“ประจำเดือน” คือเยื่อบุของโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ในปกติผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์จะมีรอบเดือนทุกๆ 21-35 วัน และแต่ละรอบจะยาวนานราว 2-7 วัน หากประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีความผิดปกติอะไรบ้างอย่าง อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ได้ Show เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นอย่างไร? อาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด สามารถแบ่งผู้ป่วยได้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ยังไม่ควรจะมีประจำเดือน เช่น เด็ก หรือวัยรุ่นผู้หญิงที่ยังไม่มีประจำเดือน กับ กลุ่มผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ในสองกลุ่มนี้ถ้ามีเลือดออกทางช่องคลอด ถือว่ามีความผิดปกติ สำหรับกลุ่มผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เลือดประจำเดือนที่ผิดปกติ อาจพบได้ ดังนี้
สาเหตุของเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
เลือดออกผิดปกติในช่องคลอดอย่างไร ควรมาพบแพทย์
การตรวจวินิจฉัยโรค เมื่อมีเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด แพทย์จะทำการซักประวัติถึงอาการที่เป็นอยู่เพื่อหาสาเหตุอย่างคร่าวๆ จากนั้นในบางรายที่มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ แพทย์อาจขอตรวจภายใน และอาจจะต้องมีการตรวจเซลล์ของปากมดลูกที่เรียกว่า Pap smear เพื่อตรวจคัดกรองภาวะมะเร็งปากมดลูก (แนะนำให้ตรวจทุกๆ 2-3 ปี ในกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยง แต่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ติดเชื้อ HIV แพทย์จะแนะนำให้ตรวจทุกปี)ในบางกรณี แพทย์อาจขอตรวจเยื่อบุโพรงมดลูก โดยการขูดมดลูก หรือเอาเซลล์ของมดลูกมาตรวจ ในกรณีที่แพทย์อาจสงสัยว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นเนื้องอกหรือไม่ แพทย์อาจขอตรวจอัลตร้าซาวนด์ หรือที่เรียกว่าการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และในกรณีที่จะตรวจระดับฮอร์โมน แพทย์อาจขอเจาะเลือดตรวจ ซึ่งนอกจากจะตรวจระดับฮอร์โมนแล้ว ยังสามารถตรวจภาวะโลหิตจางได้ด้วย การรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด ถ้าอาการที่เกิดขึ้นเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของรังไข่ แพทย์อาจพิจารณาให้รับประทานยา เพื่อควบคุมการทำงานของรังไข่ แต่ถ้ามีเนื้องอกในมดลูก หรือมีมะเร็งของระบบสืบพันธุ์ อาจรักษาด้วยการผ่าตัด หรือใช้รังสีรักษา สำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด สามารถเข้ารับคำปรึกษาที่แพทย์แผนกสูตินรีเวช ประเด็นสำคัญในบทความ
ผู้คนทั่วโลกได้รายงานว่าถึงการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือนหรือประจำเดือนหลังจากติดเชื้อโควิด-19 หรือได้รับการฉีดวัคซีน สำหรับบางคน ระยะห่างของรอบเดือนนั้นเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่บางคนพบการเปลี่ยนแปลงของปริมาณเลือดประจำเดือน มีการตกเลือดอย่างต่อเนื่อง และระดับการปวดประจำเดือนที่เพิ่มขึ้น นี่คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญรู้จนถึงขณะนี้ว่า เหตุใดรอบเดือนของคนบางคนจึงเปลี่ยนแปลงไปหลังติดโควิด การเปลี่ยนแปลงใดที่ถือว่า "ปกติ" และเมื่อใดควรขอความช่วยเหลือ มีหลักฐานหรือไม่ว่าโควิดอาจทำให้ประจำเดือนของเราเปลี่ยนแปลงไป?ในขณะที่หลักฐานจากเรื่องเล่าระบุว่า มีผู้คนจำนวนมากที่มีระยะห่างของประจำเดือนเปลี่ยนแปลงหลังการติดเชื้อโควิด-19 หรือหลังการฉีดวัคซีน นักวิจัยจึงกำลังพยายามอย่างหนักที่จะระบุหาสาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ดร.ไมค์ อาร์เมอร์ นักวิจัยอาวุโสด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ซิดนีย์ กล่าวว่า นั่นเป็นเพราะว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาใดที่ใช้กลุ่มควบคุม (control group) ที่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ได้รับวัคซีน “เห็นได้ชัดว่านั่นจะทำให้เราสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น” ดร.อาร์เมอร์ บอกกับเอสบีเอสนิวส์ อย่างไรก็ตาม ดร.อาร์เมอร์ กล่าวว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ "น่าจะเป็นไปได้" ของการติดเชื้อโควิดและวัคซีนกับการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือนในคนบางคน พญ.ปาฟ นานายักการา ผู้ชำนาญโรคเฉพาะสตรีและศัลยแพทย์ด้านการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช ที่ศูนย์สุขภาพสตรี จีน เฮลส์ (Jean Hailes for Women's Health) กล่าวว่า มีข้อสันนิษฐานหลัก 2 ข้อว่าเหตุใดสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น “มันอาจจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน โดยวัคซีนหรือการติดเชื้อส่งผลต่อฮอร์โมน หรือกลไกที่ 2 คือเป็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน คือการอักเสบซึ่งเกิดขึ้นจากการตอบสนองต่อการฉีดวัคซีนอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิคุ้มกันในเยื่อบุมดลูก ซึ่งมีศักยภาพที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของประจำเดือน” พญ. นานายักการา กล่าว “เราทราบดีว่าผู้หญิงที่ทั้งใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมหรือผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ยาคุมกำเนิด ได้รายงานการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือน ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่จะมาจากการตอบสนองทางฮอร์โมน แต่น่าจะมาจากการอักเสบมากกว่า” พญ.ปาฟ นานายักการา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของรอบเดือนหลังติดโควิด มีกลับไปเป็นปกติเมื่อผ่านไป 2-3 รอบเดือน Source: Supplied / Jean Hailes for Women's Health "ตัววัดระดับการอักเสบเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของสิ่งต่างๆ เช่น อาการก่อนมีประจำเดือน" ดร. อาร์เมอร์ กล่าว "ดังนั้น ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นไปได้คือทั้งตัวเชื้อโควิดเองและวัคซีนโควิดทำให้เกิดภาวะอักเสบซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนอง" การเปลี่ยนแปลงใดเกี่ยวกับประจำเดือนที่ถือว่า 'ปกติ'แม้ว่าประจำเดือนของแต่ละคนจะมีลักษณะ "ค่อนข้างเฉพาะตัว" แต่ดร. อาร์เมอร์กล่าวว่ารอบเดือนที่มีระยะห่างทุกๆ 24 ถึง 35 วันนั้น "ค่อนข้างปกติ" นั่นหมายความว่า หลังจากคุณติดเชื้อโควิด-19 หรือได้รับการฉีดวัคซีนแล้วหากประจำเดือนของคุณมาเร็วกว่าหรือช้ากว่าปกติ 2-3 วัน คุณก็ไม่ควรวิตก ดร. อาร์เมอร์กล่าวว่า ปริมาณของเลือดประจำเดือนที่มากกว่าหรือน้อยกว่าปกติ หรือมีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มักมีรายงานเข้ามา ซึ่งคุณไม่ควรตื่นตระหนก “ที่สำคัญคือ ผู้คนจำนวนมากรายงานว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลังจากผ่านไป 2-3 รอบเดือน” พญ.