ระเบียบการ สั่งให้ไปช่วยราชการ

ขอนำเรียนอธิบาย การขอเบิกค่าใช้จ่าย กรณีสํารองเงินส่วนตัวออกไปก่อนค่...อยกลับมาดบิกคืนในภายหลังนั้น #ตาม รบ.การเงินอปท.2547แก้ไขถึง2561 ข้อ 52 กำหนดว่า การเบิกเงินในหมวดค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ ให้ทำการเบิกจ่ายได้ตามงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ และให้มีหลักฐานแสดงว่าเงินจำนวนที่ขอเบิกนี้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์และเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือหนังสือสั่งการกระทรวงมหาดไทย ประกอบกับค่าอาหารค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มซึ่งเป็นรายจ่ายไม่เข้าลักษณะการจัดซื้อจัดจ้างจัดตามหนังสือกรมบัญชีกลาง 1. กค (กวจ) 0405.2/ว 395 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2560 และ 2. กค(กวจ) 0405.2/ว 119 ลงวันที่7 มีนาคม 2561 3. หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0808.2/ ว 0766 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ข้อ 2.2กำหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่นอนุมัติให้เบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าวตามที่จ่ายจริง 💥 ดังนั้น #เมื่อคำว่าจ่ายจริง ก็หมายความว่า #ต้องมีการจ่ายเงินไปแล้วก็ได้ หากหน่วยงานผู้จัดประชุม/จัดอบรม ยืมเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ทันหรือไม่ยืมก็สามารถใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่ายและนำหลักฐานการจ่ายนั้นมาเบิกได้ 🔴 สรุป 🔴 1. ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมราชการตาม มท. ว 0766 สำรองได้ 2. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ค่าอาหารได้รับการยกเว้นตาม ว119 ตาราง2 สำรองจ่ายได้ ไม่ต้องดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ✅ยืมเงิน หรือ ✅สำรองจ่ายก่อนค่อยกลับมาเบิกเงินโดยนำใบแจ้งหนี้/ใบเสร็จรับเงิน เป็นหลักฐาน 🔴#เอกสารปนะกอบการดำเนินการเบิกหลังจากจบกิจกรรม 1. บันทึกขอเบิกเงิน 2. บันทึกขออนุมัติที่ผู้มีอํานาจอนุมัติได้ให้ความเห็นชอบแล้วเช่นโครงการหรือบันทึกขอจัดประชุมและขอเบิกค่าอาหารว่างเครื่องดื่มนั้น 3. ใบเสร็จรับเงิน/ใบกํากับภาษี/บิลเงินสด หากแสดงรายละเอียดไม่ครบถ้วนให้แนบใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน (แบบ บก.111) 4. กรณีไมสามารถเรียกใบเสร็จรับเงิน/ใบกํากับภาษี/บิลเงินสด แม้อย่างใดอย่างหนึ่งได้ให้จัดทําใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน(แบบ บก.111) และใบสําคัญรับเงินเป็นหลักฐานการจ่าย 5. กรณีจัดประชุมคณะกรรมการดูตัวแทนก็ใช้แค่หนังสือเชิญประชุมหากเป็นโครงการจัดงานก็ภาพถ่ายอาหารเครื่องดื่มและภาพกิจกรรม 🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿 รองเอ ศุภดามาศ จันทาธอน 14/4/66 🌿🌿🌿🔴🌿🔴🌿🌿🌿 ดูเพิ่มเติม

 

               สำหรับเรื่องการย้ายหมุนเวียนและจัดสรรแพทย์ 3 สายงาน (แพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร) ในกรณีนี้ เห็นว่า ปลัดกระทรวงได้แจ้งเวียนส่วนราชการโดยระบุหลักเกณฑ์ในการพิจารณาไว้อย่างชัดเจน ทั้งหลักเกณฑ์การย้ายข้าราชการของสำนักงานปลัดกระทรวง หลักเกณฑ์ในการพิจารณาสำหรับส่วนราชการที่รับย้าย และหลักเกณฑ์สำหรับแพทย์ที่ย้ายเข้าโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป อันถือเป็นหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของทางราชการเป็นสำคัญ การที่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ตามระบบบริการสุขภาพ (



MGR Online - ผบ.ตร.ออกคำสั่งยกเลิกให้ตำรวจที่ไปช่วยราชการ ขีดเส้นกลับคืนต้นสังกัด ภายใน 7 วัน

วันนี้ (2 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีบันทึกข้อความ ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการภายใน ตร. และช่วยราชการนอกสังกัด ตร. จตช. และรอง ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.ในสังกัดสง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผอ.หรือ หน.ศูนย์ปฏิบัติการ หรือที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น

ใจความว่า ด้วย ก.ตร. ได้มีมติให้ ตร. ดำเนินการปรับปรุงระเบียบ ตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และโดยที่ขณะนี้เป็นการเริ่มต้นของปีงบประมาณใหม่ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานต่างๆ จำนวนมาก ควรที่จะให้ผู้บังคับบัญชาได้มีโอกาสทบทวนสถานภาพกำลังพลของหน่วยว่ามีจำนวนเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารงานกำลังพลในภาพรวมของ ตร. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นแบบแผนเดียวกัน จึงให้ยกเลิกระเบียบ ตร. ข้างต้น โดยวางระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายใน ตร. พ.ศ. 2563 และให้ดำเนินการ ดังนี้

1. ยกเลิกคำสั่งและการสั่งการ ตร.หน่วยงานระดับ บช. และ บก. ที่สั่งการให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายใน ตร. และการไปช่วยราชการนอกสังกัด ตร. การไปปฏิบัติราชการหรือการอนุมัติเดินทางไปปฏิบัติราชการยังศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ทุกกรณี เว้นแต่กรณีที่ได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจที่เป็นที่สงสัยว่าประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัย หรืออาญา หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิม อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ทั้งนี้ การช่วยราชการนอกสังกัด ตร. ให้ สกพ. มีหนังสือแจ้งให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่ขอตัวข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการส่งตัวข้าราชการตำรวจกลุ่มดังกล่าวกลับต้นสังกัด

2. ให้ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานระดับ บช. และ บก. แล้วแต่กรณีส่งตัวและติดตามข้าราชการตำรวจที่ถูกยกเลิกคำสั่งข้างต้นกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งเดิม ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้สั่งการนี้ หากข้าราชการตำรวจรายใดยังไม่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ให้รายงาน ตร. (ผ่าน สกพ.) ทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่สั่งการนี้ทาง

3. การสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายใน ตร. ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายใน ตร. พ.ศ. 2563 โดยเคร่งครัด สำหรับการสั่งให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนไปปฏิบัติราชการต่างๆ ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือ ตร. ที่ 0009.232/ ว 16 ลง 12 มิ.ย. 63 อีกส่วนหนึ่งด้วย

4. การสั่งการหรือมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจเป็นคณะทำงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ หรือที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่นไปปฏิบัติราชการ หรือเดินทางไปราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการให้ดำเนินการ ดังนี้

4.1 ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจประจำศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ของ ตร. ให้ ผอ./หน.ศูนย์ปฏิบัติการพิจารณารายชื่อข้าราชการตำรวจมาปฏิบัติราชการประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาในการขับเคลื่อนและผลักดันการปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการได้ไม่เกิน 20 ราย เสนอ ตร. (ผ่าน สกพ.) เพื่อพิจารณาสั่งการ

4.2 ข้าราชการตำรวจที่ได้รับมอบหมายภารกิจเป็นคราวๆ ให้ถือปฏิบัติดังนี้ 4.2.1 เมื่อมีภารกิจให้ผอ./หน.ศูนย์ปฏิบัติการ สามารถสั่งให้ข้าราชการตำรวจเดินทางไปราชการเพื่อปฏิบัติภารกิจ โดยจะต้องมีกรอบระยะเวลาการเดินทางไปราชการที่ชัดเจน และอนุมัติเดินทางไปราชการเป็นครั้งคราว รวมแล้วไม่เกิน 7 วันต่อเดือน แต่หากเป็นการสั่งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งในกลุ่มสายงานป้องกันปราบปราม (ยกเว้นสายงานสอบสวน) ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจงานป้องกันปราบปรามหรือสืบสวนของศูนย์ปฏิบัติการให้สั่งการได้รวมแล้วไม่เกิน 15 วันต่อเดือน ทั้งนี้ให้คำนึงถึงสิทธิประโยชน์ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งด้านต่างๆ และที่อันพึงมีพึงได้ของข้าราชการตำรวจที่จะได้รับตามตำแหน่งที่ครองอยู่ด้วย 4.4.2 ให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปราชการเพื่อปฏิบัติภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ เสนอขออนุมัติเดินทางไปราชการหรือรายงานคำสั่งอนุมัติเดินทางไปราชการต่อผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดแล้วแต่กรณี ก่อนเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่และภายหลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ หากข้าราชการตำรวจรายใดที่มิได้มีคำสั่งอนุมัติจาก ผอ./หน.ศูนย์ปฏิบัติการให้เดินทางไปราชการเพื่อปฏิบัติภารกิจ จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้นสังกัดโดยให้ผู้บังคับบัญชาตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 37 เรื่องมาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจกวดขัน ควบคุม กำกับ ดูแลการปฏิบัติราชการของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด

5. ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ที่มีความประสงค์ให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานผู้บังคับบัญชาให้เสนอรายชื่อมายัง ตร. (ผ่าน สกพ.) เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป 6. การสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายใน ตร. พ.ศ. 2563 ให้เสนอ ผบ.ตร. พิจารณาสั่งการก่อนทุกรายเว้นแต่กรณีเป็นการสั่งให้ข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี ไปปฏิบัติราชการต่างๆ เพื่อประโยชน์หรือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหน่วยงานที่ไปปฏิบัติราชการอนุมัติหลักการให้ ผบช. สามารถสั่งการ หรืออนุมัติภายในอำนาจได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายโดยไม่ต้องเสนอ ผบ.ตร. พิจารณาสั่งการ เพื่อทราบ และถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดและได้แนบสำเนาระเบียบ  ตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายใน ตร. พ.ศ. 2563 มาพร้อมนี้