เเ ล ป ทอ ป

มากันในเรื่องต่อไปบ้างนั่นก็คือการใช้งาน หรือเรียกว่า ฟีเจอร์ของตัวเครื่องนั่นเองครับ สำหรับแล็ปท็อปนั้นเป็นคล้าย ๆ กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะย่อส่วนที่จะถูกผลิตออกมาเพื่อรองรับการใช้งานที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารธรรมดา งานกราฟิกหนักหรือแม้แต่ใช้เล่นเกม ดังนั้นแล็ปท็อปจึงอัดแน่นไปด้วยฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง และฟีเจอร์ที่ตอบสนองความต้องการของคนทำงานหนักรวมทั้งเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายอีกด้วย และแน่นอนว่าเมื่อการทำงานของมันนั้นใช้ประสิทธิภาพที่สูงจัด เรื่องของแบตเตอรี่จึงใช้งานอย่างหนักหน่วงด้วยเช่นกัน สำหรับอายุการใช้งานหากพกพาออกไปใช้งานนอกบ้านนั้น ก็จะอยู่ที่ราว ๆ 6 - 10 ชั่วโมง

ตัดภาพมาที่โน๊ตบุ๊คที่เน้นในเรื่องของการพกพาง่าย ทำให้การใช้งานของมันนั้นมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสำหรับงานเอกสารทั่วไป หรืองานกราฟิกที่ไม่หนักจนเกินไป ในเรื่องของฟีเจอร์ที่มีมาในเครื่องก็เป็นฟีเจอร์ทั่วไปที่ไม่กินแบตเตอรี่ จึงทำให้เวลาที่สามารถใช้งานได้ตอนออกไปนอกบ้านนั้นจึงตกอยู่ที่ราว ๆ 7 - 14 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ซึ่งทำให้คนที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสารต่างก็เลือกใช้โน๊ตบุ๊คเพราะนอกจากขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและพกพาสะดวกแล้ว ยังสามารถใช้ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เลยล่ะครับ

ความแตกต่างกันของราคา

สำหรับในส่วนของเรื่องราคานั้น ก็เป็นไปตามกลไกของฟีเจอร์ที่ถูกอัดแน่นเข้ามาภายในเครื่องเลยครับ ในเมื่อแล็ปท็อปนั้นมีการอัดฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์เข้ามามากมายนั้นจึงทำให้เป็นเครื่องที่ราคาค่อนข้างที่จะสูง โดยมีตั้งแต่ราคาเริ่มต้น 2 หมื่น ไปถึงตัวจบที่เป็นแสนก็มี ในขณะที่ราคาของโน๊ตบุ๊คนั้นจะถูกกว่ามากซึ่งมีตั้งแต่ตัวถูกที่สุดในราคาไม่ถึงหมื่นและตัวแรงสุดที่ราคาไม่ถึง 3 หมื่น ตามฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาให้ในเครื่อง ดังนั้นถ้าจะเลือกใช้งานก็คงต้องพิจารณาจากจุดประสงค์ที่เราจะซื้อว่าจะนำไปใช้ทำอะไร เพื่อเป็นการคำนวนค่าใช้จ่ายของเราเองด้วยครับ

อาจเป็นข้อสงสัยของหลายๆ คนสำหรับชื่อเรียกของ คอมพิวเตอร์พกพา (Portable Computer) ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวัน บางทีก็เรียกว่า "โน้ตบุ๊ก (Notebook)" บางคราวก็เรียกว่า "แล็ปท็อป (Laptop)" แล้ว 2 ชื่อนี้มีความหมายเหมือนกันหรือไม่ ? หรือยังมีความแตกต่างกันที่เรายังไม่รู้อีก ? มาหาคำตอบกันไปพร้อมๆ กันเลย

บทความเกี่ยวกับ Notebook อื่นๆ

ถ้าดูจากความหมายของชื่อแล้วคำว่า "โน้ตบุ๊ก" ก็คือ "สมุดจด" ในขณะที่คำว่า "แล็ปท็อป" หมายถึง "วางบนตัก" ("Lap" แปลว่าตัก และ "Top" แปลว่า "บน") ซึ่งจุดประสงค์การใช้งานของทั้ง 2 อุปกรณ์ก็คือ "คอมพิวเตอร์ที่พกพาได้" ทั้งคู่ แต่แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร เรามาดูความแตกต่างของทั้ง 2 ชื่อนี้ เป็นจุดๆ จากการเลือกเนื้อหาต่างๆ ภายในบทความนี้จากเมนูย่อยด้านล่างนี้ได้เลย 

จุดเริ่มต้นของแล็ปท็อป (Laptop) และโน้ตบุ๊ก (Notebook)

ใครเกิดก่อนกันนะ ?

Osborne 1 แล็ปท็อปรุ่นแรก ที่ไม่มีเค้าโครงของปัจจุบัน

คอมพิวเตอร์พกพาหรือแล็ปท็อปตัวแรกออกสู่ตลาดในปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ในชื่อว่า 'Osborne 1' ตามสกุลของผู้สร้าง Adam Osborne ซึ่งหน้าตาของแล็ปท็อปตัวแรกของโลกนั้น ต่างจากแล็ปท็อปในปัจจุบันอยู่มากเลยทีเดียว

แล็ปท็อปรุ่นนี้มีราคาขายเพียงครึ่งหนึ่งของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในสมัยนั้น ซึ่งราคาอยู่ที่ 1,795 เหรียญสหรัฐฯ (แปลงเป็นราคาไทยในปัจจุบันประมาณ 56,000 บาทไทย) ตัวเครื่องมีน้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัม และถูกออกแบบให้สามารถเก็บไว้ใต้ที่นั่งบนเครื่องบินได้ ซึ่งยอดขายช่วงพีคในยุคนั้น Osborne 1 ถูกผลิตขึ้นมาจำหน่ายถึง 10,000 เครื่องต่อเดือนเลยทีเดียว

Osborne 1 แล็ปท็อปรุ่นแรกของโลก
เดรดิตภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Adam_Osborne

NEC UltraLite โน้ตบุ๊กรุ่นแรก ที่ไม่ตอบโจทย์เอาเสียเลย

ต่อมาในปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) โน้ตบุ๊กตัวแรกก็ออกสู่ตลาดในชื่อว่า NEC UltraLite ซึ่งการผลิตโน้ตบุ๊กออกมา ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าแล็ปท็อปถึงแม้จะพกพาได้สะดวกกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแต่ก็ยังมีขนาดและน้ำหนักที่มากเกินไป โน้ตบุ๊กรุ่นแรกตัวนี้จึงถูกขึ้นปกนิตยสารหัวอเมริกัน PC Magazine ในเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเพียงกระดาษ A4 ที่มีลักษณะเหมือนกับสมุดจด หรือ "โน้ตบุ๊ก" นั่นเอง

โน้ตบุ๊กรุ่นแรกนี้ ถูกผลิตโดยทีมวิศวกรในบริษัท NEC Japan และเปิดตัวเมื่อตุลาคม ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่เมืองนิวยอร์ค ซึ่งต่างก็ได้รับเสียงปรบมือจากสื่อต่างๆ ที่มีความต้องการคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กสำหรับจดโน้ตหรือเขียนบทความได้ แต่ก็ต้องผิดหวังในเวลาต่อมา เมื่อสเปคของ NEC UltraLite กลับไม่ตอบความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮาร์ดไดรฟ์ไม่พอสำหรับจัดเก็บข้อมูล โปรเซสเซอร์ที่ล้าหลังตลาดไปมาก และราคาจำหน่ายที่สวนทางกับประสิทธิภาพและน้ำหนัก ประมาณ 4,000 - 5,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 155,000 บาทไทย) เลยทีเดียว

ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ปีแรกที่แล็ปท็อป และโน้ตบุ๊ก มียอดขายชนะเดสก์ท็อป

หลังจากนั้นแล็ปท็อปและโน้ตบุ๊กก็เริ่มพัฒนาตามคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปมาเรื่อยๆ จนในที่สุดปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ยอดขายของแล็ปท็อปและโน้ตบุ๊กก็ได้แซงเดสก์ท็อปเป็นครั้งแรก และเปลี่ยนทิศทางความนิยมของการใช้งานคอมพิวเตอร์จนถึงปัจจุบัน

ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) นี้ มีโน้ตบุ๊กแล็ปท็อปที่น่าสนใจออกมามากมาย และที่โดดเด่นก็คือ Fujitsu Lifebook P1510D โน้ตบุ๊กกึ่งแท็บเล็ตที่ได้รับรางวัล PC World Innovations Award สำหรับโน้ตบุ๊กในปีต่อมาอีกด้วย

สรุปสั้นๆ คือ 'แล็ปท็อป' ได้เกิดขึ้นมาก่อนด้วยจุดประสงค์ที่จะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถพกพาได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีขนาดใหญ่เกินไปอยู่ดี 'โน้ตบุ๊ก' จึงคลอดตามมาด้วยขนาดการพกพาที่เล็กลง สะดวกมากขึ้น

ความสะดวกในการพกพา ระหว่าง แล็ปท็อป และ โน้ตบุ๊ก

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะบอกว่าแล็ปท็อปมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่กว่าโน้ตบุ๊ก แต่แล็ปท็อปในปัจจุบันได้เพิ่มการพกพาที่สะดวกยิ่งขึ้น โดยตัวเลือกขนาดของแล็ปท็อปจะค่อนข้างกว้างตั้งแต่ขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว ไปจนถึง 18 นิ้ว น้ำหนักของตัวเครื่องจะอยู่ระหว่าง 1.3 ไปจนถึง 4.5 กิโลกรัม รวมทั้งขนาดตัวเครื่องแต่ละแบรนด์ก็มีทั้งแบบหนาและบางให้เลือกซื้อเช่นกัน

ส่วนโน้ตบุ๊กจะถูกผลิตให้บางและเบากว่าแล็ปท็อป ด้วยขนาดหน้าจอที่ไม่เกิน 15 นิ้ว น้ำหนักที่ไม่เกิน 2.3 กิโลกรัม โดยต้องมีขนาดที่สามารถพกพาใส่ในกระเป๋าเป้ กระเป๋าเอกสาร หรือกระเป๋าถือใบใหญ่ๆ ได้

แล็ปท็อป - พกพาได้
โน้ตบุ๊ก - พกพาง่าย

ราคาของ แล็ปท็อป และ โน้ตบุ๊ก

ช่วงราคาของแล็ปท็อปจะกว้างกว่าโน้ตบุ๊ก โดยแล็ปท็อปจะมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน (*150 - 2,500 เหรียญสหรัฐ) ส่วนโน้ตบุ๊กจะไม่เกิน 2-3 หมื่น (*150 - 400 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งหลักๆ แล้วสิ่งที่ส่งผลต่อราคาของทั้งแล็ปท็อปและโน้ตบุ๊กก็คือ ขนาดหน้าจอและระบบประมวลผล

แล็ปท็อปส่วนใหญ่มีราคาสูงกว่าโน้ตบุ๊ก
แต่ก็มีกลุ่มโน้ตบุ๊ก (อัลตร้าบุ๊ก) ที่ราคาสูงเช่นกัน

แต่โน้ตบุ๊กก็ไม่ได้มีราคาถูกเสมอไป เมื่อมีการแยกประเภทของโน้ตบุ๊กออกมาอีก อย่าง 'อัลตร้าบุ๊ก (Ultrabook)' ที่จะมีขนาดบางกว่า สเปคแรงกว่า ฟีเจอร์มากกว่า และราคาที่สูงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วๆ ไป ส่วน 'เน็ตบุ๊ก (Netbook)' จะเป็นขั้วตรงข้ามของอัลตร้าบุ๊ก ที่จะมีแค่ฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐาน และราคาที่ประหยัด

*อ้างอิงจากแหล่งที่มาต่างประเทศ https://store.hp.com/us/en/tech-takes/laptop-vs-notebook

ประสิทธิภาพการทำงาน และ ฟังก์ชันการใช้งานระหว่าง แล็ปท็อป และ โน้ตบุ๊ก

แล็ปท็อป - เน้นงานหนัก หมดแรงเร็ว
โน้ตบุ๊ก - เน้นงานเบา ใช้นานๆ

จุดประสงค์ของการพัฒนาแล็ปท็อปก็คือคอมพิวเตอร์คุณภาพสูงที่พกพาได้ เพราะฉะนั้นแล็ปท็อปจึงมีทั้งฮาร์ดแวร์ ฟีเจอร์หรือฟังก์ชั่นใหม่ๆ หรืออยู่ในระดับท็อปมาให้ใช้งาน อย่างเช่น ระบบประมวลผลไวๆ ความจุและหน่วยความจำสูงๆ ที่รับ-ส่งข้อมูลได้เร็ว และเราสามารถใช้งานแล็ปท็อปได้แทบจะทุกรูปแบบที่คอมพิวเตอร์สามารถทำได้

ส่วนโน้ตบุ๊กจะเน้นพกพาง่ายเป็นหลัก ด้านประสิทธิภาพการทำงานจึงอยู่ในระดับที่พอใช้งาน ไม่มีฟีเจอร์ที่หวือหวา อาจแค่ใช้โปรแกรมเอกสาร หรือเล่นเว็บเบราว์เซอร์ได้เท่านั้น จะเน้นไปที่ขนาดเล็ก น้ำหนักเบามากกว่า รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่าถึง 7 - 14 ชั่วโมง ต่างจากแล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงที่อายุแบตเตอรี่จะอยู่ระหว่าง 6 - 10 ชั่วโมงเท่านั้น

ตารางเปรียบเทียบ แล็ปท็อป และโน้ตบุ๊ก(Laptop and Notebook Comparison Table)

7 - 14 ชั่วโมง

ปัจจุบัน แล็ปท็อป กับ โน้ตบุ๊ก ก็แทบจะไม่ต่างกันเลย

อย่างไรก็ตามระยะห่างระหว่าง 'แล็ปท็อป' และ 'โน้ตบุ๊ก' ก็ลดลงมาเรื่อยๆ จนจะเริ่มแยกไม่ออก แต่ละแบรนด์ก็ได้ผลิตคอมพิวเตอร์พกพาที่ขนาดเล็ก เครื่องบาง น้ำหนักเบา แต่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานสูงออกมาสู่ตลาด ส่วนราคาจะสูงแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องแรงมากหรือน้อยเท่านั้นเอง

เราอาจต้องแยกความแตกต่างระหว่าง แล็ปท็อป กับ โน้ตบุ๊ก ด้วยชื่อของมันแทน ถ้าวางตักใช้งานได้ ก็คือ 'แล็ปท็อป' แต่ถ้าพกง่ายเหมือนสมุดก็คงเป็น 'โน้ตบุ๊ก' นั่นเอง

ชื่อเรียกของคอมพิวเตอร์พกพาในปัจจุบัน(Portable Computer Name)

ปัจจุบันคอมพิวเตอร์พกพา (Portable Computer) นั้นไม่ได้มีแค่ แล็ปท็อปหรือโน้ตบุ๊กเท่านั้น (อย่างที่กล่าวไปในบทความว่า โน้ตบุ๊กก็มีแตกแขนงออกไปอีก) ซึ่งหลักๆ แล้วที่เห็นกันในตลาด มีดังนี้