การอ่าน ออกเสียง ร้อยแก้ว ม. 4

สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว เป็นการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดเจน และมีลีลาการอ่านเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟัง ทำให้เกิดความคล้อยตามไปกับ
เรื่องราวหรือบทประพันธ์ที่อ่าน

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

ตัวชี้วัด

ท 1.1   ม.1/1   อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความหมายของการอ่านออกเสียงได้    

2. อธิบายหลักการอ่านออกเสียงร้อยแก้วได้   

3. อ่านร้อยแก้วได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเรื่องอ่าน

การวัดผลและประเมินผล

1. วิธีการ

1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้

1.2 ตรวจใบงาน

2. เครื่องมือ

2.1แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน

2.2 แบบบันทึกการตรวจใบงาน

3. เกณฑ์

3.1 ผลงานมีความถูกต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐

3.2 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ ขึ้นไป

สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

  การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว เป็นการอ่านออกเสียงเพื่อความถูกต้อง ชัดเจน และมีลีลาการอ่านเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟังทำให้เกิดความคล้อยตามไปกับเรื่องราวหรือบทประพันธ์ที่อ่าน

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

ตัวชี้วัด

  อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้

  1. อธิบายหลักและวิธีการอ่านออกเสียงร้อยแก้วได้ถูกต้อง         

  2. อ่านออกเสียงร้อยแก้วได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน วิธีการอ่าน และเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน

การวัดผลและประเมินผล

1. วิธีการ

  1.1  สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้

  1.2  ตรวจใบงาน

2. เครื่องมือ

  2.1  แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน

  2.2 แบบบันทึกการตรวจใบงาน

3. เกณฑ์

  3.1 ผลงานมีความถูกต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

  3.2 ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ขึ้นไป

การอ่านร้อยแก้ว ร้อยกรอง

หลักในการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง

  1. ศึกษาลักษณะบังคับของคำประพันธ์ เช่น การแบ่งจังหวะจำนวนคำสัมผัสเสียง วรรณยุกต์เสียง

หนักเบา

  1. อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย
  2. อ่านตามบังคับสัมผัส เช่น กัด-ตะ-เว-ที เพื่อให้สัมผัสกับ สัตย์
  3. อ่านออกเสียง ร ล คำควบกล้ำให้ชัดเจน
  4. อ่านออกเสียงดังให้ผู้ฟังได้ยินทั่วถึง ไม่ดังหรือเบาจนเกินไป
  5. คำที่รับสัมผัสกันต้องอ่านเน้นเสียงให้ชัดเจน ถ้าเป็นสัมผัสนอกต้องทอดเสียงให้มีจังหวะยาวกว่าธรรมดา
  6. มีศิลปะในการใช้เสียง เอื้อนเสียง หรือหลบเสียง และทอดจังหวะให้ช้าจนจบบท
  7. ข้อควรคำนึงในการอ่านบทร้อยกรอง

การอ่านบทร้อยกรอง หรือทำนองเสนาะ ให้ไพเราะและประทับใจผู้ฟังมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้

  1. ก่อนอ่านทำนองเสนาะควรรักษาสุขภาพให้ดี มีความพร้อมทั้งกายและใจ จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น
  2. ตั้งสติให้มั่นคง ไม่หวั่นไหว ตื่นเต้น ตกใจ หรือประหม่า ควรมีสมาธิก่อนอ่านและขณะกำลังอ่านเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
  3. ก่อนอ่านควรตรวจดูบทอ่านอย่างคร่าวๆ และรวดเร็วเพื่อพิจารณาคำยาก หรือการผันวรรณยุกต์
  4. พิจารณาบทที่จะอ่าน เพื่อตัดสินใจ เลือกใส่อารมณ์ในบทอ่านให้เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อความ
  5. หมั่นศึกษาและฝึกฝนการอ่านทำนองเสนาะจากผู้รู้เกี่ยวกับกลวิธีต่าง ๆ อยู่เสมอจึงจะทำให้สามารถอ่านทำนองเสนาะได้อย่างไพเราะ

ที่มา : //www.dltv.ac.th/teachplan/episode/22471

การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว

ความหมายของการอ่านออกเสียง

การอ่านออกเสียง คือ การเปล่งเสียงตามอักษรถ้อยคำ และเครื่องหมายต่างๆ ที่กำหนดไว้ให้ถูกต้องชัดเจน เป็นที่เข้าใจแก่ผู้ฟัง

หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว

  1. ก่อนอ่านควรศึกษาเรื่องที่อ่าน
    • ศึกษาเนื้อหา
    • ศึกษาประเภทของเรื่องที่อ่าน
  1. อ่านออกเสียงดังพอเหมาะกับสถานที่และจำนวนผู้ฟัง
  2. อ่านให้คล่อง ฟังรื่นหู และออกเสียงให้ถูกต้อง ตามอักขรวิธี
    • อักขรวิธีในที่นี้ คือตัวอักษร สระ วรรณยุกต์
  1. อ่านออกเสียงให้เป็นเสียงพูดอย่างธรรมชาติที่สุด
  2. อ่านออกเสียงให้เหมาะกับประเภทของเรื่อง
  3. การอ่านในที่ประชุมต้องจับหรือถือบทอ่าน

ข้อควรคำนึงในการอ่านบทร้อยแก้ว

  1. เรื่องที่อ่านสื่ออารมณ์และวัตถุประสงค์ของผู้เขียน
  2. อ่านคำภาษาไทยให้ถูกต้องตามอักขรวิธี
  3. แบ่งวรรคตอนในการอ่าน
  4. อ่านออกเสียงดังพอประมาณ ไม่ตะโกนหรือเสียงเบา
  5. มีสมาธิในการอ่าน

ที่มา : //www.clearnotebooks.com/th/notebooks/1213900

สาระสำคัญ

        การอ่านออกเสียง  เป็นการอ่านให้ผู้อื่นฟัง  เพื่อให้เข้าใจอรรถรสเกิดอารมณ์และจินตนาการไปตามเนื้อเรื่อง  ผู้ที่อ่านออกเสียงจึงต้องมีน้ำเสียงสดใสไพเราะ  อ่านเว้นวรรคตอนและสะกดการันต์ได้ถูกต้อง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านร้อยกรองผู้อ่านต้องรู้จักฉันทลักษณ์ และท่วงทำนองการอ่านคำประพันธ์แต่ละชนิดด้วย  ดังนั้นผู้อ่านจึงควรฝึกฝนการอ่านออกเสียงให้ชำนาญไปตามความสามารถของตนบทหลักการที่ถูกต้อง  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นอีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมทางภาษาของชาติอีกทางหนึ่ง

  ๑. ความหมายของร้อยแก้ว

              ตามพจนานุกรมหมายความว่า “ความเรียงที่สละสลวย  ไพเราะด้วยเสียงและความหมาย” หรือ  หมายถึง  “ถ้อยคำที่เรียบเรียงขึ้นโดยไม่มีข้อบังคับหรือข้อแท้ต่างๆ  เช่น สัมผัส  เอก  โท  ครุ  ลหุ  คณะ  ฯลฯ  เป็นความเรียงที่เกลี้ยงเกลาสละสวย  ไพเราะงดงาม  ประหนึ่งการร้อยดวงแก้วที่แสนงามเข้าด้วยกัน”  

              ถึงแม้ว่าร้อยแก้วจะไม่บังคับว่าต้องใช้คำที่สัมผัสกัน  แต่บางครั้งร้อยแก้วที่มีสัมผัสซึ่งก็จะทำให้เกิดความไพเราะและแสดงถึงการเรียบเรียงร้อยแก้วนั้นอย่างพิถีพิถัน  เช่น  “...กรุงสุโขทัยนี้ดี  ในน้ำมีปลา  ในนามีข้าว  เจ้าเมืองบเอาจกอบในไพร่ลู่ทาง  เพื่อนจูงวัวไปค้าขี่ม้าไปขาย...”  เป็นข้อความในหลักศิลาจารึกหลักที่ ๑  ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่ใช้คำคล้องจองทำให้เกิดความไพเราะ

        ๒. รูปแบบของร้อยแก้ว
                รูปแบบของร้อยแก้วแบ่งเป็น  ๒  ประเภท  คือ

                ๑. บันเทิงคดี   คือ  งานเขียนที่แต่งขึ้นโดยจินตนาการ   มีความมุ่งหมายให้ผู้อ่านได้รับความบันเทิงเป็นสำคัญ   แต่ก็อาจให้ความรู้ความจรรโลงใจ  คติ  และแง่คิดต่างๆ  ด้วย  งานเขียนประเภทนี้ได้แก่  นิทาน  เรื่องสั้น  นวนิยาย  บทละครพูด  นิยายอิงพงศาวดาร  ตำนานต่างๆ  เป็นต้น

                ๒. สารคดี  คือ  งานเขียนที่แต่งขึ้นจากข้อเท็จจริง   เป็นงานเขียนที่มุ่งให้ความรู้และข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ  เช่น  สารคดีเชิงท่องเที่ยว  สารคดีเชิงชีวประวัติ  รายงานการประชุม ความเรียง  บทความ  ตำราทางวิชาการ  พงศาวดาร  กฎหมาย  จดหมายเหตุ  พระราชหัตถเลขา  พระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา  เป็นต้น

        ๓. หลักการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว
                การอ่านออกเสียงร้อยแก้วเป็นการอ่านออกเสียงเหมือนเสียงพูดธรรมดา  เพื่อรับสารจากเรื่องที่อ่าน  โดยมีหลักการอ่านดังนี้

                ๑. ศึกษาเรื่องที่อ่านให้เข้าใจ  เพื่อให้ทราบถึงสาระสำคัญของเรื่อง  อารมณ์และความรู้สึกที่ผู้เขียนตั้งใจจะสื่อให้ผู้อ่านทราบ  แล้วแบ่งวรรคตอนในการอ่านให้ถูกต้องว่าตอนใดควรเว้นวรรคน้อย  ตอนใดควรเว้นวรรคมาก

                ๒. ศึกษาหลักการอ่านคำในภาษาไทยให้ถูกต้องตามอักขรวิธี  การอ่านคำที่นิยมมาจากภาษาต่างประเทศ  ต้องอ่านให้ถูกต้องโดยยึดพจนานุกรม

                ๓. ต้องมีสมาธิในการอ่าน  คือ  ต้องมีความมั่นใจตัวเอง  ไม่อ่านผิด  อ่านตก  อ่านเติม  หรืออ่านผิดบรรทัด  ต้องควบคุมสายตาจากซ้ายไปขวาและย้อยกลับมาอีกบรรทัดหนึ่งอย่างว่องไวและแม่นยำ

                ๔. อ่านด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ   คือ  การอ่านให้มีน้ำเสียงเหมือนเสียงพูด  ไม่ดัดเสียงหรือใช้เสียงแหลมเกินไป เน้นเสียงหนักเบา  สูงต่ำ  ให้เป็นไปตามธรรมชาติโดยสอดคล้องกับเรื่องที่อ่าน

                ๕. อ่านออกเสียงให้ดังพอประมาณ  ไม่ตะโกนหรือเสียงแผ่วเกินไป  หากอ่านเสียงดังผ่านไมโครโฟนควรให้ปากห่างจากไมโครโฟนของแต่ละคน  และระมัดระวังอย่าให้เสียงหายใจเข้าไมโครโฟน  เพราะเสียงจะพร่าไม่น่าฟัง

                ๖. อ่านเว้นวรรคตอนให้ถูกต้อง  เป็นการกำหนดการอ่านให้เหมาะสม  ไม่อ่านเร็วหรือช้าเกินไป  ต้องอ่านให้จบคำและจบความ  ถ้าเป็นคำยาวหรือคำหลายพยางค์ไม่ควรหยุดกลางคำหรือตัดประโยคจนเสียความ

                ๗. อ่านอย่างมีลีลาและอารมณ์ตามเนื้อเรื่องที่อ่าน   คือ  เน้นคำสำคัญและคำที่ต้องการเพื่อให้เกิดภาพพจน์หรือจินตนาการ  การเน้นควรเน้นเฉพาะคำไม่ใช่เน้นทั้งวรรคหรือเน้นทั้งประโยค  เช่น  “แม่  คือผู้ให้กำเนิดและผู้มีพระคุณต่อเรา”  เน้นคำว่า “แม่”  เป็นต้น

                ๘. อ่านเครื่องหมายวรรคตอนให้ถูกต้อง  เช่น  คำที่ใช้อักษรย่อต้องอ่านให้เต็มคำดังตัวอย่าง  “คณะกรรมการแม่บ้าน ทบ. ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม”  ต้องอ่านออกเสียงว่า  “สมาคมแม่บ้านกองทัพบก  ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม”

                ๙. การผ่อนลมหายใจ  เมื่ออ่านจบย่อหน้าหนึ่งๆ  ควรผ่อนลมหายใจเล็กน้อย   เมื่ออ่านย่อหน้าใหม่จึงเน้นเสียงหรือทอดเสียง  เพื่อดึงดูดความสนใจ   จากนั้นก็อ่านตามปกติตามเนื้อหาที่อ่าน

                ๑๐. การจับหนังสือ  ควรวางหนังสือหรือบทอ่านบนฝ่ามือซ้าย  ยกขึ้นให้ได้ระดับตามความเหมาะสม  มือขวาคอยพลิกหนังสือหน้าถัดไปไม่ควรใช้นิ้วชี้ตามตัวหนังสือ

        ๔. การอ่านออกเสียงร้อยกรอง

                การอ่านออกเสียงร้อยแก้วเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การอ่านทำนองเสนาะ  พจนานุกรมพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒  ให้ความหมายไว้ว่า  “วิธีการอ่านออกเสียงอย่างไพเราะตามลีลาของบทร้อยกรองประเภท  โคลง  ฉันท์  กาพย์  กลอน”  ดังนั้นการอ่านทำนองต่างๆ ตามลักษณะของฉันทลักษณ์จึงเกิดขึ้น  เพราะฉันทลักษณ์ของบทร้อยกรองแต่ละประเภทมีการกำหนดทำนองให้แตกต่างกันออกไป  บทร้อยกรองบางชนิดผู้อ่านสามารถอ่านได้หลายทำนอง  เช่น

                กาพย์ยานี  ๑๑  สามารถอ่านได้หลายทำนอง  โดยจะอ่านเป็นทำนองกาพย์ยานี  หรือทำนองสรภัญญะ  หรือทองนองโอ้เอ้วิหารราย  เป็นต้น การอ่านร้อยกรองแต่ละประเภทนั้นสามารถอ่านได้หลายวิธีดังนี้

                ๑. การขับ  ได้แก่  การขับเสภา  การขับลำนำสู่ขวัญ  การขับลำนำกล่อมช้าง

       ๒. การร้อง  การร้องเพลงทำนองต่างๆ  ได้แก่  เพลงไทยเดิม  เพลงไทยสากล  หรือเพลงลูกทุ่ง  เป็นต้น

       ๓. การกล่อม  ได้แก่  การกล่อมเด็ก  การกล่อมพระบรรทม

       ๔. การเห่  ได้แก่  การเห่เรือ  การเห่ชมสิ่งต่างๆ

       ๕. การแหล่  ไก้แก่ การแหล่เทศน์  แหล่งเพลงต่างๆ  เช่น  เพลงขอทาน เป็นต้น

       ๖. การสวด  ได้แก่  การสวดคำฉันท์บูชาพระคุณครู  สวดสรภัญญะ  สวดโอ้เอ้วิหารราย

       ๗. การพากย์  ได้แก่  การพากย์โขน  หรือทำนองพากย์ในบทพากย์ต่างๆ 

       ๘. การว่า  ได้แก่  การว่าเพลงพื้นบ้าน  เช่น  เพลงโคราช  หมอลำกลอน ฯลฯ  เพลงปฏิพากย์ต่างๆ



            การอ่านวรรณคดีเป็นทำนองเสนาะมีคุณค่า  คือ  ทำให้ผู้เรียนสามารถจดจำเนื้อเรื่องได้และเกิดอารมณ์คล้อยตามต่างๆ  เช่น สนุกสนาน  เจ็บแค้น  เศร้าโศก  ตามเนื้อเรื่อง  ได้เห็นภาพ ได้ยินเสียง  เกิดความประทับใจในรสวรรณคดีและจำบทกวีได้เองโดยไม่ต้องท่องจำ  นอกจากผู้อ่านจะได้รับรสไพเราะจากการอ่านแล้ว  ผู้ฟังก็ได้รับรสไพเราะด้วยเช่นกัน

            ทำนองเสนาะของร้อยกรองแต่ละชนิดมีทำนองและให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน  เหมือนกับการร้องแพลง  หรือขับลำนำตามท่วงทำนองเพลงแต่ละประเภท  การอ่านทำนองเสนาะจึงเป็นเอกลักษณ์ของภาษาไทยและคนไทย  ดังนั้นคนไทยทุกคนจึงควรฝึกอ่านทำนองเสนาะในวรรณคดีเพื่อสืบทอดมรดกทางภูมิปัญญานี้ด้วยความภาคภูมิใจ 

         ๕. กลวิธีการอ่านออกเสียงร้อยกรอง

                ๑. ผู้อ่านทำนองเสนาะได้ไพเราะต้องเป็นผู้มีแก้วเสียงดี  น้ำเสียงแจ่มใส  คือ   มีเสียงใส  กังวานไม่แหบแห้งหรือแตกพร่า  เนื่องจากการอ่านเป็นเรื่องของการใช้เสียง  เมื่อจะคัดเลือกผู้อ่านเข้าแข่งขันการประกวดการอ่านทำนองเสนาะ  ผู้ที่มีเสียงดีย่อมสามารถใช้น้ำเสียงอ่านได้ไพเราะจับใจกว่าผู้ที่มีเสียงแหบแห้ง  สำหรับผู้มีน้ำเสียงไม่แจ่มใสถ้าฝึกหัดออกเสียงให้ถูกต้อง  จดจำทำนอง  ลีลา  ลักษณะฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์แต่ละประเภทได้  ก็สามารถอ่านออกเสียงให้น่าฟังได้แม้ไม่ไพเราะเท่ากับคนเสียงดีแต่คนที่อ่านได้ถูกต้องก็ยังนับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง 

                   ๒. ต้องมีความรู้เรื่องฉันทลักษณ์ของบทร้อยกรองที่จะอ่าน เช่น ถ้าทราบว่าเป็นฉันท์ก็ต้องอ่านให้ถูกต้องตามครุ ลหุ ของฉันท์ชนิดนั้นๆ

       

                ๓. จำทำนองเสนาะของร้อยกรองแต่ละชนิดได้อย่างแม่นยำ  ไม่หลงทำนอง  บางคนอ่านกลอนจบแล้วต่อด้วยกาพย์แต่อาจหลงอ่านกาพย์เป็นทำนองเดียวกับกลอนอยู่เป็นต้น 
       

                ๔. มีสมาธิในการอ่าน  ไม่อ่านตกหล่น  อ่านผิดหรืออ่านข้าม  บางคนอ่านข้ามบรรทัด ทำให้ข้อความไม่เชื่อมโยงต่อเนื่องกัน
       

                ๕. รักการอ่านทำนองเสนาะ  หมั่นฝึกฝนและมีความเชื่อมั่นในตนเอง

                ๖. เป็นผู้รักษาสุขภาพดี  รักษาแก้วเสียงและน้ำเสียง  ไม่นอนดึกจนเกินไป  ดื่มน้ำอุ่นเสมอ  ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  ชา  หรือกาแฟ  ไม่ตะโกนหรือกรีดร้องเสียงดังจนเกินไป
   
                    ๗. เป็นผู้มีบุคลิกดี  แต่งตัวสุภาพเหมาะสมกับโอกาส  เดินหรือนั่งตัวตรง  ไม่นั่งหลังค่อมหรือเดินห่อตัว  ยืนยืดอกสง่าผ่าเผย  จับหนังสือหรือบทอ่านให้มั่นคงโดยใช้แขนซ้ายหรือมือซ้ายจับหนังสือ  มือขวาช่วยพลิกเปลี่ยนหน้าหนังสือ  ให้หนังสือห่างจากระดับสายตาประมาณ  ๑  ฟุต  หากสายตาสั้นต้องสวมแว่นตา  ไม่ควรสวมแว่นตาดำเพราะไม่สุภาพ


                ๘. ซ้อมการอ่าน   เมื่อได้รับบทอ่านผู้อ่านจะต้องพิจารณาบทอ่านก่อนว่า  เป็นร้อยกรองประเภทใด  จำข้อบังคับ  ครุ  ลหุ  และลีลาการอ่านให้แม่นยำ  ลองฝึกอ่านในใจเพื่อจับใจความและอารมณ์ของเรื่อง  แล้วแบ่งวรรคตอน  แบ่งช่วงการอ่านให้ถูกต้อง  เมื่ออ่านต้องให้ได้อารมณ์ตามเนื้อเรื่อง

                ๙. ระมัดระวังการออกเสียงอักขระให้ชัดเจน  ไม่อ่านออกเสียงเลียนเสียงภาษาต่างประเทศ  ออกเสียงตัว  ร  ล  และคำควบกล้ำให้ชัดเจน  อ่านตามทำนองต้องพิจารณาด้วยว่าท้ายเสียงช่วงใดควรใช้เสียงสูง  ช่วงใดควรหลบเสียงต่ำ



