โครงงาน เครื่องกด เจ ล แอลกอฮอล์อัตโนมัติ

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เรอ่ื ง เคร่อื งจา่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิ ( Automatic Alcohol Dispenser ) จัดทำโดย 1. นำยเดชำวัต แกว้ โก เลขท่ี 6 2. นำงสำวชนมน์ ภิ ำ วงั สำร เลขที่ 14 3. นำงสำวณฐั กฤตำ พันธ์ุเหม เลขท่ี 16 4. นำงสำวมณฑกำนต์ กนั ธรุ ะ เลขท่ี 23 5. นำงสำวหฤทชญำ แสงเขอ่ื นแกว้ เลขท่ี 29 6. นำงสำวธนธรณ์ ทฆี ำวงค์ เลขที่ 34 เสนอ นำยดำรงค์ คันธะเรศย์ รำยงำนโครงงำนคอมพวิ เตอรเ์ ลม่ นเ้ี ปน็ ส่วนหนงึ่ ของรำยวชิ ำ I30201 : IS1 กำรศึกษำค้นควำ้ และกำรสร้ำงองคค์ วำมรู้ (Independent Study) โรงเรยี นปวั ภำคเรียนที่ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5/1 ปีกำรศึกษำ 2564 สำนกั งำนเขตพนื้ ท่ีมัธยมศึกษำนำ่ น

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เร่ือง เครื่องจ่ายแอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ ( Automatic Alcohol Dispenser ) จดั ทำโดย 1. นำยเดชำวัต แก้วโก เลขท่ี 6 2. นำงสำวชนมน์ ภิ ำ วงั สำร เลขท่ี 14 3. นำงสำวณฐั กฤตำ พนั ธเุ์ หม เลขที่ 16 4. นำงสำวมณฑกำนต์ กนั ธรุ ะ เลขท่ี 23 5. นำงสำวหฤทชญำ แสงเขือ่ นแก้ว เลขท่ี 29 6. นำงสำวธนธรณ์ ทีฆำวงค์ เลขท่ี 34 เสนอ นำยดำรงค์ คนั ธะเรศย์ รำยงำนโครงงำนคอมพวิ เตอร์เลม่ น้เี ปน็ ส่วนหนึง่ ของรำยวิชำ I30201 : IS1 กำรศกึ ษำค้นควำ้ และกำรสรำ้ งองค์ควำมรู้ (Independent Study) โรงเรยี นปวั ภำคเรยี นท่ี 1 ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5/1 ปีกำรศกึ ษำ 2564 สำนักงำนเขตพน้ื ที่มัธยมศึกษำน่ำน

ก คานา โครงงำนเลม่ นเี้ ปน็ ส่วนหนง่ึ ของวิชำ I30201 : IS1 กำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสรำ้ งองค์ ควำมรู้ (Independent Study) สำหรับนกั ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 5 จัดทำขึ้นเพื่อทำควำมสะอำด และป้องกนั แบคทีเรยี ซ่ึงเป็นตน้ กำเนิดของโรคต่ำง ๆ โดยไร้กำรสัมผัส ให้กบั นักเรียนและบุคลำกร ภำยในโรงเรียนปัว โดยรำยงำนโครงงำนเล่มนจี้ ะมีเนือ้ หำเกี่ยวกบั กำรจดั ทำโครงงำน ซึ่งจะมบี อกใน เรือ่ งของท่ีมำและควำมสำคัญในกำรทำโครงงำนน้ี เอกำรท่เี ก่ยี วขอ้ ง ขั้นตอนกำรดำเนินงำน ผลกำร ดำเนินงำนของโครงงำน ดังน้นั ผจู้ ดั ทำจงึ ได้ทำจงึ ได้สร้ำงเคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิข้ึนมำเพ่อื ใชใ้ นกำร แก้ปญั หำในกำรใชข้ วดกดเจลแบบเกำ่ และเปน็ ลดกำรตดิ ตอ่ โรคทำงกำรสัมผสั ผูจ้ ดั ทำหวังเปน็ อย่ำงย่งิ วำ่ โครงงำนเลม่ นจี้ ะสำมำรถชว่ ยเพิ่มควำมรู้ ควำมเข้ำใจ แก่ผ้อู ำ่ น หรอื นกั เรียน นกั ศกึ ษำ ที่กำลังหำขอ้ มูลเรอ่ื งน้ีอยู่ หำกมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลำดประกำรใด ผ้จู ดั ทำขอน้อมรับไวแ้ ละขออภัยมำ ณ ทนี่ ด้ี ว้ ย คณะผจู้ ดั ทำ

ข หัวข้อของโครงงาน : เคร่อื งจำ่ ยแอลกอฮอลอ์ ัตโนมัติ ( Automatic Alcohol Dispenser ) ประเภทของโครงงาน : โครงงำนคอมพิวเตอร์ ผูเ้ สนอโครงงาน : นำยเดชำวัต แก้วโก และคณะ ครูทปี่ รึกษาโครงงาน : นำยภคพล วัฒนะ และ นำยดำรงค์ คันธะเรศย์ ปกี ารศกึ ษา : 2564 บทคัดย่อ กำรทำโครงงำนนม้ี ีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือ 1) สร้ำงและประสิทธภิ ำพชุดกดขวดเจลล้ำงมืออัตโนมตั ิ และ 2) หำควำมพงึ พอใจของผใู้ ชช้ ุดกดขวดเจลลำ้ งมอื อัตโนมัตโิ ดยมกี ลุ่มเปำ้ หมำย ได้แก่ นกั เรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 5/1 โรงเรียนปวั จำนวน 36 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ 5/2 โรงเรียนปวั จำนวน 40 คน เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในกำรวเิ ครำะหผ์ ล คอื 1) แบบทดสอบหำประสทิ ธกิ ำรทำงำนของ เคร่อื งจ่ำยแอลกอฮอล์อัตโนมัติ 2) แบบประเมินหำควำมพงึ พอใจของผ้ใู ช้เคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์ อัตโนมัติ สถติ ิที่ใช้ในวเิ ครำะห์ผล คอื ค่ำเฉลยี่ และคำ่ เบ่ยี งเบนมำตรฐำน จำกกำรทำแบบสอบถำม พบว่ำ 1) กำรทดสอบหำประสทิ ธิภำพกำรทำงำนของเครื่องจ่ำยแอลกอฮอล์อัตโนมัติ สำมำรถจ่ำยเจล แอลกอฮอล์ให้ทำงำนออกใช้งำนไดด้ ีทุกครัง้ และของเคร่ืองจ่ำยแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิสำมำรถจ่ำยเจล ใชง้ ำนได้จนหมดขวด มีค่ำเฉลยี่ เทำ่ กบั 85 ครงั้ 2) กำรหำควำมพึงพอใจของผูใ้ ช้ของเครื่องจ่ำย แอลกอฮอล์อตั โนมัติพบวำ่ ประสทิ ธภิ ำพกำรทำงำนของของเครือ่ งจ่ำยแอลกอฮอล์อัตโนมัติสรปุ ภำพ โดยรวมอยูใ่ น ระดับมำก คำ่ เฉลย่ี 4.52

ค กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงำนเรอ่ื งน้ีประกอบด้วยกำรดำเนนิ งำนหลำยข้ันตอน นบั ตงั้ แตก่ ำรศึกษำหำข้อมูล กำรทดลอง กำรวเิ ครำะหผ์ ลกำรทดลอง กำรจดั ทำโครงงำนเป็นรปู เลม่ จนกระทั่งโครงงำนนี้สำเร็จ ลุลว่ งไปได้ดว้ ยดี ตลอดระยะเวลำดงั กล่ำวคณะผูจ้ ดั ทำโครงงำนไดร้ ับควำมช่วยเหลอื และคำแนะนำ ในดำ้ นตำ่ งๆ ตลอดจนได้รับกำลังใจจำกบคุ คลหลำยท่ำน คณะผจู้ ัดทำตระหนกั และซำบซ้งึ ในควำม กรณุ ำจำกทกุ ๆท่ำนเปน็ อย่ำงยงิ่ ณ โอกำสน้ี ขอขอบคุณทุกๆ ท่ำน ดงั นี้ กรำบขอบพระคุณ คณุ ครูภคพล วัฒนะ ผูใ้ ห้คำแนะนำและไดเ้ มตตำใหค้ วำมช่วยในทุกๆ ด้ำน ตลอดจนเอื้อเฟอื้ ห้องปฏิบัตกิ ำรและเครือ่ งมือต่ำงๆในกำรทำโครงงำนน้ีจนประสบควำมสำเร็จ กรำบขอบพระคุณ คุณครูดำรงค์ คันธะเรศย์ ทใ่ี ห้ควำมอนเุ ครำะห์ และให้ควำมชว่ ยเหลอื ใน ด้ำนต่ำงๆ ท่คี อยดูแลเอำใจใส่และใหค้ ำปรึกษำอย่ำงดี ขอขอบคุณ เพ่ือนๆ ที่ไดใ้ ห้ควำมชว่ ยเหลอื ในกำรทำโครงงำน ท้ำยทีส่ ดุ ขอกรำบขอบพระคุณ คณุ พ่อและคุณแม่ ผู้เป็นที่รกั ผู้ให้กำลงั ใจและให้โอกำส กำรศกึ ษำอนั มคี ำ่ ย่ิง คณะผูจ้ ดั ทำ

สารบญั ง คำนำ หน้า บทคัดย่อ กิตติกรรมประกำศ ก สำรบญั ข สำรบัญตำรำง ค สำรบัญภำพ ง บทที่ 1 บทนำ ฉ ช ทีม่ ำและควำมสำคัญ วตั ถปุ ระสงค์ 1 ขอบเขตของโครงงำน 2 ปัญหำ 2 สมมติฐำน 2 นิยำมศพั ท์เฉพำะ 3 ผลท่ีคำดวำ่ จะไดร้ ับ 3 บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยทีเ่ กี่ยวข้อง 3 โควิด 19 วธิ ีกำรปอ้ งกนั โควดิ 19 4 ประเภทของแอลกอฮอล์ 7 กำรฆำ่ เช้ือของเจลแอลกอฮอล์ 9 โปรแกรมทีใ่ ช้เขียนโค้ด 12 ระบบกำรทำงำนของเครอ่ื งจ่ำยอตั โนมัติ 15 บทที่ 3 อุปกรณแ์ ละวิธกี ำรดำเนินงำน 16 ประชำกรและกลุ่มตัวอยำ่ ง ขน้ั ตอนกำรสรำ้ งเคร่ืองจ่ำยเจลอัตโนมตั ิ 21 กำรวิเครำะห์ผลและสถติ ิท่ีใช้ในกำรวเิ ครำะห์ผล 22 23

สารบัญ(ตอ่ ) จ บทท่ี 4 ผลกำรดำเนินงำน หน้า บทที่ 5 สรปุ ผลกำรดำเนินงำน 26 29 สรุปผลกำรดำเนนิ งำน 29 ประโยชน์ที่ไดร้ บั 29 ปญั หำและอุปสรรค 29 ข้อเสนอแนะ 30 บรรณำนุกรม 31 ภำคผนวก

สารบญั ตาราง ฉ ตารางท่ี หน้า 26 ตำรำงท่ี 4.1 ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถำม 27 ตำรำงที่ 4.2 ประสิทธภิ ำพของเครอ่ื งจ่ำยแอลกอฮอล์อตั โนมัติ 27 ตำรำงท่ี 4.3 ระดบั ควำมพึงพอใจ

สารบัญภาพ ช ภาพท่ี หน้า ภำพที่ 1 Coronaviruses 4 ภำพท่ี 2 เมทำนอล 10 ภำพท่ี 3 เอทำนอล 11 ภำพที่ 4 ไอโซโพรพำนอล 11 ภำพท่ี 5 บวิ ทำนอล 12 ภำพที่ 6 Arduino 15 ภำพที่ 7 kidbright IDE 16 ภำพท่ี 8 เครอื่ งจักรอัตโนมัติ 17 ภำพท่ี 9 Proximity Sensors 18 ภำพที่ 10 เซนเซอร์ตรวจจบั วัตถุ 19 ภำพที่ 11 เซนเซอรว์ ดั ควำมดัน (Pressure sensors) 20 ภำพท่ี 12 วัสดุ อปุ กรณ์ ในกำรทำโครงงำน 32 ภำพที่ 13 ทดลองระบบเซน็ เซอร์ 33 ภำพที่ 14 คณะผู้จดั ทำโครงงำน 34 ภำพที่ 15 ลกั ษณะภำยในตัวเคร่อื งหลงั ประกอบเสร็จ 35

บทท่ี 1 บทนา 1.1 ทมี่ าและความสาคญั โรคโควิด-19 (COVID-19, ยอ่ จำก Coronavirus disease 2019) เป็นโรคตดิ เช้อื ทำงเดิน หำยใจท่ีเกิดจำกไวรสั โคโรนำทีก่ ลำยพันธใุ์ นธรรมชำตเิ ปน็ สำย พนั ธ์ใุ หม่ ซ่ึงมชี ่ือทำงกำรว่ำ SARS- CoV-2 ทำใหเ้ กดิ ไข้ ไอ และอำจมปี อดอักเสบเชื้อไวรัสโคโรนำ่ (CoVs) เปน็ ไวรัสชนดิ อำร์เอ็นเอสำย เดยี่ ว (single stranded RNA virus) ใน Family Coronaviridae มรี ำยงำนกำรพบเช้อื มำต้ังแตช่ ่วง ปี ค.ศ. 1965 โดยสำมำรถตดิ เชอื้ ได้ทั้งในคนและสตั ว์ เชน่ หนู ไก่ ววั ควำย สุนัข แมว กระตำ่ ย และ สุกร ประกอบด้วยชนิดยอ่ ยหลำยชนดิ และทำใหม้ ีอำกำรแสดงในระบบต่ำงๆ เชน่ ระบบทำงเดนิ หำยใจ (รวมถงึ โรคทำงเดนิ หำยใจเฉยี บพลันรุนแรง หรือซำร์ส; SARSCoV) ระบบทำงเดินอำหำร ระบบประสำท หรอื ระบบอนื่ ๆ ซ่งึ กำรแพร่ของเช้ือไวรสั น้ีมีกำรระบำดใหญไ่ ปท่วั ส่งผลกระทบแก่ หลำยประเทศทัว่ โลก ทำให้สถำนกำรณ์ในสงั คมไทยไมส่ ำมำรถหลีกเลยี่ งปญั หำเร่ืองเชือ้ โรคไดเ้ ลย เรำ ยงั ตอ้ งออกไปสัมผัสมลภำวะ เช้ือแบคทีเรีย ทำใหต้ ดิ เชื้อโรคและมโี อกำสทจ่ี ะล้มป่วยได้ซ่งึ มคี วำม เปน็ ไปได้สูงทจี่ ะเกดิ ขน้ึ เพรำะในชีวติ ประจำวันของเรำสว่ นมำกจะใช้มอื ในกำรดำรงชวี ติ ประจำวนั ของเรำส่วนใหญ่ เชน่ รับประทำนอำหำร, สมั ผัส กบั ผู้อืน่ ฯลฯ ซง่ึ ทำให้ผู้ทสี่ ัมผัสใกลช้ ิดกับผูต้ ดิ เชื้อ หรอื อำจจะสัมผัสกับเชอ้ื ที่ออกมำกับส่งิ คัดหลง่ั จำกระบบหำยใจของผปู้ ว่ ย (น้ำลำย เสมหะ น้ำมูก) แล้วอำจจะนำเข้ำสู่ รำ่ งกำยทำงปำก จมูก ตำ (อวยั วะทมี่ ีเยื่อเมือกบ)ุ โดยไดอ้ ยู่ในชมุ ชนท่ีมผี ้ปู ว่ ยอยู่ ด้วย โดยไม่ระมัดระวังเพยี งพอ ตำมคำแนะนำจำกหนว่ ยงำนสำธำรณสุขในพ้นื ท่วี ธิ ปี อ้ งกนั กำรแพรร่ ะบำดของโรคโควดิ -19 ลำ้ งมือบ่อยๆ ด้วยสบแู่ ละ หรือเจลลำ้ งมอื ที่มสี ว่ นผสมหลกั เป็น แอลกอฮอล์รักษำระยะห่ำงท่ี ปลอดภัยจำกผทู้ ี่ไอหรือจำมไมส่ มั ผสั ตำ จมูก หรือปำกปดิ จมกู และปำก ดว้ ยข้อพบั ด้ำนในขอ้ ศอกหรือ กระดำษชำระเม่ือไอหรือจำมเกบ็ ตัวอยบู่ ้ำน โดยกำรลำ้ งมือ ดว้ ยนำ้ และสบู่ ใหท้ ั่ว และนำนพอ (ประมำณ 20 วนิ ำที) และเช็ดมือให้ แห้ง –กำรล้ำงมือด้วยนำ้ และสบู่จะกำจัดครำบสกปรก และฆำ่ เชือ้ ไวรสั ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งใชส้ บู่ท่ผี สมสำรฆำ่ เชอ้ื –ถ้ำไม่มีน้ำและสบู่ จงึ ใชแ้ อลกอฮอล์(60-70 % ซ่ึงมกั อยใู่ นรูปเจล หรอื สเปรย์) ทำทว่ั มือท่ีไม่เปยี กเพ่ือฆ่ำเชอ้ื โรค

2 คณะผู้จดั ทำเลง็ เห็นถึงปญั หำของขวดกดเจลธรรมดำที่ใช้ในทัว่ ไปท่ีมักเป็นกำรกดเจลเองซึ่ง ยงั มกี ำรสมั ผสั อยู่ทำให้ส่งิ สกปรกนั้นไปติดอยูท่ ตี่ ัวปั๊มดว้ ยเหตนุ ้ีคณะผูจ้ ัดทำเลยคดิ เครือ่ งจ่ำยเจล แอลกอฮอล์อตั โนมัติเพื่อให้อำนวยควำมสะดวกในกำรใช้ กำรสรำ้ งเคร่อื งจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมตั ิ ข้ึนเพื่อใช้งำนไดจ้ ริงเพ่ือควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนที่ หลีกเล่ียงไม่ไดเ้ พรำะกำรทำงำนเซอร์วสิ พบ เจอผู้คนหลำกหลำยและจับซ้อมส่ิงของต่ำงๆท่ีหลีกเล่ียงไม่ได้ 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพอ่ื สร้ำงและหำประสิทธิภำพของเครื่องกดแอลกอฮอลแ์ บบอัตโนมัติ 1.2.2 เพอื่ ป้องกนั กำรแพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) จำกกำร สัมผัสขวดเจลแอลกอฮล์ 1.2.3 เพอ่ื หำควำมพึงพอใจของผูใ้ ช้ทมี่ ีต่อกำรใช้เคร่อื งกดเจลอัตโนมัติ 1.3 ขอบเขตของโครงาน ประชำกรและกลุ่มตวั อยำ่ ง  ประชำกรที่ใชใ้ นกำรศึกษำครั้งนี้ คือ นักเรียนโรงเรียนปวั ทุกระดับชนั้ สำนกั งำนเขต พน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ เขต 37 ภำคเรยี นที่ 1 ปกี ำรศึกษำ 2564  กล่มุ ตัวอยำ่ งทดลอง ทใี่ ช้ในกำรศกึ ษำ หำประสทิ ธภิ ำพของ Automatic Alcohol Dispenser (เครอ่ื งจำ่ ยแอลกอฮอล์อตั โนมตั ิ) คือ นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 5/1 โรง เรียนปัว จำนวน 36 คน  กลมุ่ ตวั อย่ำงจริง ทใี่ ช้ในกำรศึกษำ หำประสิทธภิ ำพของ Automatic Hand Sanitizer Machine (เครอื่ งจำ่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมตั )ิ คือ นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ 5/2 โรง เรยี นปวั จำนวน 40 คน 1.4 ปัญหา นักเรียนโรงเรยี นปัวไม่เหน็ ถงึ ควำมสำคญั ต่อกำรใช้เจลแอลกอฮอลใ์ นกำรล้ำงมือ

3 1.5 สมมตฐิ าน กำรใชเ้ จลแอลกอฮอล์ในกำรลำ้ งมือจะช่วยให้นักเรียนโรงเรียนปวั มีควำมเส่ียงต่อกำรติดเชื้อ ไวรสั โควดิ -19 นอ้ ยลง รวมถึงป้องกนั เชื้อไวรสั อ่นื ๆ 1.6 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ ประสทิ ธภิ ำพ หมำยถึง ควำมคงทน ควำมแข็งแรงของผลติ ภัณฑ์ อตั รำกำรฉดี ควำมแม่นยำ้ ในกำรตรวจจบั ของเซน็ เซอร์ และ ควำมเร็วของกำรตอบสนองของเครื่องจำ่ ยแอลกอฮอล์ วัดผลโดย แบบประเมนิ ควำมพงึ พอใจของผใู้ ช้งำนจริง 1.7 ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ 1.7.1 สำมำรถเป็นครื่องจำ่ ยแอลกอฮอล์ทีใ่ ห้ควำมสะดวกสบำยแกผ่ ู้ใช้ได้ 1.7.2 สำมำรถลดกำรแพรก่ ระจำ่ ยของเช้ือไวรัสโคโรนำ่ (COVID-19) จำกกำรสัมผสั ขวดเจล แอลกอฮอลไ์ ด้

บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ ง ในกำรศึกษำครั้งน้ีได้ศกึ ษำเอกสำรท่เี กี่ยวข้องกบั โครงงำนและกำรสรปุ ได้ ดังน้ี 2.1 โควดิ 19 2.2 วิธีกำรปอ้ งกนั โควิด 19 2.3 ประเภทของแอลกอฮอล์ 2.4 กำรฆำ่ เชื้อของเจลแอลกอฮอล์ 2.5 โปรแกรมที่ใช้เขยี นโคด้ 2.6 ระบบกำรทำงำนของเครื่องจำ่ ยอัตโนมัติ 2.1 โควดิ 19 2.1.1 ไวรัสโคโรนา่ คืออะไร ไวรสั โคโรนำเป็นไวรสั ในวงศใ์ หญ่ที่เปน็ สำเหตุของโรคท้งั ในสัตว์และคน ในคนนน้ั ไวรสั โคโร นำหลำยสำยพันธุท์ ำให้เกิดโรคระบบทำงเดนิ หำยใจต้ังแตโ่ รคหวัดธรรมดำจนถงึ โรคทม่ี ีอำกำรรนุ แรง เชน่ โรคทำงเดินหำยใจตะวนั ออกกลำง (MERS) และโรคระบบทำงเดนิ หำยใจเฉยี บพลันรำ้ ยแรง (SARS) ไวรัสโคโรนำทีค่ ้นพบล่ำสดุ ทำใหเ้ กดิ โรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโควิด 19 ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) ภำพที่ 1 Coronaviruses ( ทีม่ ำ : who world health organization )

5 2.1.2 โรคโควิด 19 คืออะไร โรคโควดิ 19 คือโรคตดิ ต่อซึง่ เกดิ จำกไวรสั โคโรนำชนดิ ท่มี กี ำรคน้ พบล่ำสุด ไวรัสและโรคอบุ ัติ ใหม่น้ไี ม่เป็นทีร่ จู้ กั เลยก่อนที่จะมกี ำรระบำดในเมืองอู่ฮ่นั ประเทศจีนในเดือนธันวำคมปี 2019 ขณะน้ี โรคโควดิ 19 มีกำรระบำดใหญไ่ ปทวั่ ส่งผลกระทบแก่หลำยประเทศทวั่ โลก (World Health Organization , 2564:ออนไลน์) 2.1.3 ต้นกาเนิดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ต้นตอของไวรสั นำ่ จะมำจำกกำรที่ไวรัสจำกสตั ว์ตัวกลำงระบำดมำสคู่ น ผปู้ ่วยรำยแรกเท่ำท่ี ทรำบกัน เร่ิมมีอำกำรต้ังแตว่ ันท่ี 1 ธันวำคม และไมม่ ีควำมเชื่อมโยงกบั ตลำดต้องสงสัยในเมอื งอู่ฮน่ั ประเทศจีน แต่ผู้ปว่ ยหลำยรำยอำจมมี ำต้งั แต่ชว่ งกลำงเดือนพฤศจิกำยนหรอื ก่อนหนำ้ นั้น มกี ำรเกบ็ ตัวอย่ำงจำกสิ่งแวดลอ้ มในตลำดไปสง่ ตรวจและพบเชื้อไวรัสและพบมำกทส่ี ุดในบรเิ วณทคี่ ำ้ สตั วป์ ำ่ และสัตวเ์ ลีย้ งในฟำร์มและตลำดอำจเป็นต้นกำเนดิ ของไวรสั หรอื อำจมีบทบำทในกำรขยำยวง ของกำรระบำดในระยะเริ่มแรก ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.1.4 เช้อื โควิด-19 สายพันธท์ุ ม่ี ีการระบาดแพร่หลายในประเทศไทย สำยพนั ธุอ์ ังกฤษ (B.1.1.7) พบครง้ั แรกท่เี มืองเคนต์ ขององั กฤษ เมื่อวันท่ี 20 กนั ยำยน 2563 และเขำ้ มำระบำดในประเทศไทยเม่อื ปลำยเดือนมนี ำคม 2564 ซึ่งจำกข้อมูลในห้องทดลองพบว่ำ สำย พันธน์ุ ี้มีกำรแพรก่ ระจำยไดง้ ่ำยขึ้นกว่ำสำยพนั ธุ์อืน่ ๆประมำณ 40-70% นอกจำกน้ยี งั พบวำ่ มีควำม รนุ แรงมำกขนึ้ ทำให้มอี ตั รำกำรเจบ็ ปว่ ยและเสยี ชีวิตสงู ขนึ้ ถงึ 30% สำยพันธแ์ุ อฟรกิ ำใต้ (501Y.V2 หรอื B.1.351) พบครัง้ แรกในอ่ำวเนลสันแมนเดลำ เมืองอสี เทริ ์นเคป ของแอฟริกำใต้ เมื่อเดอื นตุลำคม 2563 ซึ่งในประเทศไทยตรวจพบบริเวณคลัสเตอร์ท่ีตำก ใบ จ.นรำธวิ ำส ในชว่ งพฤษภำคม 2564 ไวรสั สำยพันธน์ุ ้ีมีกำรกลำยพนั ธ์ุในตำแหนง่ สำคัญ จึงทำให้ เชื้อไวรสั มคี วำมสำมำรถในกำรหลบหลกี ภูมิค้มุ กันของร่ำงกำยท่ีสรำ้ งข้นึ มำได้ น่ันหมำยควำมว่ำผู้ที่ เคยตดิ เชื้อแล้ว หรือไดร้ บั วคั ซีนแล้ว แมจ้ ะมภี มู คิ ุ้มกนั กอ็ ำจจะยังสำมำรถติดเช้อื โควิด-19 สำยพันธุ์ แอฟริกำใต้ซ้ำได้อีก นอกจำกนี้ยงั มีคุณสมบัติจบั ตวั เซลลไ์ ด้ดีข้ึน จงึ ทำให้ตดิ เชื้อง่ำยขึ้นด้วย สำยพันธุอ์ ินเดีย (B.1.617.1 และ B.1.617.2) พบคร้งั แรกในประเทศอนิ เดยี กอ่ นจะมกี ำร กระจำยไปในหลำยสบิ ประเทศ โดยในประเทศไทยพบท่ีคลัสเตอร์แคมปค์ นงำนหลักส่ี ไวรัสสำยพนั ธ์ุ นี้ได้รับกำรยกระดบั เปน็ ไวรสั กลำยพนั ธ์ุที่นำ่ กังวลใจ (VOC) ในต้นเดือนพฤษภำคม 2564 เนื่องจำก มี กำรแพรร่ ะบำดไดร้ วดเร็วกวำ่ สำยพันธ์ุอังกฤษถงึ 60% (ภำควิชำจุลชีววิทยำ คณะแพทยศำสตร์ศิริ รำชพยำบำล มหำวทิ ยำลัยมหิดล ,2564 :ออนไลน)์

6 2.1.5 โควดิ -19 สายพันธ์ุเดลตา้ เบตา้ อลั ฟ่า คอื อะไร หำกใครตดิ ตำมข่ำวเกยี่ วกับกำรแพร่ระบำดของเช้ือโควิด-19 ในระยะนี้กม็ ักจะได้ยินคำวำ่ เชื้อโควิดสำยพนั ธ์ุเดลต้ำ สำยพันธอ์ุ ลั ฟำ่ สำยพนั ธเ์ุ บต้ำ ฯลฯ ซึ่งหลำยคนก็สงสยั วำ่ มันแตกตำ่ งจำก สำยพนั ธท์ุ เี่ รำกลำ่ วมำแลว้ ขำ้ งตน้ อยำ่ งไร? แทจ้ ริงๆแล้วมนั กค็ อื สำยพนั ธุเ์ ดียวกันน่ันเอง แต่ทำง องค์กำรอนำมยั โลก (WHO) มกี ำรเปลย่ี นชอื่ ในกำรเรียกสำยพันธโุ์ ควิด-19 จำกช่อื ประเทศทีพ่ บเช้ือ ครัง้ แรกเปน็ ระบบตวั อักษรภำษำกรีกแทน เชน่ อัลฟำ่ เบต้ำ แกมมำ และเดลต้ำ เพือ่ ลดกำรตีตรำ ประเทศนัน้ ๆ วำ่ เปน็ ต้นตอกำรระบำดของเชื้อโรคโควิด-19 โดยมกี ำรบญั ญตั ชิ ื่อเรียกสำยพันธโุ์ ควดิ ใหม่ ดังน้ี สำยพันธ์อุ ัลฟ่ำ (Alpha) ใช้เรยี กแทนสำยพันธอุ์ ังกฤษ (B.1.1.7) สำยพันธุเ์ ดลตำ้ (Delta) ใช้เรียกแทนสำยพันธ์อุ นิ เดยี (B.1.617.2) สำยพันธเ์ุ บตำ (Beta) ใช้เรยี กแทนสำยพนั ธุ์แอฟริกำใต้ (B.1.351) สำยพนั ธแ์ุ กมมำ (Gamma) ใชเ้ รยี กแทนสำยพนั ธุบ์ รำซิล (P.1) 2.1.6 อาการของโรคโควิด 19 คอื อะไร อำกำรทัว่ ไปของโรคโควิด 19 พี่พบมำกที่สดุ คือ ไข้ ไอ ลน้ิ ไม่รับรส จมกู ไม่ได้กลน่ิ และ ออ่ นเพลีย อำกำรท่ีพบนอ้ ยกว่ำแตอ่ ำจมผี ลต่อผปู้ ่วยบำงรำยคอื ปวดเมื่อย ปวดหัว คดั จมูก นำ้ มูก ไหล เจ็บคอ ท้องเสยี ตำแดง หรือผนื่ ตำมผวิ หนัง หรือสผี ิวเปลีย่ นตำมนิ้วมือนิ้วเทำ้ อำกำรเหล่ำนี้ มักจะไม่รนุ แรงนกั และค่อยๆ เร่มิ ทลี ะน้อย บำงรำยตดิ เชื้อแตม่ อี ำกำรไมร่ นุ แรง ผู้ป่วยสว่ นมำก (80%) หำยป่วยได้โดยไมต่ ้องเข้ำรกั ษำในโรงพยำบำล ประมำณ 1 ใน 5 ของผู้ ตดิ เชอื้ โควิด 19 มีอำกำรหนักและหำยใจลำบำก ผ้สู ูงอำยแุ ละมโี รคประจำตวั เช่น ควำมดันโลหิตสงู โรคหัวใจ โรคเบำหวำน หรือมะเรง็ มีแนวโนม้ ท่ีจะมีอำกำรปว่ ยรุนแรงกว่ำ อย่ำงไรก็ตำมทุกคน สำมำรถตดิ โรคโควิด 19 ได้และอำจป่วยรุนแรง ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.1.7 การแพร่เชือ้ โรคโควดิ 19 กำรแพร่เช้ือโรคโควดิ 19น้ีโดยหลกั แลว้ แพร่จำกคนสคู่ นผำ่ นทำงฝอยละอองจำกจมูกหรือปำก ซึ่งขับออกมำเมื่อผปู้ ว่ ยไอหรือจำม เรำรบั เช้อื ไดจ้ ำกกำรหำยใจเอำฝอยละอองเข้ำไปจำกผูป้ ่วยหรือ จำกกำรเอำมือไปจบั พืน้ ผิวที่มีฝอยละอองเหลำ่ นั้นแลว้ มำจับตำมใบหนำ้ ระยะเวลำนับจำกกำรติดเช้ือ และกำรแสดงอำกำร (ระยะฟักตวั ) มตี ง้ั แต่ 1-14 วันและมีคำ่ เฉลย่ี อยู่ที่ 5-6 วันเกิน 97% ของผู้ป่วย เร่มิ มอี ำกำรภำยใน 14 วนั กำรเพม่ิ จำนวนของไวรสั เกิดขน้ึ ในระบบทำงเดินหำยใจสว่ นบนและในปอด มีงำนวจิ ยั ในชว่ งแรกระบุวำ่ กำรเพ่มิ จำนวนของไวรัสไดใ้ นระบบทำงเดินอำหำรแต่กำรติดต่อโดยระบบ

7 ทำงเดนิ อำหำรยังไม่เปน็ ทีย่ นื ยนั ชว่ งพีคของกำรแพรเ่ ชอื้ น่ำจะเกิดข้นึ ในชว่ งแรกท่ีแสดงอำกำรและ ลดลงหลังจำกนนั้ กำรแพร่เชอื้ ก่อนแสดงอำกำรอำจเกดิ ขนึ้ ไดอ้ ย่ำงไรกต็ ำมหำกไม่มีอำกำรไอ (กลไก หลักในกำรขับไวรัสออกมำ) อำจจำกดั กำรแพร่เช้อื ในชว่ งนนั้ ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.1.8 เราควรทาอยา่ งไรหากมีอาการของโรคโควิด 19 และควรจะไปพบแพทย์เม่อื ใด หำกมอี ำกำรไม่รนุ แรงเชน่ ไอเล็กนอ้ ยหรือไขต้ ่ำๆ โดยทัว่ ไปแลว้ ไมจ่ ำเป็นต้องพบแพทย์ อยู่ บ้ำน กักตัวเอง และตดิ ตำมดูอำกำร ปฏิบตั ติ ำมข้อแนะนำของทำงกำรในกำรแยกตวั เองจำกผู้อน่ื แต่ อย่ำงไรกต็ ำมหำกคุณเปน็ ผปู้ ่วยโรคโควิด 19 (ยืนยันโดยกำรตรวจ) ท่ำนควรปฏบิ ตั ิตำมมำตรกำร ของภำครัฐ อย่ำงไรกต็ ำม หำกท่ำนอยู่ในพ้นื ทีท่ ่มี ีกำรระบำดของมำลำเรยี หรอื ไข้เลือดออก ทำ่ นตอ้ ง เฝ้ำระวังอำกำรไขแ้ ละไปพบแพทย์ เม่ือไปสถำนพยำบำล ควรสวมหน้ำกำกและเว้นระยะอย่ำงน้อย 1 เมตรจำกผู้อนื่ และไมเ่ อำมือไปจบั พื้นผวิ ตำ่ งๆ หำกเป็นเด็กป่วย ให้ดูแลเดก็ ให้ทำตำมคำแนะนำนีด้ ้วย ไปพบแพทย์ทนั ทีหำกมีอำกำรหำยใจลำบำกและ/หรือเจ็บหน้ำอก หำกเปน็ ไปได้ โทรไปกอ่ นล่วงหนำ้ เพ่อื ทำงสถำนพยำบำลจะได้ให้คำแนะนำ ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.2 วิธีการป้องกันโควิด-19 1) ลำ้ งมอื บอ่ ยๆ โดยใช้สบแู่ ละนำ้ หรอื เจลล้ำงมือท่ีมสี ่วนผสมหลักเป็นแอลกอฮอล์ 2) รกั ษำระยะห่ำงท่ีปลอดภัยจำกผู้ทไ่ี อหรอื จำม 3) สวมหน้ำกำกอนำมัยเมื่อเวน้ ระยะหำ่ งไม่ได้ 4) ไมส่ ัมผสั ตำ จมกู หรอื ปำก 5) ปดิ จมูกและปำกดว้ ยข้อพบั ด้ำนในข้อศอกหรือกระดำษชำระเม่ือไอหรือจำม 6) เกบ็ ตวั อยู่บ้ำนเม่ือรู้สึกไมส่ บำย 7) หำกมีไข้ ไอ และหำยใจลำบำกโปรดไปพบแพทย์ ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ )

8 2.2.1 ยึดหลัก D-M-H-T-T ปอ้ งกนั โควดิ -19 แมว้ ำ่ ขณะนี้ประเทศไทยจะมีกำรทยอยฉดี วัคซนี ป้องกันโรคแลว้ ก็ตำม หำกประมำท กำรด์ ตก ก็ยงั มโี อกำสทจี่ ะติดเช้ือได้ แตค่ วำมรนุ แรงของโรคจะลดลง จึงขอควำมร่วมมือประชำชนทุกคน “กำรด์ อย่ำตก” โดยขอใหท้ ุกคนใหค้ วำมสำคัญในมำตรกำรป้องกนั ตนเองอย่ำงเคร่งครัดและทำอยำ่ ง ตอ่ เนื่อง โดยกำรสวมหน้ำกำก - ล้ำงมือบ่อย ๆ - เว้นระยะห่ำง และหลกี เลย่ี งกำรเขำ้ ไปในสถำนท่ี ชมุ ชนหรือที่ท่มี ีคนอยู่รวมกันจำนวนมำก รวมถงึ สถำนทเ่ี ส่ียงต่ำงๆ เพื่อป้องกนั กำรรบั เช้ือและแพร่ เชอื้ ใหก้ ับคนในครอบครวั และลดกำรแพรร่ ะบำดของโรคในชุมชนดว้ ย โดยทกุ คนสำมำรถใหค้ วำมสำคญั ในกำรป้องกันตนเองอย่ำงเคร่งครัดตำมหลกั D-M-H-T-T ของกรม ควบคมุ โรค กระทรวงสำธำรณสขุ เพือ่ เปน็ กำรป้องกนั โควิด-19 และลดโอกำสกำรนำเชอื้ กลบั มำตดิ สูค่ นในครอบครวั ทีเ่ รำรัก มำตรกำร D-M-H-T-T ป้องกันโควดิ -19 D : Social Distancing เวน้ ระยะหำ่ ง 1-2 เมตร เล่ยี งกำรอยูใ่ นทีแ่ ออัด M : Mask Wearing สวมหนำ้ กำกผ้ำหรือหน้ำกำกอนำมัยตลอดเวลำ H : Hand Washing ลำ้ งมอื บอ่ ยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ T : Testing กำรตรวจวดั อุณหภูมแิ ละตรวจหำเชอื้ โควิด 19 ในกรณที ่ีมีอำกำรเขำ้ ข่ำย T : Thai Cha Na สแกนไทยชนะกอ่ นเข้ำ-ออกสถำนที่สำธำรณะทุกครัง้ เพ่ือให้มี ขอ้ มลู ในกำรประสำนงำนได้ง่ำยขึ้น อำ้ งองิ ข้อมลู : กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข ( โรงพยำบำลบำงปะกอก 3 , 2564:ออนไลน์ ) 2.2.2 8 วิธปี ้องกนั การติดเชื้อไวรสั โควิด-19 เบอ้ื งตน้ เพือ่ ป้องกันกำรติดเชอ้ื เรำสำมำรถเร่มิ ต้นดูแลตวั เองได้ดงั ต่อไปนี้ 1) ใสห่ นำ้ กำกอนำมยั และล้ำงมอื บ่อยๆด้วยสบอู่ ยำ่ งน้อย30วินำที หำกไม่สะดวก ควรใชแ้ อลกอฮอลเ์ จลหรอื สเปรย์ 2) พักผ่อนให้เพียงพออยำ่ งน้อย8-9ช.ม.ต่อวนั และเข้ำนอนกอ่ น4ท่มุ เพ่ือเสรมิ ภมู ิ ตำ้ นทำน 3) ทำนอำหำรปรุงสุก สะอำด และใช้ช้อนกลำงทกุ ครงั้ 4) ทำนอำหำรท่ีอุดมไปดว้ ยสำรตำ้ นอนุมลู อิสระ เช่น ผัก ผลไม้หลำกสี รวมถงึ อำหำร เสรมิ อำทิ ถ่ังเชำ่ เหด็ หลนิ จือ วติ ำมนิ C และ E เปน็ ต้น 5) เล่ยี งกำรเดินทำงไปในพืน้ ทเ่ี สย่ี ง, แออัด และมีคนจำนวนมำก 6) ออกกำลังกำยสม่ำเสมอ

9 7) ลดควำมเครยี ด เพรำะควำมเครยี ดทำใหก้ ำรทำงำนของภูมิคุ้มกนั (NK Cell Activity) ลดลง 8.ปรึกษำแพทย์ผูช้ ำนำญกำร เพอ่ื ตรวจกำรทำงำนของระบบภมู คิ ุ้มกนั (NK Cell Activity) วำ่ อย่ใู นระดบั ปกติหรอื ไมห่ ำกพบว่ำมอี ำกำรทำงระบบหำยใจ เชน่ ไอ น้ำมูก หอบ เหนอื่ ย และมีไข้ ควรรีบตดิ ต่อขอเข้ำรับกำรตรวจเพ่ือรับกำรรักษำตำมขั้นตอนต่อไป ขอบคุณข้อมูล จำก BDMS Wellness Clinic (BDMS Wellness Clinic , 2564: ออนไลน์) 2.3 ประเภทของแอลกอฮอล์ ในขณะท่หี ลำยๆคนกำลังเปน็ กงั วลกับกำรระบำดของเช้ือCovid-19 แนน่ อนวำ่ กำรป้องกัน ตัวเองนน้ั สำคัญท่สี ุด ไม่ว่ำจะเปน็ กำรใช้หน้ำกำกอนำมยั ท่ีถูกตอ้ ง กำรลำ้ งมือด้วยสบู่ และกำรพกเจล แอลกอฮอล์ล้ำงมือวนั น้ีเรำจะพำไปรู้จักประเภทของแอลกอฮอล์ประเภทไหนนะทีน่ ำไปเป็นผสมของ เจลลำ้ งมือ ประเภทไหนทีผ่ สมในนำ้ มัน ประเภทไหนเป็นน้ำยำลำ้ งแผล 2.3.1 ประเภทของแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลกั ๆ 1) เมทำนอล (Methanol) หรอื เอทิลแอลกอฮอล์ 2) เอทำนอล (Ethanol) 3) ไอโซโพรพำนอล (Iso-Propanol – IPA) 4) บิวทำนอล (Butanol) 1) เมทำนอล (Methanol) เมทำนอล (Methanol) หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอลท์ ่ีมจี ุดเดือดและจดุ วำบไฟตำ่ ท่ีสุดระเหยงำ่ ยทสี่ ดุ ดังน้นั จงึ เปน็ อนั ตรำยมำก มีข้อหำ้ มไม่ให้นำแอลกอฮอล์ชนดิ นไี้ ปผสมกับผลติ ภณั ฑอ์ ำหำรเครอ่ื งดื่ม หรือ ผลิตภัณฑ์ท่ีสมั ผสั กบั ผูบ้ รโิ ภคโดยตรงเช่นสเปรย์ฉีดผมเป็นต้นดงั น้นั เรำจงึ พบเมทำนอลไดใ้ น ห้องปฏิบัตกิ ำร ซ่งึ อำจใช้เปน็ สำรทำละลำย หรือ สำรหลอ่ เยน็ เป็นต้น (อำจำรยแ์ พทย์หญงิ ธัญจริ ำ จิรนนั ทกำญจน , ม.ป.ป. : ออนไลน)์

10 ภำพท่ี 2 เมทำนอล ( ทม่ี ำ : wikipedia ) 2) เอทำนอล (Ethanol) เอทำนอล (Ethanol) ผลิตจำก กำรแปรรปู พืชผลทำงเกษตรประเภทแป้งและ น้ำตำล เชน่ มันสำปะหลัง, อ้อย, กำกนำ้ ตำล และข้ำวโพด เป็นตน้ โดยผ่ำนกระบวนกำร ยอ่ ยแปง้ เป็นน้ำตำล (สำหรบั วัตถุดิบประเภทแป้ง) กระบวนกำรหมักเพ่ือเปลย่ี นน้ำตำลเปน็ แอลกอฮอล์ และกระบวนกำรกลัน่ รวมถึงกระบวนกำรแยกน้ำออก เอทำนอลนี้มีจุดเดอื นสงู กวำ่ เมทำนอล มอี ันตรำยต่อร่ำงกำยน้อย ทำให้สำมำรถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้หลำกหลำย เชน่ เอทำนอลเขม้ ขน้ รอ้ ยละ 70 มฤี ทธ์ใิ นกำรทำลำยเช้อื แบคทีเรยี เชือ้ วณั โรค เช้ือรำและเช้ือ ไวรสั แต่ไมส่ ำมำรถทำลำยสปอรข์ องเช้ือแบคทีเรยี ได้ ,ใช้เป็นตวั ทำละลำยทัง้ ทำงดำ้ น อุตสำหกรรมและทำงเภสชั กรรม เช่น เปน็ ตัวทำละลำยในยำแก้ไอ ,เอทำนอลเข้มข้น รอ้ ยละ 70 มีฤทธ์ิในกำรทำลำยเช้ือแบคทีเรีย เช้ือวณั โรค เชื้อรำและเชอ้ื ไวรสั แต่ไม่สำมำรถ ทำลำยสปอรข์ องเช้อื แบคทีเรยี ได้ ,นำไปผสมกบั นำ้ มนั เช้อื เพลงิ เพื่อแก้ปัญหำ วิกฤตกำรณ์ น้ำมันรำคำแพง โดยใชเ้ อทำนอลท่ีมคี วำมบรสิ ุทธติ์ งั้ แต่ 95% โดยปรมิ ำตรไปผสมกบั นำ้ มัน ถ้ำผสมกับนำ้ มันเบนซนิ จะเรียกวำ่ แกส๊ โซฮอล์ โดยผสมในอตั รำสว่ น 10% บำงคร้งั จึง เรยี กวำ่ นำ้ มัน E-10 เนือ่ งจำกเอทำนอลมสี มบตั ิช่วยเพ่มิ ปรมิ ำณออกซิเจนในนำ้ มัน จึงทำให้ กำรเผำไหมส้ มบรู ณย์ งิ่ ขนึ้ และเป็นกำรลดมลพิษในอำกำศ

11 ภำพท่ี 3 เอทำนอล ( ทมี่ ำ : blockdit ) 3) ไอโซโพรพำนอล (Iso-Propanol – IPA) ไอโซโพรพำนอล (Iso-Propanol – IPA) ใชเ้ ปน็ ยำลำ้ งแผล หรอื สำรละลำยสำร ทำควำมสะอำดในห้องปฏิบัติกำร (chemihouse.com , 2564 : ออนไลน)์ ภำพท่ี 4 ไอโซโพรพำนอล ( ท่ีมำ : wikiwand ) 4) บวิ ทำนอล (Butanol) ใช้เปน็ พลังงำนชีวภำพ เปน็ สำรไมม่ ีสี ไวไฟ ละลำยน้ำไดเ้ ล็กนอ้ ย มกี ลนิ่ เฉพำะตัว คลำ้ ยกล่นิ ของกลว้ ย แต่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ท่ีชดั เจน บิวทำนอลชีวภำพสำมำรถทำให้เกิดกำร ระคำยเคอื งเมื่อสัมผสั โดยตรงทำงดวงตำและผิวหนงั บิวทำนอลชีวภำพสำมำรถละลำยเข้ำ กับตัวทำละลำยอนิ ทรีย์อ่นื ๆได้ดี แตม่ คี วำมสำมำรถละลำยนำ้ ไดค้ ่อนขำ้ งต่ำ (material selection , 2558 : ออนไลน์)

12 ภำพที่ 5 บิวทำนอล ( ที่มำ : hmong.in.th ) 2.4 การฆ่าเช้ือของเจลแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ เปน็ สำรชนิดหนึง่ ทม่ี คี ณุ สมบตั เิ ปน็ สำรต้ำนเช้ือจลุ ินทรยี ์ (antimicrobial agent) โดยสำมำรถฆ่ำหรือหยุดยงั้ กำรเจริญเติบโตของเช้ือได้แอลกอฮอล์มสี ำมำรถกำจดั เชื้อจุลินทรยี ์ได้ หลำกหลำย และไมจ่ ำเพำะเจำะจงใช้กำจัดเช้อื จลุ ินทรีย์บนพ้ืนผิวสิง่ ของต่ำงๆที่ไม่มชี วี ติ เพอื่ ยับย้ังกำร แพรก่ ระจำยของเชือ้ โรค ไวรัส หรือจลุ นิ ทรีย์ต่ำงๆได้ 2.4.1 แอลกอฮอล์ กบั การเป็น disinfectant กลไก:ขบั น้ำออกจำกเซลลร์ บกวนเยอื่ หุ้มเซลล์โดยละลำยไขมันท่ีอยู่ในเยื่อหมุ้ เซลล์ และทำให้ โปรตนี ตกตะกอน ขอ้ ดี: ใช้ง่ำย รำคำถกู ขอ้ เสีย: ระคำยเคืองผวิ หนัง ระเหยเรว็ จดุ เดอื ดต่ำ ติดไฟงำ่ ย ทำให้โลหะเป็นสนิม เลนสม์ วั พลำสตกิ แข็งหรอื พองตัว แอลกอฮอล์สำมำรถทำลำยเชื้อแบคทเี รียทั้งแกรมบวกและลบรวมทัง้ เช้อื วณั โรคเช้อื รำและ ไวรสั บำงชนิดโดยเฉพำะเชือ้ ท่ีมโี ครงสรำ้ งไขมนั หุม้ อยู่เนอ่ื งจำกแอลกอฮอลจ์ ะออกฤทธิ์ละลำยไขมนั ทำให้เย่อื หุ้มเซลล์เปลี่ยนสภำพ (protein denaturant) แต่ไม่มผี ลต่อสปอรส์ ำรกลุ่มนส้ี ำมำรถใชไ้ ด้ท้งั เปน็ disinfectant และantisepticไมม่ ฤี ทธ์ิกัดกรอ่ นแต่สำมำรถติดไฟไดด้ ี ระเหยไดง้ ำ่ ยทำให้ติดบน พ้ืนผิวและออกฤทธิ์เป็นระยะเวลำนำนไมไ่ ด้เมอ่ื ละลำยกับน้ำจะสำมำรถแพร่ ผำ่ นเย่อื หุ้มเซลล์ได้ดีข้ึน จงึ ทำให้โปรตนี เสยี สภำพและยังทำใหเ้ ยื่อหุ้มเซลลแ์ ตกและเข้ำไปรบกวนระบบmetabolismได้ดว้ ย

13 แต่ถ้ำเป็นแอลกอฮอลบ์ รสิ ุทธ์ิจะทำให้โปรตนี ด้ำนนอกของเยือ่ หมุ้ เซลล์เสียสภำพไดอ้ ยำ่ งเดียวเท่ำน้ัน เมอ่ื เข้มขน้ ของแอลกอฮอลน์ ้อยลงกำรออกฤทธิ์กจ็ ะลดลงควำมเขม้ ขน้ ปกติท่นี ิยมใช้กนั จะอยู่ในชว่ ง 60−90%(ถำ้ ควำมเข้มข้นมำกกว่ำน้จี ะไม่สำมำรถเขำ้ เซลล์ได้) เชน่ แอลกอฮอล์ผสมควำมเข้มข้นสูง ของ 80% ethanol รว่ มกับ 5% isopropanol จะสำมำรถยับยัง้ ไวรสั ท่ีมีเยื่อหมุ้ เปน็ ลปิ ดิ ได้ด้วย (HIV ไวรสั ตบั อกั เสบ B และ C) สว่ นกำร disinfect บนพ้ืนผวิ เปียกจะต้องใชค้ วำมเขม้ ข้นมำกขึน้ นอกจำกนน้ั ประสทิ ธภิ ำพของแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึน้ ได้อกี เมื่อผสม wetting agent เชน่ dodecanoate (coconut soap) เช่น ของผสม 29.4% ethanol กบั dodecanoate จะออกฤทธ์ิได้ ดี กบั ทง้ั แบคทเี รีย เช้อื รำ และไวรสั แอลกอฮอล์ขนำดเลก็ อย่ำง ethanol และ isopropanol ใชเ้ ป็น disinfectant อย่ำง แพร่หลำย แต่ methanol ไม่ใช้เป็น disinfectant เพรำะมีพิษอย่ำงย่ิงต่อคน ถำ้ ไดร้ ับเกิน 10 mL ไป เมอ่ื ย่อยเปน็ formic แล้วจะมีผลทำลำยประสำทตำจนตำบอดถำวรได้ และถ้ำได้รบั เกนิ 30 mL อำจ ถึงตำยได้ (องค์กำรสุรำ กรมสรรพำมิต,2561: ออนไลน์) 2.4.2 คุณสมบตั ใิ นการทาลายเช้อื ของแอลกอฮอล์ แอลกอฮอลท์ ้งั 2ชนดิ เป็นของเหลวไม่มสี ีระเหยไดท้ ่ีอุณหภูมิห้อง ไมม่ ีฤทธติ์ กค้ำงแอลกอฮอล์ มีฤทธใ์ิ นกำรทำลำยเชือ้ แบคทีเรยี เชือ้ วณั โรคเชือ้ รำและเช้ือไวรัสแตไ่ ม่สำมำรถทำลำยสปอรข์ องเชื้อ แบคทีเรยี ได้ แอลกอฮอล์จดั เป็นเพียงนำ้ ยำทำลำยเชอื้ ระดับกลำงประสทิ ธภิ ำพในกำรทำลำยเชือ้ ของ แอลกอฮอล์จะลดลงมำก หำกมีควำมเขม้ ข้นต่ำลงแอลกอฮอลจ์ ะมปี ระสิทธิภำพในกำรทำลำยเชือ้ ได้ดี เมือ่ มีควำมเข้มขน้ ประมำณ 70-90% โดยปริมำตร ควำมเขม้ ข้นท่ีเหมำะสมของ ethyl alcohol ซง่ึ สำมำรถทำลำยเชื้อของแอลกอฮอล์ ทงั้ 2 ชนดิ แตกต่ำงกัน ถำ้ เปน็ Ethyl Alcohol จะทำลำยเชอ้ื ไวรสั ได้ดีกวำ่ ส่วน Isopropyl alcohol ไม่สำมำรถทำลำย Hydrophilic virus ซ่งึ ไดแ้ ก่ echovirus และ coxsackie virus ได้ แอลกอฮอล์มฤี ทธิ์กดั กร่อนโลหะ หำกตอ้ งใช้กับโลหะควรเตมิ 0.2% โซเดียมไนโตรลงใน แอลกอฮอล์ แอลกอฮอลต์ ดิ ไฟง่ำย จงึ ควรเกบ็ ในภำชนะปิดมดิ ชิดและเกบ็ ภำชนะนน้ั ไว้ในที่เย็น อำกำศถำ่ ยเทได้สะดวก เม่อื ต้องแช่เคร่อื งมือใหเ้ คร่ืองมือสัมผสั แอลกอฮอลใ์ หน้ ำน ขึ้นจะต้องแชเ่ ครื่องมือลง แอลกอฮอล์จะทำให้สำรทยี่ ดึ เลนสก์ บั อปุ กรณล์ ะลำยแอลกอฮอล์ทำให้อุปกรณท์ ีม่ ีเลนสไ์ ด้เพรำะ แอลกอฮอล์จะทำให้สำรท่ียดึ เลนส์กับอุปกรณ์ละลำย แอลกอฮอล์ทำให้อุปกรณท์ ี่ทำดว้ ยยำงหรือ พลำสติกบวมและแข็ง แอลกอฮอลท์ ำให้ผิวแหง้ แตก แอลกอฮอลร์ ะเหยได้ง่ำยฤทธิใ์ นกำรทำลำยเชือ้ จะลดนอ้ ยลง หำกควำมเขม้ ขน้ ต่ำลงในกำรใช้และเก็บรักษำแอลกอฮอลจ์ ึงจะตอ้ งระมัดระวัง แอลกอฮอล์จะเส่อื ม

