“ถ้าเพื่อนโทรศัพท์มาหาเพื่อขอยืมเงิน จะให้ยืมหรือไม่” เป็นคำถามที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะถ้าให้ยืมก็กังวลว่าจะไม่ได้คืน ไม่ไว้ใจเพื่อน แต่ถ้าปฏิเสธก็กังวลว่าจะเสียเพื่อน หรือบางคนประกาศเลยว่า จะให้ยืมเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น Show CNN Money ทำการสำรวจผู้คนในสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการให้เพื่อนยืมเงิน ปรากฏว่าผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 27% ยอมรับว่าเมื่อให้เพื่อนยืมเงินแล้วจะไม่ได้คืน ส่วนอีกราว 43% บอกว่าได้เงินคืนแต่ได้ไม่เต็มจำนวน แปลว่า การให้เพื่อนยืมเงิน ไม่ใช่เรื่องที่ดีนักและอาจตามมาด้วยเรื่องขุ่นเคืองใจกัน ดังนั้น การตัดสินใจให้เพื่อนยืมเงินอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะมีโอกาสสูงที่จะไม่ได้เงินคืน ผิดใจกัน จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะปฏิเสธตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ถ้ายังลังเลว่าจะให้เพื่อนยืมเงินหรือไม่ ควรพิจารณาเรื่องเหล่านี้ก่อน
เมื่อเพื่อนมาขอยืมเงิน ควรให้ใช้เวลาไตร่ตรองก่อน ด้วยการอธิบายก่อน เช่น ขอตรวจสอบเงินก่อนว่าตอนนี้เหลือพอที่จะให้ยืมหรือไม่ หรืออาจบอกว่าช่วงนี้มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้ก็แนะนำให้เพื่อนหาช่องทางอื่น ๆ เพราะอาจมีสถาบันการเงินบางแห่งจัดโปรโมชั่นบริการกู้ยืมเงิน
บางครั้ง อาจไม่มีเงินให้ยืมหรือไม่ต้องการให้เพื่อนยืมเงิน ดังนั้น ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็แค่พูดว่า “ไม่” แต่ถ้าไม่กล้าพูดคำว่า “ไม่” ลองหาเหตุผลอื่น ๆ เพื่อต้องการรักษามิตรภาพที่ดีต่อกัน เช่น เรามีกฎที่จะไม่ให้เพื่อนยืมเงิน เพราะอาจทำให้มิตรภาพพังได้ แต่ถ้าเพื่อนฟังแล้วไม่เข้าใจก็ให้กลับไปใช้เคล็ดลับข้อ 1
ถ้าให้เพื่อนยืมเงินจำนวนมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องร่างเอกสารระบุเงื่อนไขของเงินกู้ โดยระบุว่าใครคือผู้ให้กู้ ชื่อผู้กู้ จำนวนเงินกู้ วันที่ผู้กู้เริ่มชำระเงิน ระยะเวลาการชำระคืนทั้งหมด และถ้ามีดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายก็ให้กำหนดไว้ด้วย และทั้งสองฝ่ายก็เซ็นชื่อกำกับ ซึ่งเอกสารนี้จะปกป้องจากความเข้าใจผิดและในกรณีที่ผู้กู้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินคืน
กฎเหล็กของนักพนันมืออาชีพ คือ อย่าเดิมพันมากเกินกว่าที่ตัวเองจะรับไหว เช่นเดียวกับการให้เพื่อนยืมเงิน โดยหลังจากประเมินการเงินของตัวเองและพบว่าไม่สามารถให้เพื่อนยืมได้ก็ต้องปฏิเสธ และควรมีกฎเหล็ก คือ ไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่เป็นธนาคารให้เพื่อน อย่างไรก็ตาม ถ้าเพื่อนมาขอยืมเงินในจำนวนเล็กน้อย และประเมินแล้วว่าให้ยืมได้และไม่ทำลายมิตรภาพ ถ้าให้เพื่อนยืมก็ควรเตรียมทำใจถ้าโดนเบี้ยวหรือถูกผิดนัดการจ่ายคืน
เมื่อเพื่อนมาขอยืมเงิน ส่วนใหญ่มักจะให้ยืมง่ายๆ จากนั้นก็ลุ้นว่าจะได้คืนหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก ดังนั้น ถ้าตัดสินใจให้เพื่อนยืมเงินควรขอหลักประกันด้วย เช่น เครื่องประดับ รถยนต์ และควรอธิบายให้เพื่อนเข้าใจว่าทำไมถึงขอหลักประกัน เช่น เพื่อความสบายใจและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเอาไว้ต่อไป
เมื่อให้เพื่อนยืมเงินส่วนใหญ่จะไม่คิดดอกเบี้ย แต่ในความเป็นจริงก็สามารถคิดดอกเบี้ยได้แต่ในระดับเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับอธิบายให้เพื่อนเข้าใจว่า การคิดดอกเบี้ยเป็นการลดค่าเสียโอกาสจากเงินก้อนนี้ เพราะสามารถนำลงทุนช่องทางอื่นๆ เพื่อหาผลตอบแทนที่ดีได้
การให้เพื่อนยืมเงินได้ แสดงว่าต้องเป็นเพื่อนสนิท รู้จักกันมานานจึงเชื่อใจเต็มที่ แต่ก็ไม่ควรลืมว่านี่คือเงินของเราและมีสิทธิ์ได้รับคืน ดังนั้น ถ้าเพื่อนผิดนัดจ่ายหนี้คืนก็ต้องติดต่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเข้าใจเหตุผลถึงความจำเป็นก็สามารถยืดหยุ่นได้ แต่ถ้าผู้กู้ไม่ขอโทษหรือไม่กังวลเกี่ยวกับการผิดนัดหรือคืนเงินล่าช้า เราก็ควรมีเหตุผลที่จะไม่ยืดหยุ่น การให้เพื่อนยืมเงินก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันไป บางคนให้ยืมเพราะเห็นอกเห็นใจและมั่นใจว่าจะได้เงินคืนเต็มจำนวน บางคนกลัวจะทำลายความสัมพันธ์จึงให้ยืมโดยที่ไม่กลัวว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ ขณะที่บางคนมีกฎว่าไม่ให้เพื่อนยืมเงินโดยโดขาดเพราะกลัวจะเสียความเป็นเพื่อนไปตลอดกาล ดังนั้น การตัดสินใจว่าจะให้เพื่อนยืมเงินหรือไม่นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะนอกจากต้องเผื่อใจกับการไม่ได้เงินคืน ได้คืนแต่ไม่เต็มจำนวนแล้ว ยังต้องพยายามรักษามิตรภาพที่ดีเอาไว้ต่อไปอีกด้วย ปัญหาใหญ่ของมนุษย์ออฟฟิศเมื่อใกล้กลางเดือนเข้าไปทุกที เงินทองที่มีก็เริ่มร่อยหรอ ทางแก้ง่ายๆ คงต้องหาคนยืมเงิน แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นไม่ได้อยู่ที่คนยืมเงิน แต่เป็นฝ่ายถูกยืม เพราะถ้าเจอคนดียืมแล้วเขาก็รีบคืน แต่ถ้าเจอคนไม่ดีโอกาสได้คืนคงจะน้อย ทวงเงินยังไง ไม่ให้เสียเพื่อน ถ้าหลวมตัวให้เพื่อนยืมเงินไปแล้ว คำว่าเพื่อนยังค้ำคอ แต่ก็ยังอยากได้เงินคืนอยู่ ลองใช้วิธีเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการทวงเงินจากเพื่อน ดังนี้ ลองทวงดีๆ บางครั้งอาจแค่ลืม อันดับแรกอย่าเพิ่งมองคนที่ยืมเงินในแง่ลบไปเสียหมด