การดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียน

แปรงฟันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ผ่านการรับรองจาก ADA เพื่อกำจัดคราบแบคทีเรีย สาเหตุหลักของฟันผุและโรคเหงือก
  • ใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อกำจัดคราบแบคทีเรียจากซอกฟันและร่องเหงือก ถ้าคราบแบคทีเรียไม่ถูกกำจัดออกทุกวัน จะจับตัวแข็งเป็นหินปูน
  • ลดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล โดยเฉพาะอาหารที่ความเหนียว
  • พบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อรับการตรวจและทำความสะอาด
  • นอกจากจะช่วยรักษาฟันให้อยู่กับเราไปตลอดชีวิตแล้ว ปากที่สะอาดยังทำให้เราดูดี มีลมหายใจที่สดชื่น และรอยยิ้มที่ดูดีกว่าเดิม

    ปัญหาทางทันตกรรมอะไรบ้างที่วัยรุ่นควรจะรู้
    ปัญหาทางทันตกรรมสามารถเกิดได้ตลอดระยะเวลาของการเป็นวัยรุ่น การเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาเหล่านั้นจะทำให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและถูกต้อง

  • การจัดฟัน 

    วัยรุ่น และวัยก่อนวัยรุ่นหลายๆ คนอาจต้องรับการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาฟันยื่นหรือฟันเก และขากรรไกรผิดปกติ ฟันที่ขบกันไม่พอดีจะยากต่อการทำความสะอาด ทำให้เกิดโอกาสหลุดก่อนวัยได้ง่ายขึ้น และเกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อที่ใช้บดเคี้ยวอาหาร ทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันจะเป็นคนบอกว่าคุณต้องรับการจัดฟันหรือไม่ และการจัดฟันแบบใดที่เหมาะกับคุณ ถ้าคุณรับการจัดฟันอยู่ ต้องให้ความดูแลเป็นพิเศษในการรักษาความสะอาดของฟัน

  •  

    • ยางกัดฟัน — ถ้าคุณเล่นกีฬา ยางกัดฟันป็นอุปกรณ์สำคัญในปกป้องรอยยิ้มของคุณ อุปกรณ์ชนิดนี้จะคลุมฟันบน เพื่อให้สามารถปกป้องการแตกหักของฟัน การกัดริมฝีปาก และอันตรายอื่น ๆ ต่อปาก ถ้าคุณรับการจัดฟันอยู่ หรือใส่อุปกรณ์ถาวรอื่นๆ ที่ขากรรไกรล่าง ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่อุปกรณ์เพื่อปกป้องฟันเหล่านั้นเช่นกัน

     

    • โภชนาการ — โภชนาการมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพปากและฟัน แป้งและน้ำตาลในขนมและเครื่องดื่มหลายๆ ชนิดทำให้เกิดการก่อตัวของคราบแบคทีเรียซึ่งไปทำลายสารเคลือบฟัน ควรจำกัดการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีแป้งและน้ำตาล แต่ละครั้งที่เรารับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีแป้งและน้ำตาลฟันของเราจะถูกทำลายโดยกรดเป็นเวลา 20 นาที การรับประทานอาหารที่ได้สัดส่วนทั้ง 5 หมู่จะเป็นผลดีต่อสุขภาพปากและฟันของคุณเป็นอย่างมาก สำหรับอาหารว่าง ควรรับประทานอาหารจำพวกเนยแข็ง ผักสด โยเกิร์ต หรือผลไม้

     

    • การสูบบุหรี่ — ถ้าคุณไม่ได้สูบบุหรี่หรือเคี้ยวใบยาสูบ ก็ไม่ควรจะเริ่ม นอกเหนือจากปัญหาสุขภาพแล้ว การสูบบุหรี่จะทำให้เกิดคราบบนฟันและเหงือก และกลิ่นปาก ในระยะยาว การเคี้ยวใบยาสูบ การสูบบุหรี่หรือซิการ์จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อมะเร็งปากและเหงือก ถ้าคุณสูบบุหรี่อยู่ ควรแจ้งให้ทันตแพทย์และแพทย์ของคุณทราบ รวมทั้งแจ้งทุก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับช่องปากของคุณด้วย

     

    • การเจาะในช่องปาก — แม้ว่าจะเป็นที่นิยมก็ตาม การเจาะในช่องปากสามารถก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ เข่น การติดเชื้อ เลือดออกที่ไม่สามารถควบคุมได้ และเส้นประสาทถูกทำลาย คุณอาจสำลักจากการที่สิ่งเหล่านั้นหลุดไปติดในลำคอ หรือไปกระทบทำให้ฟันแตกและทำลายเหงือก ถ้าคุณกำลังคิดจะเจาะ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

     

    • ความผิดปกติในการรับประทาน — ทั้งบูลิเมีย (การรับประทานและอาเจียน) และอโนเร็กเซีย (ความกลัวน้ำหนักเพิ่ม ซึ่งมักจะส่งให้เกิดการอาเจียน) เป็นความผิดปกติที่ร้ายแรง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อลักษณะของฟัน โดยจะทำลายสารเคลือบฟัน แม้ว่าทันตแพทย์จะสามารถรักษาสารเคลือบฟันที่ถูกทำลายไปได้ แต่ทันตแพทย์ไม่สามารถรักษาปัญหาเรื่องการรับประทานซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยอาการเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยการแก้ปัญหาทางจิตเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตนเอง และการควบคุมตนเอง ถ้าคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวการรับประทาน หรือคิดว่าจะมี ควรปรึกษาแพทย์

      เราจะทำให้ฟันดูขาวขึ้นได้อย่างไร 
      การทำความสะอาดอย่างทั่วถึงโดยทันตแพทย์จะกำจัดคราบภายนอกที่เกิดจากอาหารและยาสูบได้ การใช้ยาสีฟันฟอกฟันขาวก็สามารถกำจัดคราบบนผิวฟันระหว่างที่รอนัดพบทันตแพทย์ครั้งต่อไปได้เช่นกัน ถ้าคราบเหล่านั้นสะสมมานาน อาจจะต้องทำการฟอกฟันโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำจัดคราบฝังลึกออกไป

      คราบภายในสามารถทำการฟอกสีฟันหรือเคลือบผิวฟันได้ แม้ว่าแต่ละวิธีจะมีความปลอดภัยและใช้ได้ผลจริง คุณควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อดูว่าการรักษาแบบดที่เหมาะกับคุณและผลลัพธ์ที่คุณต้องการ

      การดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่วัยเรียน จะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ดี ซึ่งการสร้างสุขภาพที่ดีก็เริ่มสร้างได้จากการดูแลสุขภาพฟันน้ำนม เนื่องจากฟันน้ำนมมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ถ้าดูแลฟันน้ำนมได้ดี เด็กก็จะได้รับสารอาหารจากการทานอาหารอย่างเต็มที่ ซึ่งสารอาหารที่ได้รับเข้ามาก็จะถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ประสาทและสมอง และยังถูกนำไปใช้ในการเจริญเติบโต ทำให้เด็กมีสภาวะการเจริญเติบโตที่ดี แต่ถ้าหากว่าดูแลฟันน้ำนมได้ไม่ดี ปล่อยให้ฟันน้ำนมเกิดการผุและลุกลามไปถึงเส้นประสาทฟัน อาการปวด บวม ก็จะเริ่มรุนแรง จนสุดท้ายก็ต้องถอนฟันน้ำนมออกไป ซึ่งเมื่อไหร่ที่มีการถอนฟันน้ำนมออกไป ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับเด็กโดยตรง โดยจะทำให้เด็กมีพัฒนาที่ช้าลง ไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการเจริญเติบโตของเด็ก ทำให้เด็กไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามที่ควรจะเป็น

      ทำไมเด็กวัยเรียนควรหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ

      เหตุผลที่เด็กวัยเรียนควรหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ก็เพราะว่าเด็กวัยเรียนมีฟันขึ้นครบ 28 ซี่แล้ว โดยฟันกรามถาวรซี่แรกจะขึ้นต่อจากฟันน้ำนมในช่วงอายุ 6-7 ปี และฟันกรามซี่ที่ 2 จะขึ้นในช่วงอายุ 11-13 ปี ซึ่งช่วงนี้เองที่เด็กวัยเรียนควรจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปาก ถึงแม้ว่าเด็กส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกฝนให้หมั่นแปรงฟันตั้งแต่อยู่ในโรงเรียน แต่บางทีพฤติกรรมการแปรงฟันและพฤติกรรมการทานอาหารของเด็กอาจจะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ที่บ้าน โดยเด็กหลายคนชอบรับประทานขนมและดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ซึ่งน้ำตาลที่อยู่ในอาหารเหล่านี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฟันผุ
      เมื่อเด็กๆรับประทานอาหารอย่างขนมหวานและน้ำหวานเข้าไป แต่ไม่ได้มีการแปรงฟันหลังมื้ออาหารหรือก่อนนอน ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ โดยอาจจะทำให้เกิดฟันผุลุกลาม ตามมาจนถึงขั้นสูญเสียฟัน โดยในเด็กวัยเรียนตั้งแต่ 6 ถึง 13 ปี ถือว่าเป็นช่วงกำลังที่มีฟันผสมระหว่างฟันน้ำนมกับฟันแท้ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องดูแลให้ดี เพราะถ้าหากดูแลฟันน้ำนมไม่ดี มีฟันผุ แปรงฟันไม่สะอาดหรือมีเชื้อโรคในช่องปาก ก็อาจจะส่งผลกระทบไปถึงฟันแท้ ทำให้ฟันแท้ที่อยู่ใกล้กับฟันน้ำนมผุพัง ดังนั้นเด็กวัยเรียนจึงควรดูแลสุขภาพในช่องปากให้ดีให้ดีที่สุด เพื่อป้องกันฟันผุและป้องกันการสูญเสียฟันในอนาคต 

      วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียน ทำอย่างไร

      แม้เด็กวัยเรียนส่วนใหญ่จะได้รับการปลูกฝังการดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการดูแลสุขภาพในช่องปากของแต่ละคนจะดี เพราะบางทีพฤติกรรมการกินของแต่ละคนก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก ดังนั้นการดูแลสุขภาพฟันจึงต้องทำอย่างเหมาะสม โดยสามารถทำได้จากวิธีต่างๆดังนี้
      1.    แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ควรแปรงทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อลดจุลินทรีย์และคราบพลัคในช่องปาก สำหรับยาสีฟันที่เหมาะสมกับเด็กวัยเรียนก็คือยาสีฟันระงับกลิ่นปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะฟลูออไรด์จะช่วยซ่อมแซม เคลือบฟันและช่วยป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี
      2.    ใช้ไหมขัดฟัน สำหรับไหมขัดฟันคือหนึ่งในอุปกรณ์ทำความสะอาดฟันที่มีประโยชน์ โดยไหมขัดฟันจะ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นฟันผุ โรคปริทันต์ ช่วยทำความสะอาดซอกฟัน ในบริเวณที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ สำหรับการใช้ไหมขัดฟันในการทำความสะอาดฟัน ควรใช้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยจะใช้ก่อนหรือหลังการแปรงฟันก็ได้
      3.    ตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตัวเอง ควรทำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งหลังการแปรงฟัน โดยให้ตรวจดูช่องปากว่าแปรงฟันสะอาดหรือยัง หากยังแปรงฟันไม่สะอาดหรือแปรงไม่ทั่วถึง ให้แปรงซ้ำอีกครั้ง เมื่อแปรงเสร็จให้ตรวจดูว่ามีฟันผุหรือมีอะไรผิดปกติในช่องปากหรือไม่ ถ้าหากมีความผิดปกติจะได้รีบทำการแก้ไข
      4.    พบทันตแพทย์เป็นประจำ แนะนำให้พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อทำการตรวจเช็กสุขภาพช่องปาก เพราะถ้าหากมีฟันผุหรือมีความผิดปกติในช่องปาก ก็จะสามารถรักษาและแก้ไขได้ทัน นอกจากนี้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ พร้อมกับบอกวิธีการรักษาสุขภาพในช่องปากที่เหมาะสมได้อีกด้วย
      5.    ขูดหินปูน เพราะการขูดหินปูนจะช่วยลดการเกิดคราบแบคทีเรีย ซึ่งเป็นปัญหาของโรคเหงือกและโรคปริทันต์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันฟันผุ ลดกลิ่นปาก ยืดอายุฟัน ทำให้ฟันสะอาด ดูสุขภาพดี และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในเวลายิ้มได้เป็นอย่างดี 

      เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ที่ไม่เป็นอันตราย ปลอดภัย

      การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ส่งผลต่อการดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียนเป็นอย่างมาก แม้ว่าในปัจจุบันเราจะสามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากยี่ห้อต่างๆ ตามร้านสะดวกซื้อหรือตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่บางทีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็อาจไม่ได้ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในช่องปากที่ดีพอ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ควรคิดและอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนซื้อ เพราะถ้าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากได้ดี โอกาสที่จะเกิดความผิดปกติในช่องปากก็จะลดลง ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการดูแลช่องปากวัยเรียน ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์และธรรมชาติ อย่างเช่น ยาสีฟันหลอดสีดำ ที่มีส่วนผสมของ Charcoal, Mentha Piperita oil, Sodium Fluoride เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อราที่เป็นสาเหตุหลักของฟันผุ อีกทั้งยังทำให้ฟันขาวสะอาด และยังลดการสะสมของหินปูนได้เป็นอย่างดี

      การดูแลสุขภาพช่องปาก เป็นสิ่งที่ควรทำและควรต้องทำเป็นประจำ เพราะถ้าดูแลสุขภาพในช่องปากได้ดี สุขภาพฟันและสุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรง ดังนั้นคนที่อยากดูแลสุขภาพในช่องปากให้ห่างไกลจากฟันผุและห่างไกลจากปัญหาต่างๆ ควรรีบหาผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากดีๆมาใช้ สำหรับใครที่ยังไม่มีตัวเลือกดีๆ เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ไม่เป็นอันตราย ของ Medent Thailand อย่างเช่น ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก นอกจากนี้ Medent ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากให้เลือกใช้อีกมากมาย หากใครสนใจ สามารถเข้าไปที่ MedentThailand  หรือ Shopee  ฯลฯ หากใครอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้างที่มีขาย คลิกเช็คเลย