิต เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายทั้งผู้ใช้งาน และผู้ดูแล โดยเครื่องใช้สีดำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา และตามชื่อแบรนด์ การวางตำแหน่งต่างๆนั้นก็ทำออกมาแบบเรียบๆ ให้ใช้งานได้ง่ายๆ การแสดงผลที่จำเป็นก็ใส่เข้ามาอย่างครบครันครับ อะไหล่หาง่าย ดูแลรักษาไม่ยาก สำหรับหลายท่านที่อาจจะลังเล เพราะคิดว่าอะไหล่ต้องแพงแน่เลย แบรนด์อเมริกา ยุโรป เครื่องราคาสูงกว่า แบรนด์เอเชีย ราคาอะไหล่ต้องแพงชัวร์ !! อุปกรณ์ต่างๆนั้น Devilbiss ได้ทำการผลิตให้เป็นลักษณะ มาตรฐาน Universal หรือพูดง่ายๆคืออุปกรณ์แต่ละชิ้นส่วนนั้น สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องผลิตออกซิเจนที่เป็นมาตราฐานสากลได้ ทำให้อะไหล่สิ้นเปลืองภายนอกนั้นหาได้ไม่ยาก แต่อะไหล่ภายในระบบก็ยังคงเป็นเอกสิทธิ์ หรือลิขสิทธิ์ทางปัญญาอยู่ยังคงต้องใช้ของทาง Devilbiss โดยตรง ได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลก และมีการผลิตมาอย่างยาวนาน รวมถึงได้รับการรับรองจากองค์กรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น CE, ISO, IEC, FDA เป็นต้น รับประกันยาวนานถึง 3 ปี ตารางเปรียบเทียบกับเครื่องผลิตออกซิเจนแบรนด์อื่นๆในท้องตลาด Devilbiss 525KSบทสรุป Devilbiss 525KS เหมาะกับใคร "เพราะแบรนด์ยุโรปบางรุ่นในสเปคนี้ราคาอาจจะกระโดดไปถึง 4-6 หมื่นบาทได้ครับ" สำหรับบทความนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อท่านที่กำลังตัดสินใจพิจารณา หรือกำลังตัดสินใจซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ใช้งานสักเครื่อง อย่างไรหากขาดตกส่วนไหนไป สามารถติดต่อสอบถามพูดคุยต่อได้ที่ช่องทางไลน์ หรือโทรได้ตลอดครับ จะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาฟรีครับ |