หูฟัง true wireless แนะนํา

หลังจากแบรนด์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่แบรนด์หนึ่ง เปิดตัวหูฟังไร้สายแบบ True Wireless (TW) ที่เรียกได้ว่า ไม่มีสายของจริง เพราะเป็นการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณบลูทูธ Bluetooth® ก็ทำให้แบรนด์หูฟังค่ายดังๆ ต่างปรับตัว และคิดค้นเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเสริมคุณภาพเสียงและตัวหูฟังออกมาอย่างต่อเนื่อง และไม่เพียงแต่แบรนด์ดังในวงการเครื่องเสียงเท่านั้นที่เกิดการตื่นตัว แต่ในฝั่งของผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงก็ให้ความสนใจในหูฟังแบบ TW นี้เหมือนกัน

Show

หูฟัง true wireless แนะนํา

หูฟัง true wireless แนะนํา

หูฟัง true wireless แนะนํา

หูฟัง true wireless แนะนํา

เราจึงรวบรวม 10 หูฟังไร้สาย True Wireless in-ear headphones จากร้าน Hear by Munkong ที่ชั้น 2 สยามพารากอน ร้านขายหูฟังที่มีสินค้า Demo ให้ลูกค้าได้ลองฟังแทบจะทุกชิ้นมาให้นักฟังเพลงได้ลองเลือกกัน

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

SENNHEISER MOMENTUM TW ราคา 12,390 บาท

แบรนด์หูฟังระดับไฮเอ็นด์จากประเทศเยอรมัน มาพร้อมระบบเสียง Ambience Sound สามารถดูดเสียงรอบข้าง เช่น แตรรถยนต์ได้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้หูฟัง เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว กันน้ำระดับ IPX4

คุณสมบัติหลัก:
ควบคุมด้วยระบบ Touch Pad
เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 / ชาร์จไฟผ่าน USB-C
1 รอบใช้งานได้ 4 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 2 รอบ

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

B & O Beoplay E8 2.0 ราคา 14,500 บาท

หูฟังที่ให้เสียงโทนใสๆ (Bright Tone) เน้นการฟังเพลงในแนวแจ๊ส หรือเพลงที่เน้นเสียงร้อง (Vocal) ตัวเคสสำหรับพกพาหุ้มด้วยหนังแท้อย่างดี เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ดูหรูหรา

คุณสมบัติหลัก:
ควบคุมด้วยระบบ Touch Pad
เชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 / ชาร์จไฟผ่าน USB-C
1 รอบใช้งานได้ 4 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 3 รอบ

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

Master & Dynamic MW07 ราคา 11,900 บาท

หูฟังขนาดเล็ก น้ำหนักเบามากมาในกล่องสเตนเลสสีเงินดูเท่ เหมาะกับการฟังเพลงแนวบัลลาด แนว EDM ควบคุมการใช้งานด้วยปุ่มกด

คุณสมบัติหลัก:
เชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 / ชาร์จไฟผ่าน USB-C
1 รอบใช้งานได้ 3.5 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 3 รอบ

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

Jaybird RUN XT ราคา 7,490 บาท

หูฟังรุ่นใหม่ล่าสุด กันน้ำระดับ IPX7 หมดกังวลเรื่องเหงื่อและน้ำ ให้เสียงกลางที่คมชัด เหมาะกับเพลงที่มีจังหวะ แนวเพลงร็อคหรือฮิปฮอป

คุณสมบัติหลัก:
เชื่อมต่อ Bluetooth 4.1 / ชาร์จไฟผ่าน MICRO-USB
1 รอบใช้งานได้ 4 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 2 รอบ

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

AUDIO TECHNIC Sport 7 TW  ราคา 7,690 บาท

แบรนด์หูฟังจากญี่ปุ่นที่ให้เสียงหวานๆ ใสๆ  เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงแนวป็อป บอสซ่า อคูสติกร็อค และเพลงบรรเลงต่างๆ

คุณสมบัติหลัก:
เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 / ชาร์จไฟผ่าน MICRO-USB
1 รอบใช้งานได้ 3.5 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 4 รอบ

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

Havit G1 ราคา 2,490 บาท

หูฟังรุ่นยอดนิยมสำหรับการใช้งานทั่วไป ให้เสียงค่อนข้างบาลานซ์จึงฟังเพลงได้หลายแนว ราคาประหยัด และมาพร้อมระบบกันน้ำระดับ IPX5

คุณสมบัติหลัก:
เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 / ชาร์จไฟผ่าน MICRO-USB
1 รอบใช้งานได้ 3.5 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 18 ชั่วโมง

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

AUDIO TECHNIC ATH-CKR 7 TW  ราคา 9,900 บาท

หูฟังที่รองรับระบบ CODEC ทั้ง APTX, AAC และ SBC ช่วยให้เสียงชัดขึ้น เหมาะกับเพลงใสๆ ฟังสบายๆ อย่างเพลงป็อปและบอสซ่า

คุณสมบัติหลัก:
เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 / ชาร์จไฟผ่าน MICRO-USB
1 รอบใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 9 ชั่วโมง

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

Jabees Fire Fly ราคา 2,490 บาท

หูฟังดีไซน์เก๋ที่ใช้วัสดุใสเผยให้เห็นกลไกภายใน มาพร้อมระบบกันน้ำระดับ IPX5 ให้โทนเสียงที่ทุ้มแน่น ฟังเพลงชิลๆ สไตล์ R&B แล้วเพลินมาก

คุณสมบัติหลัก:
เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 / ชาร์จไฟผ่าน MICRO-USB
1 รอบใช้งานได้ 4 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 3 รอบ 

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

Padmate PaMu Scroll ราคา 3,190 บาท

หูฟังน้ำหนักเบาๆ เพียงข้างละ 5 กรัม พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เมื่อหยิบตัวหูฟังออกจากเคสหนังปั๊มลาย กันน้ำกันเหงื่อได้ระดับ IPX6 เหมาะกับแนวเพลงนุ่มๆ ฟังเพลินๆ อย่าง R&B

คุณสมบัติหลัก:
เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 / ชาร์จไฟผ่าน MICRO-USB
1 รอบใช้งานได้ 3.5 ชั่วโมง / รีชาร์จได้ 2 รอบ 

 

หูฟัง true wireless แนะนํา

JBL X UNDER ARMOUR TW Flash ราคา 6,990 บาท

หูฟังดีไซน์เข้มๆ ที่มาพร้อมโลโก้ UNDER ARMOUR แถมได้ฟังเพลงเพราะๆ ที่ให้เสียงหนักแน่น เบสเด่น แต่เสียงกลางและแหลมก็ชัดตามสไตล์ JBL ระบบ Bionic Hearing ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบตัวและกันน้ำระดับ IPX7 ด้วย

หูฟัง True Wireless เรียกว่าเป็นหูฟังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จากการที่ไม่มีสายมารบกวนรุงรังตอนทำกิจกรรมอะไร และมีดีไซน์ทั้งแบบเฮดโฟนที่เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ หรือรุ่นที่ราคาไม่แพงมากไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้หูฟังไร้สายดีๆ เอาไว้ฟังเพลงแล้ว เรียกว่ามีหลายเรทราคาให้เลือกซื้อกันและมีหลากหลายดีไซน์อีกด้วย

Advertisement

อย่างไรก็ตาม หูฟัง True Wireless ก็จะมีประเภทที่ออกแบบมาเพื่อสายสปอร์ตโดยเฉพาะ มีสเปคและดีไซน์เน้นเรื่องกันน้ำและฝุ่นเป็นพิเศษและหลายๆ รุ่นจะออกแบบให้มีก้านหรือจุกยางเพื่อป้องกันการหลุดตอนขยับออกท่าทางหนักๆ ได้เต็มที่โดยที่หูฟังไม่กระเด็นลงไปกองอยู่กับพื้นจนหูฟังเสียหายอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกันน้ำและฝุ่นและมี IP Rating กำกับเอาไว้เพื่อบอกว่าหูฟังตัวนี้กันน้ำกันฝุ่นได้ดีระดับไหนได้ด้วย ซึ่งถ้าใครเป็นสายออกกำลังกายตบเท้าเข้ายิมหรือวิ่งสวนสาธารณะบ่อยๆ ก็น่าลงทุนซื้อเอาไว้ใช้ฟังเพลงมากๆ และยังใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

หูฟัง true wireless แนะนํา

7 หูฟัง True Wireless สายสปอร์ตสุดแจ่มแนะนำให้โดนเอาไว้ฟังเพลงตอนฟิตกล้าม!

สำหรับสายสปอร์ตที่กำลังหาหูฟังไร้สายเอาไว้ฟังเพลงตอนออกกำลังกายและเอาไว้ฟังเพลงเวลานั่งทำงานก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันล่ะก็ ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ลงทุนซื้อของดีแบรนด์ชั้นนำเอาไว้ใช้เลย ถึงจะแพงสักหน่อยแต่ก็ทนทานและใช้งานได้หลายปี และผู้ผลิตเองก็ใส่ฟีเจอร์ดีๆ เอาไว้ให้ใช้อีกเพียบ โดยหูฟัง True Wireless ทั้ง 6 รุ่นที่เลือกมาแนะนำจะมีดังนี้ 

1. Jabra Elite Active 75t (3,990 บาท)

หูฟัง true wireless แนะนํา

Jabra Elite Active 75t เป็นหูฟังไร้สายสำหรับสายสปอร์ตรุ่นแรกที่ทั้งราคาไม่แพงแต่สเปคดีน่าสนใจที่ใส่ฟีเจอร์น่าสนใจเอาไว้ให้หลายอย่าง ไม่ว่าจะระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก, กันน้ำและฝุ่นได้ดีระดับ IP57, ติดตั้งไมโครโฟนเอาไว้ 4 ตัวเพื่อให้โทรคุยสายได้ดีฟังชัดเจน ควบคุมและตั้งค่าตัวหูฟังไร้สายของ Jabra ได้ด้วยแอพฯ Jabra Sound+ ส่วนคุณภาพเสียงเรียกว่าทำได้ดี ทั้งเสียงใสเบสกระชับอิมแพ็คหนักแน่น เสียงแหลมดีและสเตจกว้างกำลังน่าฟัง

การเชื่อมต่อของ Jabra Elite Active 75t ใช้ Bluetooth 5.0 รองรับสูงสุด 8 อุปกรณ์ ควบคุมด้วยการกดปุ่มโลโก้ที่หูฟัง รองรับ Google Assistant และ Siri ติดตั้งไดรเวอร์ขนาด 6 มม. รองรับความถี่ 20 Hz – 20 kHz มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) กดสลับให้เสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกลอดเข้ามาได้ มีไมโครโฟน 4 ตัวแบบ MEMS รองรับความถี่ 100 Hz – 10 kHz มีฟีเจอร์ Wind noise  protection ลดเสียงลมลอดเข้าไมค์ของหูฟังได้ ใช้งานต่อเนื่องได้ 5.5 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 24 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย USB-C และการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi (ชี่) นับเป็นหูฟัง True Wireless สำหรับคนที่รักการออกกำลังกายและนำไปใช้คุยติดต่องานได้ดีอีกด้วย

สำหรับข้อดีหลักๆ ของหูฟัง Jabra Elite Active 75t ตัวนี้ หลักๆ แล้วคือเรื่องไมโครโฟนเสียงคมชัด เอาไว้โทรติดต่อได้ดี, รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 8 อุปกรณ์ จึงใช้ต่อทั้งมือถือ/แท็บเล็ต/โน๊ตบุ๊คได้พร้อมๆ กัน และมีฟีเจอร์ตัดเสียงได้ด้วย ส่วนข้อสังเกตคือเมื่อเทียบกับหูฟังรุ่นอื่นแล้วยังเป็น IP57 ขณะที่รุ่นอื่นเป็น IP67 หรือ IPX4 แล้ว

สเปคของ Jabra Elite Active 75t
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 สูงสุด 8 อุปกรณ์ ตั้งค่าด้วยแอพฯ Jabra Sound+
  • รองรับ Google Assistant และ Siri
  • ไดรเวอร์ขนาด 6 มม. รองรับความถี่ 20 Hz – 20 kHz มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation)
  • ติดตั้งไมโครโฟนเอาไว้ 4 ตัว แบบ MEMS รองรับความถี่ 100 Hz – 10 kHz มีฟีเจอร์ Wind noise  protection
  • กันน้ำและฝุ่นระดับ IP57
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 5.5 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 24 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย USB-C และการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi (ชี่)
  • ราคา 3,990 บาท (Munkong Gadget Shopee Mall
ข้อดีและข้อสังเกตของ Jabra Elite Active 75tข้อดีข้อสังเกต1. เสียงไมค์คมชัด โทรติดต่องานได้ดี1. IP Rating ยังเป็น IP57 เท่านั้น แบรนด์อื่นเป็น IP67 หรือมากกว่านี้แล้ว2. รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 8 อุปกรณ์ 3. มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน 
2. Skullcandy PUSH ULTRA (4,990 บาท)

หูฟัง true wireless แนะนํา

Skullcandy PUSH ULTRA เป็นหูฟัง True Wireless แบบมีก้านล็อคด้านหลังใบหู เวลาขยับตัวเร็วๆ ตอนออกกำลังกายก็ไม่หลุดง่ายและยังกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 ตัดปัญหาเรื่องเหงื่อและฝุ่นทำให้หูฟังช็อตและมีปัญหาไปได้เลย นอกจากนี้ยังใช้แอพฯ ของ Skullcandy ควบคุมและตั้งค่าหูฟังได้โดยตรงทั้งใน Play Store และ App Store นอกจากนี้ยังรองรับแอพฯ Tile เอาไว้ตามหาตอนหูฟังข้างใดข้างหนึ่งหล่นหายหรือวางลืมเอาไว้ได้อีกด้วย

สเปคของ Skullcandy PUSH ULTRA จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย Bluetooth 5.0 รองรับความถี่ 20 Hz – 20 kHz ปรับ Equalizer ได้ 3 แบบ มีไมโครโฟนและปุ่มเพิ่มลดเสียงหูฟังติดอยู่ที่ตัวหูฟังทั้งสองด้าน แบตเตอรี่ใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 6 ชั่วโมง รวมการชาร์จในเคสแล้วสุทธิ 40 ชั่วโมง ชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วยสาย USB-C ที่แถมมาในกล่องหรือชาร์จไร้สายก็ได้เช่นกัน นับเป็นหูฟังรุ่นที่น่าสนใจอีกรุ่นสำหรับคนรักการฟังเพลงไปออกกำลังกายไปมาก

ข้อดีของ Skullcandy ตัวนี้คือแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมงและรองรับ Tile เอาไว้ตามหาหูฟังข้างที่ตกหายได้ง่ายๆ แค่โหลดแอพฯ มาติดตั้งในเครื่องเท่านั้น ส่วนข้อสังเกตคือยังรองรับการชาร์จด้วย USB-C อย่างเดียว ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย

สเปคของ Skullcandy PUSH ULTRA
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 สูงสุด 8 อุปกรณ์ ตั้งค่าด้วยแอพฯ Skullcandy
  • ไดรเวอร์รองรับความถี่ 20 Hz – 20 kHz ปรับ Equalizer ได้ 3 แบบ
  • ติดตั้งไมโครโฟนเอาไว้ใช้โทรคุยงานได้ รวมทั้งปุ่มเพิ่มลดเสียงที่ตัวหูฟัง
  • กันน้ำและฝุ่นระดับ IP67
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 6 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 40 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย USB-C และการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi (ชี่)
  • ราคา 4,990 บาท (Mercular)
ข้อดีและข้อสังเกตของ Skullcandy PUSH ULTRAข้อดีข้อสังเกต1. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมง1. รองรับการชาร์จด้วย USB-C อย่างเดียว ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย2. รองรับ Tile เอาไว้ตามหาหูฟังข้างที่ตกหายได้ง่าย 3. รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 8 อุปกรณ์ 
3. Jaybird Vista (5,590 บาท)

หูฟัง true wireless แนะนํา

Jaybird Vista เป็นหูฟัง True Wireless รุ่นที่สื่อต่างประเทศชื่นชมเรื่องดีไซน์การเข้ากับหู, ความแข็งแรงทนทานและกันน้ำกับฝุ่นดีระดับ IPX7 เรียกว่าเป็นหูฟังที่เกิดมาเพื่อสายสปอร์ตมาก ส่วนคุณภาพเสียงเรียกว่าดีหายห่วงเพราะสามารถปรับ Equalizer ได้สะดวกด้วยแอพฯ Jaybird ซึ่งโหลดจาก Play Store และ App Store ได้เลย นอกจากนี้ในแอพฯ ของ Jaybird ยังมีฟีเจอร์ค้นหาหูฟังข้างที่ตกหายได้อีกด้วย