เพราะเขาอาจแค่ลืมก็ได้ บางทีคนที่ขอยืมเงินไม่ได้คืนภายในวันหรือสองวัน เมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน หรือ 2 เดือน เพื่อนอาจลืมไปแล้วก็ได้ว่าเคยยืมเงินคุณไป ถ้ายังอยากได้เงินคืนลองเริ่มต้นจากการพูดคุยธรรมดาๆ ก่อน โดยใช้น้ำเสียงแบบปกติที่เคยคุยกันทุกวัน ทำให้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีจังหวะค่อยปิดท้ายบทสนทนาว่า “ลืมอะไรไปหรือเปล่า อย่าลืมคืนเงินที่ยืมเราไปนะ” การพูดแบบนี้จะเป็นการรักษาน้ำใจ และทำให้เพื่อนที่ยืมเงินเราไปไม่รู้สึกอายที่โดนทวงเงิน พยายามให้เพื่อนสัญญา ต่อเนื่องจากข้อแรกหากเพื่อนไม่ได้ลืมแต่ก็ไม่ยอมคืนเงินคุณสักที ลองพูดให้เพื่อนรู้ตัว และถามว่าจะคืนเงินได้เมื่อไหร่ เช่น ถ้าเพื่อนบอกว่าจะคืนเงินให้ในอีกสองวัน เมื่อในอีกสองวันมาถึงคุณจะมีความชอบธรรม และสามารถพูดทวงเงินอีกครั้งได้ โดยที่คุณไม่ต้องรู้สึกผิดเพราะเป็นสิ่งที่เพื่อนของคุณสัญญาด้วยตัวเอง ทำให้การคืนเงินง่ายที่สุด หลายครั้งที่เราจ่ายเงินค่าอาหารให้เพื่อนไปก่อน โดยธรรมชาติแล้วเราทุกคนอยากคืนเงินให้กับคนที่เรายืมมาให้เร็วที่สุด แต่ถ้าเราอยากจ่ายเป็นเงินสดแต่เพื่อนไม่มีเงินทอน ลองเปลี่ยนไปใช้การโอนเงินแทนดีกว่า เพราะง่ายกว่า รวดเร็วกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอนให้ยุ่งยาก อย่าปล่อยให้เพื่อนยืมเงินนานๆ จนพากันลืม การให้ยืมเงินถ้ายิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปจนต่างฝ่ายต่างลืม ปัญหาที่เกิดขึ้นคือคนที่ให้ยืมก็จะไม่กล้าทวง เพราะกลัวว่าจะทำให้เพื่อนรู้สึกไม่ดี เหมือนโดนหักหน้า กลัวว่าความสัมพันธ์จะมีปัญหา ทางแก้ง่ายๆ คือ รีบๆ ทวงเงินตั้งแต่แรก อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปนาน เปลี่ยนจากการคืนเงิน เป็นการเลี้ยงข้าวแทน ถ้าคุณไม่ได้หวังให้เพื่อนของคุณคืนเงินที่ยืมเป็นตัวเงิน ลองเปลี่ยนเป็นการให้เพื่อนเลี้ยงข้าวคุณแทน ซึ่งค่าข้าวที่คุณจะให้เพื่อนจ่ายควรมีราคาใกล้เคียงกับเงินที่เพื่อนคุณยืมไป ซึ่งการให้เลี้ยงข้าวแทนการจ่ายเงินคืน จะเป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน ไม่ทำให้เพื่อนรู้สึกไม่ดีที่ถูกทวงเงิน ทำทุกอย่างให้เป็นหลักฐาน การพูดปากเปล่าไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ ควรหาทางทำให้การยืมเงินมีหลักฐานอย่างชัดเจน เช่น หากเพื่อนขอยืมเงิน ให้พิมพ์ข้อความส่งไปหาเพื่อนว่าจะยืมเงินเท่าไหร่ กำหนดคืนเงินวันไหน เพราะเราไม่รู้เลยว่าเพื่อนจะไว้ใจได้จริงหรือไม่ การมีหลักฐานการยืมเงินไว้อย่างน้อยก็สร้างความสบายให้เราได้ ให้ผ่อนคืนเป็นงวด ดีกว่ารอเงินก้อน ถ้าเงินที่เพื่อนยืมเป็นเงินจำนวนมาก และเพื่อนของคุณไม่สามารถคืนเงินได้ทั้งหมดในครั้งเดียว เพราะมีปัญหาเรื่องการเงิน ลองให้เพื่อนของคุณแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ละไม่มาก จะดีกว่าการรอเงินก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้คืน บอกเพื่อนไปว่าคุณต้องการเงินด่วน ไม่ใช่แค่เพื่อนของคุณคนเดียวเท่านั้นที่มีภาระต้องกินต้องใช้คุณก็เช่นกัน ลองบอกเพื่อนว่าเดือนนี้คุณมีภาระที่ต้องใช้เงินเยอะ ซึ่งคุณจำเป็นต้องได้เงินคืนจากเพื่อน เพื่อนำเงินจำนวนนั้นไปใช้ เพื่อนของคุณอาจเห็นใจ และรีบคืนเงินให้คุณเร็วที่สุดก็ได้ ให้คนใกล้ตัวช่วยเตือน บางครั้งคุณอาจไม่อยากทวงเงินด้วยตัวเอง คุณอาจให้เพื่อนอีกคนที่รู้จักกับเพื่อนที่ยืมเงินคุณก็ได้ โดยอาจบอกเป็นการอ้อมๆ ให้เพื่อนอีกคนเข้าไปถามว่าช่วงนี้มีปัญหาทางการเงินหรือเปล่า มีอะไรให้ช่วยเหลือไหม หรือหากเป็นเพื่อนที่สนิทมากๆ อาจถามตรงๆ ได้เลยว่าลืมคืนเงินหรือเปล่า ไม่ให้ใครยืมเงิน ไม่ปวดหัว ทางเลือกสุดท้าย ถ้าคุณเจอเพื่อนที่ไม่ยอมคืนเงินคุณบ่อยๆ หรือต้องทวงหลายครั้งจึงจะยอมคืนเงิน ทางแก้ที่ดีที่สุดคือต้องไม่ให้ยืมตั้งแต่แรก หนี้เก่าที่ยืมไปแล้วถ้าไม่มากอาจเลือกที่จะไม่สนใจ ปล่อยเลยตามเลยได้ แต่ถ้ามากคงต้องทบทวนความสัมพันธ์กันใหม่ ไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยอีก เพื่อนยืมเงินไม่คืนฟ้องศาลได้ไหมดังนั้น การกู้ยืมเงินถึงแม้จะมีสัญญาหรือไม่มีสัญญา มีเพียงแชทการสนทนากู้ยืมเงิน หรือสลิปโอนเงิน จะเป็นเพียงคดีแพ่ง จะไม่สามารถแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีให้ได้ ตำรวจไม่มีอำนาจฟ้องร้องคดีทางแพ่ง
ทำยังไงให้ได้เงินคืนเร็วๆ7 แนวทาง 'ทวงหนี้' อย่างมีศิลปะ ได้เงินคืนแบบไม่เสียน้ำใจ. ใจกล้าเข้าไว้ ... . ให้เกียรติลูกหนี้เสมอทั้งต่อหน้า และลับหลัง ... . ตั้งสติ คิดให้ดีก่อนที่จะพูด ... . อย่าท้อแท้ ต้องอดทน เพราะฉันเองก็มีเหตุผลไม่ต่างกัน ... . ยื่นข้อเสนอให้ลูกหนี้สบายใจมากขึ้น ... . ให้บุคคลที่สามช่วยเจรจา ... . ใช้กฎหมายเป็นตัวช่วย. ทำยังไงให้เพื่อนคืนเงิน5 เทคนิคตามเงินคืนจากเพื่อนโดยไม่เสียเพื่อน. 1. อย่าทวงต่อหน้าคนอื่น ... . 2. ให้เวลาเพื่อนในการหาเงินมาคืน ... . 3. ดราม่านิด ๆ เราก็เดือดร้อนเหมือนกัน ... . 4. แบ่งจ่ายก็ได้นะ ... . 5. รับคืนหนี้ในรูปแบบอื่นได้หรือไม่ ?. เราควรให้คนอื่นยืมเงินไหมขออย่างเดียว อย่าไปกู้หรือยืมเงินใครมาให้ความช่วยเหลือคนอื่น เพราะนั่นมันไม่ได้ทำให้เกิดความสุข สันติสุขอย่างแท้จริง มันเป็นการให้แบบมีนัยแอบแฝง ย่อมนำความทุกข์มาสู่เราอย่างแน่นอน การกู้หรือเอาเงินอนาคตมาใช้เพื่อช่วยเหลือคนอื่นนั้น ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง
|