ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น อร่อย ที่สุด

ในย่านถนนบางขุนนนท์ นอกจากจะเป็นถิ่นก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึงแล้ว ยังมีก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นอีกเจ้าที่โด่งดังขึ้นชื่อเป็นอันมาก ถึงแม้จะตั้งอยู่สุดซอยแคบๆ แต่ถึงกระนั้นก็มีขาประจำและขาจรรู้จักกันดี แวะเวียนมาไม่ขาดสายตั้งแต่ตอนเปิดร้านช่วงเช้าเลยทีเดียว ทำให้การจราจรในซอยหนาแน่นอย่างเห็นได้ชัด ร้านนี้เจ้าของชื่อนายเป็ด แต่กลับขายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ใครๆ รู้จักกันดีในชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นนายเป็ด อยู่สุดซอยบางขุนนนท์ 29

Advertisment

จุดสังเกตปากซอยมีร้านสะดวกซื้อ Family Mart เลยวัดเจ้าอามมานิดเดียว และฝั่งตรงข้ามคือธนาคารกรุงไทย เข้าซอยมาแล้วเลี้ยวโค้งขวาซ้ายตามทาง พอมาเจอสามแยกเล็กๆ ไม่ต้องเลี้ยว ให้ตรงมาอีกนิดเดียวจนสุดทาง ก็จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นนายเป็ด ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นไม่มีป้ายชื่อร้าน (ป้ายติดอยู่ด้านใน) มีที่จอดรถอยู่ข้างในสุดได้ยี่สิบกว่าคัน ถ้าค้นในกูเกิลแมพส์จะใช้ชื่อว่าร้านก๋วยเตี๋ยวนายเป็ดนะจ๊ะ
ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นนายเป็ดอยู่คู่บางขุนนนท์มากว่า 22 ปี จากเจ้ารถเข็นเล็กๆ ริมถนน กลายเป็นร้านเล็กๆ แถวปากซอย จากนั้นได้ย้ายมาอยู่ในที่ของตัวเองสุดซอยนาน 17 ปีแล้ว

Advertisement

เดี๋ยวนี้ร้านเปิดเร็วขึ้นเป็นตอน 8 โมงครึ่ง ถ้าไม่อยากรอนานคนแน่นให้มาตั้งแต่ 08.15 น. เป็นดีที่สุด เอกลักษณ์ของร้านนี้คือไม่มีกระดาษเช็ดปากให้ โปรดเตรียมมาเอง ซึ่งด้านหน้าร้านเห็นมีคนมาขายกระดาษเช็ดปากอยู่ด้วย อีกทั้งมีแผงลอยของกินขนมผลไม้ดักรอก่อนเลี้ยวเข้าหน้าร้าน ให้เลือกซื้อหาอีกเพียบ
ด้านในร้านกว้างพอประมาณ ปกตินายเป็ดจะไม่ค่อยได้ออกมาโชว์ตัว แต่มีลูกชายคนโตชื่อ เมธิพล คงคาประกรณ์ ยืนชงก๋วยเตี๋ยวอยู่ด้านในสุด มีน้องชายคนกลาง พีรพล คอยช่วยแม่เก็บเงินดูแลร้าน ส่วนลูกชายคนเล็ก พิรพัฒน์ จะทำขนมถ้วยขายด้วยซึ่งอร่อยหอมกะทิมากๆ ส่วนคุณแม่ของน้องๆ ซึ่งเป็นภรรยานายเป็ดชื่อคุณสมนึก รับหน้าที่ว่าการร้านเอง (ทราบมาว่าฝ่ายหญิงเป็นคนสุพรรณฯ มาแต่งงานกับนายเป็ดซึ่งเป็นคนบางขุนนนท์ในพื้นที่)

Advertisement

ปกติผมไม่ใช่คนที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นมากนัก แต่ขอยอมศิโรราบให้เจ้านี้ เพราะหมูตุ๋นนุ่มๆ เด้งนิดๆ เนื้อสัมผัสถูกใจมากที่สุดเท่าที่เคยกินมา ทำจากเนื้อขั้วตับหมูตุ๋นตำรับนายเป็ดจนเปื่อยนุ่ม ซึ่งเจ้านี้ขยันมาก จะตื่นแต่ตี 2 มาต้มน้ำซุป ทำจากน้ำต้มกระดูกสันหลังหมูเอียเล้งกับเนื้อหมูขั้วตับ ใส่เครื่องยาจีนเล็กน้อยพอหอมๆ ต้มไฟอ่อนไปเรื่อยๆ จนพร้อมขายตอนเช้า ส่วนเครื่องอื่นๆ นอกจากหมูตุ๋นก็มีเนื้อหมูสดที่หมักเบาๆ จนนุ่ม อีกทั้งลูกชิ้นหมูซึ่งรับมาจากเจ้าประจำ

มีเส้นให้เลือกคือเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ สนนราคาชามละ 40 บาทรวด พิเศษ 60 บาท ตัวผมเองชอบสั่งเกาเหลาหมูตุ๋นทั้งน้ำและแห้ง (ใส่ซีอิ๊วดำ) (40-60 บาทเช่นกัน) มาอย่างละชาม กินกับข้าวเปล่าร้อนๆ ซึ่งจะปรุงมาให้รสจัดๆ ครบทุกรสแล้ว อร่อยจนเห็นสวรรค์รำไร โดยจะใส่ทั้งผักกาดหอมกับถั่วงอก ลองแหวกผักออกมาดูก่อนจะเห็นว่าใส่พริกน้ำส้มจัดเต็ม

เจ้าถิ่นที่พาไปชิมร้านนี้คือน้องวัฒน์ ชายกางตระเวนกินทั่วถิ่นไทยเช่นเคย น้องวัฒน์เชิญคุณสมนึกเจ้าของมานั่งเล่าความเป็นมาของร้านว่า นายเป็ดสามีทำสวนอยู่ที่ปทุมธานี เป็นคนชอบกินก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว สมัยนั้นไปได้สูตรการทำก๋วยเตี๋ยวจากคุณลุงเจ้าของร้านที่ปทุมฯ ซึ่งความจริงขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ จึงนำมาปรับกลายเป็นสูตรก๋วยเตี๋ยวหมูของตัวเอง ซึ่งน้องวัฒน์เสริมว่าเห็นได้จากพริกน้ำส้มจะใส่พริกดองที่นำไปคั่วก่อน เป็นเอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวเมืองปทุมฯ ถูกใจมากๆ และน้องวัฒน์ยังเสริมอีก คำว่าน้ำตกของตำรับนี้จะใช้น้ำที่ออกมาจากการหมักหมู เหยาะในชาม ราดน้ำซุปร้อนๆ มาให้หอมอร่อย

เอาเป็นว่าวันนั้นเบรกแตกยั้งไม่อยู่ สั่งเส้นเล็กแห้งมากินอีกชาม เส้นเล็กเคลือบด้วยซีอิ๊วดำหอมๆ รสจัดๆ เข้ากันดีกับหมูตุ๋น เท่านี้ยังไม่พอ จัดการขนมถ้วยลูกเป็ดต่ออีกกล่อง ของลูกชายคนเล็กของบ้าน (ที่ตั้งชื่อนี้เพราะเป็นลูกชายนายเป็ด) (กล่องละ 40 บาท) กะทิหอมหวานมัน ควรจะรีบจองเพราะน้องวัฒน์บอกว่าหมดเร็ว อีกทั้งยังตบท้ายด้วยลอดช่องสิงคโปร์ (15 บาท) เส้นลอดช่องลื่นคอกินแล้วชื่นใจ นี่ไม่นับกล้วยไข่เชื่อมที่ซื้อตรงแผงลอยด้านนอกร้านกลับบ้านอีกต่างหาก