ตัวหูฟัง Jaybird Vista รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ได้เลย ติดตั้งไดรเวอร์ขนาด 6 มม. รองรับความถี่ 20 Hz – 20 kHz ให้เสียงระดับ 16-bit ที่คุณภาพเสียงคมชัดยิ่งขึ้น ติดตั้งไมโครโฟนแบบ MEMS แบบ Omni-directional ให้รับเสียงได้หลายทิศทาง แบตเตอรี่ในตัวใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 6 ชั่วโมง รวมชาร์จด้วยเคสของตัวหูฟังสุทธิ 16 ชั่วโมง รองรับการชาร์จไว 5 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าใครต้องการหูฟังดีๆ เอาไว้ฟังเพลงและเล่นกีฬาได้ด้วย แนะนำดู Jaybird ตัวนี้ไว้ได้เลย

ข้อดีหลักๆ คือหูฟัง Jaybird Vista ติดตั้งไดรเวอร์ที่ให้ระดับเสียง 16-bit มาในตัว ทำให้ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้น และรองรับการชาร์จไว 5 นาที ฟังได้ 1 ชม. ส่วนข้อสังเกตคือระยะเวลาใช้งานรวมสูงสุดทำได้แค่ 16 ชม. เท่านั้น

สเปคของ Jaybird Vista
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ตั้งค่าด้วยแอพฯ Jaybird
  • ไดรเวอร์รองรับความถี่ 20 Hz – 20 kHz ให้เสียงระดับ 16-bit
  • ติดตั้งไมโครโฟนแบบ MEMS แบบ Omni-directional 
  • กันน้ำและฝุ่นระดับ IPX7
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 6 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 16 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย USB-C ชาร์จไว 5 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง
  • ราคา 4,990 บาท (Mercular Shopee Mall)
ข้อดีและข้อสังเกตของ Jaybird Vistaข้อดีข้อสังเกต1. ติดตั้งไดรเวอร์ที่ให้ระดับเสียง 16-bit ให้คุณภาพเสียงดี1. ระยะเวลาใช้งานรวมสูงสุดเพียง 16 ชม. เท่านั้น2. รองรับการชาร์จไว 5 นาที ฟังได้ 1 ชม. 
4. Sony WF-SP800N (5,990 บาท)

หูฟัง true wireless แนะนํา

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมผู้เขียนถึงเลือก Sony WF-SP800N มาแนะนำแทน Sony WF-1000XM4 ที่ได้เรื่องการฟังเพลงแบบเน้นๆ มากกว่า นั่นเพราะ Sony WF-SP800N ออกแบบมาเพื่อคนชอบออกกำลังกายมากกว่า มี IP55 ว่าทนน้ำและฝุ่นได้แน่นอน, มีฟีเจอร์ Google Fast Pair และฟีเจอร์เสียงอย่าง EXTRA BASS ให้เสียงเบสแน่นสะใจยิ่งขึ้น, Adaptive Sound Control ปรับเสียงในหูฟังให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติและ 360 Reality Audio จำลองเสียงตอนฟังเพลงให้มีมิติและสมจริง สามารถตั้งค่าหูฟังได้ด้วยแอพฯ Sony Headphones Connect ได้เลยทั้ง Android, iOS

สเปคของ Sony WF-SP800N ตัวนี้จะเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth 5.0 ใช้ไดรเวอร์ขนาด 6 มม. มี Digital Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ รองรับ Google Assistant, Siri, Alexa ติดตั้งไมค์สำหรับโทรศัพท์มาให้ในตัว ส่วนแบตเตอรี่ใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสุด 9 ชั่วโมง ถ้าเปิดตัดเสียงรบกวน ส่วนปิดเสียงรบกวนอยู่ได้ 13 ชั่วโมง เมื่อนำกลับไปชาร์จในเคสแล้วใช้งานได้นานสุดรวม 26 ชั่วโมงทีเดียว แต่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่คืนด้วย USB-C เท่านั้น ซึ่งถ้าใครชื่นชอบการฟังเพลงและออกกำลังกายทั้งคู่ หูฟัง True Wireless ของ Sony รุ่นนี้จัดว่าน่าสนใจมาก

ข้อดีของหูฟัง Sony WF-SP800N ตัวนี้ จะเด่นเรื่องตัดเสียงรบกวนและใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 9 ชั่วโมง และมีฟีเจอร์เสริมคุณภาพเสียงของตัวหูฟังเป็นพิเศษ แต่จุดสังเกตหลักๆ คือเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ยังรับแต่ USB-C เท่านั้น

สเปคของ Sony WF-SP800N
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ตั้งค่าด้วยแอพฯ Sony Headphones Connect
  • รองรับ Google Assistant, Siri และ Alexa
  • ไดรเวอร์ขนาด 6 มม. มี Digital Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้
  • ติดตั้งไมโครโฟนสำหรับโทรศัพท์ได้ด้วย
  • กันน้ำและฝุ่นระดับ IP55
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 9-13 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 26 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย USB-C
  • ราคา 5,990 บาท (Sony Thailand)
ข้อดีและข้อสังเกตของ Sony WF-SP800Nข้อดีข้อสังเกต1. ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 9-13 ชั่วโมง ถือว่านานมาก1. การชาร์จแบตเตอรี่ยังรับแต่ USB-C เท่านั้น2. ใส่ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและฟีเจอร์เสริมคุณภาพเสียงมาให้หลายอย่าง 
5. Bose Sport Earbuds (8,900 บาท)

หูฟัง true wireless แนะนํา

ถ้าเรื่องฟังเพลงด้วยออกกำลังกายด้วย Bose ก็มีหูฟัง True Wireless รุ่น Bose Sport Earbuds มาเอาใจคอสปอร์ต ตั้งค่าหูฟังได้ง่ายๆ ด้วยแอพฯ Bose Music app โหลดได้จาก Google Play Store หรือ App Store ก็ได้ รองรับ Touch control แตะตัวหูฟังเพื่อสั่งการได้, กันน้ำและเหงื่อระดับ IPX4, มีฟีเจอร์ Spotify Tab แตะแล้วเรียกแอพฯ Spotify ขึ้นมาเล่นเพลงได้ทันที และรองรับการเชื่อมต่อมากสุด 7 อุปกรณ์ทีเดียว

Bose Sport Earbuds รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.1 มีฟีเจอร์ Volume-optimized และ Active EQ ให้คุณภาพเสียงตอนฟังเพลงดียิ่งขึ้นกับไมโครโฟนแบบ Beam-forming ใช้โทรและรับสาย ให้เสียงคมชัดทั้งสองฝั่ง มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสุด 5 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสด้วยจะฟังเพลงได้นานสุด 10 ชั่วโมง มีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว 15 นาทีฟังเพลงได้ 2 ชั่วโมงอีกด้วย ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C ได้เลย ซึ่งถ้าใครหาหูฟัง True Wireless เน้นเรื่องคุณภาพเสียงเป็นหลักล่ะก็ แนะนำให้ดู Bose ตัวนี้เอาไว้ได้เลย

ข้อดีของ Bose Sport Earbuds จัดว่าเน้นเรื่องการฟังเพลงระหว่างออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี มีฟีเจอร์ Spotify Tab, รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 7 อุปกรณ์, ชาร์จไว 15 นาทีฟังเพลงได้อีก 2 ชั่วโมง และไมค์แบบ Beam-forming แต่ข้อสังเกตคือระยะเวลาใช้งานรวมนานสุด 10 ชั่วโมงเท่านั้น

สเปคของ Bose Sport Earbuds
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.1 รองรับสูงสุด 7 อุปกรณ์ ตั้งค่าด้วยแอพฯ Bose Music app
  • ไดรเวอร์มีฟีเจอร์ Volume-optimized และ Active EQ ให้คุณภาพเสียงตอนฟังเพลงดียิ่งขึ้น
  • ติดตั้งไมโครโฟนสำหรับโทรศัพท์ได้ด้วย
  • กันน้ำและฝุ่นระดับ IPX4
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 5 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 10 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย USB-C
  • ราคา 8,900 บาท (Mercular)
ข้อดีและข้อสังเกตของ Bose Sport Earbudsข้อดีข้อสังเกต1. ฟีเจอร์ Spotify Tab เรียกแอพฯ Spotify ขึ้นมาฟังเพลงได้ไม่ต้องกดมือถือ1. ระยะเวลาใช้งานรวมนานสุด 10 ชั่วโมงเท่านั้น2. รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 7 อุปกรณ์ 3. ชาร์จไว 15 นาทีฟังเพลงได้อีก 2 ชั่วโมง 
6. Beats Powerbeats Pro (8,900 บาท)

หูฟัง true wireless แนะนํา

Beats Powerbeats Pro นับเป็นหูฟัง True Wireless สายสปอร์ตแบบเน้นๆ สำหรับเจ้าของ iPhone นั่นเพราะนอกจากจับคู่กับ iPhone ได้ง่ายและเร็วด้วยชิป Apple H1 แล้ว ยังได้คุณภาพเสียงที่ดีและใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ร่วมกับ iPhone ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย หรือถ้าใครจะเอาไปใช้กับ Android ก็ได้ ส่วนจุดเด่นหลักๆ ของหูฟัง True Wireless ตัวนี้ คือฟีเจอร์ Find My ของระบบ Apple Ecosystem ที่ถ้าหูฟังหายหรือหาไม่เจอสักข้างหนึ่งก็กดตามหาได้ง่ายๆ กันน้ำและเหงื่อระดับ IPX4 และดีไซน์แบบมีก้านล็อคใบหู ทำให้ตอนออกกำลังกายออกท่าทางเยอะก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

การเชื่อมต่อของหูฟังตัวนี้จะใช้ Bluetooth Class 1 ส่วนไดรเวอร์จะเป็นแบบไดนามิคพร้อมีระบบตัดเสียง (noise isolation) ติดตั้งไมโครโฟนแบบ beam-forming และมีเซนเซอร์จับท่าทางการขยับและพูดของผู้ใช้ให้คุณภาพเสียงดีและตัดเสียงรบกวนได้ รองรับ Siri และ Voice assistant อื่นๆ อีกด้วย สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 9 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสได้นานสุด 24 ชั่วโมง มีฟีเจอร์ Fast Fuel ชาร์จ 5 นาทีฟังเพลงต่อได้อีก 1.5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่จะชาร์จผ่านสาย Lightning to USB-A เข้าที่ตัวเคส ซึ่งส่วนตัวถ้าใครใช้มือถือเป็น iPhone แล้วรักการออกกำลังกาย แนะนำให้ดู Beats ตัวนี้เป็นหลักมากกว่า AirPods Pro มาก

ข้อดีแบบเน้นๆ ของ Beats Powerbeats Pro จะโดดเด่นมากเมื่อใช้งานกับ iPhone คือการจับคู่ที่รวดเร็ว ตามหาหูฟังข้างที่หายด้วยแอพฯ Find my ได้เลย ไมค์แบบ Beam-forming พร้อมเซนเซอร์จับการขยับของร่างกายและชาร์จเร็ว 5 นาทีฟังได้ 1.5 ชั่วโมง แต่ข้อสังเกตคือใช้สายชาร์จเฉพาะอย่าง Lightning to USB-A และราคาค่อนข้างสูงถึงสูงมาก

