อยาก ปิด หนี้ บัตร เครดิต ทํา ไง ดี

เชื่อว่าใครก็ตามที่เป็นหนี้บัตรเครดิต หรือติดหนี้บัตรเครดิตอยู่ ก็คงอยากแก้ปัญหาหนี้ด้วยกันทั้งนั้น เพราะหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นหนี้ที่ทบไปเรื่อย ๆ หากเราไม่สามารถปิดหนี้บัตรเครดิตได้หมด ทั้งนี้ การจะปิดบัตรเครดิตให้หมดหนี้ไว ๆ ในปี 2023 ก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการปิดบัตรเครดิตที่เราไม่ได้ใช้แล้วเพื่อลดภาระที่ไม่จำเป็นออกไป หรือจะลองเจรจากับธนาคารเพื่อขอผ่อนชำระในระยะเวลาที่นานออกไป นอกจากนี้ หนึ่งในวิธีปิดบัตรเครดิตที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ก็คือ การปิดยอดบัตรเครดิตผ่านสินเชื่อปิดบัตรเครดิต หรือโครงการเคลียร์หนี้บัตรเครดิต โดยข้อดีของการปิดบัตรเครดิตด้วยวิธีนี้ คือเราจะได้รวมหนี้เป็นก้อนเดียว ซึ่งสะดอกอย่างมากต่อการผ่อนชำระ อีกทั้งยังมีดอกเบี้ยต่ำอีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะสมัครโครงการเคลียร์หนี้บัตรเครดิต เราต้องแน่ใจก่อนว่าเรามีคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไขของธนาคารด้วย

Show

อยาก ปิด หนี้ บัตร เครดิต ทํา ไง ดี

ที่มา : https://krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/1146

ปิดบัตรเครดิต ด้วยการกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มีข้อดีอย่างไร

การปิดบัตรเครดิตในปี 2566 สามารถทำได้ด้วยกันหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีที่คนติดหนี้บัตรเครดิตนิยมมากที่สุดก็คือการขอกู้สินเชื่อประเภทปิดบัตรเครดิตโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่าการกู้เงินปิดบัตรเครดิตนั่นเอง ทั้งนี้ ในการปิดบัตรเครดิตด้วยสินเชื่อเรานั้น เราควรเลือกกู้ปิดบัตรด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยให้เราได้รับเงินก้อนไปโปะหนี้บัตรเครดิตได้โดยเราไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยค่างสดที่สูงแต่อย่างใด นอกจากนี้ ก่อนที่เราจะปิดหนี้บัตรเครดิตด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แน่นอนว่าเราก็ต้องไปเช็คก่อนว่าธนาคารไหนรับปิดหนี้บัตรเครดิตสำหรับคนที่อยากปิดหนี้บัตรเครดิตบ้าง โดยเราสามารถดูข้อมูลได้จากช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือได้ อนึ่ง นอกจากสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ใช้ในการปิดบัตรเครดิตแล้ว ธนาคารก็ยังมีโครงการเคลียร์หนี้บัตรเครดิตโดยเฉพาะอีกด้วยเช่นกัน

อยาก ปิด หนี้ บัตร เครดิต ทํา ไง ดี

ปิดบัตรเครดิตผ่านสินเชื่อรวมหนี้ น่าสนใจยังไง

ต้องบอกเลยว่าการปิดบัตรเครดิตผ่านโครงการเคลียร์หนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อปิดบัตรเครดิต มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะธนาคารจะทำการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว แล้วอนุมัติวงเงินสำหรับปิดบัตรเครดิตให้กับเรา โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่สูงจนเกินไป เมื่อเราได้รับวงเงินมาแล้ว อย่างแรกที่เราควรทำคือนำเงินไปปิดหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูงไว้ก่อน เพราะหนี้บัตรเครดิตก้อนนี้สร้างภาระให้เรามากที่สุดนั่นเอง หรือนำเงินจากการกู้เงินปิดบัตรเครดิตไปปิดหนี้บัตรที่คิดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกก่อน เพราะจะช่วยให้เราไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยมากมาย ทั้งนี้ ถ้าถามว่าในปี 2023 มีธนาคารไหนรับปิดหนี้บัตรเครดิตบ้าง ก็กล่าวได้ว่ามีธนาคารหลายแห่งเลย เช่น โครงการเคลียร์หนี้บัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย ปิดยอดบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ และสินเชื่อปิดบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น

