คู่ ใหญ่ สั่ง มา ฟัด เต็ม เรื่อง พากย์ ไทย

Movie Rate : 10+

Skiptrace (2016) คู่ใหญ่สั่งมาฟัด 2016 หนังสืบสวนสอบสวนที่ชวนน่าติดตาม บู๊ และมีความตลกไปในตัว นำโดยซุปเปอร์สตาร์ชาวจีน เฉินหลง และ ฟ่านปิงปิงนายตำรวจฮ่องกงมีความแค้นกับแก๊งค์ผู้มีอิทธิพล ตามสืบสวนเรื่องการค้ายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายนานถึง 9 ปี แต่แล้วเขาต้องเจอตัวแปรสำคัญชาวต่างชาติที่มีส่วนรู้เห็นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปยังรัสเชีย, มองโกเลีย, จีน, มาเก๊า เหตุการณ์ต่างๆจะสนุกและชวนติดตามแค่ไหน ต้องไปดูในโรงภาพยนตร์

สำหรับการกลับมาของเฉินหลัง ในหนังเรื่องนี้ ต้องบอกก่อนว่า มันเป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวนที่มีความบู๊(อยู่บ้าง) ไม่ได้บู๊แบบระเบิดตูมตามทั้งเรื่อง ชวนเริ่มเรื่องถือว่าน่าสนใจ ปูเหตุการณ์และตัวละครต่างๆได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วงกลางเรื่องทำให้เราติดตามภารกิจของคู่ฟัด อย่าง เฉินหลง กับ Johnny Knoxville  ufabet

ที่กวนโอ๊ย จนเราแอบอมยิ้มในมุกหลายๆมุก แล้วความป่วนก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ให้เราได้ติดตาม และอีกตัวละครหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือ ฟ่าน ปิงปิง ถึงบทบาทในเรื่องนี้เธอไม่ได้จัดจ้านสักเท่าไหร่ แต่ความสวยของเธอ ก็ทำให้คนดูอิ่มตาทุกครั้งที่เธอปรากฎตัวในภาพยนตร์ และบทภาพยนตร์ มีบางฉากที่เซอร์ไพส์เราได้แบบเนียนๆถือว่าโอเคเลยครับ

ด้านโปรดักชั่น กำกับโดย Renny Harlin ที่เคยฝากผลงานไว้อย่าง Die Hard 2 และ The Legend of Hercules ถึงแม้ว่าหนังของผู้กำกับคนนี้เรื่องหลังๆไม่ค่อยฮิตสักเท่าไหร่ Moviehd แต่ถ้าพูดถึงหนังเรื่อง Skiptrace ก็ถือทำได้มาตรฐาน มีความเป็นเอเชียผสมกับฮอลีวู้ด จังหวะมุกตลกต่างๆ หรือแม้แต่ฉากบู๊ก็ดูสนุกสนานดี รวมถึงฉากโลเคชั่นต่างๆ รัสเชีย, มองโกเลีย, จีน, มาเก๊า ก็ทำได้ออกมาสวยงามครับ ดูแล้วเพลินตาดี

MovieHD ดูหนังออนไลน์ ดูหนัง หนังไทย หลวงพี่กะอีปอบ หนังฝรั่ง หนังการ์ตูน หนัง18+ หนังเอเชีย ซีรี่ย์เกาหลี Movie HD หนังชนโรง เลือกชมภาพยนต์เรื่องอื่นๆ ได้อีกมากมาย ที่ หมวด ดูหนังออนไลน์ สุดยอดภาพยนต์ออนไลน์คุณภาพจาก เรา

คู่ ใหญ่ สั่ง มา ฟัด เต็ม เรื่อง พากย์ ไทย

วันนี้ผมจะไม่มานั่งเขียนรีวิวร่ายยาวเป็นหลักการอะไรมากมายนะครับ แต่จะขอพูดถึงจุดเด่นของหนัง แยกเป็นข้อๆตามชื่อกระทู้เลยแล้วกัน

รั่ว
แม้ว่าหนังเฉินหลงยุคหลังๆจะให้ความสำคัญกับตัวบทรวมทั้งประเด็นต่างๆมากขึ้น แต่ไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้
เหมือนว่า Skiptrace จะพยายามดึงความเป็นเฉินหลงคนเดิมกลับมา อย่างน้อยๆก็เป็นเฉินหลงเมื่อต้นทศวรรษ 2000 ที่มีคาแร็คเตอร์แบบตำรวจที่แฝงอารมณ์ขันและความน่ารัก ต่างจากเฉินหลงในทศวรรษ 2010 ที่เน้นดราม่าหนักๆ (ซึ่งเฉินหลงก็เป็นแอ็คชั่นสตาร์ไม่กี่คนที่สามารถเล่นดราม่าตีบทแตกรีดน้ำตาผู้ชมได้) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ถ้าหนังไม่ได้ให้ความสำคัญกับบท แต่โฟกัสที่การปล่อยมุขฮาเฉพาะหน้า มันก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีบทรั่ว แต่ก็รั่วแบบมีเสน่ห์ในตัวมันเอง แม้ว่าช่วงท้ายเรื่องจะรั่วจนดูไม่เมคเซ้นส์ในหลายๆการกระทำของตัวละคร แต่ก็นะ Skiptrace เป็นหนังแอคชั่นคอเมดี้นี่นา ไม่ใช่หนังล่ากล่องรางวัลสักหน่อย (แต่ผมว่าเป็นคอเมดี้แอดเวนเจอร์มากกว่า) แต่อย่าให้หนังเรื่องนี้ตกไปอยู่ในมือนักวิจารณ์เชียวล่ะ โดนสับเละแน่เลยเทอว์

มันส์
ความ "มันส์" ของหนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ฉากแอ็คชั่น แบบที่เฉินหลงเคยทำสมัยวัยละอ่อน แต่ความมันส์มันอยู่ที่คาแร็คเตอร์ของตัวละครหลักทั้งสอง ที่ช่วยเกื้อหนุนส่งเสริมกัน ประกอบกับไดอะล็อกที่มีการจิกกัดเสียดสีกันไปมาระหว่าง แจ็คกี้ชาน และ จอห์นนี น็อกซ์วิลล์ ความมันส์แบบบ้าๆของสองคนคือสิ่งที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้คลอดสองชั่วโมงเต็ม ด้วยสังขารที่ร่วงโรยลงไปทำให้เฉินหลงไม่สามารถสร้างสรรค์ความมันส์จากคิวบู๊ได้เต็มที่ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะยังมีนักแสดงสมทบหลายคนจะมาโชว์คิวบู๊เสริมให้ แม้แอ็คชั่นจะไม่เข้าข้นมาก แต่กลิ่นอายบรรยากาศเก่าๆของ "หนังเฉินหลง" จะกลับมาทำให้คุณรู้สึกมันส์แน่นอน

คู่ ใหญ่ สั่ง มา ฟัด เต็ม เรื่อง พากย์ ไทย

ฮา
หนังเฉินหลงที่คนไทยคุ้นเคย ไม่ใช่หนังโชว์วูซูงามๆ หรือหนังโชว์คิวบู๊บ้าระห่ำ แต่เป็นหนังแอ็คชั่นที่แฝงไปด้วยความน่ารักและอารมณ์ขัน หนังอย่างเอไกหว่า ขาตั้งสู้ วิ่งสู้ฟัด มังกรหนวดทอง หนังตระกูลใหญ่ ทับ ฟัด ฯลฯ ตลอดจนหนังที่ร่วมกับฮอลลีวู้ดในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยจดจำเฉินหลงในภาพนักบู๊อารมณ์ดี แต่พอถึงทศวรรษ 2010 เฉินหลงฉีกแนวไปเล่นดราม่ามากขึ้นจนไม่ค่อยเป็นที่ประทับใจในแวดวงแฟนคลับเฉินหลงในประเทศไทย ถือว่าคนไทยห่างหายจากหนังเฉินหลงแบบเดิมๆไปนานพอสมควร แต่สำหรับ Skiptrace ผมถือว่าสามารถเรียกฟอร์มเฉินหลงคนเดิมกลับคืนมาได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ขึ้นหิ้งแบบ Rush Hour แต่ความฮาแบบแจ็คกี้ชานมันหวนกลับมาอีกครั้ง การปล่อยมุขขณะที่ตัวละครหลักทั้งคู่ผจญภัยไปในดินแดนต่างๆ มันอาจจะดูซ้ำรอยหนังแนวคู่หูผจญภัยหลายเรื่องที่ผ่านมาของเฉินหลง แต่การที่มาประกบคู่กับน็อกซ์วิลล์ มันกลายเป็นความฮาที่ดูจากตัวอย่างแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่เอาเข้าจริงมันเวิร์คสุดๆ

ลูกบ้า
ด้วยคาแร็คเตอร์เฉินหลง ที่รับบทเป็น เบนนีเฉิน ตำรวจวัยเกษียณที่หมกมุ่นกับการล้างแค้นมาเกือบสิบปี ต้องมาร่วมมือกับฝรั่งมะกันบ้าๆบอๆ ทำเรื่องที่หลายคนไม่ทำกัน อย่างการเข็นรถขึ้นภูเขา เมาปลิ้นกับชาวเผ่า ร้องเพลงเพื่อผ่านด่าน หรือเป่าหมูต่อเป็นแพ ฯลฯ ดูขัดกับคาแร็คเตอร์ของเบนนีชานที่ควรจะเคร่งขรึมจริงจัง แต่มันกลับกลายเป็นลูกบ้าที่ทำให้ตัวหนังดำเนินเรื่องไปได้ลื่นไหล ความบ้าที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่อง เอาเข้าจริงๆความบ้าของหนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นรอง The Mermaid หนังของโจวซิงฉือที่บ้าจนถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศจีนถล่มทลายมาแล้ว แต่ผมรู้สึกว่า Skiptrace มันบ้าแต่ฮากว่าหนังเงือกน้อยซะงั้น อย่างไรก็ตามบางฉากก็เหมือนบ้าจนล้นเกินไป อย่างฉากคนมองโกลร้องเพลง ผมไม่เก็ทว่าหนังพยายามจะสื่ออะไรถึงได้เสียเวลากับฉากนั้นไปหลายนาที แถมยังดูไม่เมคเซ้นส์มากๆ

คู่ ใหญ่ สั่ง มา ฟัด เต็ม เรื่อง พากย์ ไทย

โดยรวมแล้ว Skiptrace เป็นหนังที่เน้นหนักไปทางคอเมดี้ซะมาก น่าจะมากที่สุดในหนังเฉินหลงตั้งแต่ทศวรรษ 2010 เป็นต้นมา มุขทั้งฮาและบ้าถูกปล่อยออกมาแบบรัวๆๆๆ แทบจะขำทุกนาที (หรืออย่างน้อยก็ต้องมียิ้มๆบ้างแหละ) องค์ประกอบอื่นๆถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการโดนสับเละ ความดีงามของหนังนอกจากความงามของฟ่านปิงปิง ก็เห็นจะเป็นอารมณ์ขันที่สอดแทรกเข้ามาถูกกาละเทศะตลอดทั้งเรื่อง และขอแนะนำผู้ชมทุกท่านว่า อย่าคาดหวังอะไรกับตัวหนังมาก เสพรับแค่ความบันเทิงก็เพียงพอแล้วครับ