3.4 วิธีการรักษาอื่น ๆ ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ยังคงมีอาการรุนแรงแม้จะได้รับการรักษาดังกล่าวข้างต้นแล้ว เช่น การกระตุ้นเส้นประสาททิเบียล (Tibial Nerve Stimulation)การกระตุ้นเส้นประสาทบริเวณกระดูกกระเบนเหน็บ (Sacral Nerve Stimulation) อย่างไรก็ตามการรักษาทั้งสองวิธีนี้ยังไม่เป็นที่นิยมทำในประเทศไทย เนื่องจากมีความยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายสูง และมีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มาก ปัญหาปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ คือการที่มีปัสสาวะออกมาโดยไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นภาวะที่รบกวนการใช้ชีวิตของผู้ป่วยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่สามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย แต่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ในเพศหญิงสาเหตุสำคัญคือการที่ระดับเอสโตรเจนลดลงอย่างรวดเร็วในวัยหมดประจำเดือน เป็นเหตุให้ผนังท่อปัสสาวะบางลง ลดความสามารถในการปิดของหูรูดท่อปัสสาวะ ส่งผลให้หูรูดปิดสนิทได้ยากขึ้น ทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดได้ ส่วนในเพศชายมักเกิดจากการที่มีภาวะต่อมลูกหมากโตจึงไปขัดขวางทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เช่น กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอ ซึ่งอาจเกิดจากการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร หรืออายุที่มากขึ้น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ผู้ที่มีความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายบกพร่อง ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่ท้องผูกเรื้อรัง หรือการได้รับยาบางชนิด เป็นต้น Show ภาพจาก : http://ptworks.ca/wp-content/uploads/2018/08/urinary_incontinence_explained.jpg ระบบทางเดินปัสสาวะประกอบด้วย ไต (kidney) ซึ่งทำหน้าที่ในการผลิตน้ำปัสสาวะ (urine) โดยมีท่อไต (ureter) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำปัสสาวะที่ไตผลิตได้ไปยังกระเพาะปัสสาวะ (urinary bladder) ก่อนปล่อยออกภายนอกร่างกายผ่านทางท่อปัสสาวะ (urethra) ในการลำเลียงน้ำปัสสาวะท่อปัสสาวะจะบีบตัวเป็นคลื่น ๆ ที่เรียกว่า peristaltic contraction ซึ่งจะลำเลียงน้ำปัสสาวะ ได้ 1-2 มิลลิลิตร/นาที โดยในคนปกติจะสามารถเก็บน้ำปัสสาวะได้ 200-400 มิลลิลิตร แบบไม่รู้สึกอึดอัดและไม่มีการเล็ดของปัสสาวะออกมา แต่ถ้าน้ำปัสสาวะมีมากกว่า 400 มิลลิลิตร จะเริ่มรู้สึกอยากขับถ่ายปัสสาวะ การขับถ่ายปัสสาวะอาศัยการทำงานของระบบประสาทในการควบคุมการทำงานของหูรูดของท่อปัสสาวะและกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะให้เกิดการทำงานที่ประสานกัน ดังนั้นหากมีความผิดปกติของระบบประสาทที่มาควบคุมการทำงานของระบบขับถ่ายปัสสาวะหรือมีความผิดปกติของกล้ามเนื้อทางเดินปัสสาวะเองก็จะทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ ข้อมูลสุขภาพ โรคและการรักษา การกลั้นปัสสาวะลำบากในผู้สูงวัย 3 นาทีในการอ่าน แชร์ ภาวะการกลั้นปัสสาวะลำบากในผู้สูงวัยภาวะการกลั้นปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะเล็ดในผู้สูงวัยนับเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน โดยอาการที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน และก่อให้เกิดความกังวลใจในการเข้าสังคม อาการบอกโรคความรุนแรงของอาการ เริ่มตั้งแต่การมีปัสสาวะหยดมาเปื้อนกางเกงในปริมาณที่ไม่มากนัก ไปจนถึงมีอาการปัสสาวะเล็ดออกมาเป็นปริมาณมาก บางครั้งอาจมีอุจจาระเล็ดร่วมด้วย ผู้สูงวัยบางท่านแม้ยังไม่เริ่มมีอาการดังกล่าวแต่ก็อาจเริ่มมีอาการดังต่อไปนี้ เช่น
ปัจจัยควบคุมปัสสาวะโดยปกติแล้วการควบคุมการปัสสาวะต้องอาศัยปัจจัยดังต่อไปนี้
การทำงานของกระเพาะปัสสาวะในผู้สูงวัยเมื่ออายุเริ่มเพิ่มขึ้นสิ่งที่เกิดขึ้น คือ
ประเภทของอาการปัสสาวะเล็ด
ดูแลผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะลำบาก
ข้อมูลโดยสอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ ชั้น 4 อาคาร R เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00 - 15.00 น. 0 2310 3755 1719 แชร์ Incontinence มีอะไรบ้าง1. อาการไอจามปัสสาวะเล็ด (Stress urinary incontinence) ... . 2. อาการปัสสาวะราด (Urge urinary incontinence) ... . 3. อาการไอจามปัสสาวะเล็ด ร่วมกับปัสสาวะราด (Mixed urinary incontinence) ... . 4. อาการปัสสาวะรดที่นอน (Enuresis / Nocturnal enuresis) ... . 5. อาการปัสสาวะไหลซึมตลอดเวลา (Continuous urinary incontinence). UI โรคอะไรUrinary incontinence (UI) ตามนิยามของ International Continence Society (ICS) หมายถึง ภาวะที่มีปัสสาวะไหลเล็ดออกมาโดยควบคุมไม่ได้ 'any involuntary leakage of urine' (11, 12)
ภาวะ stress incontinence ขณะไอ จาม หัวเราะ เกิดขึ้นจากสาเหตุใดStress incontinence
เป็นอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ที่พบได้มากสุด โดยเป็นผลมาจากการที่ตัวหูรูดท่อปัสสาวะหดรัดตัวได้ไม่ดีหรือการหย่อนตัวของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เมื่อมีการเพิ่มความดันในช่องท้องอย่างกะทันหัน เช่น การไอ จาม หัวเราะ ออกกำลังกาย หรือยกของหนัก จะทำให้ไม่สามารถควบคุมการไหลของปัสสาวะได้
การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เกิดจากอะไรสาเหตุของอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
การบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ การอักเสบติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะหรือทางเดินปัสสาวะ ช่องคลอดหย่อน หูรูดไม่แข็งแรงหรือเสื่อม
|