บัตรเครดิตหาเราใช้อย่างรู้วิธีเราจะได้ประโยชน์จากบัตรเยอะจริง ๆ ครับ แต่บางครั้งด้วยความสะดวกสบาย ง่ายต่อการนำมาใช้ก็อาจทำให้เราเพลินไปหน่อยทั้งรูดซื้อของแล้วผ่อน 0%, นำบัตรไปกดเงินออกมาใช้ รูดซื้อของแต่ไม่จ่ายคืนเต็มจำนวนเงินที่ใช้ จนมารู้ตัวอีกทีก็ใช้บัตรวงเงินเต็มทุกใบ และเป็นหนี้บัตรเครดิต

ซึ่งสถานการณ์ในการเป็นหนี้บัตรเครดิตแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว และเรารู้ตัวว่าอยากจะจบปัญหานี้ มันก็จะไม่ยากเกินความสามารถครับ เพราะก็ยังพอมีทางออกครับ หลายคนนำวิธีนี้ไปใช้ก็ปิดหนี้บัตรเครดิตได้สำเร็จซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำในการจัดการหนี้บัตรเครดิตให้อยู่หมัดกันครับ

หนี้บัตรเครดิต คืออะไร?

หลายคนอาจจะยังเข้าใจคำว่า หนี้บัตรเครดิต เท่าที่ควรว่า คืออะไร ดังนั้นในหัวข้อนี้เรามาทำความเข้าใจ กันครับ ว่า หนี้บัตรเครดิต คืออะไร

หนี้บัตรเครดิต คือหนี้ที่เกิดจากการที่เรารูดใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าหรือบริการโดยที่ยังไม่ใช้คืน ซึ่งยิ่งพอเวลาผ่านไปและเรายังใช้คืนไม่หมดก็จะมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาอีก ทำให้เราต้องเสียเงินจ่ายหนี้มากขึ้นไปอีก

ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เรารู้อยู่แล้วใช่มั๊ยครับว่าบัตรเครดิตคือการที่เราขอวงเงินจากธนาคารหรือสถาบันทางการเงินเพื่อนำเครดิตที่มีไปใช้รูดซื้อสินค้าและบริการก่อน ซึ่งบัตรใบนึงก็จะมีวงเงินที่จำกัดไว้ เช่น 50,000 บาท ดังนั้นเมื่อเราใช้วงเงินนี้ซื้อสินค้าหรือบริการ เท่ากับเกิดหนี้ขึ้นทันที เพราะเรายืมเครดิตจากธนาคารมาใช้ก่อนนั่นเอง

ซึ่งในแต่ละธนาคารก็จะมีเกณฑ์ในการใช้คืนที่ต่างกันครับ เช่น บางที่อาจจะมีช่วงระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 10 เดือน 6 เดือน แตกต่างกันออกไปหรือบางที่อาจจะไม่มีเลย แต่ที่แน่ๆ การชำระเงินคืนล่าช้าจะทำให้เกิดดอกเบี้ยอย่างแน่นอนครับ ซึ่งอัตราดอกเบี้ย ก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละธนาคาร ดังนั้นเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตควรที่จะรีบผ่อนคืนให้หมดเร็วๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียดอกเบี้ยและต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิต ที่มากจนเกินไ

“หยุด เช็ค ใช้” 3 คำปลดหนี้บัตรเครดิต 

3 คำนี้เลยครับสำหรับคนที่อยากปิดหนี้บัตร "หยุด เช็ค ใช้" ส่วนแต่ละคำจะมีความหมายว่าอย่างไร จะช่วยเราปลดหนี้ได้อย่างไร ไปดูกันเลยครับ

อยาก ปิด หนี้ บัตร เครดิต ทํา ไง ดี

1. หยุด - หยุดสร้างหนี้ใหม่ก่อน  โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

พอบอกว่า “หยุด” อยู่อย่าเข้าใจผิดว่าให้หยุดใช้หนี้ แต่เป็นเรื่องของการที่เราต้องหยุดสร้างหนี้เพิ่มครับ ช่วงนี้จะมีคนออกมาพูดคำ ๆ ว่า “กิเลสหยุดได้ด้วยการซื้อ” แต่เราก็ต้องรู้ด้วยนะว่า “หนี้หมดได้ด้วยเงิน” เช่นกันครับ ถ้าวันนี้เราดูแล้วว่ารายได้ของเราเริ่มไม่พอกับรายจ่ายแล้ว เราจำเป็นต้องหยุดใช้บัตรก่อนครับ โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์คืออะไร ต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่แต่ละคนมีอาชีพการงานที่ต่างกันสิ่งที่เรียกว่าประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์แต่ละคนจึงต่างกันนะครับ ส่วนตัวผมจะใช้หลักในการตัดสินใจคือ “จำเป็น หรือแค่อยากได้” เราจะต้องตอบคำถามนี้อย่างไม่โกหกตัวเองครับ

เขาใจครับว่ามันเป็นสิ่งที่เริ่มต้นทำยากมาก ๆ แต่ว่าถ้าเราทำผ่านไปได้สัก 1 เดือนเราจะเริ่มชินจนเป็นนิสัย แล้วการใช้เงินของเราในอนาคตก็จะดีขึ้นด้วยครับ ลองนึกว่าถ้าเราหมดหนี้พวกนี้เราก็จะมีเงินเหลือค่อยกลับมาซื้อก็ได้ แต่ถ้าเราไม่ทำใจให้แข็งตอนนี้ไม่แน่ว่าอนาคตอันใกล้ของเรา ถ้าเราประสบปัญหาทางการเงินจนถึงสุดทางแล้วของใหม่ก็คงจะซื้อไม่ได้ ของเก่าก็คงจะไม่เหลือเช่นกันครับ

2. เช็ค - เช็คยอดหนี้แต่ละบัตร 

รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ศึกครั้งนี้ก็เช่นกันครับ ผมมั่นใจมากว่าทุกคนรู้ว่าตัวเองมีเงินเดือนเท่าไร แต่มันใจเลยว่ากว่า 70% รู้เรื่องนี้ที่เรามีอยู่น้อยมาก ดังนั้นเราไม่มีทางรบชนะหนี้ได้เลยครับถ้าเรายังไม่รู้จักมัน สิ่งที่เราต้องรู้คือ

  • หนี้บัตรรวมทุกใบทั้งหมดกี่บาท
  • บัตรแต่ละใบมีหนี้กี่บาท 
  • ดอกเบี้ยบัตรเครดิตแต่ละใบคิดกี่เปอร์เซ็น 

ถ้าเรารู้ 3 อย่างที่บอกมานี้การวางแผนจัดการภาระหนี้ของเราจะง่ายขึ้น และปลดหนี้ได้อย่างแน่นอนครับ

3. ใช้ - มาเริ่มใช้หนี้อย่าเท่ๆ กันดีกว่า

เมื่อรู้ยอดหนี้แล้วว่ามีอยู่เท่าไร สิ่งที่เราควรทำต่อไปคือใช้หนี้ ซึ่งเราจำเป็นต้องรีบทำให้ตัวเบาที่สุด (หมายถึงเหลือหนี้น้อยที่สุด) โดยดูว่าเรามีแหล่งเงินที่ไม่สร้างหนี้เพิ่มอย่างพวกโบนัส เงินพิเศษอยู่ไหม หากมีให้นำมาปิดหนี้ก่อน และหากไม่พอก็ให้เปลี่ยนของมีค่ารอบตัวนำไปขายเป็นเงินแล้วนำมาจ่ายหนี้ครับ ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกยากลำบากใจที่สุด แต่พยายามให้นึกถึงอนาคตไว้ครับถ้าปลดหนี้หมดสถานการณ์ก็จะกลับมาปกติ มันจะอยู่กับเราแค่แป๊บเดียว 

พอเราหาเงินมาได้คำถามต่อมาคือ ถ้าเงินที่เราหามาได้นั้นไม่พอปิดหนี้บัตรทั้งหมดเราจะเลือกจ่ายหนี้ก้อนไหนก่อน ผมมีคำแนะนำประมาณนี้ครับ

(1) เงินก้อนที่ได้มาให้ดูว่าปิดหนี้ก้อนไหนได้บ้าง ให้ปิดก้อนนั้นก่อน ถามว่าทำไมไม่เลือกบัตรที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อนเพราะว่าโดยปกติแล้วดอกเบี้ยบัตรเครดิตแต่ละธนาคารก็จะใกล้เคียงกัน แต่การที่เรามีภาระหนี้สูงจากบัตรหลายใบ นั้นหมายความว่าเรามีโอกาสที่จะมีวันที่หมุนเงินไม่ทัน และบัตรทุกใบจะมีค่าติดตามทวงถาม ค่าปรับจ่ายล่าช้า ที่เราต้องจ่ายก็เป็นเงินหลักหลายร้อยบาท ดังหากโดนจากทุกใบก็เป็นเงินหลายพันบาท ดังนั้นจึงควรเลือกปิดจากที่ปิดได้ก่อน 

(2) หากเงินที่หามาได้ สามารถปิดได้ที่เดียว แต่ว่าบัตรมียอดหนี้ใกล้เคียงกันหลายใบ ให้เรามาเลือกจากดอกเบี้ยบัตรเครดิตใบไหนสูงที่สุดปิดใบนั้นก่อนเพื่อเราจะได้ประหยัดดอกเบี้ยที่ต้องเสียในทุกเดือน

(3) หาสินเชื่ออื่นที่ดอกเบี้ยถูกกว่ามาปิดหนี้ อาจจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลลองสมัครรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือหลายคนเรียกกันว่า รวมหนี้บัตรเครดิต เอามาปิดบัตรที่เหลือ สินเชื่อประเภทนี้จะเป็นการขอกู้เงินจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินใหม่มาปิดหนี้บัตรเดิม แล้วมาผ่อนกับที่ใหม่ที่เดียว ทำให้แทนทีเราจะจ่ายขั้นต่ำของบัตรแต่ละใบ ก็รวมมาจ่ายที่เดียวทำให้ยอดผ่อนรวมแต่ละเดือนจาก 20,000 บาท อาจจะเหลือเพียง 8,000 บาทเท่านั้น พอยอดผ่อนน้อยลงเรามีเงินเหลือใช้ในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นไม่ต้องมานั่งกังวลเหมือนตอนนี้ครับ แล้วก็พยายามอย่าก่อหนี้เพิ่มครับ 

พอจะเห็นทางออกในการจัดการหรือยังครับ "หยุด เช็ค ใช้"  3 คำจำให้ขึ้นใจครับรับรองว่าหากได้ลองทำตามวิธีที่นี้แล้วต้องสามารถช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้เงินในกระเป่าเราในแต่ละเดือน และปลดหนี้บัตรของเราได้อย่างแน่นอนครับ และผมอยากจะเตือนไว้อีกอย่างครับหากเราเจอปัญหาแบบนี้เราอย่าหนี้หายครับไม่งั้นเรื่องจะยิ่งใหญ่โต มีอะไรก็ให้มาคุยกัน ธนาคาร สถาบันการเงินต่าง ๆ เขาก็มีกฏเกณฑ์ในการจัดการเขาต้องหาทางออกร่วมที่ดีที่สุดให้กับคุณครับ และอย่าหันไปพึ่ง หนี้นอกระบบเด็ดขาดครับ

ส่วนใครที่สนใจจะทำเรื่องรีไฟแนนซ์ หรือการรีไฟแนนซ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น รีไฟแนนซ์บ้าน หรือ รีไฟแนนซ์รถ ก็สามารถสมัครผ่าน  Refinn ได้ครับเรามีพันธมิตรอย่างธนาคาร และสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศหลายที่เลยครับ ระบบของเราจะช่วยประมวลผลโปรโมชั่นที่แนะนำคุณให้ แล้วเรายังช่วยติดตามเรื่องให้ด้วยครับ คุณไม่จำเป็นต้องไปเดินเข้าสาขาต่าง ๆ เองให้เหนื่อยสมัครจบได้ที่เราเลยครับ  www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

คำถามอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหนี้บัตรเครดิต

เป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่จ่าย จะเกิดอะไรขึ้น

สำหรับ หลายคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต แต่อาจจะกลัวว่าไม่สามารถผ่อนคืนได้ตรงเวลา หรือ ใครที่เป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ แต่ด้วยกับสถานการณ์หรือมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้มีรายได้ที่ลดลง จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า “ถ้าเป็นหนี้บัตรเครดิต แล้วไม่จ่าย จะเกิดอะไรขึ้น”

ก่อนอื่นต้องรู้ไว้เลยว่าถ้าเราไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต จะมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ ให้เราลองคิดดูนะครับว่าถ้ามีคนมายืมเงินเราแล้วไม่คืน เราจะดำเนินการอะไรมั๊ยหรือจะปล่อยไปเฉยๆ แน่นอนว่าเราต้องดำเนินการและหาวิธีอย่างแน่นอนเพื่อให้ได้เงินคืน ซึ่งแน่นอนว่าทางธนาคารก็คิดแบบนั้นเช่นกันครับ 

อยาก ปิด หนี้ บัตร เครดิต ทํา ไง ดี

 ซึ่งหากเราเป็นหนี้บัตรเครดิต และไม่จ่ายคืนก็จะเกิดสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้ครับ

