เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หน่วยราชการในพระองค์ ขอเผยแพร่ภาพแห่งความทรงจำ ที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมส่งภาพเหตุการณ์แห่งความทรงจำ นับแต่เสด็จสวรรคต ซึ่งบันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นมา เพื่อรวบรวมไว้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความจงรัก ความภักดี และความศรัทธาของปวงเหล่าพสกนิกรที่มีต่อพระองค์ อันจะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ ที่ประชาชนได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทยและประเทศชาติตลอดไป ที่เว็บไซต์ https://photokingrama9.royaloffice.th พิธีวางพวงมาลา น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส) จัดพิธีวางพวงมาลาและกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 วันที่ 13 ตุลาคม 2565 ณ บริเวณลานหน้าเสาธงหน้าอาคารบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2565 เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และนำผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมยืนสงบนิ่ง เป็นเวลา 89 วินาที เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ ที่ตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปวงพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีทั่วราชอาณาจักร ต่างประจักษ์ซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณ และพระเมตตา ที่ได้ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกาย และกำลังพระสติปัญญาปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงพสกนิกร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ต่างน้อมจิตตั้งมั่นเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี แห่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปวงพสกนิกรทั่วราชอาณาจักร ต่างประจักษ์ซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตา ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ทั่วราชอาณาจักรด้วยทศพิธราชธรรม โครงการในพระราชดำริและพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่ทรงทุ่มเทกำลังพระสติปัญญาและพระวรกาย ทรงออกเดินทางไปทั่วผืนแผ่นดินไทยอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงพสกนิกร ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างอเนกอนันต์แก่ประเทศชาติ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลขจรขจายไปทั่วทิศานุทิศ นับเป็นบุญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรที่ได้มีชีวิตอยู่อย่างผาสุกร่มเย็นใต้ร่มพระบารมี เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ขอนำเสนอบทความจากนิตยสาร "คิด" Creative Thailand ที่ได้ศึกษาและค้นคว้า เพื่อถอดหลักการ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ที่พระองค์ใช้ทรงงานผ่านโครงการพระราชดำริ ๒ โครงการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ประกอบด้วย โครงการฝนหลวง และโครงการกังหันนํ้าชัยพัฒนา ซึ่งเป็นการนำเนื้อหาบางส่วนมาจากบทความของนิตยสาร "คิด" Creative Thailand ฉบับธันวาคม ปี ๒๕๕๙ "จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ" เมื่อนํ้าคือปัจจัยสําคัญในการขจัดความทุกข์ร้อนของราษฎร พระอัจฉริยภาพและสายพระเนตรอันยาวไกลที่สะท้อนผ่านแนวพระราชดำริในการบริหารจัดการนํ้าอย่างครบวงจร ประกอบด้วยการบริหารจัดการนํ้าแล้ง นํ้าท่วม นํ้าเสีย นํ้าเค็ม และนํ้ากร่อย ให้เหมาะสมตามลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่าง จึงสร้างให้เกิดสมดุลระหว่างสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวิถีของชุมชนในทุกมิติอย่างยั่งยืน ทั้งยังประโยชน์สูงสุดแก่พสกนิกรชาวไทย ให้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยใต้ร่มพระบารมีอย่างร่มเย็นสืบไป ๑. โครงการฝนหลวง “แต่มาเงยดูท้องฟ้า มีเมฆ ทำไมมีเมฆอย่างนี้ ทำไมจะดึงเมฆนี่ให้ลงมาได้ ก็เคยได้ยินเรื่องทำฝน ก็มาปรารภกับคุณเทพฤทธิ์ ฝนทำได้มีหนังสือ เคยอ่านหนังสือทำได้” ๒. โครงการกังหันชัยพัฒนา "ในกรุงเทพฯ ต้องมีพื้นที่หายใจ แต่ที่นี่* (บึงมักกะสัน) เราถือว่าเป็นไตกำจัดสิ่งสกปรกและโรค สวนสาธารณะถือว่าเป็นปอด แต่นี่เหมือนไตฟอกเลือด ถ้าไตทำงานไม่ดีเราตาย อยากให้เข้าใจหลักของความคิดอันนี้" อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ จากนํ้าพระทัยจากความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางที่ยาวไกลของพระองค์ วันนี้พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งแผ่นดินได้อยู่อย่างร่มเย็นเพราะด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์สิ่งที่พระองค์ทรงปฏิบัติ ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะขอน้อมนำสิ่งที่พระองค์ดําริ มาเป็น “สติ และ ปัญญา” ที่จะก้าวต่อไปสู่อนาคต และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติหน้าที่และดำรงตน เพื่อสร้างประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติสืบไป |