Friday, 27 May 2022
มาตรา 33 ลูกจ้างในสถานประกอบการ ที่มา สำนักงานประกันสังคม
อัพเดทล่าสุดinfographicหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ผู้ประกันตน แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจอย่างละเอียด วันนี้ TNN ขอนำเสนอข้อมูลผู้ประกันตน ของประกันสังคมมาตรา 33 ซึ่งเป็นผู้ประกันตนภาคบังคับของประกันสังคมว่าจะได้รับสิทธิอะไรบ้าง ผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นผู้ประกันตนภาคบังคับของ สำนักงานประกันสังคม คือ ผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้างตามบริษัทต่าง ๆ ที่ทำงานให้นายจ้างโดยได้รับค่าจ้าง ซึ่งต้องเป็นสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ซึ่งจะได้รับความคุ้มครอง 7 กรณี คุณสมบัติของการขึ้นทะเบียน ประกันสังคมมาตรา 33 มีอะไรบ้าง - ต้องเป็นสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป - ต้องเป็นลูกจ้างที่ไม่ได้รับการยกเว้นตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 4 - ลูกจ้างต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 จะได้สิทธิอะไรบ้าง
3. กรณีทุพพลภาพ 4. กรณีเสียชีวิต 5. กรณีสงเคราะห์บุตร 6. กรณีชราภาพ 7. กรณีว่างงาน ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 1. กรณีเจ็บป่วย 1.1 กรณีเจ็บป่วยปกติ ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนที่จะเจ็บป่วยสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลตามสิทธิหรือเครือข่ายสถานพยาบาลนั้นได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน รวมทั้งค่าตรวจสุขภาพและฟื้นฟูสมรรถภาพ เว้นแต่มีความประสงค์สิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้องพิเศษ แพทย์พิเศษ ซึ่งเหล่านี้ผู้ป่วยต้องจ่ายเพิ่มเอง ซึ่งสถานพยาบาลควรเป็นสถานพยาบาลใกล้บ้านหรือที่ทำงาน 1.2. กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
สถานพยาบาลของรัฐ - ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอรับค่าบริการทางการแพทย์ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งตามรายละเอียดดังนี้
*ยกเว้น ค่าห้องและค่าอาหารเบิกได้ไม่เกินวันละ 700 บาท สถานพยาบาลเอกชน - ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเบิกได้ดังนี้
- เบิกค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาล กรณีที่ไม่ได้รักษาในห้อง ICU เบิกได้ไม่เกินวันละ 2,000 บาท ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) กรณีผู้ประตนประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน การจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่นจะมีอาการของผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ดังนี้ 1. หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2. หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3. เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง 4. ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 5. แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วนหรือชักต่อเนื่องไม่หยุด 6. มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต 7. เมื่อไปรับบริการทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลเอกชนอื่นที่มิใช่สถานพยาบาลตามสิทธิ ประกันสังคมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลที่ให้การรักษาจนพ้นวิกฤตไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 1.4. กรณีทันตกรรม
ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 2. กรณีคลอดบุตร ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 5 เดือนภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนที่คลอดมีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยมีค่าตรวจและรับฝากครรภ์ดังนี้ - อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จ่ายในอัตรเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายในอัตรเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 3. กรณีทุพพลภาพ ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ 3.1. เงินทดแทนการขาดรายได้
3.2. ค่าบริการทางการแพทย์
ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 4. กรณีเสียชีวิต ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 1 เดือน ภายใน 6 เดือนก่อนเดือนถึงแก่ความตายจะได้รับสิทธิดังนี้ - ได้รับเงินค่าทำศพ 40,000 บาท - ได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 5. กรณีสงเคราะห์บุตร ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนภายใน 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 600 บาท/บุตร 1 คน/เดือน คราวละไม่เกิน 3 คน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ **โดยต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย** ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 6. กรณีชราภาพ 6.1 เงินบำเหน็จชราภาพ เป็นเงินก้อนที่จ่ายเพียงแค่ครั้งเดียว กรณีจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบเฉพาะส่วนของผู้ประกันตน กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายสมทบ พร้อมผลประโยชน์ทดแทนที่ประกันสังคมกำหนด สูตรคำนวณเงินบำเหน็จชราภาพ - กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 1-11 เดือน = เงินสมทบของผู้ประกันตนฝ่ายเดียว - กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12-179 เดือน = เงินสมทบผู้ประกันตน + เงินสมทบนายจ้าง + ผลประโยชน์ตอบแทน 6.2 เงินบำนาญชราภาพ คือ ได้รับเงินบำนาญชราภาพร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบก่อนเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง กรณีจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน (15 ปีขึ้นไป) ให้เพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน โดยเงินที่จ่ายจะเป็นรายเดือนตลอดชีวิต สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพ ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายคูณด้วย 20% (+ จำนวน% ที่ให้เพิ่มอีกปีละ 1.5%) ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 7. กรณีว่างงาน ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนการว่างงาน ผู้ประกันตนที่ว่างงานจะได้รับสิทธิอะไรบ้าง - กรณี 1 ถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนจากการขายรายได้ในระหว่างการว่างงานร้อยละ 50 ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 180 วัน - กรณี 2 ลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาจ้างแน่นอน ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ในระหว่างการว่างงานร้อยละ 30 ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 90 วัน - กรณีไม่ได้ทำงานจากเหตุสุดวิสัย เช่น อัคคีภัย วาตภัย หรือธรณีพิบัติ ตลอดจนภัยธรรมชาติที่มีผลต่อสาธารณชนทำให้ผู้ประกันตนไม่สามารถทำงานได้ หรือนายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้ ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ระหว่างการว่างงานร้อยละ 50 ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 180 วัน ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม วิธีการขึ้นทะเบียนว่างงานทำได้อย่างไร 1. ผู้ประกันตนที่ว่างงานจะต้องขึ้นทะเบียนว่างงานภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันสุดท้ายของการเป็นพนักงานที่เว็บไซต์ กรมการจัดหางาน 2. กรอกเอกสาร แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) 3. เตรียมสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหน้าบุ๊คบัญชี 4. เตรียมหนังสือรับรองการออกจากงานที่บริษัทออกให้ กรณีไม่มียังสามารถขึ้นทะเบียนว่างงานได้ตามปกติ 5. ยื่นเอกสารขึ้นทะเบียนว่างงานที่ประกันสังคมตามเขตใกล้บ้าน โดยสามารถเช็กสำนักงานประกันสังคมใกล้บ้านได้ตามรายละเอียดด้านล่าง เช็กที่นี่! รวมที่อยู่สำนักงานประกันสังคมทุกที่ทั่ว กทม. เช็กที่นี่! รวมที่อยู่สำนักงานประกันสังคมทุกที่ทั่วภาคกลาง เช็กที่นี่! รวมที่อยู่สำนักงานประกันสังคมทุกที่ทั่วภาคเหนือ เช็กที่นี่! รวมที่อยู่สำนักงานประกันสังคมทุกที่ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช็กที่นี่! รวมที่อยู่สำนักงานประกันสังคมทุกที่ทั่วภาคใต้ เช็กที่นี่ รวมที่อยู่สำนักงานประกันสังคมทุกที่ทั่วภาคตะวันออก เช็กที่นี่! รวมที่อยู่ประกันสังคมทุกที่ทั่วภาคตะวันตก ที่มาข้อมูล : สำนักงานประกันสังคม https://www.sso.go.th/ ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม,AFP
|