โกนหนวดไป ทํา งาน แล้วกลับมาพบเธอ pdf ฟรี

เป็นเวลากว่า 4 ปีที่ผมรอคอยเล่มนี้นับตั้งแต่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้บน Web และวันนี้ในที่สุดการเดินทางของน้องซายุก็มาถึงจุดหมายปลายทางของเธอแล้ว กับ "เล่มจบ" ของ

ひげを剃る。そして女子高生を拾 #5 Hige wo Soru. Soshite Joshi Kousei wo Hirou #5 "โกนหนวดไปทํางานแล้วกลับมาพบเธอ" เล่ม 5

.

โกนหนวดไป ทํา งาน แล้วกลับมาพบเธอ pdf ฟรี

.

สำหรับเนื้อหาในเล่มนี้ เนื้อหาใหญ่ยังคงแบ่งเป็น 3 Part หลักตามสไตล์อาจารย์เหมือนเดิมนะครับ ใช้แบบนี้มาตั้งแต่เล่มแรกเลย ซึ่งการแบ่งตรงนี้ผมแบ่งตาม Flow ของเนื้อหานะครับ ไม่เกี่ยวกับบท ถ้าทุกท่านเตรียมใจพร้อมแล้ว ผมขอเชิญทุกท่านเข้าสู่เนื้อหา พารท์แรกครับ .

◤◢◤◢◤ สรุปเนื้อเรื่อง พารท์แรก ◢◤ ◢◤ ◢

พารท์แรก การเดินทางกลับบ้าน และการเคลียร์ใจกับยูโกะ

.

โกนหนวดไป ทํา งาน แล้วกลับมาพบเธอ pdf ฟรี

.

หลังจากผ่านพ้นคืนสุดท้ายที่บ้านของโยชิดะในเล่ม 4 ทั้งโยชิดะ และ ซายุก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่ฮอกไกโดบ้านเกิดของซายุ โดยที่พี่ชายของซายุมารับซายุที่บ้านโยชิดะ แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อโยชิดะบอกว่าจะเดินทางไปกับซายุด้วย ตัวโยชิดะเองก็พอเข้าใจว่าพี่ชายของซายุคงห่วงว่าโยชิดะจะมาจุ้นจ้านเรื่องในครอบครัวของตัวเองจนเกินไปหรือเปล่า จึงรีบชิงบอกพี่ชายซายุให้เคลียร์กันก่อนว่า

.

"ผมอยากจะคอยไปสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ซายุมีความกล้าน่ะครับ อีกอย่าง ตลอดการหนีออกจากบ้านของซายุ ช่วงเวลาที่เธอใช้อยู่นานที่สุด คือ ที่บ้านของผม ดังนั้นผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับคุณแม่ของเธอฟังน่ะครับ "

.

เมื่อฟังเหตุผลของโยชิดะ พี่ชายซายุ ก็ออกปากออกมาว่า ถ้าให้พูดตามตรงเขาเองรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร ที่ต้องให้โยชิดะทำถึงขนาดนี้ ซึ่งเขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าคุณแม่ของซายุจะฟังโยชิดะไหมแต่......ยังไงก็ต้องขอบคุณที่โยชิดะเป็นห่วงสภาพจิตใจของซายุถึงขนาดนี้ ก่อนจะเชื้อเชิญ เปิดประตูรถหรูให้โยชิดะนั่งคู่กับซายุทางด้านหลัง ก่อนออกเดินทางพี่ชายซายุได้ถามชื่อ-นามสกุลโยชิดะ จากนั้นจึงโทรไปบอกให้เลขาให้ช่วยซื้อตั๋วเพิ่มให้แบบด่วนที่สุด พร้อมกับบอกแผนการเดินทางให้โยชิดะรับรู้

.

หลังจากออกรถ ซายุ หันไปถามโยชิดะ ว่า "คุณโยชิดะจะไปด้วยกันจริง ๆ หรือคะ?" ซึ่งโยชิดะก็ตอบแก้เก้อว่า "ก็รถมันออกแล้วนี่นา" พี่ชายซายุเลยแกล้งกลับว่า "งั้นจะให้จอดไหมครับ?" ทำเอาโยชิดะต้องรีบบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอกครับ ขับต่อไปเถอะครับ" พลางหันกลับไปหาซายุก่อนจะพูดว่า "ก็บอกแล้วไงว่าจะดูแลให้ถึงที่สุดน่ะ" ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น สีหน้าของซายุก็ดูใจชื้นขึ้นเยอะจนเผยรอยยิ้มออกมา "จะไปด้วยกันจริง ๆ ด้วยสินะคะ....อืม รู้สึกมีความกล้าขึ้นมาเยอะเลยค่ะ"

.

ระหว่างทางที่รถแล่นไปสนามบิน โยชิดะซึ่งหันไปมองซายุที่กำลังทอดสายตาไปนอกหน้าต่างรถ ก็พอดีกับที่ซายุหันกลับมาพอดี เมื่อทั้งคู่สบสายตากัน ซายุซึ่งตกใจที่โยชิดะนั้นมองเธออยู่ก็ถึงกับเอียงคอแสดงอาการเหมือนจะถามว่า "มีอะไรเหรอ?" ทำเอาโยชิดะต้องรีบส่ายหัวปฎิเสธ พลางทักแก้เก้อว่า "ผมยาวขึ้นนะ" "อา...น่าจะอย่างนั้นนะคะ.....นี่สังเกตหนูถึงขนาดนี้เลยหรือคะ" "ก็มีบ้างแหละนะ" "หืม....มีบ้างสินะคะ" "ตัดผมครั้งต่อไปนี่ คงได้ตัดที่บ้านเกิดสินะ" "ช่างประจำของหนู ไม่รู้เขาจะยังจำหนูได้ไหม" "ขาประจำกัน คงไม่ลืมกันง่าย ๆ หรอก" "อย่างนั้นหรือคะ....ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ดีสินะคะ"

.

และในที่สุดรถก็มาจอดที่ที่จอดรถสนามบิน "เอ่อ...จะทิ้งรถไว้แบบนี้เลยหรือครับ" โยชิดะพูดพลาง หันไปถามพี่ชายของซายุก่อนจะลงจากรถ "เดี๋ยวค่อยให้เลขามาขับกลับไปทีหลังน่ะครับ ประธานบริษัทซะอย่าง" พูดพลาง ขยิบตาให้โยชิดะจนดาวกระพริบออกจากตาทีหนึ่ง "เลิกแกล้งกันสักทีเถอะครับ~" พลางคิดในใจว่า พี่ชายซายุเนี่ย ขี้แกล้งมากกว่าที่คิด เจอแบบนี้ไปตลอดทางจะไหวไหมนี่ ส่วนซายุเองก็ได้แต่อมยิ้มแอบขำพี่ชายตัวเองกับโยชิดะ

.

เมื่อเข้ามาในสนามบินและผ่านขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัยจนมาถึงหน้าเครื่องแล้ว พี่ชายซายุก็พาโยชิดะไปยังที่นั่งด้วยตัวเอง "เดี๋ยวนะ...นี่มัน Business Class เลยนี่ครับ" "เดินทางไกลขนาดนี้ จะให้นั่งที่แคบ ๆ มันก็กระไรอยู่นะครับ" " ไม่ใช่แบบนั้นสิครับ มันรบกวนเกินไปน่ะครับ" "ไม่หรอกครับ สำหรับคนที่มอบความอ่อนโยนให้กับซายุ ทำเพื่อซายุ จนถึงขนาดตามมาส่งถึงฮอกไกโดเนี่ย เรื่องแค่นี้ถือว่าปกติครับ" พูดพลางยิ้มที่มุมปากจนเห็นฟันขาวข้างใน ก่อนจะพูดว่า "ประธานบริษัทซะอย่าง" "นั่นน่ะกรุณาพอเถอะครับ!" "อุวะฮ่าฮ่าฮ่า" ขนาดซายุซึ่งตามมาด้านหลัง ยังถึงกับหัวเราะออกมากับท่าทางของพี่ชายและโยชิดะ ส่วนซายุเองก็ตื่นเต้นกับ Business Class ไม่แพ้กันเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเธอที่นั่งเครื่องบิน

.

2 ชม.ผ่านไปเครื่องบินก็ร่อนลงที่สนามบินซัปโปโระ เมื่อรับของทุกอย่างเสร็จแล้วพี่ชายซายุก็ขอให้โยชิดะอยู่กับซายุไปกันสองคนก่อน ส่วนตัวเขาจะขอตัวไปทำธุระสัก 2- 3 ชั่วโมง เพื่อไปเยี่ยมสาขาย่อยของบริษัทที่ตั้งอยู่ในซัปโปโระสักหน่อย ระหว่างรอฆ่าเวลา ทั้งคู่จึงช่วยกันคิดหาสิ่งที่จะทำเพื่อรอพี่ชายซายุ สุดท้ายตกลงกันได้ว่า จะไปหาคาเฟ่สักที่นั่งรอเวลากัน เนื่องจากซายุเอง ไม่ค่อยได้เข้าคาเฟ่บ่อยมากนัก เมื่อได้เป้าหมายแล้ว ทั้งคู่จึงช่วยกันหาข้อมูลและเลือกคาเฟ่หรูและขึ้นชื่อขึ้นมาที่หนึ่ง ซึ่งใช้เวลาเดินจากสนามบินไปประมาณ 15 นาที

.

เมื่อไปถึงโยชิดะสั่งกาแฟร้อน ส่วนซายุสั่งชาเขียวนมสดร้อน ระหว่างจิบชาและกาแฟ เคล้าบรรยากาศดนตรีประกอบเบา ๆ เมื่อปล่อยอารมณ์ได้สักพักแล้ว ซายุก็เริ่มเล่าถึงว่า ตัวเธอนั้นไม่ค่อยได้มีโอกาสมาคาเฟ่สักเท่าไร ด้วยความที่แม่เธอค่อนข้างเจ้าระเบียบ กลับบ้านผิดเวลาก็โดนแล้ว ตอนที่เธอหนีออกจากบ้านมาถึงโตเกียว พอเห็นเด็กสาวม.ปลายคนอื่น เข้าคาเฟ่กับเพื่อน ๆ ด้วยความสนุกสนาน เธอก็เลยคิดขึ้นมาว่า อา...เด็กสาวม.ปลายปกติเขาเข้าคาเฟ่กันสินะ คำพูดของเธอ ทำให้โยชิดะนึกย้อนถึงช่วงที่เจอซายุแรก ๆ เพราะเธอนั้นเอาแต่เกรงใจไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งก็น่าจะเป็นผลมาจากการเลี้ยงลูกให้อยู่ในกรอบของคุณแม่เธอ "ดังนั้นหนูดีใจมากเลยค่ะ ที่ทั้งที่ไม่มีเหตุจำเป็นอะไร คุณโยชิดะก็ยังอุตสาห์พาหนูมาคาเฟ่" "งั้นเหรอ ดีใจก็ดีแล้วล่ะ"

.

โกนหนวดไป ทํา งาน แล้วกลับมาพบเธอ pdf ฟรี

.

ก่อนที่โยชิดะจะถามซายุว่า ไม่กลัวการที่ต้องการกลับบ้านแล้วใช่ไหม ซึ่งซายุก็บอกว่า เธอยังกลัวอยู่ และเพราะเหตุนี้ โยชิดะก็เลยมากับเธอด้วยไม่ใช่หรือไง ซึ่งโยชิดะก็บอกว่า เห็นซายุดูสงบจิตสงบใจได้เกินคาดก็เลยคิดแบบนั้น ซายุก็ตอบว่า เธอเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่สามารถรู้สึกสงบจิตสงบใจได้ขนาดนี้ คงเพราะเธอเองก็คิดอยู่เสมอว่าสักวันต้องกลับมา แต่ไม่คิดว่า สักวันน้้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะดื่มด่ำกับบรรยากาศของคาเฟ่

.

กระทั่งซายุรำพึงขึ้นมาเบาว่า ๆ "จะมีสักวันไหมนะ ที่หนูจะมาคาเฟ่แบบนี้ได้เหมือนเป็นเรื่องปกติ" ถ้อยคำที่เอ่ยออกมานั้นทำให้โยชิดะรู้สึกได้ถึง ความอบอุ่น และ หงอยเหงาในคำพูดนั้นจนต้องจิบกาแฟ เพื่อถ่วงเวลาในการคิดหาคำพูดเพื่อตอบกลับซายุ "ก็ถ้าปรับตัวเข้าชีวิตที่นี่ได้แล้ว มีเพื่อนใหม่แล้วก็มากับเพื่อน ๆ ก็ได้นี่" "อืม จริงด้วยสินะคะ อยากให้เป็นแบบนั้นจังค่ะ" "ฉันเองก็.....นึกภาพตัวเองเป็นคุณลุงเข้าคาเฟ่หรูคนเดียวแบบนี้ไม่ออกเหมือนกันแฮะ" "ฮะฮะฮะ นึกภาพไม่ออกจริง ๆ ด้วยนะคะ" ก่อนที่ทั้งสองคนจะจิบเครื่องดื่ม พูดคุยเรื่องเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสงบ จนกระทั่งใกล้เวลานัดหมาย

.

กว่าพี่ชายซายุจะกลับมารับก็เลยเวลา 4 โมงเย็นไปแล้ว เมื่อมาถึงพี่ชายซายุก็บอกกับโยชิดะ และซายุว่า จะขับตรงไปที่อาซาฮิคาวะเลย กว่าจะไปถึงก็คงดึก ซึ่งโยชิดะก็ถามว่าไปถึงดึกขนาดนั้นจะเป็นการรบกวนคนที่บ้านไหม ซึ่งพี่ชายซายุบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะแม่ซายุเป็นคนนอนดึก ปัญหาอยู่ที่ข้าวเย็น ซายุจึงเสนอให้ซื้ออะไรแบบง่าย ๆ กินที่ร้านสะดวกซื้อจะได้ไม่เสียเวลา เมื่อตกลงกันได้จึงออกเดินทาง

.

ระหว่างทางพี่ชายได้ถามซายุว่าจะให้ตรงกลับบ้านเลยไหม ซึ่งซายุก็นิ่งไปอึดใจหนึ่งก่อนจะตอบพี่ของเธอว่า "มีที่หนึ่งที่อยากให้ช่วยแวะหน่อยน่ะ" "ที่ไหนน่ะ?" "โรงเรียน.." เมื่อเป็นความประสงค์ของน้องสาว พี่ชายจึงไม่ขัด ซึ่งในรถนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าซายุกำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่โยชิดะเองก็ตาม จากสิ่งที่โยชิดะได้รับรู้จากซายุทั้งหมด โรงเรียนไม่ใช่ที่น่าอภิรมย์สำหรับซายุเท่าไรนัก แต่ทำไมซายุถึงอยากไปที่โรงเรียน

.

สำหรับตัวซายุแล้ว เธอยอมรับในสิ่งที่โยชิดะบอกกับเธอที่คาเฟ่นั้นว่าตัวเธอนั้นสงบจิตสงบใจได้เกินกว่าที่คิด แม้ว่าความรู้สึกกลัวการกลับบ้านในใจเธอจะยังไม่จางหาย แต่มันเป็นเรื่องที่เธอต้องยอมรับว่ายังไงเธอก็ต้องกลับ ที่ผ่านมาสิ่งที่เธอไม่มีคือความกล้า "ความกล้าในการที่จะเริ่มก้าวแรก" ไม่ว่าจะทำอะไรสิ่งที่ยากที่สุด คือ ก้าวแรก เมื่อผ่านก้าวแรกไปได้แล้ว ที่เหลือก็แค่เดินต่อไป ซึ่งตัวเธอที่เอาแต่หันหลังให้และหนีมาตลอด กว่าจะเริ่มก้าวแรกจริง ๆ ได้ก็กินเวลาไปพอดู ซึ่งคนที่ทำให้คนขี้ขลาดอย่างเธอเริ่มก้าวแรกได้นี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณโยชิดะนั่นเอง

.

เพราะมีคุณโยชิดะคอยให้กำลังใจเธอจึงสามารถเริ่มก้าวแรกได้ และไม่ใช่แค่การกลับไปเผชิญหน้ากับคุณแม่ของเธอ มันยังหมายถึง "เธอคนนั้น" ที่ซายุไม่อยากแม้จะนึกถึง แต่คราวนี้เธอจะยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แม้สถานที่นั้นจะเป็นสถานที่เธอไม่อยากย่างกรายไปอีก ไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถแม้แต่กระทั่งจะลุกขึ้นยืนบนสถานที่นั้นได้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นเธอในตอนนี้ "เธอที่มีโยชิดะอยู่เคียงข้าง"

.

แม้การที่ต้องพึ่งพาคุณโยชิดะมันจะเป็นการดูน่าสมเพชสำหรับเธอ แต่ต่อให้มันดูน่าสมเพชเวทนาแค่ไหนก็ช่าง ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องไปที่นั่น ไปเพื่อพิสูจน์ว่า "การที่เธอได้พบกับคุณโยชิดะนั้นไม่ใช่เรื่องสูญเปล่า"

.

4 ชั่วโมงผ่านไป รถหรูคันงามก็มาจอดสงบนิ่งที่หน้าโรงเรียนของซายุ พี่ชายจึงปลุกซายุซึ่งผลอยหลับไปจากความเหนื่อยล้าในการเดินทาง เมื่อได้สติคืนมาจากภวังค์ ซายุก็ขอให้โยชิดะเข้าไปในโรงเรียนเป็นเพื่อนเธอ ไม่ต้องห่วงว่าจะเข้าทางไหน เพราะเธอรู้ทางที่พอจะสามารถใช้เข้าออกได้เป็นอย่างดี โยชิดะซึ่งยอมรับในเหตุผลที่ซายุให้กับเขาว่าเธอกลัวที่จะไปคนเดียว จึงเข้าไปเป็นเพื่อนซายุ ทิ้งให้พี่ชายซายุรออยู่ที่รถ

.

การลักลอบเข้าไปในโรงเรียนยามค่ำคืนประสบความสำเร็จด้วยดี ทั้งสองคนมุ่งหน้าขึ้นไปยังดาดฟ้าของอาคารเรียน แม้ตัวเขาจะยังสับสนอยู่ในใจว่ามันเป็นที่ ๆ เขาควรจะขึ้นไปด้วยกันกับซายุจริงหรือเปล่า แต่จากท่าทางของซายุ ที่อยากให้เขาอยู่ด้วยกันทุกย่างก้าว ทำให้โยชิดะพอจะเดาจุดประสงค์ของซายุได้ และรู้ว่า ณ ที่ตรงนี้คนที่มีความรู้สึกกลัวในจิตใจที่สุด ไม่ใช่เขา แต่เป็นซายุ

.

และเมื่อมาถึงเบื้องหน้าหน้าต่างที่พอจะใช้เป็นทางขึ้นสู่ดาดฟ้าได้เนื่องจากประตูถูกล๊อกไว้หลังเหตุการณ์นั้น ซายุซึ่งข้ามช่องหน้าต่างออกไปก่อน แต่เธอกลับไม่กล้าที่แม้จะหันสายตาไปดูดาดฟ้า สายตาของเธอส่งกลับมาหาโยชิดะ ที่กำลังลังเลว่าเขาควรจะเข้าไปดีไหม "ขอร้องเถอะค่ะ คุณโยชิดะ" เรือนร่างน้อย ๆ ของเธอสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เธอได้แสดงความกล้าหาญสำหรับก้าวแรกของเธอออกมาแล้ว แต่มันยังไม่พอ ภาพที่เห็นทำให้โยชิดะตัดสินใจได้ทันที นี่เขากำลังรีรออะไรอยู่ ใช่นี่คือ ที่ที่เขาควรเข้าไป เพราะเป็นสิ่งที่ซายุปรารถนาไงล่ะ

.

"ซายุ ยังไหวไหม"

.

"อือ"

.

นี่คือ คำพูดแรกที่โยชิดะถามขึ้น ก่อนจะยืนเคียงข้างซายุอย่างเงียบ ๆ ณ ตอนนี้ ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าดาดฟ้า ดาดฟ้ารูปสี่เหลี่ยมธรรมดา ที่ล้อบรอบด้วยรั้วตาข่ายเหล็ก ที่คงยังไม่มีเมื่อครั้งซายุยังมาโรงเรียน ทันใดนั้นซายุที่ยืนอยู่ข้าง โยชิดะ ก็สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าออกไป ทีล่ะก้าว ๆ อย่างยากลำบาก "ไหวไหม ซายุ ไม่ไหวอย่าฝืนนะ" "ยังไหวค่ะ" ซายุพูดพลางค่อย ๆ เดินหน้าก้าวทีล่ะก้าว ลมหายใจของเธอ หายใจออกมาอย่างยากลำบากขึ้นทุกที โยชิดะ ได้แต่คอยเดินเคียงข้างไปด้วยกันอย่างช้า ๆ

.

กระทั่งถึงตรงกลางดาดฟ้า กำลังที่เธอมีหมดลง เธอลงไปนั่งจุ้มปุ๊กที่กลางดาดฟ้าตรงนั้นเอง "ซายุ!!" โยชิดะซึ่งตกใจที่เห็นอาการซายุ พลางจะเข้าไปประคองซายุ ก่อนที่ซายุจะร้องห้าม "ไม่เป็นไรค่ะ คุณโยชิดะ" ทำให้โยชิดะถึงกับต้องหยุดขาโดยทันที ด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ ที่ซายุส่งมาให้เขา.... ใช่

นี่คือ "พิธีกรรม" ที่ซายุจะต้องก้าวผ่านให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเข้าไปยุ่งได้

.

"ที่ตรงนี้เป็นที่ซึ่งทุกอย่างจบลง .....เป็นที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งสินะคะ" ซายุพูดพลางค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง "เอาล่ะ......." ซายุพึมพำออกมาเบา ๆ พลางสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด แล้วพุ่งทะยาน ออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วว "หะ ...เฮ้ย!!!"โยชิดะถึงกับร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่ซายุจะไปหยุดที่รั้วสุดขอบดาดฟ้า พร้อมกับเอามือทั้งสองข้างเกาะรั้วไว้เสียงดัง แคร้ง ทำเอาโยชิดะต้องรีบวิ่งตามไปในทันที

.

โกนหนวดไป ทํา งาน แล้วกลับมาพบเธอ pdf ฟรี

.

"ถ้าเจ้ารั้วนี่ มันสร้างเร็วกว่านี้ก็ดีสิ" ซายุพูดด้วยน้ำเสียงที่หายใจไม่ทันพร้อมกับซบหน้าลงกับรั้ว.....ใช่ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ผู้ใหญ่" มักจะ "วัวหายแล้วค่อยล้อมคอก" เสมอ โยชิดะซึ่งตามซายุมาจนทัน ได้แต่เฝ้ามองดูซายุอย่างเงียบ ๆ "ที่ยูโกะต้องตายน่ะ มันเป็นเพราะหนูเอง" "หนูเองที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ หนูเองที่คิดผิดว่าการร่วมต่อสู้ด้วยกัน คือ สิ่งที่ถูก" "คนที่ทำให้เธอจนมุมจนต้องฆ่าตัวตายน่ะ คือ หนูเอง"

.

เสียงสะอื้นรำพันของซายุที่พลั่งพลูออกมา ทุกคำพูดทำให้โยชิดะซึ่งมายืนอยู่ข้าง ๆ ซายุรู้สึกแปลก ๆ ในใจ เหมือนอะไรบางอย่างที่ซายุคิดอยู่มันไม่ใช่ กระทั่งซายุบอกออกมาว่า คนที่เธอทำให้ยูโกะจนมุมจนต้องตายคือ ซายุ จึงทำให้เขาเข้าใจว่า ความรู้สึกแปลก ๆ ที่ว่านั้นคืออะไร ก็คำพูดสุดท้ายของยูโกะ คือ อยากให้ซายุ "มีรอยยิ้ม" ไม่ใช่หรือไง

.

"ถ้าหนู... "

.

"ซายุ"

.

"ถ้าหนูน่ะ ใส่ใจยูโกะมากกว่านี้"

.

"ซายุ!!"

.

โยชิดะพูดพลางดึงมือซายุมากุมไว้ สายตาสัมผัสเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาใส ๆ ของซายุ "มันไม่ใช่ความผิดของเธอนะ" "ไม่มีทางหรอก" ซายุุพูดพลางส่ายศีรษะปฎิเสธ "ถ้าหนูไม่ไปทึกทักเอาเองว่ายูโกะคิดอะไรอยู่ สุดท้ายแล้วหนูน่ะไม่ได้ใส่ใจอะไรเธอเลย" "แต่ถ้าไม่มีการกลั่นแกล้ง ซายุก็ได้ใช้ชีวิตกับเธอคนนั้นอย่างปกตินะ"

.

"แต่ต้นเหตุของการกลั่นแกล้ง คือ หนูนะคะ!!"

.

ด้วยเสียงอันดังและอารมณ์ของซายุที่ระเบิดออกมาราวกับภูเขาไฟทำให้โยชิดะถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะตั้งสติได้

.

"ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ มันเป็นความประสงค์ของเจ้าตัวเอง เพราะอยากใกล้ชิดกับซายุ อยากเป็นเพื่อนกับซายุ ก็เลยทำแบบนั้นไง!"

.

"ก็เพราะ..แบบนั้นไง..ถึงได้..."

.

"ซายุ......!!"

.

โยชิดะ ขัดขึ้นพร้อมเอามือไปกุมไหล่ทั้งสองของซายุไว้

"พวกเธอทั้งคู่น่ะ!!!...เป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของกันและกันไม่ใช่หรือไง!!.....พวกเธอทั้งคู่น่ะต่างก็ห่วงกันและกัน......ห่วงกันและกันมากจนเกินไปยังไงล่ะ"

"ถ้าเป็นห่วงหนูจริง ๆ ล่ะก็...." ซายุขึ้นเสียงออกมา ก่อนจะหยุดเว้นวรรคครู่หนึ่ง "ก็อยากให้มีชีวิตอยู่ด้วยกัน...."

.

โยชิดะเองข้างในอกตอนนี้ก็รู้สึกแน่นจนแทบจะระเบิดออกมา แต่จะให้มาน้ำตาแตกตรงนี้ก็คงไม่ได้

.

"แต่ถ้าหนูพูดออกมาแบบนี้ ที่ยูโกะตายทุกอย่างเป็นเพราะตัวยูโกะเอง"

.

"แบบนั้นแหละดีแล้ว"

.

"ดีที่ไหนกันคะ!!"

.

"ดีแล้วล่ะ!!!"

.

โยชิดะซึ่งขึ้นเสียงออกมาทำให้ซายุถึงกับตกใจจนตัวสั่น คำพูดหนึ่งที่อยู่ในใจของโยชิดะตั้งแต่ต้น แต่เขาไม่มั่นใจว่าเขามีสิทธิ์ที่จะพูดคำนี้ไหม แต่มาถึงตอนนี้ เพื่อที่จะถอนคำสาปที่ติดตัวซายุ สิทธิ์เสิธอะไรนั่นไม่ต้องสนมันแล้ว

.

"ต่อให้มันมีอะไรที่มันผิด มันมีอะไรที่มันไม่ใช่ ต่อให้ผลของมันจะทำให้สูญเสียในสิ่งที่เอาคืนไม่ได้...."

.

โยชิดะพูดพลางจับไหล่ของซายุไว้แน่น จนซายุครางออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนจะพูดช้า ๆ

"แต่..มัน..จบ..ไป..แล้ว"

.

เป็นคำพูดที่ปากดี จนแม้กระทั่งโยชิดะยังกระดากที่จะพูด แต่ในเวลาเดียวกัน เพราะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าตัวถึงมีสิทธิ์พูดคำนี้ได้

.

"ถ้าตัวซายุเองไม่ให้อภัยตัวเอง....เธอจะก้าวออกจากตรงนี้ไม่ได้ทั้งชีวิตเลยนะ"

"แต่ว่า..." ซายุซึ่งเอาแต่ส่ายศีรษะปฏิเสธคำพูดของโยชิดะมาตั้งแต่เมื่อกี้ ฉับพลันก็เปลี่ยนเป็นกอดโยชิดะด้วยกำลังทั้งหมดที่เธอมี แล้วก็เหมือนอ่อนแรงลง ไปซบหน้าร้องไห้โฮกับอกของโยชิดะ

.

"พอแค่นี้เถอะนะ...ซายุ"

.

"ฮึก...ฮือ..."

.

"ก็เธอเป็นคนบอกให้ซายุ "ยิ้ม" ไม่ใช่เหรอ"

.

หลังจากนั้นซายุก็ร้องไห้น้ำตาเป็นเขื่อนแตก ภายใต้อ้อมอกของโยชิดะ

.

หลายสิบนาทีผ่านไปกว่าเสียงร้องไห้ของซายุจะสงบลง ท่ามกลางท้องฟ้าที่สวยงาม ดวงจันทร์ที่สาดส่องแสงลงมาในช่องระหว่างเมฆลงมายังทั้งสองคน บรรยากาศยามค่ำคืนที่เงียบสนิทที่มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของซายุเท่านั้น

.

"คุณโยชิดะคะ" เป็นคำพูดแรกที่เอื้อนเอ่ยออกจากปากซายุ หลังจากที่โลกทั้งใบมีแต่เสียงร้องไห้ของเธอ โยชิดะค่อย ๆ เลื่อนตัวเธอ ออกจากอกของเขาพลางมองหน้าเธอ "ไม่เอา อย่ามองหน้าสิคะ" "เอ๋?" "สภาพตอนนี้คงน่าดูชมเลยล่ะค่ะ..." "อ๊ะ..โทษทีนะ" "ดีจริง ๆ ที่คุณโยชิดะมาด้วยกัน ถ้าหนูมาคนเดียวคงแย่แน่ ๆ " "งั้นก็ดีแล้วล่ะนะที่มาด้วยกัน" ก่อนที่ซายุจะหันไปมองรั้วที่ยูโกะกระโดดลงไป แล้วพูดว่า "แล้วเจอกันใหม่นะ ยูโกะ" ก่อนที่เธอจะชวนโยชิดะกลับ

.

"รู้สึกดีขึ้นหรือยังน่ะ" "ยังหรอกค่ะ" "ก็นะ" "แต่ก็ทำใจได้ขึ้นเยอะแล้วค่ะ" "หนูจะคิดถึงเรื่องของยูโกะต่อไป จนกว่าจะถึงวันที่หนูคิดถึงเรื่องของเธอแล้วยิ้มออกมาได้ค่ะ" ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินลัดเลาะกลับไปยังรถของพี่ชายซายุ

.

-To be continue - つづく