Iphone 6 plus ต่อ คอมพ วเตอร

อยากจะโชว์รูปบน iPhone / iPad ให้เพื่อนดู แต่หน้าจอดันไม่ใหญ่พอ ทำอย่างไรดี? คำถามนี้ เชื่อได้เลยว่า ผู้ใช้ iPhone และ iPad ส่วนใหญ่ คงจะประสบกับปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน จริงอยู่ที่ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม หรือ iPad Air ที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 9.7 นิ้ว แต่ยังคงไม่ใหญ่พอ ที่จะโชว์คอนเทนต์ให้กับกลุ่มเพื่อนๆ ได้ชม ซึ่งวิธีการแก้ไขก็คือ เชื่อมต่อกับ ทีวี หรือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อขยายขนาดนั่นเอง แต่จะทำอย่างไร ให้ iPhone และ iPad สามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอดังกล่าวได้ วันนี้ เว็บไซต์ techmoblog มีเคล็ดลับมาบอกครับ

วิธีแรก : HDMI adapter

อุปกรณ์เสริมพื้นฐาน ที่จะช่วยทำให้สามารถเชื่อมต่อ iPhone หรือ iPad เข้ากับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือทีวีได้ ก็คือ สาย HDMI adapter นั่นเอง โดยอุปกรณ์เสริมชนิดนี้ จะเป็นการแสดงภาพที่อยู่บนหน้าจอ iPhone หรือ iPad ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน, เว็บไซต์, Presentation, รูปภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านทางจอโทรทัศน์ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นเอง แต่อย่าลืมว่า ทีวี และหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะต้องรองรับการแสดงภาพผ่านทาง HDMI ด้วยเช่นเดียวกัน

โดย HDMI adapter มีจำหน่ายบน Apple Store ครับ

วิธีที่สอง : แสดงผลผ่านทาง Apple TV หรือ AirPlay

Apple TV เป็นผลิตภัณฑ์ที่เอาใจคอบันเทิงโดยเฉพาะ คุณสมบัติของ Apple TV ก็คือ สามารถเปลี่ยนห้องนั่งเล่นธรรมดาๆ ให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ที่สร้างความบันเทิงให้กับคนในครอบครัวได้นั่นเอง โดยการสตรีมภาพจาก iPhone และ iPad ไปยังหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนั้น จะทำผ่านฟีเจอร์ที่เรียกว่า AirPlay ครับ เพียงแค่คลิกเดียว ก็สามารถอวดภาพถ่าย หรือคลิปวีดีโอ ให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวได้ชมกันแล้ว

วิธีที่สาม : ผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Reflector

ถ้าหาก 2 วิธีข้างต้น เป็นการสิ้นเปลืองเงินมากจนเกินไป วิธีสุดท้ายที่จะมาแนะนำ นั่นก็คือ ผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Reflector ครับ โดยแอปพลิเคชันนี้ จะเป็นการรับภาพจาก iPhone หรือ iPad ผ่านทาง AirPlay เพื่อแสดงภาพผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่านทาง Wi-Fi หรือ LAN เดียวกัน และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จแล้ว หน้าจอ iPhone หรือ iPad ของเรา จะไปปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นเอง

โดยโปรแกรม Reflector จะมีเวอร์ชันทดลองให้ใช้ด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ ที่นี่ ครับ

---------------------------------------
รายละเอียดเพิ่มเติม : phonearena.com

Update : 26/03/2015

iPhone iPad

Restore iPhone กรณีเปิดเครื่องไม่ติด หรือมีปัญหาการใช้งาน iPhone ไม่ได้ ลืม PassCode แสกนลายนิ้วมือไม่ผ่าน

สำหรับใครที่มีปัญหาใช้งาน iPhone ไม่ได้ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ เช่นเกิดอาการเครื่องค้าง อัพเดทแล้วค้าง เปิดเครื่องไม่ติด หรือลืมรหัสเข้าเครื่อง (Password) แสกนลายนิ้วมือไม่ผ่าน หรืออื่นๆ ที่ไม่สามารถใช้งานเครื่องได้ เราสามารถใช้การ Restore iPhone ผ่าน iTunes ได้ง่ายๆ โดยขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. คอมเตอร์ที่ติดตั้งโปรแกรม iTunes เวอร์ชั่นล่าสุด
2. เชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อ iPhone กับ คอมพิวเตอร์
3. อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (ต้องดาวน์โหลดไฟล์ขนาดอย่างน้อย 2GB)
4. Apple ID ในการเข้าสู่ระบบ และ iCloud (ต้องเป็นไอดีที่ผูกกับ iCloud)
5. ตัว iPhone ที่มีปัญหา

เมื่อมีทุกอย่างครบแล้วอย่างแรกที่ต้องทำคือการเข้าโหมด DFU Mode โดยรายละเอียดดังต่อไปนี้

การเข้าโหมด DFU สำหรับเครื่อง iPhone 4,iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6s, iPhone SE และ iPad รุ่นอื่นๆ รวมถึงตัว iPhone Plus เวอร์ชั่นอื่นๆ

1. เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านสายการเชื่อมต่อ
2. กดปุ่ม Power + ปุ่ม Home ค้างเอาไว้
3. รอจนขึ้นรูปโลโก้ Apple แล้วให้ปล่อยปุ่ม Power
4. รอสักระยะจะเห็นหน้าจอขึ้นการเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลกับคอมพิวเตอร์กับ iTunes ดังภาพด้านล่าง
   
   

เมื่อเข้าสู่ DFU Mode แล้ว ให้กลับไปที่คอมพิวเตอร์ในส่วนของโปรแกรม iTunes จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาให้เราทำการ “กู้คืนหรืออัพเดท iPhone”

ให้ทำการกดที่ “กู้คืน” เพื่อทำการกู้คืน iPhone ของเรา กดยอมรับและกู้คืน iPhone ไปเลื่อยๆจนถึงขึ้นตอนการดาวน์โหลด (ให้สังเกตด้านมุขขวาบน จะมีการดาวน์โหลดไฟล์กู้คืนขนาด 2GB กว่า

หากมีความผิดพลาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างการดาวน์โหลดจะขึ้น Error 9006 ให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์ใหม่อีกครั้ง โดยกลับไปทำขั้นตอนการกู้คืนใหม่

รอจนกว่าจะดาวน์โหลดเสร็จจากนั้นให้เลือก “กู้คืนและอัพเดท”

iTunes จะเริ่มติดตั้งซอฟต์แวร์ต่างๆ ลงใน iPhone ให้สังเกตที่ตัว iPhone จะเริ่มทำการติดตั้งและรีสตาร์ท และเริ่มทำการตั้งค่า iPhone ใหม่ในส่วนนี้จำเป็นต้องใช้ Apple ID เพื่อทำการเข้าสู่ระบบ เพื่อทำการกู้คืนผ่าน iCloud

จากนั้นให้ตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบแสกนลายนิ้วมือหรือ PassCode จากนั้นจะมีให้เราเลือกว่าจะกู้คืนข้อมูบแบบไหนซึ่งแบ่งออกเป็น 4 แบบดังต่อไปนี้

1. กู้คืนจากข้อมูลสำรอง iCloud
2. กู้คืนจากข้อมูลสำรองของ iTunes
3. ตั้งค่าเป็น iPhone เครื่องใหม่
4. ย้ายข้อมูลมาจาก Android

สำหรับใครที่ไม่เคยเก็บข้อมูลผ่าน iTunes เลยก็ให้เลือกกู้ข้อมูลสำรองผ่าน iCloud แทน หรือใครอยากจะกู้ให้เป็น iPhone เครื่องใหม่ก็ไม่ว่ากันหากเลือกกู้ข้อมูลผ่าน iCloud ระบบจะให้ใส่ Apple ID อีกครั้ง จากนั้นจะให้เราเลือก ช่วงเวลาที่ต้องการกู้คืน ซึ่งอาจจะมีมากกว่า 1 ให้เราเลือก จากนั้นจะทำการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ เพื่อกู้คืน iPhone เครื่องของเราจะกลับมาใช้งานได้ปกติ หากใครยังไม่เข้าใจ ให้ชมวีดีโอด้านล่างนี้สอนละเอียดทุกขั้นตอน