                ๑๐. ศิลปะการใช้เสียง ผู้อ่านจะต้องรู้จักการผ่อนเสียง ทอดเสียง หลบเสีย เอื้อนเสีย ครั่นเสีย ครวญเสียง กระแทกเสีย ดังนี้
                    ๑๐.๑ การใช้ไมโครโฟน ไม่จ่อปากชิดไมโครโฟนจนเกินไปจะทำให้เสียงไม่ไพเราะ และได้ยินเสียงลมหายใจ อาจทำให้ผู้ฟังเกิดความรำคาญ
                    ๑๐.๒ การใช้เสียง  ควรออกเสียงให้ดังพอเหมาะ  ไม่ตะโกน  หรือดัดเสียงจนไม่เป็นธรรมชาติ  รู้จักใช้จังหวะในการอ่านเหมาะสมกับอารมณ์ของเรื่องที่อ่าน  เช่น  เมื่ออ่านถึงการปลอบโยน   ต้องอ่านช้าๆ  เนิบๆ  เมื่อแสดงอารมณ์โกรธจะต้องอ่านอย่างรวดเร็วกระแทกกระทั้น  เมื่อเกิดอารมณ์อ่อนหวาน

                    ๑๐.๓  การทอดเสียง คือ เมื่ออ่านใกล้จะจบต้องอ่านทอดเสียงผ่อนจังหวะให้ช้าลง

                    ๑๐.๔  การหลบเสียง  คือ การเปลี่ยนเสียงหรือหักเสียง  หลบจากเสียงสูงไปเสียงต่ำเพื่อไม่ต้องออกเสียงที่สูงเกินไป

                    ๑๐.๕  การเอื้อนเสียง  คือ การลากเสียงช้าๆ  และไว้หางเสียงเพื่อให้เข้าจังหวะและไพเราะ

                    ๑๐.๖  การครั่นเสียง  คือ  การทำเสียงให้สะดุดเมื่ออ่านถึงตอนที่สะเทือนอารมณ์

                    ๑๐.๗  การครวญเสียง  คือ  การเอื้อนเสียงให้เกิดความรู้สึกตามอารมณ์ของการคร่ำครวญ  รำพัน  วิงวอนหรือโศกเศร้า

                    ๑๐.๘  การกระแทกเสียง  คือ  การลงเสียงให้หนักเป็นพิเศษ  เมื่อต้องแสดงอารมณ์โกรธ  หรือแสดงความเข้มเข็ง

การอ่านร้อยแก้ว/ร้อยกรอง หมายถึงอะไร

การอ่านร้อยแก้ว ร้อยกรอง.
อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย.
อ่านตามบังคับสัมผัส เช่น กัด-ตะ-เว-ที เพื่อให้สัมผัสกับ สัตย์.
อ่านออกเสียง ร ล คำควบกล้ำให้ชัดเจน.
อ่านออกเสียงดังให้ผู้ฟังได้ยินทั่วถึง ไม่ดังหรือเบาจนเกินไป.

การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรองผู้อ่านควรปฏิบัติอย่างไร

1. อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์ ศึกษาการแบ่งวรรคตอน จำนวนคำ เสียงวรรณยุกต์ เสียงหนักเบา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคำประพันธ์แต่ละประเภท 2. อ่านให้มีลีลา รู้จักใช้เสียงเอื้อนและรู้จักทอดจังหวะให้เกิดความไพเราะ การอ่านคำประพันธ์ประเภทโคลง

การอ่านออกเสียงร้อยแก้วมีอะไรบ้าง

การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว หมายถึง การอ่านถ้อยคาที่มีผู้เรียบเรียงหรือประพันธ์ไว้โดยการเปล่ง เสียงและวางจังหวะเสียงให้เป็นไปตามความนิยม และเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟัง ซึ่งจะทาให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามไปกับเรื่องราว หรือรสประพันธ์ที่อ่าน

การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองที่ดีมีวิธีการอ่านอย่างไร

๑. อ่านออกเสียงคำให้ชัดเจนและถูกต้องตามอักขรวิธี ๒. อ่านให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ของบทร้อยกรองนั้น ๓. การอ่านออกเสียงทำนองเสนาะต้องรู้จักทอดจังหวะ เอื้อนเสียง หรือหลบเสียง มีเสียงสูงต่ำตามลักษณะของบทร้อยกรองแต่ละชนิด ๔. อ่านด้วยน้ำเสียงชัดเจน นุ่มนวลน่าฟัง เสียงไม่ค่อยหรือดังเกินไป

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita