ติเพื่อก่อ เป็นหลักการแสดงความคิดเห็นที่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร อธิบาย

การตำหนิติเตียน ก่อให้เกิดประโยชน์ เมื่อคนที่เราตำหนิเห็นประโยชน์ในการปรับปรุงแก้ไข

การตำหนิติเตียน ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และอาจก่อให้เกิดโทษ เมื่อเราตำหนิบุคคลที่ไม่ต้องการ ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง หรือยังเห็นว่าสิ่งที่ตัวเขาทำนั้นเป็นสิ่งถูก..การพิจารณาโทษผู้อื่นเป็นเรื่องยาก มีรายละเอียดทั้งสถานการณ์อย่างที่ยกตัวอย่างในรายละเอียดว่า หากเป็นเรา "ถ้าเราต้องอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น เราอาจทำอย่างเขาก็ได้"

จะพัฒนาคนต้องพัฒนาที่จิตใจ จะพัฒนาใคร ก็ต้องพัฒนาที่ตัวเราเองก่อน คนติก็ต้องติด้วยใจที่เป็นกลาง ไม่อคติ หรือ ติด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง เป็นการส่วนตัว การติก็จะเกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย

การปรับตัวหากเราทำได้ บางครั้งเรากลับเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่นทำตาม ช่วยกันลดแรงกดดันในชีวิตทั้งของเราและของเขา เช่น เขาโลภมาก โกรธ อิจฉา ก้าวร้าวเรา เขาร้อนใจ แต่เรารับรู้รับการกระทำของเขาแล้ว เราไม่โกรธตอบ ดำเนินชีวิต เรียบๆ มีความสุขตามประสาข้ามพ้นความทุกข์ที่เขาจัดวางให้ จิตเราสงบแต่เขาร้อน วันที่เขาเหน็ดเหนื่อย ปัญญาเกิดว่าตัวเองทำสิ่งใดลงไปเขาย่อมปรับเปลี่ยนตัวเองจากในจิตใจ อาจมีคนแย้งว่าไม่มีทาง แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ คนหนึ่งคนเปลี่ยนได้เพราะเราปรับใจเราก็คือตัวเราเองที่มีความสุขแล้ว

มีพระอยู่องค์หนึ่งท่านอยู่ที่วัดแร้นแค้นมาก ท่านต้องสร้างวัดเอง จึงเริ่มก่อกำแพง ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำเลยในชีวิตการก่อกำแพงที่คุณมองว่า แค่เอาอิฐวางเอาปูนใส่นั้นแท้จริงแล้ว มันยากนะ เพราะว่าจะทำยังไงให้มันตรงเท่ากันหมด พอพระท่านก่อกำแพงเสด ท่านเห๊นว่า ตรงกลางของกำแพง มีอิฐอยู่ 2 ก้อนที่มันมะตรงมันนูนออกมาจากอิฐก้อนอื่น ครั้นจะรื้อก็ไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายมันแพง ทุกครั้งที่ญาติโยมมาที่วัด อาตมาจะรู้สึกอับอาย มากเวลามีคนจ้องไปที่อิฐสองก้อนนั้นจน

กระทั่งวันนึง มีผู้ชายแก่คนนึงมาที่วัด แล้วมองไปที่กำแพงอันนี้ ชายแก่พูดว่า..กำแพงนี้สวยดี อาตมาถามเขาด้วยความตกใจว่า ลืมใส่แว่นมาเปล่า คุณไม่เห๊นหรอว่ามันมีอิฐสองก้อนที่วางไม่ดีจนกำแพงนี้ ดูไม่ดี คำพูดที่ชายแก่ตอบอาตมามานั้น ได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติทั้งหมดของอาตมาชายแก่บอกว่า...ใช่ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้น แต่ผมก้อเห๊นด้วยว่ามีอิฐอีก 998 ก้อนก่อไว้ได้อย่างสวยงาม เป็นระเบียบอาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว

นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปีทีอาตมามองเห๊นอิฐก้อนอื่นๆ บนกำแพงนอกเหนือจากสองก้อนที่เปนปัญหา ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่นทั้งหมด เดี๋ยวนี้เมื่ออาตมามองเห็นอิฐดีๆๆแล้วกำแพงนี้สำหรับอาตมาก้อไม่น่าเกลียดอีกต่อไปคนเราซักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์กะเพื่อน พี่ น้องเพียงเพราะเขาเพ่งมองแต่..อิฐที่ไม่ดีสองก้อนนั้นที่อยู่ในตัวคนอื่น ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง มีทั้งอิฐที่ดีและอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ เพียงแต่เรามองไม่เห๊นมันเท่านั้น แทนที่จะเหนสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ สายตาของเรากลับเพ่งมองจดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด มันน่าเศร้าจริงๆ ที่หลายครั้งหลายหนเราได้ลงมือทำลาย กำแพงที่ดีลงไปจริงๆๆ

ติเพื่อก่อ เป็นหลักการแสดงความคิดเห็นที่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร อธิบาย

Bangkok Office:
Ital – Thai Tower, 18th Floor, New Petchburi Road, Bangkapi, Huaykwang, Bangkok 10310
Tel: +66 (0) 2716 0000

Eastern Seaboard Office:
53 Moo9, Talay-Thong Tower, 11th Floor, Sukhumvit Road, Tung Sukhla, Siracha, Chonburi 20230
Tel: +66 (0) 3849 4700

All content copyrighted PRTR © All rights reserved. | Site map

Whistle-blowing / Non-compliance with laws or Corruption issue. Please contact

#1 Posted 13 July 2016 - 11:54 AM

สืบเนื่องจากกรณี อาร์แซน แวงเกอร์ ให้ เทียรี่ อองรี เลือกรับงานใดงานหนึ่ง ระหว่างเป็น ผู้ช่วยโค้ช U18ของอาร์เซน่อล
หรือนักวิจารณ์สังกัด Sky และในที่สุด เทียรี่ อองรี เลือกงานนักวิจารณ์นั้น....ทำให้มีข้อคิดเห็นเป็น2ด้าน ทั้งบวกและลบ

ทางด้านบวกก็มองว่า เมื่อความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นก็ควรทุ่มเทให้ทางใดทางหนึ่งอย่างเต็มที่ จะเป็นผลดีต่องานที่ทำและต่อตัว
อองร้ เอง...อีกประการ ลักษณะงานเหมือนจะขัดกันในที เพราะนักวิจารณ์ต้องวิจารณ์ทุกทีมทุกบุคคลอยู่แล้ว จะหลีกเลี่ยงละ
เว้นทีมหนึ่งทีมใดหรือบุคคลหนึ่งบุคคลไดไม่ได้ มิฉะนั้นจะเกิดข้อครหาถึงความไม่เป็นกลางในการทำงานขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ในขณะเดียวกัน อองรี ถือเป็นพนักงานในองค์กรหนึ่งคือ อาร์เซน่อล ดังนั้น...การจะไปวิจารณ์นักเตะ หรือวิธีการทำงาน
หรือผู้บริหาร ซึ่งถือว่าเป็นพนักงานภายในองค์กรเดียวกัน จึงเป็นสิ่งไม่ถูกต้องทั้งในแง่การปฏิบัติ และกติกามารยาทนั่นเอง

ทางด้านลบก็มองว่า ในการที่ เทียรี่ อองรี วิจารณ์ทีมตัวเอง เป็นสิ่งที่ถูกต้องและสามารถทำได้ เพราะผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้อง
ถูกวืจารณ์ได้ ถ้ารับไม่ได้ก็ออกไป...บ้างก็ว่า นี่เป็นการ ติเพื่อก่อ ไม่เห็นผิดตรงไหน ไม่เข้าใจคำว่า ติเพื่อก่อ หรืออย่างไร
บ้างก็ว่าเป็นการไปปิดกั้นความเจริญ หรือเป็นการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม ที่ไปบังคับให้ อองรี ต้องเลือกเอาทางใดทางหนึ่ง

ในทางปฏิบัติ.......ผู้ทำงานทุกคนย่อมต้องอยู่ในฐานะที่ "ถูกวิจารณ์ได้" ตั้งแต่ตำแหน่งภารโรงยันผู้บริหารนั่นแหละ ถือเป็น
เรื่องธรรมดาสามัญ ยิ่งถ้าการวิจารณ์นั้น เป็นการ ติเพื่อก่อ ที่มิได้มีอคติส่วนตัว หรือการมุ่งหวังทำลายล้าง หรือความเกลียด
ชังอยู่เบิ้องหลังแล้ว ผู้ปฏิบัติงานยิ่งต้องเปิดกว้างในการรับฟังอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นประโยขน์ต่อตนเองใม่มากก็น้อยแน่นอน

แต่ในความเป็นจริง....ทุกองค์กร การ วิพากษ์วิจารณ์หรือการติเพื่อก่อ ก็มีกฏกติกามารยาทในการปฏิบัติอยู่ด้วยเหมือนกัน
เพราะถ้าให้พูดได้ตามใจชอบ ทุกเวลาที่อยากจะพูด รับรองเละตุ้มเป๊ะฟัดกันนัวเนีย ไม่ว่าจะวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความหวังดี
หรือติเพื่อก่อก็ตาม ยิ่งถ้าการพูดนั้นดันไปออกสื่อสาธารณะ ได้รู้ ได้เห็นได้ยิน กันทั่วบ้านทั่วเมือง ยิ่งถือเป็นความผิดมหันต์
ทีเดียว เพราะมันเหมือนเป็นการประจานองค์กรของตัวเอง พนักงานร่วมบริษัท ฝ่ายบริหาร ฯลฯ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น
เอาความบกพร่องของคนอื่นมาตีแผ่ (ไม่ว่าจะจริงหรือปรารถนาดีอย่างไรก็ตาม) ต้องถูกตักเตือนหรือลงโทษหรือถึงไล่ออก
เพราะจะทำให้เกิดการแตกความสามัคคีขึ้นในหมู่พนักงาน ถือเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง...มันจะต้องเป็นการพูดกันภายใน
เท่านั้น รู้กันแต่ภายในองค์กร หรือบางปัญหาต้องพูดกันเฉพาะไม่กี่คนด้วยซ้ำไป เพื่อมิให้เกิดรอยร้าวหรือแรงกระเพื่อมขึ้น

ผมเชื่อว่า เทียรี่ อองรี่ มีความเป็นสุภาพบุรุษพอ และรู้ดีว่าตนมาถึงจุดที่ "ต้องเลือก" และได้เลือกแล้ว......ขอให้โชคดี ครับ!


#2 มารบูรพา (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({}); Posted 13 July 2016 - 12:33 PM

ชื่นชมในการกระทำอย่างมืออาชีพของผู้ที่มีรูปปั้นหน้าสนามทั้ง 2 คน...

แนวทางไม่ลงกัน...ก็แยกย้ายกันไปแบบไม่บาดหมาง..

ไม่ทนอยู่จนสร้างรอยร้าวในสโมสร..แล้วค่อยไป



#3 fern Posted 13 July 2016 - 01:24 PM

ถ้าเป็นคลิปนี้นะ ผมว่าหลักๆ ที่อองรีไม่รับงานโค้ช คงไม่ใช่เรื่องการวิจารณ์ชิรูด์ แล้วเวนเกอร์มาบีบ หรือ คนละแนวทาง บ้าบอไรนั่นหรอก 

ผมฟังที่อองรีพูด ก็ไม่ได้วิจารณ์อะไรเสียหายนะ แค่อยากจะเป็นแชมป์ ต้องปรับอะไรอีก 2-3 อย่าง เช่น สตาฟ วิธีฝึกซ้อม ได้ผู้เล่นเพิ่ม 4 ตำแหน่ง รวมถึง Top Top quality striker (ที่จริงก็พาดพิงไปถึงโอซิลนะ) แต่ไม่มีคนเล่นข่าวแฮะ และที่เจ็บหนักคงเป็นเรื่องความเชื่อมั่นภายในทีม

ส่วนเรื่องงานโค้ช คนระดับตำนาน เขาคงนึกถึง ความเป็นมืออาชีพมาก่อน เวนเกอร์ก็ถูกแล้ว ที่จะให้อองรีต้องเลือก ถ้าจะเอาจริง

เพราะอองรีผ่านโปรแล้ว จะต้องเซ็นต์สัญญากับองค์กรฯ ก็ต้องรับเงื่อนไงขององค์กร อาจจะเป็นที่อองรีเองหรือเปล่าที่ยังไม่พร้อม เพราะยังรับทรัพย์ก้อนโตกับสกายสปอร์ต

ไว้อิ่มตัวกับตรงนั้น มาเริ่มงานโค้ชใหม่ อาเซนอลก็ให้โอกาสอยู่แล้ว



#4 แกะเทา Posted 13 July 2016 - 01:46 PM

เอาจริงๆติเพื่อก่อนี่ไม่เคยได้ยินเป็นการอุปทานหมู่หรือเปล่า และถ้ามีมันน่าจะเป็นเรื่องการใช้เหตุผลในการพูดหรือพิมพ์โดยปราศจากคำหยาบคาย อารมณ์ การดูหมิ่น ดูถูกดูแคลน การใช้ถ้อยคำเสียดสี ซึ่งสิ่งพวกนี้คือความเกลียดชังแล้วอ้างว่า"ติเพื่อก่อ" แต่สำหรับอองรียังไม่เจอข่าวเชิงนี้


#5 JackWilshere Posted 13 July 2016 - 10:34 PM

ความคิดผมคือการวิจารณ์ทีมเก่าตัวเองได้หรือไม่ได้นั้นไม่ใช่ส่วนหลักในประเด็นนี้ แต่อองรีต้องเลือกที่จะทุ่มให้กับงานใดงานหนึ่งมากกว่าที่ทำสองงานพร้อมกัน 



#6 super_kid Posted 14 July 2016 - 08:41 AM

สองหน้าซึ่งบทบาทขัดกัน มันก็ต้องเลือก

เป็นคนในก็ต้องแสดงความเห็นแบบคนภายใน ต้องรักษามารยาทตามวิสัยที่คนที่ทำงานร่วมกันจะพึงมี

เป็นคนนอกก็แสดงความเห็นแบบคนนอก ไม่ต้องคิดถึงหัวใจใครเท่าไหร่

เลือกเอาสักทางดีแล้วครับ เพราะสองหน้าที่นี้ไปด้วย่กันลำบาก


#7 Keyboard A License(คม) Posted 14 July 2016 - 09:22 AM

งานมันสุ่มเสียงที่ต้องวิจารณ์ทีมที่ตัวเองทำงานให้ และรับค่าจ้างจากทีมๆนี้ด้วย แถมวิจารณ์ออกสื่อด้วย ดูแล้วมันไม่เหมาะ