ตั้ง ค่า iphone ประหยัด แบ ต

ตั้ง ค่า iphone ประหยัด แบ ต

     ประเด็นเรื่องแบตเตอรีของ iPhone มีให้พูดถึงกันอยู่ตลอด อย่าง iPhone 12 ที่เพิ่งถึงมือของคนที่สั่งจองทางออนไลน์ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยความจุของแบตฯ ในรุ่นนี้มีขนาดต่ำกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย แต่ด้วยนวัตกรรมชิปเซ็ตรุ่นใหม่จากทาง Apple จึงช่วยให้ประหยัดพลังงาน ซึ่งผลลัพธ์อาจไม่ต่างจาก iPhone 11 เท่าไร

     แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับบางคนแล้ว ไม่ว่าความจุของแบตเตอรีจะขนาดเท่าไร ก็ดูเหมือนว่าไม่พอใช้สำหรับทั้งวัน สัปดาห์นี้จึงขอนำเทคนิคการตั้งค่าต่างๆ ของ iPhone เพื่อให้แบตเตอรีอึดมากขึ้นกว่าเดิม

ตั้ง ค่า iphone ประหยัด แบ ต

1. iPhone Analytics

     การปิดในฟีเจอร์นี้ สามารถช่วยประหยัดแบตเตอรี และเพิ่มความเป็นส่วนตัวของเรามากขึ้นด้วย เพราะ iPhone Analytics จะส่งข้อมูลการใช้งานของ iPhone ไปที่ Apple สำหรับพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขั้นตอนการปิดฟีเจอร์นี้ ให้เข้าไปที่



  • Settings
  • Privacy
  • Analytics & Improvements
  • ปิด Share iPhone Analytics & Watch Analytics

     สำหรับคนที่ใส่ Apple Watch ก็จะปิดฟีเจอร์นี้เช่นเดียวกัน

2. iCloud Analytics

     ฟีเจอร์นี้เหมือนกับด้านบนครับ ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรีได้เช่นกัน โดยวิธีปิด ให้ทำตามขึ้นตอนในข้อแรกได้เลย โดนเลื่อนจอลงมาด้านล่าง จะเจอคำว่า Share iCloud Analytics

3. Significant Locations

     เป็นฟีเจอร์ที่คอยติดตามโลเคชั่นสถานที่ที่เราไปบ่อยๆ ซึ่งทำให้ iPhone ต้องใช้ GPS ตลอดเวลา เพื่อส่งโษณาหรือข้อเสนอต่างๆ มาให้แบบเรียลไทม์ แม้จะฟังดูน่าสนใจดี แต่โดยส่วนตัว ผมกลับรู้สึกไม่สบายใจเท่าไร เพราะเหมือนมีคนสะกดรอยอยู่ตลอดเวลา ถ้าอยากปิดฟีเจอร์นี้ ให้ไปที่

  • Settings
  • Privacy
  • Location Services
  • System Services
  • Significant Locations (สามารถล้างข้อมูลเก่าๆ ด้วยการ Clear History ได้ครับ)

4. System Services

     ใน System Services เราสามารถเลือกได้ว่าจะปิดทั้งหมด หรือเลือกเปิดเฉพาะโหมดที่จำเป็นเท่านั้น 



  • Settings
  • Privacy
  • Location Services
  • System Services

     โหมดที่จำเป็นอย่าง Emergency Calls & SOS, Find my iPhone และ Share My Location สามารถเปิดไว้ได้ครับ ส่วนโหมดอื่นๆ เช่น Compass Calibration, Location-Based Alerts, Homekit, Location-Based Suggestions หรือ Setting Time Zone (ถ้าใครต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เปิดไว้ตลอดได้ครับ) อาจจะต้องลองดูด้วยตัวเองว่าโหมดไหนที่จำเป็น หากมีลูกศรสีม่วงๆ อยู่ข้างๆ แสดงว่าฟีเจอร์นี้ติดตามโลเคชั่นของเราเมื่อไม่นานมานี้ สีม่วงจางๆ แสดงว่าฟีเจอร์นี้เรียกใช้โลเคชั่นในบางกรณี และสีเทา หมายถึง ฟีเจอร์เรียกใช้โลเคชั่นภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

5. Personalized Ads

     Apple อ้างว่า การเปิดฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้ใช้งานได้รับโฆษณาที่เหมาะสม ตรงกัับความชื่นชอบของเรามากยิ่งขึ้น ถึงแม้การปิดฟีเจอร์ในส่วนนี้ จะไม่ได้ทำให้จำนวนโฆษณาน้อยลง แต่ก็ถือเป็นการป้องกันไม่ให้เราแชร์ข้อมูลส่วนตัวออกไป

  • Settings
  • Privacy
  • Apple Advertising
  • ปิด Personalized Ads

6. Fetch New Data

     เปลี่ยนการเรียกข้อมูลแบบ Push เป็น Fetch จะทำให้แบตเตอรีของเราอึดมากยิ่งขึ้น

  • Settings
  • Mail
  • Accounts
  • Fetch New Data
  • ปิดโหมด Push แล้วเปลี่ยนการเรียกข้อมูลเป็น Fetch ทุกๆ 15 นาที

