การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ดำเนินการโดยศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม สังกัด กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2520 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2520 และตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522 เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการและดูแลด้านการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม โดยปฏิบัติงานให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2533 และตามกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว ในส่วนภูมิภาคได้แต่งตั้งให้มีคณะอนุกรรมการการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมประจำจังหวัดขึ้นทุกจังหวัดเพื่อทำหน้าที่ โดยมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเป็นสำนักงานเลขานุการ Show การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมเป็นการให้บริการด้านสวัสดิการเด็ก การดำเนินงานให้รับเด็กเป็นบุตร บุญธรรมจำเป็นต้องอาศัยหลักของกฎหมายควบคู่กับหลักการทางสังคมสงเคราะห์ ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2533 กฎกระทรวงฉบับที่ 9 (พ.ศ.2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร เป็นต้น การขอรับเด็ก (ผู้เยาว์) เป็นบุตรบุญธรรม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตามพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม คุณสมบัติตามกฎหมายของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
หลักเกณฑ์การขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม คุณสมบัติทางสังคมของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม เอกสารประกอบการพิจารณาของฝ่ายผู้ขอและคู่สมรส เอกสารประกอบการพิจารณาของบิดามารดาเด็ก
เอกสารประกอบการพิจารณาของเด็ก
เอกสารประกอบการพิจารณาของผู้รับรอง จำนวน 2 คน ผู้รับรองต้องรู้จักกับผู้ขอรับเด็ก เช่น บิดามารดา ญาติพี่น้อง เพื่อน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หัวหน้าหน่วยงาน 1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ คนละ 1 ฉบับ หมายเหตุ กรณีชาวต่างชาติขอรับบุตรติดภรรยาหรือหลานของภรรยาเป็นบุตรบุญธรรม เอกสารที่ต้องเตรียม (พร้อมทั้งเตรียมเอกสารฉบับจริงเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่) ผู้ขอรับเด็กและคู่สมรส บิดามารดาเด็กหรือผู้ปกครอง เด็กที่จะเป็นบุตรบุญธรรม ที่มา : สหทัยมูลนิธิ.2554. เอกสารการขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม : ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม.กรมการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้ จำนวนดาวเฉลี่ย 4.2 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 50 ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้ โฆษณา
RSATHAI บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียนคำนวณอายุครรภ์ประจำเดือนครั้งล่าสุด Please, Enter all values correctly. อายุครรภ์ของคุณประมาณ เรื่องราวอัพเดทใหม่4.5 (282) เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร จะท้องไหม ตรวจตั้งครรภ์เมื่อไหร่ดี 4.5 (279) 3 อาการที่ปกติ และ 7 สัญญานที่ไม่ปกติหลังทำแท้ง ยุติการตั้งครรภ์ เป็นอย่างไร Twitter #rsathaiRSATHAI Follow ยุติการตั้งครรภ์ ทำแท้ง เป็นบริการสุขภาพเมื่อท้องไม่พร้อม ปรึกษาออนไลน์ https://t.co/ewtgWlGT6J ยุติการตั้งครรภ์ https://t.co/Iqw1gbh3dI 6 ม.ค. อย.สหรัฐฯ อนุญาตให้ร้านขายยาทั่วประเทศจำหน่ายยาทำแท้งได้ หลังหลายรัฐออกกฎหมายต่อต้านการทำแท้งในคลินิก (https://thestandard.co/fda-abortion-pills-can-be-sold-retail-pharmacies/) จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมใช้เอกสารอะไรบ้าง1. รูปถ่าย 4.5x6 C.m. (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จานวน 2 รูป 2. สูติบัตร 3. บัตรประจาตัวประชาชน 4. ทะเบียนบ้าน 5. หนังสือแสดงการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) ประโยชน์ที่เกิดจากการจดทะเบียนรับเด็ก เป็นบุตรบุญธรรม
จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ได้ที่ไหนกรณีผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ผู้จะรับบุตรบุญธรรม หรือผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมสามารถดำเนินการยื่นคำขอจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ กิ่งอำเภอ หรือเขต แห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้ โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
การรับบุตรบุญธรรมเป็นนิติกรรมไหมการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม เป็นการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล กล่าวคือ เป็นการกระทำที่ทำให้บุตรบุญธรรมมีฐานะอย่างเดียวกับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตรบุญธรรมทันทีนับแต่วันที่จดทะเบียน เช่น มีสิทธิใช้นามสกุล มีสิทธิได้รับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม ดังนั้น การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมจึงเป็นนิติกรรมอย่างหนึ่ง
รับหลานเป็นลูกบุญธรรมได้ไหมมาตรา 1598/21 การรับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมจะกระทำได้ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมของบิดาและมารดาของผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม ในกรณีที่ บิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งตายหรือถูกถอนอำนาจปกครอง ต้องได้รับความยินยอมของมารดาหรือบิดาซึ่งยังมีอำนาจปกครอง
|