ก่อนตัดสินใจลาออกจากกองทุน สมาชิกควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตนเองสามารถกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนได้อีกหรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสและประโยชน์ในการเก็บออมเงินอย่างต่อเนื่องในระยะยาวสำหรับรองรับชีวิตหลังเกษียณ ทั้งนี้ สมาชิกสามารถดูเงื่อนไขการกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนได้จากข้อบังคับกองทุนซึ่งกำหนดแตกต่างกันไป โดยบางแห่งอาจกำหนดให้สมาชิกที่ลาออกจากกองทุนโดยไม่ลาออกจากงานสามารถกลับเข้ามาเป็นสมาชิกได้ทันที บางแห่งอาจกำหนดระยะเวลา และบางแห่งอาจไม่เปิดโอกาสให้กลับเข้ามาเป็นสมาชิกได้อีก (คลิก เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ของการออมเงินเร็วและต่อเนื่อง) ในกรณีอายุเกิน 55 ปี หากอยากย้าย PVD ไป RMF ขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขว่า เงินจาก PVD จำเป็นต้องใช้หลังเกษียณเมื่อใด ถ้ายังไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะเวลา 1-2 ปี ก็สามารถย้าย PVD ไป RMF ได้ ทั้งนี้ ควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการจัดการก่อนตัดสินใจย้ายไป RMF ด้วย ข้อดีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือ เป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยมสำหรับการสร้างหลักประกันเพื่อเกษียณอายุ เปรียบเสมือนการลงทุนที่เราได้รับผลประโยชน์ถึง “สองต่อ” เพราะเมื่อจ่าย “เงินสะสม” เข้าไปในกองทุนแล้ว นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่าย “เงินสมทบ” ให้เราด้วย เพื่อนำเม็ดเงินไปบริหารโดยผู้จัดการกองทุนฯ มืออาชีพ ที่จะทำให้เกิดผลตอบแทนเพิ่มขึ้น แต่ที่ดีไปกว่านั้น คือ เงินที่จ่ายสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปทุกๆ ปี สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง หรือไม่เกินปีละ 500,000 บาท1.1 กรณีไม่เคยขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน ให้ยื่นแบบ สปส.1-03 พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ) 1.2 กรณีเคยขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาก่อน (ไม่ว่าทางประกันสังคมจะออกบัตรรับรองสิทธิให้แล้วหรือไม่ก็ตาม) ให้ยื่นแบบ สปส. 1-03/1 เท่านั้น หลักการนำส่ง สปส.1-03 และ สปส. 1-03/1 มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 2. กรณีพนักงานลาออก ให้ยื่นแบบ สปส. 6-09 3. กรณีพนักงานขอเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่ และหรือขอแก้ไขบัตร ให้ยื่นแบบ สปส.9-02 4. กรณีพนักงานประสบอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง ให้ยื่นแบบ กท.16 และ กท.44 5. กรณีขอรับประโยชน์ทดแทน กองทุนประกันสังคม ให้ยื่นแบบ สปส.2-01 ข้อกำหนดของประกันสังคม – กรณีนำส่ง สปส. 1-03 และ สปส. 1-03 / 1 ให้แจ้งการขึ้นทะเบียนผู้ประกันภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รับลูกจ้างเข้า การกรอกแบบเพื่อนำส่ง สปส.1-03 และ สปส.1-03/1 มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. กรอกชื่อสถานประกอบการ ข้อมูลผู้ประกันตน – ให้กรอกข้อมูลผู้ประกันตนในลำดับที่ 1 – 6 ให้ครบถ้วนเรียบร้อย ข้อปฏิบัติผู้มีอำนาจเซ็น ข้อมูลการเลือกสถานพยาบาล รายละเอียดการทำ สปส.1-03/1 มีขั้นตอนดังนี้ 1.กรอกชื่อสถานประกอบการและชื่อสาขาพร้อมเลขที่บัญชี ลำดังสาขา ที่ตั้งสถานประกอบการหรือสาขา ตามที่ได้แจ้งขึ้นทะเบียนนายจ้างไว้ กรณีเป็นสำนักงานใหญ่หรือเป็นกิจการซึ่งไม่มีสาขากรุณาใส่ 000000 ลงที่ช่องลำดับที่สาขา 2.กรอกลำดับที่ เลขประจำตัวประชาชน คำนำหน้านาม ชื่อ-ชื่อนามสกุล ของผู้ประกันตนให้ชัดเจน 3.กรอก วันเดือนปี ที่ผู้ประกันตนเข้าทำงาน 4.ผู้ลงชื่อรับรองข้อมูลผู้ประกนตนเป็นผู้มีอำนาจกระทำการผูกพันบริษัทหรือผู้ได้รับมอบหมายอำนาจเท่านั้น 5.ลงชื่อ………………………….. นายจ้าง/ผู้รับมอบอำนาจ (ให้เซ็นชื่อนายจ้างหรือผู้ได้รับมอบอำนาจเท่านั้น) 8. วันที่ ………………………….. พร้อมลงวันที่ให้เรียบร้อย รายละเอียดการทำ สปส. 6-09 มีขั้นตอนดังนี้ 1.กรอกชื่อสถานประกอบการและชื่อสาขาพร้อมเลขที่บัญชี ลำดับที่สาขา ที่ตั้งสถานประกอบการหรือสาขา ตามที่ได้แจ้งขึ้นทะเบียนนายจ้างไว้ กรณีเป็นสำนักงานใหญ่หรือเป็นกิจการซึ่งไม่มีสาขากรุณาใส่ 000000 ลงที่ช่องลำดับที่สาขา 2.กรอกลำดับที่ เลขประจำดัวประชาชน คำนำหน้านาม ชื่อ – ชื่อสกุล ของผู้ประกันตนให้ชัดเจน 3.กรอก วัน เดือน ปี ที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน คือ วันที่ถัดจากวันสุดท้ายที่ผู้ประกันตนมาทำงาน เช่น ผู้ประกันตนมาทำงานวันสุดท้ายวันที่ 31 สิงหาคม 2550 ให้กรอกวันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนเป็นวันที่ 1 กันยายน 2550 4.สาเหตุการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน กรณีลาออก ให้ทำเครื่องหมาย √ ในช่องที่ 1 5.ผู้ลงชื่อรับรองการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนเป็นผู้มีอำนาจกระทำการผูกพันบริษัทหรือผู้ได้รับมอบอำนาจเท่านั้น |