ข้อมูลทั่วไป พื้นที่การติดต่อ * จังหวัดอุตรดิตถ์ มีชายแดนติดต่อกับแขวงไซยบูลี สปป.ลาว 2 อำเภอ คือ อำเภอบ้านโคกและอำเภอน้ำปาด ระยะทางแนวชายแดน ประมาณ 145 กิโลเมตร * แชวงไซยบูลี มีเมืองชายแดนที่ติดต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ 4 เมือง คือ เมืองทุ่งมีไซ เมืองปากลาย เมืองบ่อแตน เมืองแก่นท้าว ข้อมูลการค้าขายชายแดน * ด้านสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์การเกษตร เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ปุ๋ย/สารเคมี อาหารสด/แห้ง เสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น * ด้านสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เศษเหล็ก ของเก่า เหล้า บุหรี่ ไวน์ เบียร์ สมุนไพร สินค้าอุปโภคบริโภค โทรศัพท์มือถือ ถ่านไม้ เครื่องจักรสาร เป็นต้น ความจำเป็นในการยกระดับจุดผ่อนปรนภูดู่ เป็นจุดผ่านแดนถาวร * เพื่อเพิ่มมูลค้าการค้าขายชายแดน การค้าผ่านแดน และการท่องเที่ยว ให้แก่ทั้ง ๒ ประเทศมากขึ้นเพราะด่านภูดู่-ด่านผาแก้ว สามารถเชื่อมต่อ เมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกประมาณ 309 กิโลเมตร ไปแขวงไซยะบูลี 194 กิโลเมตร ไปนครเวียงจันทร์ 238 กิโลเมตร และมาจังหวัดอุตรดิตถ์ 156 กิโลเมตร ไปเชียงใหม่ 405 กิโลเมตร ไปกรุงเทพ 547 กิโลเมตร ไปชายแดนแม่สอด(ตาก)-เมยวดี(พม่า) ประมาณ 422 กิโลเมตร * การค้าขายผ่านจุดผ่านแดนถาวร สามารถค้าขายสินค้าได้หลาย ประเภท/ชนิด ยกเว้นสินค้าผิดกฎหมาย และสินค้าต้องห้าม สามารถค้าขายได้ไม่จำกัดปริมาณ และวงเงิน * รายได้จากการจัดเก็บภาษี และค่าธรรมเนียมในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และค่าธรรมเนียม ผ่านจุดผ่อนปรนการค้าภูดู่ เป็นของจังหวัดน่าน ไม่ใช่รายได้ของจังหวัด อุตรดิตถ์ เนื่องจากจุดผ่อนปรมการค้าภูดู่ อยู่ในความดูแลของ ด่านศุลากรและด่านตรวจคนเข้า เมืองของจังหวัดน่าน * การเป็นจุดผ่านแดนถาวร จะทำให้มีนักท่องเที่ยว สามารถเข้า-ออกผ่าน ด่านภูดู่ ด่านผ่าแก้วได้สะดวกมากขึ้น และจะกระตุ้นจูงใจให้พ่อค้าไทย เดินทางไปค้าชาย ในเมืองต่างๆ ของสปป.ลาวเพิ่มมากขึ้น * จุดผ่านแดนถาวร ช่วยจัดระเบียบการค้านอกระบบให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถจัดเก็บภาษี และค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้นอย่างเป็น ระบบ สามารถควบคุม ตรวจสอบป้องปรามการส่งออก-นำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย และสินค้าต้องห้าม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สามารถควบคุม และตรวจสอบบุคคลผ่านแดนเข้า-ออก ได้สะดวก รัดกุมมากยิ่งขึ้น * ด่านภูดู่ สามารถเชื่อมโยงการค้า และการท่องเที่ยวได้หลายมิติ เช่น - เชื่อมอาณาจักรล้านนา (เชียงใหม่) กับอาณาจักรล้านช้าง (หลวงพระบาง) ระยะทาง 695 กม. - เชื่อมเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง กับเมืองมรดกโลกสุโขทัยศรีสัชนาลัย ซากังลาว ด้วย ระยะทาง 550-650 กม. - เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก และเมืองเมยวดี ประเทศพม่า กับ สปป.ลาว ระยะทาง ๔๒๒ กม. ด้วยเพ็กเก็จทัวร์ วันเดียวเที่ยวสามประเทศ คือ พม่า-ไทย-ลาว - เชื่อมโยงอุตรดิตถ์-นครหลวงเวียงจันทร์ ด้วยระยะทางเพียง 394 กม. - เชื่อมต่อการขนส่งทางราง โดยมีรถไฟจากสถานีรถไฟศิลาาสน์ ไปเชียงใหม่,กรุงเทพฯ ท่าเรือคลองเตย ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือสัตหีบ ได้สะดวกรวดเร็ว ที่มา : mgronline.com
จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองไทย - ลาว[1][2] หรือ ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง[3] ตั้งอยู่ในอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย เป็นด่านพรมแดนไทย-ลาว เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางกับทางหลวงหมายเลข 4 Route 4 (Laos) ของสปป.ลาว ในแขวงไชยบุรี ซึ่งสามารถเดินทางไปยังเมืองเมืองแก่นท้าวและเมืองหลวงพระบาง อีกทั้งยังเป็นประตูไปสู่เมืองต่าง ๆ เพื่อการค้าและท่องเที่ยวทั้งในลาว ต่อไปยังเวียดนามและจีนประวัติ[แก้]ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง เดิมคือ ด่านศุลกากรท่าลี่ ได้จัดขึ้นตามกระทรวงการคลังฉบับที่ 49 พ.ศ. 2508 และต่อมากฏกระทรวงฉบับที่ 130 (พ.ศ. 2543) ได้กำหนดให้ด่านศุลกากรท่าลี่ เป็นที่สำหรับนำเข้า หรือส่งออกของทุกประเภท และต่อมา ได้กำหนดอนุมัติด่านพรมแดนและศุลกากรใหม่ โดยเพิ่มทางถนนจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองไทย-ลาว มายังด่านศุลกากรท่าลี่เป้นทางอนุมัติ และตั้งด่านพรมแดนนากระเซ็งแห่งใหม่ขึ้น และกำหนดเวลาขนส่งของเข้าหรือออกในราชอณาจักร ผ่านเขตทางบกทางอนุมัติ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 18.00 น. เริ่มแรกเมื่อก่อตั้งด่านศุลกากรท่าลี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้งนายอำเภอท่าลี่ (นายทวี ทวีพูล) เป็นพนักงานศุลกากรทำการแทนกรมศุลกากร (นายด่านศุลกากร) และกรมศุลกากรได้ออกคำสั่ง แต่งตั้งข้าราชการไปประจำด่านศุลกกรท่าลี่ เปิดด่านตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2508 และต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2546 เห็นชอบให้ก่อสร้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองไทย-ลาว และด่านพรมแดน บ้านนากระเซ็งด่านศุลกรกรท่าลี่แห่งใหม่ ที่บริเวณสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว ตั้งอยู่ที่บ้านนากระเซ็ง ตำบลท่าฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย โดยมีข้อตกลงร่วมระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย กำหนดให้เป็นด่านถาวรและด่านสากล เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้าและท่องเที่ยวแก่กัน เนื่องจากจังหวัดเลย และแขวงไชยบุรี ต่างมีการค้าและท่องเที่ยวมานานมานับ 10 ปี ปัจจุบัน สปป.ลาว มีโครงการพัฒนาขยายปรับปรุงถนน จากแขวงไชยบุรี สู่เมืองหลวงพระบางซึ่งเป็นเมืองมรดกโลก ที่ระยะทางประมาณ 360 กิโลเมตร[4] การเดินทาง[แก้]ขนส่งสาธารณะ[แก้]บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ร่วมกับ บริษัทนาหลวงขนส่งโดยสารผ่านแดนและท่องเที่ยว ประจำแขวงหลวงพระบาง เปิดให้บริการรถโดยสารระหว่างประเทศปรับอากาศมาตรฐาน 1(ข) สายที่14 อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มกราคม 2557 [5] รถโดยสารจะใช้เส้นทาง บขส.เลย-ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง(ท่าลี่)-ด่านแก่นท้าว-แขวงไชยบุรี-แขวงหลวงพระบาง โดยจะออกเดินรถทุกวันจาก บขส.เลย เวลา 08.00 น. และจากแขวงหลวงพระบาง เวลา 07.00 น. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ช.ม. รวมระยะทาง 394 ก.ม.) รถยนต์ส่วนบุคคล[แก้]ผ่านทางหลวงแผ่นดินสาย 2195 ถึงกิโลเมตรที่ 55+907 และแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2480 ระยะทาง 744 เมตรเข้าสู่สะพานมิตรภาพน้ำเหือง[6] ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
|