14 ประสิทธภิ ำพเม่ือผสมกับอินทรีย์ ดงั นน้ั ตอ้ งล้ำงทำควำมสะอำดเครื่องให้หมดจดก่อนเชด็ ให้แห้งก่อน ทำลำยเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ ( Vibhavadi Hospital, 2563 : ออนไลน์) 2.4.3 ประเภทของแอลกอฮอล์สาหรบั ฆ่าเช้อื แอลกอฮอล์สำหรบั ฆำ่ เช้ือมีอยู2่ ชนดิ คือเอทิลแอลกอฮอลแ์ ละไอโซโพรพิลแอลกอฮอลท์ ้ังสอง ชนดิ เปน็ ของเหลวใส ไม่มสี ีระเหยได้ง่ำยที่อณุ หภมู หิ ้อง มีคุณสมบตั ทิ ำลำยเชือ้ แบคทเี รีย เชือ้ วณั โรค เชื้อรำและเชอ้ื ไวรัส แตไ่ มส่ ำมำรถทำลำยสปอร์ของเชอื้ แบคทเี รยี ได้ และประสิทธภิ ำพในกำรทำลำย เชื้อจะลดลงอย่ำงชัดเจน เมื่อควำมเขม้ ข้นของแอลกอฮอล์ต่ำกว่ำ50%แอลกอฮอลจ์ ะฆ่ำเช้อื ตำ่ งๆ โดยกำรแพร่ผำ่ นเย้อื หุม้ เซลล์ ของเช้ือโรค ทำใหโ้ ปรตีนเสียสภำพ และทำใหเ้ ย่ือหมุ้ เซลล์ของเชื้อโรคแตก 2.4.4 ใช้แอลกอฮอลเ์ ขม้ ขน้ เท่าไหรถ่ ึงจะฆา่ ไวรัส COVID-19 ได้ สำหรับเชอ้ื ไวรัสควำมเข้มขน้ ของแอลกอฮอล์ที่เหมำะสมคือควำมเขม้ ขน้ ระหว่ำง60%-80% โดยปริมำตรเอทิลแอลกอฮอล์ จะสำมำรถทำลำยเชื้อไวรัสแบบทีม่ ีชนั้ ไขมนั หมุ้ เชน่ ไวรสั ไขห้ วัดใหญ่ ไวรัสเริม รวมถึงไวรัสโควดิ -19 และยังสำมำรถทำลำยเช้ือไวรัสแบบท่ไี มม่ ชี ั้นไขมันหุ้มได้ด้วย เช่น เชื้อ ไวรสั ตับอักเสบบี แต่จะไม่ทำลำยเชือ้ ไวรสั ตับอักเสบเอและโปลิโอไวรัส สว่ นไอโซโพรพิลแอลกอฮอร์ จะทำลำยไดเ้ ฉพำะเชื้อ ไวรัสท่ีมีชั้นไขมันหมุ้ เท่ำน้นั 2.4.5 แอลกอฮอลเ์ ข้มขน้ มาก ไมไ่ ด้ดเี สมอไป จำกข้อมูลขำ้ งต้นอำจทำให้หลำยคนเขำ้ ใจว่ำยง่ิ แอลกอฮอลเ์ ขม้ ขน้ เท่ำไหร่ ประสิทธิภำพใน กำรฆ่ำเชื้อย่อมดีขน้ึ เท่ำน้ันเช่นแอลกอฮอล9์ 5%ย่อมดีกวำ่ แอลกอฮอล7์ 0%ซึ่งเป็นควำมเข้ำใจที่อำจ ไม่สำมำรถใชไ้ ด้ในทุกกรณเี พรำะในแอลกอฮอล9์ 5%มีปริมำณแอลกอฮอล์ที่สูงมำกจงึ ระเหยได้ไวมำก เช่นกัน ทำให้ประสิทธภิ ำพในกำรดูดซึมผ่ำนเย่ือหุ้มเซลล์ของเชอื้ โรคไมเ่ พียงพอ ทำได้แค่ทำใหโ้ ปรตนี จับตัวเปน็ ก้อน และทำใหแ้ อลกอฮอล์ไมส่ ำมำรถซึมผำ่ นเขำ้ ไปทำลำยเซลลไ์ ดด้ ังนัน้ เชือ้ โรคจะไม่ตำย เมื่อสภำพแวดล้อมกลับมำอยู่ในจุดทเ่ี หมำะสมแกก่ ำรเจรญิ เตบิ โตเซลลเ์ ชอ้ื โรคกจ็ ะกลับมำเติบโตอกี ครง้ั นอกจำกน้ีควำมเข้มข้นสูงของแอลกอฮอล์ยงั สง่ ผลให้ผิวแห้ง และเกิดกำรระคำยเคืองได้ สำหรับแอลกอฮอลเ์ จลหรอื สเปรยท์ ่ใี ช้กนั นนั้ ควำมเข้มข้นของแอลกอออล์อยู่ท่ี 70%-90% โดยปริมำตรนอกจำกแอลกอฮอลแ์ ล้ว กำรกินอำหำรปรุงสกุ ร้อน กำรใช้ช้อนกลำง กำรใส่หน้ำกำก และกำรล้ำงมือก็สำมำรถชว่ ยกำจัดเชอ้ื โรคตำ่ งๆรวมถึงเชื้อไวรสั โคโรนำ่ ได้เช่นกันและหำกรูส้ ึกว่ำไม่

15 สบำยควรรีบไปพบแพทยร์ วมถึงกักตัวเอง14วนั หำกเพิ่งกลับจำกประเทศท่ีมีอัตรำเสี่ยงกำรติดเชือ้ สงู (Silkspan,2563:ออนไลน)์ 2.5 โปรแกรมทใ่ี ชเ้ ขยี นโค้ด 2.5.1 Arduino IDE ซอฟต์แวร์ทีใ่ ชใ้ นกำรพฒั นำงำนสำหรบั บอร์ด Arduino น่ันคือโปรแกรมทีเ่ รียกวำ่ Arduino IDE ในกำรเขียนโปรแกรมและคอมไพล์ลงบอรด์ IDE ย่อมำจำก (Integrated Development Environment) คือ สว่ นเสริมของ ระบบกำรพัฒนำหรือตัวชว่ ยต่ำงๆทจี่ ะ คอยช่วยเหลือ Developer หรอื ชว่ ยเหลือคนท่ีพัฒนำ Application เพ่ือเสริมให้ เกิดควำม รวดเรว็ ถกู ตอ้ ง แมน่ ยำ ตรวจสอบระบบท่จี ัดทำไดท้ ำให้กำรพัฒนำงำนต่ำงๆเร็วมำกข้นึ ภำพท่ี 6 Arduino ( ทม่ี ำ : lamax ) 2.5.2 kidbright IDE คอื โปรแกรมสร้ำงชุดคำสัง่ เพื่อนำไปใชท้ ำงำนบนบอร์ด kidbright ด้วย ชุดคำสงั่ แบบ block-structured programming คือจะใช้กำรลำกกลอ่ งข้อควำมหรือบล็อกคำส่ัง มำวำงต่อกัน (Drag and Drop) จำกนัน้ โปรแกรมจะทำงำนแปลงภำษำ ทีเ่ รียกวำ่ กำร compile เพื่อใหไ้ ด้เปน็ โค้ดกำรทำงำนทใ่ี ช้กบั โปรเซสเซอร์ ESP32 ท่อี ยบู่ นบอรด์

16 ภำพที่ 7 kidbright IDE ( ทม่ี ำ : nectec ) 2.6 ระบบการทางานของเคร่อื งจ่ายอัตโนมตั ิ 2.6.1 เคร่ืองจ่ายเจลแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิ เครือ่ งจำ่ ยแอลกอฮอล์อตั โนมัติ (Automatic Hand Sanitizer Machine)ถอื เป็นเคร่ืองที่ ไดร้ บั ควำมนยิ มมำอยำ่ งยำวนำน และแพร่หลำยมำกข้ึน เพรำะว่ำเคร่อื งจ่ำยสบ่เู หลวอตั โนมตั ินัน้ ช่วยอำนวยควำมสะดวกสำหรับกำรล้ำงมือได้เป็นอย่ำงมำกมีลกั ษณะกำรทำงำนด้วยกำรจบั เซน็ เซอร์ หำกท่ำนนกึ ไม่ออกว่ำเครอ่ื งแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิมีกำรทำงำนเป็นอย่ำงไร ก็ขอให้ลอง นกึ ถงึ ภำพของก๊อกน้ำอตั โนมัตแิ บบทตี่ ำมห้ำงดงั ๆ เขำใชก้ ันน่ันเอง เคร่ืองจำ่ ยสบูเ่ หลวอัตโนมตั กิ ็ จะมหี ลกั กำรทำงำนเพื่อให้สบู่ไหลลงสมู่ อื ของเรำโดยไม่ต้องกดเหมือนก๊อกน้ำอตั โนมัตเิ ลยคะ่ นอกจำกใสส่ บเู่ หลวได้แลว้ ยงั สำมำรถใสแ่ ชมพู ครมี นวดผม โลชน่ั เจลล้ำงมอื เจลแอลกอฮอล์ ได้ อกี เช่นกัน (PSA SUPPLY , 2563 :ออนไลน์) 2.6.2 ระบบการทางานอัตโนมัติ ระบบอตั โนมตั ิ คือ ระบบท่ีทำงำนผำ่ นกำรควบคมุ จำกคอมพมิ เตอร์อำจจะเปน็ อุปกรณ์ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ทส่ี ำมำรถเริ่มทำงำนได้ด้วยตัวเองตำมโปรแกรมทมี่ นษุ ย์เป็นผู้ควบคุมไว้ เช่นระบบ รดนำ้ อัตโนมตั ิ ระบบตอบรบั โทรศพั ทอ์ ตั โนมตั ิ ระบบอัตโนมัตเิ ข้ำมำมีบทบำทมำกข้นึ ในปจั จบุ ัน ท้ังในด้ำนวศิ วกรรม อุตสำหกรรมและรวมไปถึงกำรดำเนนิ ชวี ติ ประจำวันของมนุษย์ ระบบ อตั โนมตั ถิ ูกคิดคน้ มำเพื่อใหส้ ำมำรถลดกำรใชท้ รัพยำกรที่ไม่จำเป็น และตอบสนองควำมตอ้ งกำร ของมนษุ ย์

17 ประเภทของเครื่องจักรอตั โนมตั ิมี 2 ประเภท 1) เครื่องจกั รกง่ึ อัตโนมัตคิ ือเครอ่ื งท่นี ำคอมพวิ เตอร์มำควบคุมหรือทำงำนในบำงขั้นตอน เพอื่ ให้เรำสำมำรถควบคุมงำนบำงประเภทไดเ้ ชน่ งำนท่ีมคี วำมเส่ยี งสูง งำนที่ต้องใช้ควำมแมน่ ยำ ฯลฯ ขน้ั ตอนทเ่ี หลือจะยังคงเปน็ ผลงำนของคน 2) เครอื่ งจกั รอัตโนมัติ คือ เครอ่ื งจกั รทนี่ ำคอมพวิ เตอร์มำควบคุมหรอื ทำงำนในทุก ขน้ั ตอน คนงำนมีควำมรบั ผิดชอบในกำรดูแลรกั ษำเครอ่ื งเท่ำน้นั เครือ่ งจักรอัตโนมัติ เหมำะ สำหรับงำนที่ตอ้ งกำรกำรควบคมุ เต็มรูปแบบ ไมว่ ำ่ จะเป็นคุณภำพหรอื ควำมสะอำด นอกจำกนี้ยัง ใช้ในงำนทีค่ นงำนไม่สำมำรถทำงำนได้ เชน่ งำนที่ต้องอยใู่ นอุณหภมู ิสงู ( บรษิ ัทไทยอินเตอร์แมท , 2561 :ออนไลน์ ) ภำพที่ 8 เครื่องจักรอตั โนมัติ ( ทม่ี ำ : thaipost ) 2.6.3 ระบบการทางานอตั โนมัติของเซนเซอร์ เซนเซอร์ คือ อุปกรณ์ วงจร หรอื ระบบ ทำหน้ำที่ตรวจวัดกำรเปลย่ี นแปลงคุณสมบัติ หรอื ลักษณะของสง่ิ ต่ำงๆ โดยรอบวตั ถเุ ป้ำหมำย เช่น กำรเปล่ียนแปลงตำแหนง่ รปู รำ่ ง ควำมยำว ควำม สงู และกำรกระจัด แลว้ นำข้อมูล (Big Data) ที่ไดจ้ ำกกำรตรวจวดั เข้ำสู่กระบวนกำรแจกแจง และ วเิ ครำะห์พฤติกรรมของกำรเปล่ยี นแปลงนอกจำกนย้ี งั มสี ว่ นช่วยในกำรทำนำยและป้องกันเหตุกำรณ์ ในอนำคต

18 ประเภทของเซนเซอร์ในสำยกำรผลิด  Proximity Sensors เซนเซอร์ตรวจจบั เซนเซอรต์ รวจจบั เซนเซอร์ตรวจจบั วตั ถุ โดยปรำศจำกกำรสัมผัส ทำให้ทรำบถงึ ตำแหนง่ ของวตั ถหุ รือสำมำรถระบุไดว้ ่ำมวี ตั ถุใดผำ่ นเข้ำมำในตำแหน่งทกี่ ำหนดไวห้ รอื ไม่ สว่ นใหญจ่ ะใช้กับงำนตรวจจับ ตำแหนง่ ระดบั ขนำด และรูปร่ำง สำมำรถแยกกำรตรวจจับ วัตถทุ ีเ่ ปน็ โลหะ (Inductive) กบั อโลหะ (Capactive) โดยกำรตรวจจบั ควำมหนำแนน่ ได้ ภำพที่ 9 Proximity Sensors ( ที่มำ : sick.com )  Vision Sensors / Machine Vision Systems เซนเซอร์ตรวจจบั ดว้ ยภำพ เซนเซอร์ทใ่ี ช้กำรถำ่ ยภำพวัตถชุ น้ิ งำน แลว้ นำภำพที่ ไดม้ ำวเิ ครำะห์วำ่ ตรงกับ สเปค ขนำด สี รปู ทรง หรอื ตำแหนง่ ทเ่ี รำตอ้ งกำรหรือไม่ โดย คุณสมบัติของเซนเซอรช์ นดิ น้ีสำมำรถทำงำนได้ถกู ต้องแม่นยำ รวดเร็ว และประหยดั เวลำ เหมำะกบั งำนตรวจสอบควำมผิดปกติของชนิ้ งำนในกำรผลติ เชน่ ตรวจจับควำมถกู ตอ้ งของ ฉลำก กำรเจำะรูชนิ้ นงำน ตรวจสอบแผงวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กำรป้อนช้นิ งำน ตรวจสอบ รปู ทรงน็อต โลหะ km เปน็ ต้น  Photoelectric Sensor เซนเซอรจ์ บั วตั ถุ โดยใช้แสง เซนเซอรต์ รวจจับวัตถุ ใช้ลำแสงในกำรตรวจจบั วัตถทุ ง้ั แบบทม่ี องเห็นและแบบ โปรง่ ใสโดยที่ไม่ต้องมีกำรสัมผัส มจี ุดเดน่ ในด้ำนควำมเร็วในกำรตรวจจบั ระยะกำรตรวจจับ ไกล และที่สำคัญไมว่ ำ่ วัตถุใดๆ ก็จะสำมำรถตรวจจับได้

19 ภำพที่ 10 เซนเซอร์ตรวจจับวตั ถุ ( ทีม่ ำ : mall.factomart )  Photomicro Sensors Photoelectric Sensor ขนำดเล็กท่ีมแี อมพลฟิ ำยเออรใ์ นตัว มลี ักษณะเช่นเดยี วกับโฟโตอิเล็กทริคเซนเซอร์ ทว่ั ไปทีม่ ีแอมพลิฟำยเออร์ในตวั ใชใ้ นแอพพลิเคชั่นเพื่อตรวจจับวตั ถทุ ่ีผำ่ นหรือใน แอพพลิเคชนั่ กำหนดตำแหนง่  Displacement / Measurement Sensors เซนเซอร์วัดระยะเซนเซอรว์ ัดระยะทำ.และขนำดของช้ินงำน แบบไม่สมั ผัสกับวัตถุ สำมำรถบอกค่ำเป็นอนำล็อค และเชือ่ มต่อกับคอมพิวเตอร์หรอื PLC ได้ เหมำะสำหรับกำรใช้ งำนกำรตรวจสอบชิ้นงำนขนำดเล็ก วดั ควำมหนำบำง วัดกำรแอ่นตัว  Code Readers / OCR เซนเซอร์อำ่ นโค้ด เซนเซอร์ที่ใชใ้ นกำรอำ่ นบำรโ์ คด้ ต่ำงๆ หรือตรวจสอบข้อควำม ตวั เลข ตัวอักษรบน ช้ินงำน แลว้ ทำกำรสง่ ผลลพั ธ์กำรตรวจสอบออกมำ เพ่ือนำไปใช้งำนรว่ มกับอุปกรณ์ หรือ เคร่อื งจักรอน่ื ๆ อยำ่ ง Rejecter หรือส่งเป็นข้อควำมท่ีอำ่ นไดไ้ ปใหซ้ อฟแวร์ หรอื ระบบ ควบคมุ ตำ่ งๆ  Rotary Encoders เซนเซอร์เอ็นโค้ดเดอร์แบบหมุน เซนเซอรท์ ี่แปลงสัญญำณทำงไฟฟำ้ (electric signal) มำเป็นค่ำทำงกำรหมนุ (rotation movement) สำมำรถใช้ระยะ ควำมเรว็ ทศิ ทำง ตำแหน่งหรือมุมของกำรหมุน เช่น ฐำนและข้อต่อของแขนกลทีใ่ ช้ในโรงงำนท่ีต้องใชค้ ำ่ กำรหมนุ ท่ีแม่นยำ

20  Ultrasonic Sensors เซนเซอร์ อลั ตร้ำโซนคิ เซนเซอร์ท่ีใชค้ ลื่นอลั ตร้ำโซนิคใชเ้ พ่ือตรวจจบั วัตถุโปรง่ ใส เชน่ ฟลิ ์มใส ขวดแกว้ ขวดพลำสตกิ และกระจกแผ่น โดยลกั ษณะกำรใช้งำนเหมือน Photoelectric Sensor  Pressure Sensors / Flow Sensors เซนเซอร์วัดควำมดนั เซนเซอร์ตรวจจบั กำรไหล ช่วยตรวจจับควำมดนั ของของเหลว และกำ๊ ซ และ เซนเซอรต์ รวจจบั กำรไหล (Flow sensor) จะชว่ ยตรวจจับอตั รำกำรไหลของ ของเหลว (สำนกั งำนใหญ่และศูนย์โลจสิ ตกิ ส์ , 2564 :ออนไลน)์ ภำพที่ 11 เซนเซอรว์ ัดควำมดัน (Pressure sensors) (ที่มำ : planet.co.th )

บทที่ 3 อปุ กรณ์และวธิ ีการดาเนินงาน ในกำรสร้ำงเคร่ืองจำ่ ยเจลแอลกอฮอลค์ รั้งน้ีม่งุ หวังเพื่อให้ทุกคนในโรงเรียนปัว มีเครื่องจ่ำย เจลแอลกอฮอล์ท่ีอัตโนมัติ ปรำศจำกกำรสัมผสั เพื่อหลีดเล่ยี งกำรสัมผสั ในสถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของ เชอ้ื ไวรัสโคโรนำ่ (COVID-19) 3.1 ประชำกรและกลุ่มตวั อย่ำง 3.2 ข้ันตอนกำรสร้ำงเคร่ืองจ่ำยเจลอตั โนมัติ 3.3 กำรวิเครำะหผ์ ลและสถิตทิ ใี่ ชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ผล 3.1 ประชากรและกล่มุ ตวั อย่าง 3.1.1 ประชำกรท่ใี ช้ในกำรศึกษำคร้ังนี้ คือ นกั เรียนโรงเรยี นปวั ระดบั ชั้นมัธยมศึกษำ ปที่ ี่ 5 สำนักงำนเขตพ้นื ทก่ี ำรศกึ ษำมัธยมศึกษำ เขต 37 ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 2564 3.1.2 กลุม่ ตัวอย่ำงทดลอง ที่ใช้ในกำรศึกษำ หำประสิทธิภำพของ Automatic Alcohol Dispenser (เครื่องจำ่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิ) คือ นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5/1 โรงเรียนปัว จำนวน 36 คน 3.1.3 กลมุ่ ตวั อย่ำงจริง ที่ใช้ในกำรศึกษำ หำประสิทธิภำพของ Automatic Hand Sanitizer Machine (เคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์อตั โนมัติ) คือ นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 5/2 โรงเรียนปัว จำนวน 40 คน อปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการดาเนนิ งาน - อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - อุปกรณ์ไฟฟ้ำ เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นการดาเนนิ งาน 1) เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นกำรศกึ ษำประกอบด้วย 1.1) หนงั สือวงจรไฟฟ้ำ

22 2) เครื่องมอื ที่ใชใ้ นกำรสร้ำงเคร่ืองจำ่ ยเจลอัตโนมัติ 2.1) เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุ 2.2) ปมั้ น้ำ 2.3) สำยไฟ 2.4) โพรโทบอรด์ 2.5) กลอ่ งกนั นำ้ 2.6) ขำต้งั 2.7) ตวั ตำ้ นทำน 2.8) สำยนำ้ เกลือ 2.9) ขวดใสเ่ จลแอลกอฮอล์ 3.2 ข้ันตอนการสร้างเครื่องกดเจลแอลกอฮอลอ์ ัตโนมัติ กำรสรำ้ งเคร่ืองจำ่ ยเจลแอลกอฮอลอ์ ัตโนมัติ สำหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5 ในครัง้ น้ี ผูจ้ ัดทำไดส้ รำ้ งเคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ ซึ่งจัดอยูใ่ นกรอบ 4 ขน้ั ตอนหลัก ดงั นี้ 3.2.1 การวเิ คราะหเ์ นอื้ หา (Analysis) 3.2.1.1 สรำ้ งแผนภมู ริ ะดมสมอง (Brainstorm Chart) เปน็ กำรรวบรวมหัวเรอ่ื งท่ี จะทำลงไปในเครื่องกดเจลแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิ สำหรับนกั เเรียนและบุคลำกร ในโรงเรียนปวั และทกุ คนสำมำรถแสดงควำมเห็นสำหรบั กดเจลแอลกอฮอล์อตั โนมตั ได้ 3.2.2 การออกแบบ การสรา้ งกดเจลแอลกอฮอลอ์ ตั โนมตั ิ ออกแบบจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิให้เหมำะสมกบั กำรใชง้ ำน เพือ่ นควำม สะดวกสบำยของนักเรียนและบคุ ลำกรของโรงเรียนปวั และ ออกแบบรูปรำ่ งให้น่ำสนใจเพ่อื กระต้นุ ให้ ทกุ คนอยำกมำใชง้ ำนจำ่ ยเจลแอลกอฮอลอ์ ัตโนมัติ เพ่ือปอ้ งกนั กำรแพร่ระบำดของเชอ้ื ไวรสั โคโรน่ำ (COVID-19) และเชื้อโรคต่ำงๆ 3.2.3 การทาเครือ่ งกดเจลแอลกอฮอล์อตั โนมัติ 3.2.3.1 เขยี นโปรแกรมให้ระบบเซ็นเซอรส์ ำมำรถทำงำนตรวจจับวัตถไุ ด้ 3.2.3.2 เตรยี มกล่องกนั น้ำ 1 กลอ่ ง 3.2.3.3 เจำะกลอ่ งกันนำ้ ดำ้ นลำ่ ง เพอื่ ใหส้ ำยน้ำเกลือท่ีเชอื่ มอยู่กับขวดแอลกอฮอล์ สำมำรถลอดออกมำไดส้ ำหรบั ปลอ่ ยเจลแอลกอฮอล์ออกมำ และเพื่อใหม้ ีช่องสำหรบั ตวั เซน็ เซอร์สำมำรถออกมำทำงำนตรวจจบั อณุ หภูมไิ ด้

23 3.2.3.4 ตอ่ แผงวงจรใหร้ ะบบสำมำรถทำงำนได้ 3.2.3.5 ทดสอบกลไกในกำรทำงำนของระบบเซน็ เซอร์ 3.2.3.6 ประกอบอปุ กรณ์ต่ำงๆ เขำ้ ดว้ ยกนั (ภำยในกล้องกันนำ้ ) 3.3 การวเิ คราะห์ผลและสถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ผล ผู้จดั ทำไดด้ ำเนินกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู จำกแบบสอบถำม ดังต่อไปนี้ 1) แบบสอบถำม ผจู้ ัดทำได้นำแบบสอบถำมที่มคี วำมสมบรู ณ์ครบถว้ น ไปวิเครำะห์ และ แปรผล ดังนี้ 1.1) ข้อมูลเบื้องต้นของผ้ตู อบแบบสอบถำม วิเครำะห์ดว้ ยกำรหำคำ่ ควำมถี่ รอ้ ยละ คำ่ เฉล่ยี และส่วนเบีย่ งเบนมำตรฐำน 1.2) ข้อมูลกำรทดสอบควำมแม่นยำในกำรจ่ำยเจลแอลกอฮอลโ์ ดยเครื่องจำ่ ยเจล แอลกอฮอล์อัตโนมัติ ค่ำเฉลย่ี รอ้ ยละ 80-100 หมำยถงึ มปี ระสทิ ธิภำพสูง ค่ำเฉลี่ย ร้อยละ 50-79 หมำยถงึ มปี ระสิทธิภำพตำ่ ค่ำเฉลีย่ รอ้ ยละ 0 - 49 หมำยถึง ไม่มีประสิทธภิ ำพ 1.3) ขอ้ มูลจำกกำรประเมนิ ควำมคดิ เหน็ แบบมำตรกำรประมำณคำ่ 5 ระดับ วเิ ครำะห์ โดยกำรหำคำ่ เฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนโดยมีเกณฑก์ ำรตัดสนิ ระดบั กำรประเมิน แปรผลคำ่ เฉลยี่ ส่วนที่เปน็ มำตรฐำนประมำณคำ่ 5 ระดับ ตำมแนวควำมคิดของลิเคิร์ท (Likert) ค่ำเฉล่ยี 4.51 – 5.00 หมำยถึง ควำมพึงพอใจในระดับมำกท่ีสุด คำ่ เฉลย่ี 3.51 – 4.50 หมำยถงึ ควำมพงึ พอใจในระดับมำก คำ่ เฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมำยถึง ควำมพงึ พอใจในระดบั ปำนกลำง ค่ำเฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมำยถึง ควำมพงึ พอใจในระดบั นอ้ ย ค่ำเฉล่ีย 1.00 – 1.50 หมำยถึง ควำมพึงพอใจในระดับน้อยท่ีสดุ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล คณะผู้จดั ทำได้ดำเนนิ กำรเก็บรวบรวมข้อมูลในวันที่ 1 กนั ยำยน 2564 จำกผู้ใชง้ ำน เครอื่ งกดเจลแอลกอฮอล์ 36 คน และได้รบั กำรตอบกลับ 36 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 สถิติท่ใี ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล สถิติทใ่ี ชใ้ นกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลคือ ค่ำร้อยละ และค่ำเฉล่ยี

24 สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู 1) คำ่ รอ้ ยละ โดยใชส้ ตู รดงั นี้ สูตร เมอ่ื P แทน รอ้ ยละ F แทน ควำมถท่ี ่ตี อ้ งกำรแปลงใหเ้ ป็นรอ้ ยละ N แทน จำนวนควำมถี่ท้งั หมด 2) ค่ำเฉลย่ี เลขคณติ (Mean) โดยใชส้ ูตรดังนี้ สูตร เมอ่ื X คอื คำ่ เฉลีย่ Xi คือ ผลรวมของคะแนนทัง้ หมด n คือ จำนวนนักเรียน 3) กำรหำคำ่ สว่ นเบ่ยี งเบนมำตรฐำน สตู ร

25 โดยเกณฑ์ส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำนมีดังนี้ = 0 ผู้ประเมนิ มีควำมเห็นสอดคลอ้ งกัน 0 < 1 ผู้ประเมินมีควำมเหน็ ค่อนขำ้ งเหมอื นกัน > 1 ผู้ประเมนิ มีควำมคดิ เหน็ แตกตำ่ งกัน

บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน ผลการดาเนินงาน กำรดำเนนิ งำนโครงงำนสร้ำงเครอ่ื งจ่ำยเจลแอลกอฮอล์ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 5 โรงเรยี นปวั มีวัตถปุ ระสงค์ 1) เพ่ือลดกำรแพร่ระบำดของเชอ้ื ไวรสั โคโรน่ำ (COVID-19) 2) เพ่ือตอบสนองควำมสะดวกสบำยในกำรลำ้ งมือดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ 3) เพื่อลดกำรสัมผสั กบั วัตถทุ ่ีอำจมกี ำรสะสมของเช้ือโรคอยมู่ ำก หลังจำกท่ผี ้ใู ช้งำนเครื่องจ่ำยเจลแอลกอฮอล์แล้ว ได้แจกแบบสอบถำม เพื่อหำควำม พงึ พอใจของผูใ้ ชง้ ำน สำหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 5/1 และ 5/2 ไดผ้ ลดังนี้ ตารางที่ 4.1 ข้อมลู ผู้ตอบแบบสอบถาม กลมุ่ ตัวอยำ่ ง จำนวน ร้อยละ 1. เพศ 15 43.42 ชำย 21 56.58 หญงิ 25 84.21 2. ควำมสนใจของผู้ใช้งำน 8 9.21 มำก 3 6.58 ปำนกลำง นอ้ ย จำกตำรำงข้ำงตน้ พบวำ่ กลุม่ ผ้ใู หข้ อ้ มูลซึ่งเปน็ นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปีที่ 5/1 และ 5/2 เป็น นักเรยี นชำยจำนวน 33 คน คิดเปน็ ร้อยละ 43.42 เป็นนักเรยี นหญงิ 43 คดิ เปน็ ร้อยละ 56.58 ซง่ึ

27 กลมุ่ ผู้ใหข้ ้อมูลกลมุ่ นเ้ี ป็นผูท้ ่มี ีควำมสนใจในกำรป้องกันกำรแพรร่ ะบำดของโรคไวรัสโคโรนำ (COVID-19) ในจำนวนผใู้ ห้ข้อมูลทัง้ หมด 76 คน ตารางที่ 4.2 ประสิทธิภาพของเครื่องจา่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมัติ รำยกำร จำนวนครง้ั ท่ที ดสอบ จำนวนครง้ั ทจี่ ่ำยได้ ควำมแมน่ ยำ 1. ควำมแม่นยำในกำรจ่ำยเจลแอลกอฮอล์ (ครง้ั ) (ครัง้ ) รอ้ ยละ 20 17 85 เฉลี่ยรวม 20 17 85 จำกตำรำงข้ำงตน้ พบวำ่ ควำมแมน่ ยำในกำรจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์ มีควำมแมน่ ย้ำ ร้อยละ 85 จงึ สำมำรถสรปุ ได้วำ่ เคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ มีประสิทธิภำพสงู ตารางท่ี 4.3 ระดับความพึงพอใจ รำยกำร SD ระดับ 1.ควำมสวยงำมของเครื่องจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัติ 4.40 0.74 มำก 2.ควำมสะดวกสบำยในกำรใช้เครอ่ื งจ่ำยเจลแอลกอฮอลอ์ ัตโนมตั ิ 4.55 0.76 มำกที่สุด 3.สอดคล้องกบั ควำมต้องกำรในกำรใช้งำน 4.45 0.75 มำก 4. มปี ระโยชน์และมคี วำมจำเปน็ ต่อสถำนกำรณ์ในปจั จุบนั 4.68 0.79 มำกที่สดุ 5.ประสทิ ธขิ องเครื่องจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมัติ 4.53 0.76 มำกทสี่ ุด เฉลี่ยรวม 4.52 0.76 มำกท่สี ุด

28 จำกตำรำงข้ำงต้น พบว่ำ โดยรวมแล้วกลุ่มตัวอยำ่ งมีควำมพงึ พอใจต่อเคร่ืองจำ่ ยเจล แอลกอฮอล์ อยูใ่ นระดบั มำกท่ีสดุ โดยทผี่ ู้ใชง้ ำนมีควำมพึงพอใจในประโยชน์และมีควำมจำเป็นตอ่ สถำนกำรณ์ในปัจจบุ ัน ในระดับ มำกท่สี ุด ( = 4.68) ควำมสะดวกสบำยในกำรใช้เครื่องจำ่ ยเจล แอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ ( = 4.55) และประเด็นที่มีคำ่ เฉล่ยี ต่ำท่สี ดุ คือ ควำมสวยงำมของเคร่ืองจ่ำยเจล แอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ (= 4.40)

บทท่ี 5 สรปุ ผลการดาเนินงาน 5.1 สรุปผลการดาเนนิ งาน จำกผลกำรวดั ควำมแม่นยำและระดับควำมพึงพอใจและในกำรใช้เครือ่ งจำ่ ยเเอลกอฮอลล์ อตั โนมัติ พบว่ำเครื่องกดเจลเเอลกอฮอลล์อตั โนมตั ิมปี ระสิทธภิ ำพสงู และกลุ่มเป้ำหมำยดังกล่ำวมี ควำมพงึ พอใจตอ่ เครื่องกดเจลเเอลกอฮอลล์อตั โนมัติอยใู่ นระดับมำกท่สี ดุ จงึ สรุปไดว้ ำ่ เคร่ืองจำ่ ย เเอลกอฮอลลอ์ ัตโนมตั เิ หมำะที่จะนำมำใช้กบั สถำนท่ีตำ่ งๆ เพอื่ ชว่ ยลดกำรแพร่ระบำดของเชอื้ ไวรัส โคโรนำ่ (COVID-19) รวมไปถึงลดกำรสัมผสั กบั วตั ถุที่อำจมีกำรสะสมของเช้ือโรคอยู่มำก อกี ทั้งยัง ตอบสนองต่อควำมสะดวกสบำยในกำรลำ้ งมือของผคู้ น 5.2 ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ 5.2.1 โรงเรียนปวั มีเครื่องจำ่ ยแอลกอฮอล์แบบอัตโนมัติ 5.2.2 ทำใหไ้ ด้รับควำมรูเ้ กี่ยวกับระบบเซ็นเซอร์ 5.2.3 มเี คร่ืองกดเจลเเอลกอฮอล์ท่ีมีควำมสำมำรถในกำรใชง้ ำนทส่ี ะดวก 5.2.4 ลดกำรเเพรร่ ะบำดของเช้ือไวรสั โคโรน่ำ (COVID-19) จำกกำรสัมผสั ขวดเจล แอลกอฮอล์ 5.3 ปัญหาและอปุ สรรค 5.3.1 กำรต่อวงจรมีควำมซบั ซอ้ นจงึ จะต้องขอควำมช่วยเหลอื จำกผู้มคี วำมเชีย่ วชำญในด้ำน กำรตอ่ วงจรจริงๆเพื่อควำมปลอดภยั เเละควำมสำมำรถในกำรใชง้ ำน 5.4 ขอ้ เสนอแนะ 5.4.1 ควรออกแบบให้เคร่อื งจ่ำยของเหลวอัตโนมัติมขี นำดเลก็ สะดวกในกำรติดตง้ ัเคลื่อนท่ี งำ่ ยต่อกำรซ่อมบำรุง และอำจปรับให้มกี ำรแจ้งเตอื นระดับของเหลวผำ่ นทำงออนไลน์ 5.4.2 ควรออกแบบเคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิใหม้ ีรปู แบบที่สวยงำม และเปน็ ทนี่ ่ำสนใจ 5.4.3 เคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์สำมำรถบอกปรมิ ำตรของเจลแอลกอฮอลไ์ ด้ 5.4.4 ควรเลือกใช้อุปกรณ์อย่ำงเหมำะสม ใหเ้ หมำะกับรูปทรง หรือขนำดของชน้ิ สว่ นต่ำงๆ 5.4.5 สำมำรถใช้พลังงำนแสงอำทิตยแ์ ทนกำรใช้แบตเตอร่ี

30 บรรณานกุ รม กรมควบคุมโรค. (2564). วิธกี ำรปอ้ งกนโควดิ – 19. สืบค้นจำก dddddddhttps://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=17859&deptcode=brc มหำลัยมหิดลคณะแพทยศำสตรศ์ ิรริ ำชพยำบำล. (2564). วิธปี อ้ งกันโควดิ -19. สบื ค้นจำก dddddddhttps://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/preventioncovid/ องค์กำรสุรำกรมสรรพสำมติ . (2563). แอลกอฮอลเ์ พอื่ กำรสำธำรณสขุ . สบื คน้ จำก dddddddhttps://www.liquor.or.th/aic/detail/ Cosmeticlab. (2563). แอลกอฮอล์ กับกำรเป็น disinfectant. สบื คน้ จำก dddddddhttps://web.facebook.com/107861117285271 initial. (2563). เคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์. สบื คน้ จำก dddddddhttps://www.initial.com/th/hand-hygiene/hand-sanitisers/ Lamax. (2563). Arduino. สบื ค้นจำก dddddddhttps://www.lamax.co.th/content/4818/ SAMYAN. (2564). แอลกอฮอล์. สืบค้นจำก dddddddhttps://www.samyan-mitrtown.com/2021 Silkspan. (2563). การใช้แอลกอฮอลฆ์ ่าเช้ือไวรัสโคโรน่า(COVID-19). สืบค้นจำก dddddddhttps://www.silkspan.com World Health Organization. (2563). ไวรัสโคโรน่า. สบื คน้ จำก dddddddhttps://www.who.int/thailand/emergencies/novel-coronavirus-2019 World Health Organization. (2563). วธิ ีป้องกันโควิด -19 . สืบค้นจำก dddddddhttps://www.who.int/news-room/q-a-detail/coronavirus-disease-covid-19- dddddddhow-is-it-transmitted