Show พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บ่งบอกความเป็นตัวตน ไม่ว่าจะเป็นภาพ ชื่อ สำเนาบัตรประชาชน ใบขับขี่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และยังครอบคลุมไปถึงไปถึงข้อมูลการใช้งานบนโลกออนไลน์ทุกประเภท
มีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
ถ้าพบว่ามีผู้ละเมิดนำข้อมูลที่ไม่ได้อนุญาตไปใช้ประโยชน์ หรือไม่ยอมลบตามที่ถูกร้องขอ หรือสร้างความเสียหาย มีโทษสูงสุด จำคุก 1 ปี ปรับ 5 ล้านบาท กฎหมายมีผลบังคับใช้ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 Download พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 แหล่งที่มาhttp://www.mratchakitcha.soc.go.th โดย นายกุลางกูร พัฒนเมธาดา ร่วมแสดงความคิดเห็น31 พฤษภาคม 2022 ที่มาของภาพ, Getty Images พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ บัญชีธนาคาร อีเมล ลายนิ้วมือ ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น และยังให้สิทธิประชาชนในการขอให้ลบ ทำลาย หรือระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ กฎหมายนี้ไม่เพียงครอบคลุมในระดับประชาชน แต่ยังมีรายละเอียดการบังคับใช้กับหน่วยงานรัฐ สื่อมวลชน ที่แตกต่างกัน
เครือข่ายพลเมืองเน็ต องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิทธิด้านข้อมูลข่าวสารและสิทธิพลเมืองกับเทคโนโลยี และได้ติดตามการร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลฯ มาโดยตลอดตั้งแต่ร่างฉบับปี 2552 ได้ออกมาสนับสนุนให้มีการบังคับใช้กฎหมายทั้งฉบับครบทุกมาตราตามกำหนด โดยเห็นว่า ผู้ประกอบการและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง มีเวลาได้รับทราบ ว่าจะมีกฎหมายลักษณะดังกล่าวออกมาบังคับใช้แล้วไม่น้อยกว่า 6 ปีเต็ม และได้รับทราบถึงเนื้อหารายมาตราของพ.ร.บ. ฉบับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษามาแล้วเป็นเวลาเกือบ 3 ปีเต็ม "ผู้ประกอบการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ข้อมูลดังกล่าว จึงไม่ควรอ้างถึงความไม่พร้อมในการเตรียมการอีกต่อไป" อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต ระบุเมื่อ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงถึงกฎหมายฉบับนี้ว่า สามารถทำอะไรได้บ้างและไม่ได้บ้าง ดังนี้ 4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA1. การถ่ายรูป-ถ่ายคลิป ติดภาพคนอื่นโดยเจ้าตัวไม่ยินยอมจะผิด PDPA ตอบ กรณีการถ่ายรูป-ถ่ายคลิปโดยติดบุคคลอื่นโดยผู้ถ่ายรูป-ถ่ายคลิปไม่เจตนา และการถ่ายรูปถ่ายคลิปดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ถูกถ่าย สามารถทำได้ หากเป็นการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว 2. ถ้านำคลิปหรือรูปถ่ายที่ติดคนอื่นไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียโดยบุคคลอื่นไม่ยินยอมจะผิด PDPA ตอบ สามารถโพสต์ได้ หากใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว ไม่ใช้แสวงหากำไรทางการค้าและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 3. ติดกล้องวงจรปิดแล้วไม่มีป้ายแจ้งเตือนผิด PDPA ตอบ การติดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีป้ายแจ้งเตือน หากเพื่อป้องกันอาชญากรรม และรักษาความปลอดภัยกับตัวเจ้าของบ้าน 4. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ความยินยอมทุกครั้งก่อนนำข้อมูลไปใช้ ตอบ ไม่จำเป็น ต้องขอความยินยอม หากการใช้ข้อมูลดังกล่าว (1) เป็นการทำตามสัญญา (2) เป็นการใช้ที่มีกฎหมายให้อำนาจ (3) เป็นการใช้เพื่อรักษาชีวิตและ/หรือ ร่างกายของบุคคล (4) เป็นการใช้เพื่อการค้นคว้าวิจัยทางสถิติ (5) เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ (6) เป็นการใช้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ หรือสิทธิของตนเอง ทั้งนี้ หลักการข้างต้น อาจเปลี่ยนแปลงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นกรณี ๆ ไป ที่มาของภาพ, Getty Images เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิอะไรบ้าง
นอกจากนี้ หากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบสิทธิเสรีภาพของเจ้าของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่แจ้งเหตุการละเมิดให้เจ้าของส่วนบุคคลทราบ และมีแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้า ยกเว้นให้กับเรื่องอะไรบ้าง ที่ไม่ต้องขอความยินยอมในการเก็บข้อมูลพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ยังมีบทบัญญัติเกี่ยวกับหลักการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย PDPA ในมาตรา 24 ซึ่งมีหลักการเกี่ยวกับเรื่องความยินยอม (Consent) การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต การปฏิบัติตามสัญญา ประโยชน์สาธารณะ ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการปฏฺิบัติตามกฎหมาย การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัย สถิติ โดยกรณีต่าง ๆ ที่ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมจากเจ้าของ โดยไม่ต้องขอความยินยอมมีดังนี้
จำเป็นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ควบคุมตามกฎหมายที่กำหนด โดยเป็นหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และหน้าที่ตามคำสั่งของหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ เช่น เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเงินเดือนของลูกจ้างเพื่อส่งให้สำนักงานประกันสังคม ร้านค้าที่ให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว-ไฟ เก็บรวบรวมข้อมูลจราจรตามที่กำหนดใน พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ข้อยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย PDPA สำหรับกิจการสื่อมวลชนในกรณีกิจการสื่อมวลชน มาตรา 4(3) เป็นข้อยกเวินเชิงเนื้อหาที่ไม่ใช้บังคับตาม พ.ร.บ. แต่มีรายละเอียดอื่น ดังนี้
|