     การตั้งค่าแบบนี้ ทำให้ iPhone ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอีเมลตลอดเวลา และไม่ต้องคอยเช็กอีเมลบ่อยๆ เพราะเมื่อปรับเป็น Fetch ระบบจะทำการเรียกทุกๆ 15 นาที (แล้วแต่เราตั้งค่า)​



7. Background App Refresh

     เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ ที่ผมมองว่าควรเข้าไปตั้งค่าสักหน่อย เพราะไม่ใช่ทุกแอปพลิเคชั่นที่จำเป็นต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา เช่น Agoda, Airbnb หรือแม้แต่ Burger King (ถ้าใครดาวน์โหลดมา) แอปฯ เหล่านี้ไม่จำเป็นเลย สามารถปิดทิ้งเพื่อประหยัดแบตเตอรี

  • Settings
  • General
  • Background App Refresh
  • จากนั้นเลือกปิดแอปพลิเคชั่นตามความเหมาะสม

     การเปิดโหมด Background App Refresh จะทำให้แอปพลิเคชั่นดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ มาไว้ในเครื่อง iPhone ตลอดเวลา แม้เราจะไม่ได้เปิดแอปฯ ก็ตาม แต่สำหรับแอปฯ ข่าว หรือรายงานสภาพอากาศ จะเปิดทิ้งไว้ก็ได้ครับ

     ใครที่กำลังประสบปัญหา "ทำไมแบตเตอรีหมดเร็ว?" ทั้งๆ ที่ใช้งานแป๊บเดียว (ไม่ใช่เพราะแบตฯ เสื่อมนะ) ก็ลองเข้าตั้งค่าตามคำแนะนำข้างต้นได้ครับ ซึ่งไม่ได้ทำให้ iPhone ทำงานแย่ลงแต่อย่างใด แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรีให้ทำงานได้ยาวนานขึ้น ไม่ว่าจะ iPhone รุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ล่าสุด ก็ทำได้ครับ



ตั้ง ค่า iphone ประหยัด แบ ต

แม้ว่าในปัจจุบัน Apple จะสามารถผลิต iPhone 13 และ 13 Pro ให้มีความอึดสามารถใช้งานติดต่อกันได้นานจนน่าประทับใจ แม้ว่ารุ่น Pro จะมีหน้าจอ 120Hz และทุกรุ่นรองรับเครือข่าย 5G ก็ตาม

ถึงกระนั้นได้มีผู้ใช้งาน TikTok ชื่อว่า “kadama” ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1.9 ล้านคน ได้เผยแพร่วิธีการประหยัดแบตเตอรี่บน iPhone ทุกรุ่น ซึ่งวิธีการดังกล่าวก็ถูกให้ความสนใจโดยจุลสาร New York Post ด้วย พร้อมอธิบายเสริมว่าบางแอพพลิเคชั่นใช้พลังงานของตัวเครื่องอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าตัวแอพจะไม่ถูกเปิดใช้งานเป็นเวลาหลายวันเลยก็ตาม

โดยวิธีแรกในการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ของ iPhone สามารถทำได้โดยการเข้าไปที่ Settings > General > Background App Refresh และปิดฟีเจอร์นี้

วิธีที่สองเพื่อให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่าเดิมสามารถทำได้โดยเข้าไปได้ที่ Settings > Battery > Battery Health > เปิดการใช้งาน Optimized Battery Charging

อย่างไรก็ตามแม้การปิดฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่ก็ทำให้ประสบการณ์ในการใช้ iPhone โดยรวมลดลง เพราะ แอพต่าง ๆ จะไม่รันอยู่ในเบื้องหลังแล้ว ทำให้การอัพเดทแอพต่าง ๆ รวมทั้งการอัพเดทข้อมูลให้อัตโนมัติที่ปกติไม่จำเป็นต้องเปิดแอพอย่างเช่น ผลการแข่งขันกีฬา สภาพอากาศ ราคาหุ้น ฯลฯ ก็จะไม่ทำงานจนกว่าเราจะเปิดใช้งานแอพเหล่านั้นนั่นเอง รวมทั้งเมื่อเข้าใช้งานแอพก็อาจต้องใช้เวลาประมวลผลซักหน่อยเพื่อแสดงผลข้อมูลที่มีการอัพเดทล่าสุด

ตั้ง ค่า iphone ประหยัด แบ ต

วิธีที่สามที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iPhone ได้คือการเข้าไปที่การตั้งค่า Settings > Accessibility > Motion > ปิดการตั้งค่า Auto-Play Message Effects และ Auto-Play Video Previews เมื่อปิดการตั้งค่าเหล่านี้การแสดงผลข้อความจะไม่เป็นไปอย่างอัตโนมัติในโหมด full-screen รวมทั้งจะไม่สามารถพรีวิววิดิโอ (ที่ปกติวิดิโอจะเล่นอัตโนมัติก่อนกดเข้าไปดู) ในแอพต่าง ๆ ได้เช่นกัน

SOURCE

Comments กันได้เลย !

Comments