1.เสียประวัติทางการเงิน จนนำไปสู่การติดเครดิตบูโร การที่เราผ่อนไม่ตรงเวลาหรือผ่อนบ้างไม่ผ่อนบ้างจะทำให้ประวัติทางการเงินของเราดูไม่ดีครับ ซึ่งที่แย่ไปกว่านั้นในกรณีที่เราไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตเกิน 90 วันจะทำให้เราติดเครดิตบูโร ในทันที

2.ไม่สามารถกู้เงิน หรือ ขอสินเชื่อต่างๆได้ เป็นผลมาจากข้อที่แล้วครับซึ่งถ้าประวัติทางการเงินของเราไม่ดี และแย่ไปกว่านั้นถ้าเราติดเครดิตบูโร จะทำให้การยื่นขอสินเชื่อต่างๆผ่านได้ยากมากครับ เนื่องจากการจะขอสินเชื่อหรือกู้เงิน ทางธนาคารจะต้องพิจารณาจากประวัติทางการเงินของเราที่ผ่านมาด้วยครับ

3.เสียสุขภาพจิต ข้อนี้เป็นผลกระทบต่อตนเองครับ เพราะเมื่อเราเป็นหนี้เราก็จะเครียดและกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องโดนดำเนินการทางกฎหมายอะไรบ้าง ซึ่งเป็นผลกระทบที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่เป็นผลกระทบที่คนเป็นหนี้และไม่มีเงินจ่ายต้องเจอกันทุกคนอย่างแน่นอนครับ

ดังนั้นเมื่อเรารู้ตัวว่าในอนาคตเราอาจจะผ่อนชำระค่าหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว ก็ขอให้เราขอวงเงินไม่ต้องสุงมากเพื่อให้ไม่เป็นภาระทางการเงินของเราในอนาคต หรือ ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของเรา และที่สำคัญต้องดูและเลือกธนาคารที่มีโปรโมชัน หรือ เกณฑ์ที่ตรงและเอื้อต่อการผ่อนชำระของเราในอนาคตให้ดีๆครับ

ส่วนใครที่เป็นหนี้อยู่ แล้วจู่ๆต้องเจอปัญหาทางการเงิน หรือ มีสภาพคล่องทางการเงินลดลงก็ไม่ต้องกังวลครับเพราะเราสามารถยื่นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้ด้วย

คดีเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิตเป็นคดีประเภทใด

หลายคนอาจจะสงสัยสัยและอยากรู้ว่าหนี้บัตรเครดิตที่เป็นกันอยู่เนี่ย เป็นคดีความประเภทอะไร ดังนั้นผมจะมาบอกเเละอธิบายถึงความร้ายแรงของคดีเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิตให้ได้เข้าใจกัน

คดีเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิต เป็นคดีแพ่ง ซึ่งแน่นอนว่าคดีแพ่งสำหรับบัตรเครดิต กฎหมายคือต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เจ้าทุกข์เท่านั้น นั่นก็คือธนาคาร หรือ สถาบันทางการเงินที่เราถูกฟ้องเท่านั้น และที่แย่ไปกว่านั้นอาจจะถูกยึดทรัพยืสินบางอย่างด้วย เพราะฉนั้นทางที่ดีเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิต จึงต้องรีบใช้ให้หมด อย่ารอไปจนถึงต้องเกิดการฟ้องร้องเลย เพราะจะเสียมากกว่าที่ต้องจ่ายคืนอย่างแน่นอน

หนี้บัตรเครดิตมีอายุความกี่ปี เริ่มนับอายุความตอนไหน

หลังจากที่เรารู้ว่าถ้าไม่จ่ายค่าบัตรเครดิต หรือ หนี้บัตรเครดิตว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง และหนี้บัตรเครดิตเป็นคดีความอะไรไปกันแล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้รู้และเข้าใจกัน นั่นก็คือ อายุความของหนี้บัตรเครดิต

หนี้บัตรเครดิตมีอายุความกี่ปี? สำหรับหนี้บัตรเครดิตแล้วทางกฎหมายจะมีอายุความ 2 ปีจึงจะหมดอายุ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อคดีความหมดอายุไปแล้ว เจ้าหนี้ก็ยังสามารถฟ้องร้องต่อลูกหนี้ได้ โดยการไปฟ้องที่ศาล ซึ่งถ้าหากฟ้องแล้วและลูกหนี้ไม่มาสู้คดี ศาลก็จะตัดสินทันทีว่าลูกหนี้ต้องชำระเงินตามที่เข้าหนี้ฟ้องร้อง และถ้าศาลตัดสินไปแล้วแต่ลูหนี้ก็ยังไม่ยอมชำระหนี้คืนเจ้าหนี้อีก ศาลก็จะให้สิทธิเจ้าหนี้ในการบังคับยึดทรัพย์ต่อไป

แล้วหนี้บัตรเครดิตที่บอกมาว่ามีอายุความ 2 ปีถึงหมดอายุเนี่ย เขามีเกณฑ์หรือเริ่มนับวันกันยังไงนะ ผมจะมาอธิบายให้ฟัง หนี้บัตรเครดิตโดยปกติทั่วไปแล้วจะเริ่มนับตั้งแต่การชำระเงินครั้งสุดท้ายครับ ยกตัวอย่างเช่น เราผ่อนหนี้บัตรเครดิตมาแล้ว 4 เดือน โดยมันสุดท้ายที่จ่ายหนี้ คือ วันที่ 30 มกราคม 2566 ดังนั้นคดีความจะถูกนับตั้งแต่วันที่ วันที่ 30 มกราคม 2566 เป็นต้นไปจนกว่าจะครบอายุความ 2 ปี จึงหมดอายุไปครับ

อยาก ปิด หนี้ บัตร เครดิต ทํา ไง ดี

เป็นหนี้บัตรเครดิต ถูกยึดเงินเดือนในบัญชี ได้ไหม

สำหรับใครที่เป็นหนี้บัตรเครดิตข้อนี้ต้องระวังให้ดีๆเลยครับ เพราะเจ้าหนี้สามารถขออายัดและยึดเงินเดือนและเงินอื่นๆของเราได้ครับ ซึ่งผมจะมาบอกว่าเจ้าหนี้สามารถขออายัดเงินอะไรของเราได้บ้าง

1.เงินเดือน ตรงตามหัวข้อเลยครับ คำตอบก็ชัดเจนเลยว่าสามารถยึดเงินเดือนได้อย่างแน่นอนแต่จะมีเกณฑ์อยู่ว่าจะสามารถยึดหรืออายัดได้ไม่เกิน 30% ครับ และที่สำคำเงินเดือนของลุกหนี้ที่ทำการอายัดต้องเกินกว่าหรือมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไปเท่านั้นครับ

2.เงินโบนัส เป็นอีกสิ่งที่สามารถถูกอายัดได้เหมือนกัน โดยทางกฎหมายระบุไว้ว่าจะสามารถอายัดได้ไม่เกิน 50% ของเงินโบนัสครับ 

3.เงินฝากในบัญชีและเงินจากการลงทุน ข้อนี้ต้องระวังให้ดีๆเลยครับเพราะเจ้าหนี้สามารถยึดเงินตรงนี้ของเราได้

4.เงินตอบแทนจากการออกจากงาน ข้อนี้หนักเลยครับสำหรับใครเป็นหนี้บัตรเครดิตและถูกฟ้อง และหนำซ้ำยังเกิดถูกเชิญออกจากงานอีก รู้ไว้เลยครับว่าเจ้าหนี้สามารถยึดเงินตรงนี้ของเราได้ด้วยครับ

หากเป็นหนี้บัตรเครดิต มีทรัพย์สินอะไรบ้างที่เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดได้

หลังจากที่เรารู้กันไปแล้วว่าถ้าถูกฟ้องเรื่องหนี้บัตรเครดิต เจ้าหนี้สามารถฟ้องและขออายัดเงิน หรือ ทรัพย์สินอะไรของเราได้บ้างไปแล้ว ต่อไปผมจะมาบอกว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่ไม่สามารยึดหรือขออายัดได้ ที่มาบอกม่ใช่ว่าเป็นการสนับสนุนให้หาทางไม่จ่ายหนี้นะครับ แต่จะมาบอกให้รู้ว่าถ้าเจ้าหนี้ของมใครมายึดหรือ อายัดทรัพย์สินต่างๆดังต่อไปนี้ ถือว่าผิดกฎหมายและเราสามารถดำเนินการทางคดีกลับได้

1.เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งโดยส่วนมากจะต้องได้ไม่เกิน 20,000 โดยเงินนี้จะเป็นเงินที่บุคคลอื่นมอบไว้ให้เพื่อสำรองในการเลี้ยงชีพของลูกหนี้

2.เงินบำเหน็จ บำนาญและรายได้อื่นๆที่นอกเหนือจากหัวข้อที่แล้ว โดยปกติเเล้วจะต้องเป็นเงินที่ได้ไม่เกินไปกว่า 300,000 บาท

3.เงินเดือน ค่าจ้างต่างๆ รวมไปถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญของลุกหนี้ที่เป็น ข้าราชการ ข้อนี้จะต่างหัวข้อที่แล้วครับซึ่งถ้าเป็นเงินเดือนของข้าราชการจะไม่สามารถยึดหรืออายัดได้ครับ ต่างจากเงินเดือนของพนักงานบริษัททั่วๆไปที่สามารถยึดได้

หากลูกหนี้เสียชีวิตต้องทำอย่างไร

มีใครสงสัยมั๊ยครับว่าถ้าลูกหนี้ตาย เจ้าหนี้จะไปเก็บหนี้ต่อจากใคร ผมจะมาบอกให้ฟังเพื่อให้ทุกคนได้วางแผนในการจัดการหนี้ให้ดีๆ หากต้องเสียชีวิตในอนาคต เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่คนรุ่นหลัง

รู้ไว้เลยครับว่าถ้าหากลูกหนี้เกิดเสียชีวิตขึ้นมา เจ้าหนี้สามารถไปบังคับให้ทายาทชำระหนี้ต่อได้ โดยจะมีข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆดังต่อไปนี้ครับ

การที่จะบังคับทายาทให้ชำระหนี้ต่อขากผู้ตายได้ ทายาทนั้นต้องมีมรดก โดยจะสามารถเก็บหนี้ได้แค่จากกองมรดกเท่านั้น ไม่สามารถเรียกเก็บเพิ่มจากทรัพย์สินส่วนตัวของทายาทได้ ส่วนในกรณีที่ทายาทของลูกหนี้ไม่มีมรดก เจ้าหนี้จะไม่สามารถดำเนินการอะไรต่อได้ และหนี้ก้อนนั้นจะกลายเป็นนี้สูญในทันครับ

การปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับคนเป็นหนี้บัตรเครดิต คืออะไร

 สำหรับหัวข้อนี้ผมคิดว่าคงน่าจะมีหลายคนนะครับที่สนใจเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ว่าคือ อะไร ดังนั้นผมจะมาอธิบายให้ฟัง

การปรับโครสร้างหนี้ ก็คือการที่เราไปขอปรับรุปแบบการชำระหนี้ให้เหมาะสมกับความสามารถและสภาพคล่องทางการเงินของเราครับ ปรับเพื่ออะไร? ปรับเพื่อให้เราสามารถผ่อนใช้ระได้และตรงเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกินประวัติการผ่อนชำระที่ไม่ดี และติดเครดิตบูโร ซึ่งจะส่งผลเสียต่องการกู้ และ ขอสินเชื่อต่างๆในอนาคตครับ

โดยการขอปรับโครงสร้างหนี้จะแบบออกเป็น 2 แบบหลักๆครับ นั่นก็คือ ยังผ่อนจ่ายไหวอยู่แต่อยากที่จะลดดอกเบี้ย, จ่ายไหวแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งผมจะมาอธิบายแยกย่อยในแต่ละหัวข้อให้เข้าใจไปด้วยกันครับ

1. สำหรับใครที่ยังผ่อนจ่ายไหวอยู่แต่อยากที่จะลดดอกเบี้ยอาจเลือกการปรับโครงสร้างหนี้ดังต่อไปนี้

รีไฟแนนซ์ แน่นอนว่าการรีไฟแนนซ์สามารถช่วยให้ลดดอกเบี้ยได้ครับ โดยการรีไฟแนนซ์คือการที่เราไปขอวงเงินจากธนาคารใหม่ เพื่อมาโป๊ะหรือปิดหนี้ธนาคารเดิม ที่สำคัญการรีไฟแนนซ์ยังมีผลพลอยได้อีกอย่านึง คือ สามารถขยายเวลาในการผ่อนชำระออกไปได้ด้วยครับ

เปลี่ยนประเภทหนี้ วิธีการนี้ก็คือ การที่เราไปขอเปลี่ยนจากหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำครับ เช่น จากเดิมเราชำระระแบบไม่เต็มจำนวนและตรงเวลา ซึ่งแบบนี้จะทำให้มีอัตรดอกเบี้ยสูงครับ ดังนั้นให้เราไปเปลี่ยนประเภทหนี้เป็นอื่นๆ เช่น มีระยะเวลาจ่ายคืนที่ชัดเจนขึ้น และอัตราดอกเบี้ยลดลง ก็จะทำให้เราสามารถลดดอกเบี้ยลงได้ครับ

2.ส่วนใครที่ผ่อนจ่ายไหวแค่บางส่วนผมแนะนำให้เลือกปรับโครงสร้างหนี้ ดังต่อไปนี้

ลดอัตราดอกเบี้ย การลดอัตรดอกเบี้ยจะช่วยให้จำนวนเงินที่ใช่ในการผ่อนชำระลดลง แต่ก็อาจจะไม่ได้มาก สำหรับคนที่ผ่อนไม่ไหวแบบไ่ไหวจริงอาจต้องใช้วิธีอื่นแทนครับ วิะีนี้จึงเหมาะกับคนที่ยังพอจ่ายไหวอยู่บ้างครับ

 พักชำระเงินต้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีมากๆครับ สำหรับคนที่ผ่อนจ่ายไม่ไหวจริงๆ โดยการขอพักชะระเงินต้นออกไปก่อนเพื่อให้มีระยะเวลาในการหาเงินมาหมุน ซึ่งจะช่วยได้อย่างมากๆเลยครับ แต่ช่วงระยะพักหนี้ ถ้าพักเฉยๆไม่ได้หาทางเพื่อให้มีเงินเพิ่ม ก็อาจจะไม่ช่วยเท่าไหร่ครับ เพราะเมื่อถึงเวลาชำระหนี้ก็จะวนกลับมาลูปเดิม ดังนั้นช่วงพักชำระหนี้จึงต้องหาทางให้มีเงินเพิ่มขึ้นไปด้วยครับ

สรุป

สรุป การเป็นหนี้บัตรเครดิตย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีครับ ดังสุภาษิตไทยที่บอกไว้ว่า การไม่เป็นหนี้ คือ ลาภอันประเสริฐ แต่สำหรับใครที่เป็นหนี้บัตรเครดิตก็ไม่ต้องกังวลครับเพราะเราสามารถแก้ไขและวางแผนจัดการหนี้พวกนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต การขอพักหนี้ และอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคดีความและการฟ้องร้องเกิดขึ้น จนไปถึงขั้นการยึดทรัพย์ และที่แย่ไปกว่านั้นหากเราเสียชีวิต ภาระหนี้ที่สร้างไว้ ก็ต้องตกไปอยูกับลูกกับหลานของเราอีก เพราะฉนั้นการบริหารหนี้และการเงินจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเลยครับ 

ปิดหนี้บัตรเครดิต ธนาคารไหนดี

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ธนาคารไหนดี รวมสินเชื่อปิดบัตรเครดิต 2565 จ่ายดอกเบี้ยถูกกว่าเดิม.
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต.
1. สินเชื่อส่วนบุคคล UOB i-CASH ธนาคารยูโอบี.
2. สินเชื่อส่วนบุคคล Happy Cash ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์.
3. สินเชื่อบุคคล เพอร์ซันนัลแคช ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย.
4. สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารออมสิน.

ปิดบัตรเครดิตใบไหนก่อนดี

3. ปิดหนี้บัตรเครดิตที่มียอดหนี้เยอะที่สุดก่อน เพราะยอดหนี้ที่เยอะ จะเสียดอกเบี้ยเยอะตามไปด้วย เราแนะนำให้คุณปิดบัตรเครดิตใบที่ไม่จำเป็น และเหลือไว้ใช้สัก 1-2 ใบ โดยเลือกบัตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการมากที่สุด จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

เราสามารถปิดยอดบัตรเครดิตได้ไหม

การชำระเงินเพื่อ ปิดยอดหนี้บัตรเครดิต นั้น มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น การผ่อนจ่าย จ่ายเป็นก้อน ถ้าหนี้ก้อนใหญ่มาก อาจเจรจาต่อรองหรือขอแฮร์คัทได้ เมื่อพิจารณาการผ่อนจ่ายและการจ่ายเป็นก้อนนั้น โดยปกติบัตรเครดิตจะมียอดบังคับชำระขั้นต่ำอยู่แล้ว แต่ถ้าเลยจุดนั้นมามากแล้ว การเข้าโปรแกรมขอผ่อนจ่ายกับทางธนาคารผู้ออกบัตรเครดิต ...

ที่ไหน รับ ปิดหนี้ บ้าง

ที่ไหนรับปิดหนี้บ้าง.
1.บัตรกดเงินสด ttb flash..
2.สินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน ออมสิน.
3.สินเชื่ออเนกประสงค์ เงินก้อนพร้อมใช้ กรุงไทย.
4.สินเชื่อบุคคลซิตี้ ซิตี้แบงก์.
5.สินเชื่อบุคคล Speedy Loan..