The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here. Show
เรื่องย่อ
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base. Search เรื่องย่อ บทเสภาสามัคคีเสวก
Pages: เรื่องย่อ
เรื่องยอ่ บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมา กล่าวถึง ประเทศชาติใดท่ีไม่มีความสงบสุข บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน สามัคคีเสวก กล่าวถึงหน้าท่ีของข้าราชบริพารท่ีดี Click to View FlipBook Version Previous Book Team telework Next Book 1938 - Дунавът тече - Змей горянин บทเสภาสามัคคีเสวกเมื่อเห็น บทเสภาสามัคคีเสวก ครั้งแรก เชื่อว่าต้องมีน้อง ๆ หลายคนต้องเผลออ่านคำว่า เสวก เป็น (สะ-เหวก) แน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ แต่ที่จริงแล้วคำว่าเสวกนั้นต้องอ่านให้ถูกต้องว่า (เส-วก) ที่มีความหมายถึงผู้ใกล้ชิด เป็นยศของข้าราชการในราชสำนักนั่นเองค่ะ บทเรียนภาษาไทยในวันนี้ไม่เพียงแต่จะสอนอ่านให้ถูกต้อง แต่จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเรื่องย่อวรรณคดีไทยอย่างบทเสภาสามัคคีเสวกกันอีกด้วย โดยจะเป็นเรื่องราวแบบไหน มีลักษณะคำประพันธ์และเรื่องย่ออย่างไรบ้าง เราไปศึกษาเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ บทเสภาสามัคคีเสวกและประวัติความเป็นมาบทเสภาสามัคคีเสวก มีที่มาจากที่ในสมัยก่อน ทุกวันเสาร์ ข้าราชการในราชสำนักจะจัดงานเลี้ยงที่พระราชวังสนามจันทร์ซึ่งในงานเลี้ยง จะมีการแสดงเพื่อความบันเทิง และในครั้งที่เจ้าพระยาธรรมธิกรณาธิบดี หรือ หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง ก็ได้ทูลขอให้พระบาทสมเด็จเพราะมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวคิดการละเล่นขึ้นมาอย่างหนึ่ง พระองค์จึงได้ผูกระบำสามัคคีเสวกขึ้น ซึ่งเป็นระบำที่ไม่มีบทร้อง มีเพียงดนตรีของวงพิณพาทย์บรรเลง โดยในระหว่างที่ให้วงพิณพาทย์พักเหนื่อย พระองค์ก็ทรงพระราชนิพนธ์บทเสภาขึ้นมาสำหรับขับร้องระหว่างตอน ลักษณะคำประพันธ์กลอนเสภาที่มีฉันทลักษณ์เหมือนกลอนสุภาพ เรื่องย่อของบทเสภาสามัคคีเสวกบทเสภาสามัคคีเสวกมีด้วยกันทั้งหมด 4 ตอน ได้แก่ 1. กิจการแห่งพระนนที เป็นบทกล่าวสรรเสริญพระนนทีว่าเป็นเทพเสวกที่ดี รับใช้พระอิศวรอย่างซื่อสัตย์ 2. กรีนิรมิต เป็นบทกล่าวสรรเสริญพระคเณศ เทพเจ้าแห่งศิลปวิทยา 3. วิศวกรรมา เป็นบทกล่าวสรรเสริญพระวิศวกรรมเทพ ผู้ให้กำเนิดการก่อสร้างและช่างต่าง ๆ 4. สามัคคีเสวก เป็นบทกล่าวถึงความสามัคคีในหมู่ราชการ ให้มีความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ และขยันทำงาน ตอนที่เราจะศึกษากันในวันนี้มีด้วยกัน 2 ตอน คือ วิศวกรรมาและสามัคคีเสวกค่ะ บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมาบทวิศวกรรมา มีทั้งหมด 13 บท เป็นบทที่กล่าวสรรเสริญพระวิศวกรรมผู้เป็นเทพแห่งการสร้าง การช่าง นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของศิลปะ บทประพันธ์เด่น แม้ผู้ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร เพราะขาดเครื่องระงับดับรำคาญ โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ ถอดความ คนที่ไม่สนใจในศิลปะ เมื่อถึงเวลาที่เศร้าก็จะไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจไม่สามารถใช้ยาช่วยได้ อันชาติใดไร้ช่างชำนาญศิลป์ เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า ใครใครเห็นไม่เป็นที่จำเริญตา เขาจะพากันเย้ยให้อับอาย ถอดความ ชาติใดก็ตามที่ไม่มีช่างฝีมือด้านศิลปะ ก็เหมือนผู้หญิงที่ไม่มีเสน่ห์ ไม่สวย ใครเห็นก็รู้สึกไม่ชอบและพากันดูถูกได้ว่าเป็นเมืองที่ไร้ศิลปะ สรุปแนวคิดในตอนวิศวกรรมา เป็นบทที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของงานฝีมือและศิลปะว่ามีความสำคัญมาก เพราะศิลปะจะช่วยเยียวยาจิตใจ ให้ความเพลิดเพลิน บำรุงประเทศให้งดงาม และนอกจากนี้ยังส่งเสริมให้คนไทยภาคภูมิใจและสนับสนุนงานศิลปะ เพราะนอกจากจะช่วยพัฒนาฝีมือช่างไทยแล้วยังเป็นการพัฒนาชาติให้เจริญรุ่งเรืองอีกด้วย บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน สามัคคีเสวกมีทั้งหมด 9 บท มุ่งเน้นที่จะสอนข้าราชการให้จงรักภักดีและทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้า บทประพันธ์เด่น ประการหนึ่งพึงคิดในจิตมั่น ว่าทรงธรรม์เหมือนบิดาบังเกิดหัว ควรเคารพยำเยงและเกรงกลัว ประโยชน์ตัวนึกน้อยหน่อยจะดี ควรนึกว่าบรรดาข้าพระบาท ล้วนเป็นราชบริพารพระทรงศรี เหมือนลูกเรืออยู่ในกลางหว่างวารี จำต้องมีมิตรจิตรสนิทกัน ถอดความ พระมหากษัตริย์เปรียบเหมือนบิดาที่ควรเคารพ และสอนให้ข้าราชการนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนอีกด้วยว่าข้าราชการเหมือนลูกเรือกะลาสี เรือเปรียบเหมือนประเทศชาติ แม้ลูกเรือเชื่อถือผู้เป็นนาย ต้องมุ่งหมายช่วยแรงโดยแข็งขัน คอยตั้งใจฟังบังคับกัปปิตัน นาวานั้นจึ่งจะรอดตลอดทะเล ถอดความ ข้าราชการที่เหมือนลูกเรือ ต้องสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ และตั้งใจฟังกัปตันหรือก็คือพระมหากษัตริย์เพื่อพาประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัยไปตลอดรอดฝั่งได้ แม้ต่างคนต่างเถียงเกี่ยงแก่งแย่ง นายเรือจะเอาแรงมาแต่ไหน แม้ไม่ถือเคร่งคงตรงวินัย เมื่อถึงคราวพายุใหญ่จะครวญคราง ถอดความ สื่อถึงว่าหากลูกเรือหรือบรรดาข้าราชการแตกคอกัน แม้แต่พระมหากษัตริย์เองก็สู้ไม่ไหว และถ้าหากเกิดเรื่องไม่ดีก็อาจจะทำให้ประเทศเดือดร้อนได้ ไม่ควรเลือกที่รักมักที่ชัง สามัคคีเป็นกำลังพลังศรี ควรปรองดองในหมู่ราชเสวี ให้สมที่ร่วมพระเจ้าเราองค์เดียว ถอดความ เป็นการสอนให้ข้าราชการไม่ลำเอียง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง วางตัวเป็นกลาง และควรปรองดองกันในหมู่ราชการ สามัคคีกัน สรุปแนวคิดที่ในตอนสามัคคีเสวก เป็นบทที่มุ่งเน้นสอนข้าราชการเกี่ยวกับการทำงาน ความซื่อสัตย์ ให้นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม เคร่งครัดในระเบียบวินัย มีความจงรักภักดีและสามัคคีปรองดองกัน สิ่งที่ทำให้กลอนเสภาเรื่องนี้แตกต่างจากบทเสภาทั่วไป คือการอัดแน่นไปด้วยแนวคิดมากกว่าจะเล่าเรื่องราว เรียกได้ว่าเป็นวรรณคดีที่เปี่ยมไปด้วยความรู้และข้อคิดมากมายเลยค่ะ และเพื่อให้น้อง ๆ ได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้น ก็สามารถตามไปดูคลิปการสอนย้อนหลังของครูอุ้ม ในคลิปครูอุ้มจะอธิบายตัวบทเด่น ๆ และยังมีคำศัพท์น่ารู้อีกมากมายเลยค่ะ ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ตอน สามัคคีเสวก อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยใหม่ๆ ได้ใน nockacademy ข้อคิดบทเสภาสามัคคีเสวก ตอน สามัคคีเสวก มีอะไรบ้างข้อคิด:สามัคคีเสวก 1.ความสามัคคีนำมาซึ่งความเจริญสู่หมู่คณะ ส่งผลให้มีความสุข. ศิลปะทั้งหลายแสดงถึงความเจริญก้าวหน้าของคนในชาติ. ศิลปะของชาติจะเจริญก้าวหน้าได้ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของคนในชาติ. ศิลปะช่วยบรรเทาทุกข์เจริญหูเจริญตา. เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองมีผลกระทบทั้งแง่ดีและแงร้าย. บทเสภาสามัคคีเสวกคืออะไรบทเสภาสามัคคีเสวก (อ่านว่า เส - วก = ข้าราชการในราชสำนัก) เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๗ บทเสภาสามัคคีเสวกเป็นบทที่ใช้สำหรับขับอธิบายนำเรื่องในการฟ้อนรำตอนต่างๆพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจงอธิบายสาเหตุที่ทรงพระราชนิพนธ์บทเสภาชุดนี้ไว้ดังนี้
บทเสภาสามัคคีเสวกมีตอนอะไรบ้างเล่าเรื่องราว ความแตกต่าง Page 15 บทเสภาสามัคคีเสวก ตอนที่๑ : กิจการแห่งพระนนที Page 16 ตอนที่๒ : กรีนิรมิต ตอนที่๓ : วิศวกรรมา ตอนที่๔ : สามัคคีเสวก
บทเสภาตอนที่ 4 สามัคคีเสวกมีเนื้อหากล่าวถึงสิ่งใดเป็นสำคัญกล่าวสรรเสริญพระวิศวกรรม ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งการก่อสร้าง และการช่างนานาชนิด กล่าวถึง ความสาคัญของศิลปะที่มีต่อชาติ บทเสภาตอนที่๔ : สามัคคีเสวก กล่าวถึงการสมานสามัคคีในหมู่ราชเสวก ผู้สวามิภักดิ์ใต้เบื้องยุคลบาทให้มั่นคง ในความ จงรักภักดีซื่อตรง และขยันต่อการงาน ให้รักษา เกียรติของข้าราชการอย่าให้เสื่อมเสีย
|