สเปคของ Beats Powerbeats Pro
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth Class 1 รองรับการทำงานกับ Apple Ecosystem จับคู่ด้วย Apple H1
  • ไดรเวอร์แบบไดนามิค มีระบบตัดเสียง (noise isolation) 
  • ติดตั้งไมโครโฟนแบบ beam-forming และมีเซนเซอร์จับท่าทางการขยับและพูดของผู้ใช้
  • รองรับ Siri และ Voice assistant อื่นๆ ใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android ได้ด้วย
  • กันน้ำและฝุ่นระดับ IPX4
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 9 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 24 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย Lightning to USB-A มีฟีเจอร์ Fast Fuel ชาร์จ 5 นาทีฟังเพลงต่อได้อีก 1.5 ชั่วโมง
  • ราคา 8,900 บาท (Apple Thailand)
ข้อดีและข้อสังเกตของ Beats Powerbeats Proข้อดีข้อสังเกต1. ถ้าใช้งานกับ iPhone ใช้แอพฯ Find my ตามหาหูฟังข้างที่หายได้1. ใช้สายชาร์จเฉพาะอย่าง Lightning to USB-A2. ไมค์แบบ Beam-forming พร้อมเซนเซอร์จับการขยับของร่างกาย2. ราคาค่อนข้างสูงถึงสูงมาก3. ชาร์จเร็ว 5 นาทีฟังได้ 1.5 ชม. 
7. Klipsch T5 II (8,990 บาท)

หูฟัง true wireless แนะนํา

Klipsch T5 II ดูหน้าตาแล้วถึงจะเหมือนกับหูฟังสายฟังเพลงเป็นหลัก แต่สื่อต่างประเทศหลายเจ้าที่ทดสอบหูฟังตัวนี้แล้วก็แนะนำหูฟัง True Wireless ตัวนี้ให้สายสปอร์ตเอาไว้ฟังเพลงตอนออกกำลังกายเช่นกัน เนื่องจากใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง, ให้คุณภาพเสียงที่ดีถึงดีมากยังกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67, มี Transparency mode ให้เสียงจากสภาพแวดล้อมเข้าหูฟังได้ รองรับ Google Assistant และ Siri ทั้งคู่ และควบคุมตั้งค่าหูฟังผ่านทางแอพฯ Klipsch Connect จะโหลดผ่าน Play Store หรือ App Store ได้ทั้งหมด นอกจากนี้เคสหูฟังยังเป็นอลูมิเนียมทั้งตัว สวยงามดูดีมาก

สเปคของหูฟังตัวนี้เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 กับเสาสัญญาณ Signal-boost ทำให้เชื่อมต่อสัญญาณเสียงผ่าน Bluetooth ได้ดีขึ้น ติดตั้งไดรเวอร์แบบไดนามิคขนาด 5 มม. กับไดอะแฟรมคุณภาพสูงมาให้พร้อมไมค์แบบ beam-forming 4 ตัว ทำให้เวลาโทรคุยกับคู่สนทนาจะได้ยินเสียงชัดเจน มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนตอนใช้งาน cVc 8.0 รองรับการแตะควบคุมที่ตัวหูฟัง ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 8 ชั่วโมงและรวมกับการชาร์จในเคสจะใช้งานได้นานสุด 24 ชั่วโมง ชาร์จแบตเตอรี่กลับให้หูฟังด้วย USB-C เท่านั้น ซึ่งถ้าใครชอบออกกำลังกายแต่เรื่องเสียงเพลงก็ต้องดีไม่แพ้กัน แนะนำให้ดู Klipsch T5 II ไว้เลย

จุดเด่นของ Klipsch T5 II ตัวนี้ คือมีเสาสัญญาณ Signal-boost ทำให้สัญญาณ Bluetooth ดีขึ้น, มีไมค์ Beam-forming 4 ตัว พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียง cVc 8.0 และใช้งานรวมได้นานสุด 24 ชั่วโมง แต่ข้อสังเกตคือยังรองรับการชาร์จเฉพาะสาย USB-C เท่านั้น

สเปคของ Klipsch T5 II
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 มีเสาสัญญาณ Signal-boost ตั้งค่าด้วยแอพฯ Klipsch Connect
  • รองรับ Google Assistant และ Siri
  • ไดรเวอร์แบบไดนามิคขนาด 5 มม. กับไดอะแฟรมคุณภาพสูง 
  • ติดตั้งไมโครโฟนแบบ beam-forming 4 ตัว มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน cVc 8.0
  • กันน้ำและฝุ่นระดับ IP67
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมง รวมเวลาชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้สูงสุด 24 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยสาย USB-C 
  • ราคา 8,990 บาท (425 Degree)
ข้อดีและข้อสังเกตของ Klipsh T5 IIข้อดีข้อสังเกต1. มีเสาสัญญาณ Signal-boost ทำให้สัญญาณ Bluetooth ดีขึ้น1. รองรับการชาร์จเฉพาะสาย USB-C เท่านั้น2. มีไมค์ Beam-forming 4 ตัว พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียง cVc 8.0 3. ใช้งานรวมได้นานสุด 24 ชั่วโมง 

สรุปสเปค 7 หูฟัง True Wireless สายสปอร์ตน่าโดน

จะเห็นว่าหูฟัง True Wireless สำหรับสายสปอร์ตนั้น แม้จะราคาสูงก็ตาม แต่ข้อดีและฟีเจอร์เด่นก็อัพเกรดขึ้นมาให้อีกหลายอย่าง และบางรุ่นก็ให้เสียงคุณภาพดีทีเดียว ซึ่งถ้าสรุปสเปคแล้วจะเป็นดังนี้

สเปคหูฟัง True Wirelessการเชื่อมต่อและแอพฯไดรเวอร์และไมโครโฟนการกันน้ำและฝุ่นระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่Voice AssistantราคาJabra Elite Active 75tBluetooth 5.0

Jabra Sound+ไดรเวอร์ 6 มม. มี ANC

ไมค์ 4 ตัว แบบ MEMS
มีตัดเสียงลมแทรกไมค์IP575.5 ชม.

ชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 24 ชม.

ชาร์จแบตให้เคสด้วย USB-C หรือไร้สายGoogle Assistant

Siri3,990 บาทSkullcandy PUSH ULTRABluetooth 5.0

แอพฯ Skullcandyไดรเวอร์แบปรับ EQ ได้ 3 แบบ

มีไมค์พร้อมใช้งานIP676 ชม.

ชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 40 ชม.

ชาร์จแบตให้เคสด้วย USB-C หรือไร้สาย–4,990 บาทJaybird VistaBluetooth 5.0

แอพฯ Jaybirdไดรเวอร์รองรับเสียงระดับ 16-bit

ไมค์แบบ MEMS แบบ Omni-directionalIPX76 ชม.

ชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 16 ชม.

ชาร์จไว 5 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชม.

ชาร์จแบตให้เคสด้วย USB-C–4,990 บาทSony
WF-SP800NBluetooth 5.0

Sony Headphones Connect6 มม. มี Digital Noise Cancelling

มีไมค์พร้อมใช้งานIP559-13 ชม.

ชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 26 ชม.

ชาร์จแบตให้เคสด้วย USB-CGoogle Assistant

Siri

Alexa5,990 บาทBose Sport EarbudsBluetooth 5.1

Bose Music appไดรเวอร์มี Volume-optimized และ Active EQ

มีไมค์พร้อมใช้งานIPX45 ชม.

ชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 10 ชม.

ชาร์จแบตให้เคสด้วย USB-C–8,900 บาทBeats Powerbeats ProBluetooth Class 1

รองรับการทำงานกับ Apple Ecosystemไดรเวอร์ไดนามิคพร้อมระบบตัดเสียง (Noise Isolation)

ไมโครโฟนแบบ beam-forming และมีเซนเซอร์จับท่าทางการขยับIPX49 ชม.

ชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 24 ชม.

ชาร์จไว 5 นาที ฟังได้ 1.5 ชม.

ชาร์จแบตให้เคสด้วย Lightning to USB-ASiri

Voice assistant อื่นๆ8,900 บาทKlipsch T5 IIBluetooth 5.0 มีเสาสัญญาณ Signal-boost

แอพฯ Klipsch Connectไดรเวอร์ไดนามิค 5 มม. กับไดอะแฟรมคุณภาพสูง

ไมโครโฟนแบบ beam-forming 4 ตัว มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน cVc 8.0IP678 ชม.

ชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 24 ชม.

ชาร์จแบตให้เคสด้วย USB-CGoogle Assistant

Siri8,990 บาท

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายๆ คนที่เห็นราคาหูฟัง True Wireless สายสปอร์ตแล้วอาจจะรู้สึกว่าราคาแพงไปหารุ่นที่ราคาถูกกว่านี้มาใช้ดีกว่า แต่ส่วนตัวผู้เขียนเองอยากเชียร์ให้ลงทุนซื้อหูฟังดีๆ เอาไว้ใช้งานไปเลยจะดีที่สุด เนื่องจากหูฟังสักตัวหนึ่งจะอยู่กับเราไปอย่างน้อยก็ 2-3 ปี เป็นอย่างต่ำๆ ซึ่งถ้าฟังแล้วเสียงของหูฟังแบรนด์นั้นถูกใจ ทำให้เรามีความสุขระหว่างออกกำลังกายและช่วยให้เราโฟกัสกับการออกกำลังกายหรือเอาไปฟังระหว่างทำงานต่อเนื่องได้นานขึ้นก็จัดว่าคุ้มแน่นอน และปัจจุบันนี้ก็ยังมีระบบผ่อนชำระผ่านทางบัตรเครดิตหรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์เจ้าต่างๆ ได้อีก จึงไม่ต้องทุ่มเงินทั้งก้อนเพื่อซื้อของชิ้นเดียวอีกต่อไป ค่อยๆ จ่ายไปเดือนละนิดละหน่อยจนเสร็จแล้วได้ใช้หูฟังดีๆ ผู้เขียนก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

อย่างไรก็ตาม หูฟังและเสียงเพลงก็เป็นสิ่งของที่เกี่ยวกับรสนิยมของแต่ละคนเสมอ ดังนั้นก่อนจะซื้อก็แนะนำให้ลองหาหูฟังรุ่นนั้นๆ มาฟังเพลงที่เราชอบดูก่อน ว่าไดรเวอร์และบุคลิคเสียงของหูฟังรุ่นนั้นๆ ถูกจริตการฟังเพลงของเราหรือเปล่า ถ้าถูกใจก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้าไม่ก็ไม่ต้องรีบมาก ค่อยๆ หาตัวที่ถูกใจแล้วค่อยจ่ายเงินซื้อทีเดียวเลยจะดีที่สุด และไม่ต้องเสียเงินหลายๆ รอบอีกด้วย


บทความที่เกี่ยวข้อง

  • Review ASUS Vivobook Pro 15 OLED จอเทพสีตรงติดการ์ดจอแยกพร้อมทำงานและเล่นเกมได้ในงบ 32,900 บาท

หูฟัง true wireless แนะนํา

  • 6 เคสคอมสุดแจ่ม ใช้นานหลายๆ ปี ฝาข้างใสไฟ RGB วิบวับ

หูฟัง true wireless แนะนํา

  • 6 แอนดรอยทีวี 4K HDR ภาพสวยคมดูหนังเพลินทั้งวัน เริ่ม 8,990 บาทเอง!

หูฟัง true wireless แนะนํา

In this article:Beats, Bose, Jabra, jaybird, klipsch, skullcandy, sony, หูฟัง, หูฟัง TWS, หูฟังไร้สาย, เลือกซื้อหูฟัง

หูฟัง true wireless แนะนํา

Click to comment

 

Advertisement

Trending Post

หูฟัง true wireless แนะนํา

Tips & Tricks

รวมแคปชั่นวาเลนไทน์ มีคู่โพสต์ได้ คนโสดโพสต์ดี อัพเดต 2023

หูฟัง true wireless แนะนํา

Buyer's Guide

10 เมาส์เกมมิ่งรุ่นเด็ดสาย FPS, MOBA กดไลค์ เริ่ม 1,490 บาท อัพเดทใหม่ปี 2023 มีไว้เล่นเกมเวิร์คชัวร์!

หูฟัง true wireless แนะนํา

Buyer's Guide

รวมโปรเน็ต AIS ไม่ลดสปีด สมัครง่าย ได้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ อัปเดต 2023

หูฟัง true wireless แนะนํา

Buyer's Guide

จอพับได้! โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ราคาถูก 7 รุ่น เบา จอสัมผัส เริ่มแค่หมื่นกว่า ได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็ปเล็ต ปี 2023

บทความน่าสนใจ

หูฟัง true wireless แนะนํา
หูฟัง true wireless แนะนํา

GAMING ZONE

PlayStation Vita เกมคอนโซลเคลื่อนที่ที่มาและจากไปก่อนกาล

PlayStation Vita คอนโซลเคลื่อนที่ของทาง Sony ที่อายุเกิน 10 ปีแล้ว วันนี้เรามาดูกันว่า PlayStation Vita นั้นเป็นมาอย่างไรและทำไมมันจึงถูกเก็บเข้ากรุไปกัน เมื่อพูดถึงตลาดคอนโซลพกพา มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่สามารถประสบความสำเร็จได้ แม้ว่า SEGA จะเคยลองใช้ Game Gear ในอดีตมาแล้วและบริษัทมือถืออย่าง Nokia ได้พยายามเจาะตลาดด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง N-Gage แต่ไม่มีบริษัทหรือผู้ผลิตรายใดที่เข้าใกล้การโค่นล้ม Nintendo...

EDDYJanuary 26, 2023

หูฟัง true wireless แนะนํา
หูฟัง true wireless แนะนํา

Buyer's Guide

7 หูฟังเกมมิ่งรุ่นเด็ดรับปี 2023 โดนเอาไว้เล่นเกมก็เพลินฟังเพลงก็อิ่ม!!

ปี 2023 นี้มีหูฟังเกมมิ่งเด็ดๆ ให้เลือก เล่นเกมดีฟังเพลงมันส์ทั้งคู่ หูฟังแบบเฮดโฟนเป็นหูฟังเกมมิ่งยอดนิยมในใจเกมเมอร์เพราะดีไซน์นำเสนอความเป็นเกมเมอร์แถมยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ จากทางผู้ผลิตช่วยเสริมคุณภาพเสียงให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไดรเวอร์ที่จำลองเสียง 7.1 แชนแนลได้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ บางรุ่นมีไฟ RGB หรือเชื่อมต่อได้หลากหลายแบบ ทั้ง USB 2.4GHZ Dongle, Bluetooth หรือสายหูฟัง 3.5 มม. ก็ได้ และผู้ผลิตก็มีโปรแกรมปรับแต่งเสียงให้ได้ตามสไตล์และรสนิยมของผู้ใช้ได้ตามชอบ...

CaffeineAddictedJanuary 25, 2023

หูฟัง true wireless แนะนํา
หูฟัง true wireless แนะนํา

Buyer's Guide

7 หูฟังเกมมิ่ง 2022 รุ่นเด่นเสียงดี 7.1 Ch เล่นเกมเพลินฟังเพลงได้ ต่อคอนโซลก็โอเค แค่ 1,590 บาท

ปลายปีหาหูฟังเกมมิ่ง 2022 ดีๆ ไว้เล่นเกมใหม่ๆ กันดีกว่า หูฟังเกมมิ่ง 2022 เป็นเกมมิ่งเกียร์ชิ้นสำคัญอีกอย่างที่เกมเมอร์ทุกคนมองหา โดยเฉพาะสาย FPS นั้นยิ่งต้องใส่ใจกับหูฟังเกมมิ่งเป็นพิเศษ เพราะการได้ยินเสียงแล้วรู้ว่าศัตรูจะมาจากทางไหนก่อนจะได้ตอบสนองได้ทันเวลา และแม้จะไม่ได้เป็นเกมเมอร์สายแข่งขันเต็มตัวก็ตาม แต่เมื่อได้หูฟังดีๆ ไว้ฟังเสียงภายในเกมก็จะช่วยเพิ่มอรรถรสให้ดียิ่งขึ้นทั้งได้ยินเสียงตัวละครคุยกันชัดเจน เสียง BGM ช่วยสร้างบรรยากาศให้เกมเมอร์สนุกกับเกมต่างๆ ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า Advertisement ถึงตอนนี้จะมีหูฟังเกมมิ่ง 2022 จากแบรนด์น้องใหม่เปิดตัวมาหลายรุ่นและราคาไม่เกินพันบาทก็ตาม แต่ส่วนตัวผู้เขียนก็ยังสนับสนุนให้เพิ่มเงินอีกนิดแล้วซื้อหูฟังเกมมิ่งจากแบรนด์ชั้นราคาหลักพันบาทต้นๆ...

CaffeineAddictedNovember 30, 2022

หูฟัง true wireless แนะนํา
หูฟัง true wireless แนะนํา

Gaming Gear

HyperX Cloud Stinger 2 รุ่นใหม่ เสียงชัด เอฟเฟกต์จัดเต็ม เน้นสวมสบาย

HyperX Cloud Stinger 2 หูฟังเกมมิ่ง นุ่มสบาย สายเกมเมอร์โดยเฉพาะ ดีไซน์ใหม่ ไมค์ชัด HyperX Cloud Stinger 2 แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหูฟังราคาไม่ถึง 2 พันบาท เพราะเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชั่นปรับใหม่เกือบหมด หากเทียบกับ Stinger ในรุ่นแรก โดยเป็นหูฟังสำหรับเกมเมอร์มือใหม่ ที่ใส่ลูกเล่นมาสมกับเป็นซีรีส์ Cloud เลยทีเดียว...