เหรียญ ครูบา ดวง ดี สันป่าตอง

เหรียญครูบาดวงดี วัดท่าจำปี สันป่าตอง รุ่นสร้างโรงพยาบาลสันป่าตอง ปี 2545...../2 - webpra

เหรียญ ครูบา ดวง ดี สันป่าตอง

ประมูล หมวด:ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง - ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี - ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพทธบาทห้วยต้ม

รายละเอียดชื่อพระเครื่องเหรียญครูบาดวงดี วัดท่าจำปี สันป่าตอง รุ่นสร้างโรงพยาบาลสันป่าตอง ปี 2545...../2รายละเอียดทองแดง

--------------

เรียน ทุกท่าน

1. งดต่อราคา
2. การโอนเงินกรุณาโอนเป็นเศษสตางค์ต่อท้ายจะดีมาก เช่น XXX.01, XXX.05 เพื่อเป็นรหัสตรวจสอบ พร้อมทั้งระบุ วัน เวลา การโอนด้วยและขอให้ท่านแจ้งผ่านเมล์บล็อก เพราะการแจ้งทางโทรฯ นั้นบางครั้งไม่สะดวกรับ เนื่องจากวัน ๆ โทรศัพท์เข้าหลายสิบสาย บางทีไม่ได้รับ รับไม่ทัน หรือรับแล้วอาจลืมได้ ดั้งนั้นแจ้งทางเมล์บล็อกสะดวกที่สุด เพราะตรวจสอบได้
3. ท่านใดเปลี่ยนที่อยู่ขอให้แจ้งทุกครั้งที่ทำการซื้อขาย เนื่องจากทางร้านไม่ได้เก็บข้อมูลเก่าไว้และให้แจ้งมาพร้อมกับการโอนเงินเลย โดยแจ้งทาง Maibox
4.ท่านที่แจ้งการโอนเงินหรือแจ้งเปล่ี่ยนที่อยู่มาทางข้อความมือถือ ช่วยระบุรายการพระด้วย เพราะถ้าแจ้งมาเฉย ๆ หรือส่งที่อยู่มาลอย ๆ ทางร้านไม่รู้ว่าเป็นพระรายการอะไรทำให้จัดส่งไม่ถูก
5. สินค้าจัดส่งให้เฉพาะกับท่านที่แจ้งการโอนเข้ามาก่อน ส่วนท่านที่โอนแล้วไม่ได้แจ้งเข้ามา ทางร้านขออนุญาตยังไม่จัดส่งจนกว่าจะได้รับการแจ้ง เพื่อป้องกันการผิดพลาด เนื่องจากรายการประมูลมีเยอะ บางครั้งมียอดซ้ำกันหลายรายการ ทำให้ตรวจสอบยาก
6. ท่านสามารถสะสมหลายรายการแล้วค่อยโอนพร้อมกันได้
7. สินค้ามูลค่า 100 บาท ขึ้นไป จัดส่งแบบไปรษณีย์ลงทะเบียน พระบูชาส่งแแบบพัสดุลงทะเบียน
8. หากมูลค่าสินค้าไม่ถึง 100 บาท ส่งแบบติดแสดมป์ ถ้าต้องการให้ส่งแบบลงทะเบียน เพิ่มค่าส่ง 20 บาท EMS เพิ่ม 40 บาท
9. สีรูปพระกับองค์จริงอาจแตกต่างกัน เพราะข้อจำกัดในการถ่ายรูป
10. ท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิก หากต้องการเช่าพระรายการนี้ โทร.098-9954196
------------

ราคาเปิดประมูล240 บาทราคาปัจจุบัน240 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาทวันเปิดประมูลจ. - 01 พ.ค. 2566 - 12:00.29วันปิดประมูลผู้ตั้งประมูลแชร์หน้านี้

เหรียญ ครูบา ดวง ดี สันป่าตอง

รายละเอียดราคาประมูลราคาปัจจุบัน240 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)เพิ่มครั้งละ10 บาท

ยินดีต้อนรับ เข้าสู่การประมูล ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย

เคาะประมูลกรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ

รายละเอียดผู้เสนอราคาผู้เสนอราคาราคาเวลายังไม่มีผู้ประมูล

ยินดีต้อนรับสู่ Web-Pra.com เว็บไซต์พระเครื่องที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย

ระบบค้นพบว่าคุณพึ่งเคยเข้า www.Web-Pra.com เป็นครั้งแรก
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ www.Web-Pra.com คุณสามารถ:

  1. เปิดร้านค้าของคุณเอง ฟรี
  2. ตั้งประมูล ฟรี
  3. ร่วมประมูล ฟรี
  4. เว็บบอร์ด พูดคุยกับเพื่อนฝูงในวงการพระเครื่อง ฟรี
  5. ระบบซื้อขายอย่างปลอดภัย ฟรี
  6. เผยแพร่ หรือ อ่านบทความพระเครื่อง ฟรี
  7. ระบบทำเนียบพระเครื่อง
มีปัญหาข้อสงสัยติดต่อ [email protected]
หมายเหตุ: คุณควรบันทึกรายการโปรดไว้ เพื่อเข้ามาใช้บริการในภายหลัง

หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทโท ถือกำเนิดที่บ้านท่าจำปี ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นคนพื้นเพบ้านท่าจำปีมาแต่กำเนิด บิดามารดา เป็นชาวไร่ชาวนา โยมบิดาชื่อ พ่ออูบ โยมมารดาชื่อ แม่จั๋นติ๊บ (สมัยนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล) หลวงปู่ถือกำเนิดในแผ่นดินรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ตรงกับสมัยพ่อเจ้าอินทวิชยานนท์(เจ้ามหาชีวิต) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๖ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๙ หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๘ คน เป็นชาย ๔ คน เป็นหญิง ๔ คน หลวงปู่เป็นลำดับที่ ๗ และมีน้องสุดท้องชื่อแม่นิน

เริ่มต้นชีวิตในผ้ากาสาวพัตร

เมื่อหลวงปู่อายุได้ ๑๑ ปี ได้ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ เมื่อท่านครูบาเจ้าฯได้เห็นเด็กชายดวงดี ท่านก็มีเมตตาอย่างสูงเรียกเข้าไปหาพร้อมกับบอกพ่อแม่ว่า "กลับไปให้เอาไปเข้าวัดเข้าวา ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งพาไหว้สามัน" นับเป็นพรอันประเสริฐ ยิ่งในการที่ท่านครูบาเจ้าฯได้พยากรณ์พร้อมกับประสาทพรให้หลวงปู่ตั้งแต่ยังเด็ก
หลังจากที่เดินทางกลับถึงบ้าน ไม่กี่วันต่อมา บิดาก็นำขันข้าวตอกดอกไม้ พร้อมกับนำตัวเด็กชายดวงดีไปถวายฝากตัวเป็นศิษย์(ขะโยม)ในท่านครูบาโปธิมา ซึ่งเป็นอธิการวัดท่าจำปี ใกล้ๆบ้านนั่นเอง ครูบาโปธิมาก็ได้พร่ำสอนหนังสือของทางการบ้านเมืองสมัยนั้น หลังจากสั่งสอนเด็กชายดวงดีจนพออ่านออกเขียนได้ ท่านครูบาโปธิมาก็ย้ายจากวัดท่าจำปีไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ห่างจากวัดท่าจำปีไปเล็กน้อย ท่าครูบาสิงหะ เจ้าอาวาสท่านต่อมาได้ให้เด็กชายดวงดีศึกษาเป็นขะโยม(เด็กในวัด) อยู่กับคณูบาสิงหะได้ไม่นาน ครูบาสิงหะก็มรณภาพ คงเหลือสามเณรสิงห์แก้วดูวัดท่าจำปีแทนและทำหน้าที่สั่งสอนลูกศิษย์ไปด้วย หลังจากทำบุญประชุมเพลิงครูบาสิงหะแล้วสามเณรสิงห์แก้วก็ลาสิกขาจึงทำให้วัดท่าจำปีร้างรกไม่มีเจ้าอาวาสติดต่อกันถึง ๓ ปี ในขณะที่วัดร้างรานั้น หลวงปู่หรือเด็กชายดวงดีขณะนั้นก็ทำหน้าที่ดูแลวัดอย่างที่เคยปฏิบัติมา เช่น ปัดกวาดกุฏิวิหาร จัดขันดอกไม้บูชาพระ ตักน้ำคนโท(น้ำต้น)ถวายพระพุทธรูปตลอดเวลา

ต่อมาคณะศรัทธาวัดท่าจำปี ได้อาราธนานิมนต์ท่านครูบาโสภามาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกอีกตำแหน่งด้วย ทำให้วัดท่าจำปีเกิดความสำคัญขึ้นมาอย่างยิ่ง เพราะนอกจากท่านครูบาโสภณจะเป็นเจ้าคณะตำบลแล้ว ท่านยังเป็นพระสหธรรมมิกที่มีอายุพรรษารุ่นราวคราวเดียวกันกับม่านคณุบาศีลธรรมศรีวิชัย มีผู้คนเคารพนับถือมากมายถึงกับขนานนามท่านว่า "ตุ๊เจ้าตนบุญตนวิเศษแห่งล้านนา" จริงๆ เพราะท่านมีบุญญาอภินิหารปรากฏแก่สายตาคนทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ร่ำลือถึงเหตุการณ์ต่างๆอย่างไม่ลดละตราบจนทุกวันนี้

หลังจากเด็กชายดวงดีศึกษาภาษาพื้นเมืองได้คล่องแคล่ว อายุได้ ๑๓ ปีพอดีท่านครูบาโสภาจึงนำเด็กชายดวงดีไปปรึกษากับท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านได้ขึ้นมาบูรณะปฏิสังขรณ์ทางเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.๒๔๖๒ ท่านครูบาศรีวิชัยมีความพอใจเด็กชายดวงดีมาก ท่านครูบาโสภาก็เล่าเรื่องการบวชเณรให้ท่านครูบาศรีวิชัยฟัง ท่านก็บอกกับครูบาโสภณว่า "ถ้าบวชพระแล้วก็หื้อขึ้นมาจำพรรษาอยู่วัดพระสิงห์นี่แหละ จะได้เป็นเพื่อนกับนายสิงห์ดำ" (ซึ่งเป็นหลานแท้ๆของท่านครูบาศรีวิชัย)ซึ่งมีหน้าที่ปลงเกศาให้กับท่านครูบาศรีวิชัย

ครั้นหลวงปู่ดวงดีบรรพชาเป็นสามเณรแล้วโดยมีท่านครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌายะบรรพชา ได้ไม่กี่วันก็ส่งตัวเข้ามาในเมืองเชียงใหม่ อยู่จำพรรษาและช่วยเหลือท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย คอยปฏิบัติพัดวีตามอาจาริยวัตรที่ครูบาอาจารย์ในยุคสมัยนั้นสั่งสอน ไหว้พระสวดมนต์ นั่งกรรมฐาน บูชาขันดอกไม้ และช่วยเหลืองานก่อสร้างต่างๆ ซึ่งในขณะนั้นท่านครูบาเจ้าศริวิชัยต้องเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อสร้างสรรค์บูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ วัดวาอารามต่างๆทุกจังหวัดในภาคเหนือ เมื่อหลวงปู่ดวงดีอายุครบ ๒๑ ปี จึงได้กลับไปนมัสการพระอาจารย์ท่านครูบาโสภาที่วัดท่าจำปีเพื่อปรึกษาเรื่องอุปสมบทเป็นพระภิกษุ จากนั้นท่านครูบาโสภาจึงได้เดินทางไปขออนุญาตกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เรื่องส่งมาจำพรรษาอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเหมือนเดิม

ลุ วันอาทิตย์ เดือน ๖ เหนือ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีเมืองเหม้า(ปีเถาะ) ตรงกับวันที่ ๑๒ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๗๐ สามเณรดวงดีจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ โดยมีท่านครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌายะ ท่านครูบาธัมมะเสน วัดดอนบินเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และท่านพระครูปัญญา วัดมะกับตองหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พระอุโบสถวัดสารภี ตำบลทุ่งรวงทอง กิ่งอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นามฉายาว่า "สุภทโท" หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงปู่ดวงดีก็เดินทางไปอยู่จำพรรษากับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเช่นเดิม โดยเป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติอุปฐากบำรุง
ช่วงของการปฏิสังขรณ์วัดท่าจำปีในเวลาของหลวงปู่

ในขณะที่หลวงปู่อยู่จำพรรษากับท่าครูบาเจ้าศรีวิชัยนับตั้งแต่เป็นสามเณรใหม่ๆนั้นและเดินทางปฏิบัติเล่าเรียนอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยนั้น ท่านอายุได ๒๘ ปี เป็นช่วงที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ข้องกล่าวหาต่างๆนาๆ เช่นการบุกรุกป่าสงวน ซ่องสุมผู้คน ตั้งตนเป็นผีบุญ จนถึงกับถูกจับส่งตัวไปตัดสินความที่กรุงเทพฯ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต เมื่อคณะสงฆ์ในเขตปกครองแขวงบ้านแมง (อ.สันป่าตอง)ขอลาออกจากการปกครองเมืองเชียงใหม่ถึง ๖๐ วัด ท่านครูบาโสภาวัดท่าจำปี ท่านครูบาปัญญา วัดท่ากิ่งแลหลวง ก็ถูกไต่สวนจนต้องนำคณะศิษย์หนีหนีไปแสวงบุญก่องสร้างวิหานพระพุทธบาทฮังฮุ้ง ในเขตประเทศพม่าจนไม่ยอมกลับมาอีกเลย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทาง คงค้างแต่ท่านครูบาขาวปีทำหน้าที่ดูแลวัดสิงห็ และเป็นหัวแรงในการก่อสร้างวัดวาอารามที่ค้างไว้

ลุ พ.ศ. ๒๔๘๐-๒๔๘๑ ท่านครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูนอยู่ได้ไม่นาน ก็ถึงแก่มรณภาพที่วัดจามเทวี เมื่ออายุได้ ๖๑ ปี ๕ เดือน กับ ๒๑ วัน ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ดวงดีอายุได้ ๓๒ ปี หลวงปู่ได้เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ติดตามครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาวปีมาสร้างวิหารวัดท่าจำปี
ลุ พ.ศ.๒๔๘๔ ขณะพลวงปู่อายุได้ ๓๕ปี หลังจากถวายพระเพลิงปลงศพท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเสร็จแล้วนั้น ท่านครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาวได้เชิญอัฐิธาตุของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยส่วนที่เป็นกระโหลกเท่าหัวแม่มือส่วนหนึ่งหลวงปู่นำมาเก็บรักษาสักการะบูชาจนถึงทุกวันนี้ หลวงปู่ได้อยู่ช่วยครูบาอภิชัยผ้าขาว สร้างอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิธาติของท่าครูบาเจ้าศรีวิชัยทั้งที่วัดสวนดอกและวัดหมื่นสารแล้ว ก็รับขันดอกนิมนต์จากคณะศรัทธาป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ไปสร้างวัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย เนื่องจากอารามอยู่ในป่าดง เหมาะที่จะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานซึ่งถูกกับจริตวิสัยของหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่อยู่ปฏิบัติกรรมฐานที่วัดนี้นานถึง ๗ ปี ท่านครูบาโสภาก็ขอให้หลวงปู่ลงมาก่อสร้างวัดท่าจำปีต่อจากท่าน เนื่องจากวัดท่าจำปีมีศรัทธาญาติโยมน้อยเพียง ๒๐ หลังคาเรือนเท่านั้น

หลวงปู่เดินทางกลับมาก่อสร้างวัดท่าจำปี ขณะนั้นอายุได้ ๔๒ ปีได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกจากท่านครูบาโสภาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหลวงปู่จะมีตำแหน่งหน้าที่ทางการคณะสงฆ์ก็ตาม ท่านก็มิได้ละเลยข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ในระหว่างที่มาดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากท่านครูบาโสภา หลวงปู่ก็มิได้สร้างแต่เฉพาะวัดท่าจำปีเท่านั้น ทุกวัดในละแวกเดียวกันหลวงปู่ก็ช่วยเหลือเป็นแรงสำคัญไม่ว่าถนนหนทาง อุโบสถ วิหาร เจดีย์ สะพาน หรือแม้แต่โรงเรียน โรงพยาบาล หลวงปู่ก็ให้ความอุปถัมภ์บำรุง แม้กระทั่งวัดในเขตอำเภอสันป่าตอง หรือต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด จนไม่สามารถนำมาบรรยายได้ทั้งหมด