ปาฟ นานายักการา กล่าว "ในขั้นนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ส่งผลใดๆ ต่ออัตราการเจริญพันธุ์หรืออัตราการตั้งครรภ์ในอนาคต" เมื่อใดที่เราควรปรึกษาแพทย์ดร. อาร์เมอร์ กล่าวว่า ผู้ใดที่มีอาการปวดประจำเดือนอย่างต่อเนื่อง มีเลือดออกต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตกขาวที่มีสีเปลี่ยนไป ควรปรึกษาแพทย์ “ผมคิดว่า ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า” ดร. อาร์เมอร์ กล่าว "เราไม่ต้องการให้ผู้คนเพิกเฉยโดยมองว่ามันแค่อาการที่เกี่ยวข้องกับโควิด" ดร.ไมค์ อาร์เมอร์ นักวิจัยอาวุโสด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ซิดนีย์ Source: SBS / Insight พญ.ปาฟ นานายักการา เห็นด้วย โดยกล่าวว่าผู้คนควรปรึกษาแพทย์หากพบการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับรอบเดือนที่ทำให้พวกเขากังวล"อาจเป็นอาการมีเลือดออกมาก เช่นเต็มผ้าอนามัยภายในหนึ่งชั่วโมง หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ออกมา หรือหากคุณสังเกตเห็นว่าประจำเดือนมาบ่อยขึ้น หรือคุณไม่มีประจำเดือนมาสักระยะแล้ว จากเป็นเช่นนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องตัดสาเหตุอื่นที่อาจนำไปสู่อาการเหล่านั้นออกไป” พญ.นานายักการา กล่าว "สิ่งที่แย่ที่สุดคือการที่คุณนั่งอยู่บ้านขณะที่ทุกข์ทรมานอยู่อย่างเงียบๆ รู้สึกกังวล หรือใช้หมอกูเกิลหาข้อมูลเอง ขณะที่ความจริงแล้วมีความช่วยเหลือให้ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าไม่มีอะไรที่คุณต้องกังวล" พญ.นานายักการา กล่าวว่า การติดต่อแพทย์ของคุณหากคุณพบว่ามีประจำเดือนที่เปลี่ยนไปนั้น อาจยังช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของการติดเชื้อโควิด-19 และการฉีดวัคซีน “ในขั้นนี้ ดูเหมือนว่าความเสี่ยงทั้งหมดจะอยู่ในระยะสั้นมากในแง่ของการเปลี่ยนแปลงของประจำเดือน แต่วิธีเดียวที่เราจะรู้ได้คือ คุณออกมาให้ข้อมูล” พญ.นานายักการา กล่าว ประจำเดือนมาเร็วกว่าปกติเกิดจากอะไรเป็นภาวะที่ประจำเดือนมาเร็วกว่ากำหนดเป็นเวลา 7 วันขึ้นไป ติดต่อกัน 2 รอบ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากภาวะชี่พร่อง ระบบชงเริ่นไม่แข็งแรง หรือร่างกายมีภาวะร้อนกระทบระบบชงเริ่น ทำให้มดลูกเก็บกักเลือดไว้ไม่ได้ตามปกติ
ประจําเดือนมาน้อยสุดกี่วันอาการประจำเดือนมาน้อย
โดยทั่วไป รอบเดือนของผู้หญิงอยู่ในช่วง 21-35 วัน และมีช่วงเวลาที่ประจำเดือนมาแต่ละครั้งประมาณ 3-5 วัน แต่บางรายอาจมีประจำเดือนประมาณ 2-7 วัน ซึ่งเป็นภาวะปกติ โดยเลือดที่ไหลออกมานั้น อาจมีปริมาณมาก ปานกลาง หรือน้อยแตกต่างกันไป
ผู้หญิงจะเป็นประจําเดือนกี่วันประจำเดือนปกติเป็นอย่างไร? ผู้หญิงจะมีประจำเดือนทุกๆ 28 – 30 วัน (หรืออยู่ในช่วง 21- 35วัน) ผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาประมาณ 3 - 5 วัน หรือไม่ควรมาเกิน 7 วัน ปริมาณประจำเดือนที่ออกมาในแต่วันไม่ควรเกิน 80 ซีซี หรือเทียบได้กับการเปลี่ยนผ้าอนามัยประมาณ 4 ผืนต่อวัน (แบบที่มีเลือดชุ่มเต็มแผ่น)
ประจำเดือนมาคร่อมเดือนผิดปกติไหมดังนั้น หากประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือมีอาการสงสัยอื่น ๆ เช่น ประจำเดือนมากระปริบกระปรอย ปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ แนะนำมาพบแพทย์สูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจวินิฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัดจะดีที่สุดค่ะ
|