เคยลำบากใจที่จะเอ่ยคำว่า “ไม่” ออกมากันไหมคะ? ทั้งที่บางครั้งอยากจะปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดออกไปตรง ๆ แล้ว เขาจะผิดหวัง เขาจะโกรธ จนกระทบถึงความสัมพันธ์อันดีงามที่มีร่วมกันมา และหลายครั้งก็เจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่รับปาก Say Yes ไปด้วยความเกรงใจ แล้วกลับมานั่งไมเกรนขึ้นตามลำพังเงียบ ๆ ไป ๆ มา ๆ Say Yes วันนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาวันหน้า แต่จะ “ไม่” อย่างไรให้บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นกัน
วันนี้เรามีศิลปะการตอบปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิงมาเสนอค่ะ Show เสนอคำแนะนำอื่นให้เห็นว่าเราใส่ใจ แทนที่เราจะปฏิเสธไปว่า“ไม่” ทื่อ ๆ ลองเสนอทางออกหรือคำแนะนำอื่นดู เช่น เพื่อนร่วมงานขอให้ช่วยออกแบบการ์ดแต่งงานให้ เพราะเห็นว่า เราพอทำกราฟิกได้ เราต้องการจะปฏิเสธ แต่ถ้าบอกไปตรง ๆ ว่า “ไม่อยากทำอ่ะ ขี้เกียจ เงินก็ไม่ได้” เพื่อนอาจจะรู้สึกแย่ งั้นลองบอกไปว่า “เราไม่เก่งหรอก ทำได้แค่งู ๆ ปลา ๆ แต่เดี๋ยวเราแนะนำร้านที่เข้ากับสไตล์เธอให้นะ
หรือว่าเธอทำแล้วเอามาให้เราช่วยดูก็ได้” อย่างน้อยก็แสดงถึงความใส่ใจกลับไปสักนิดก็ยังดี พูดขอบคุณรักษาน้ำใจกัน บางเรื่องก็ไม่ได้เป็นเรื่องหนักหนาสาหัส แต่เราก็ลำบากใจในการปฏิเสธ กลัวโดนงอน โดนโกรธ ก็ต้องหาวิธีตอบกลับไปแบบละมุนละม่อม เช่น เพื่อนชวนไปเที่ยวทะเล อยากให้เราได้ไปเปิดหูเปิดตา แต่เราอยากนอนกลิ้งอยู่บ้านมากกว่า เราก็บอกเพื่อนไปว่า “ขอบคุณนะที่ชวน/ขอบคุณมากที่นึกถึงกัน แต่วันหยุดนี้เราวางแผนจะทำงานบ้าน เพราะไม่ได้หยุดมาหลายอาทิตย์แล้ว
ผ้ากองเต็มตะกร้าเลย ไว้โอกาสหน้านะ” ตั้งคำถามกลับไปไม่โกง บางสถานการณ์ที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ง่าย ๆ เช่น หัวหน้ามอบหมายงานให้ เรามีความเห็นไม่ตรงกับหัวหน้า แต่ถ้าบอกว่า ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะเป็นงานในหน้าที่ของเรา แต่ถ้ารับปากแล้วทำไม่ได้ก็ยิ่งเสียหาย ลองบอกหัวหน้าไปว่า “หัวหน้าคะ/ครับ...ดิฉัน/ผมดีใจที่หัวหน้าให้ความไว้วางใจ
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแบบนี้... งานจะออกมาเพอร์เฟกต์มากค่ะ/ครับ หัวหน้าว่าอย่างนั้นไหมคะ/ครับ?” วิธีนี้จะทำให้คนฟังรู้สึกคล้อยตาม เป็นการช่วยประนีประนอมได้อีกทาง ขอไปดูตารางงานก่อนนะ เคยไหมคะ ไม่ได้อยากจะรับปาก แต่สถานการณ์มันพาไป คนถามมายืนกดดันอยู่ตรงหน้า พอตอบว่า “ไม่” ไป ก็มีคำถามมากมายตามมา คนขี้เกรงใจอย่างเราก็เผลอรับปากซะงั้น เช่น เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด (ที่ยังต้องทำงานร่วมกัน) บอกว่า วันที่ 5
เดือนหน้าไปปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนของเพื่อนเป็นเพื่อนเราหน่อยสิ ช่างกล้าชวนเนอะ แต่เพราะยังต้องทำงานที่เดียวกัน เราอาจบอกไปว่า “เดี๋ยวขอเราไปดูตารางงานก่อนนะ ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย” แล้วก็ปลีกตัวออกมาเนียน ๆ วิธีนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงสถานการณ์กดดันตรงหน้าได้ดี บอกเหตุผลไปตรง ๆ แต่อย่าโกหกหลายคนไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร จะบอกเหตุผลตรง ๆ ก็กลัวโดนโกรธ โดนตำหนิ หรือโดนมองในแง่ร้าย จึงเลือกที่จะโกหก เช่น หัวหน้าชวนไปเล่นแบดมินตันวันเสาร์ แล้วเพื่อนร่วมงานตกลงกันหมด เหลือแค่เราคนเดียว ซึ่งเรานัดแฟนไว้ จะไปเที่ยวบ้านแฟน จะบอกไปตรง ๆ ก็ไม่กล้าเพราะกลัวโดนว่า เลยโกหกไปว่า แม่ป่วยเข้าโรงพยาบาล ตอนหลังถ้าหัวหน้ามาทราบว่า ไม่เป็นความจริง เราจะกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะทันที ดังนั้น ทางที่ดี คือ ปฏิเสธไปตรง ๆ ไม่ต้องอ้างนู่นนี่ให้มากความ การมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่า เราไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ในทุกที่ทุกเวลา ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะพูดคำว่า “ไม่” ออกมาบ้าง ดีกว่าเรารับปากแล้วมานั่งกลุ้มใจทีหลัง หนักไปกว่านั้น คือ ถ้ารับปากแล้วไม่สามารถทำได้ จะทำให้ตัวเราดูแย่ทันทีทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเรา ดังนั้นจะ Say Yes กับใครให้คิดให้ถี่ถ้วน และเอาความสบายใจของเราเป็นหลัก ถ้าเราไม่อยากทำก็ Say No ไปตรง ๆ แต่ถ้าใครรู้สึกไม่ดีที่จะปฏิเสธโต้ง ๆ ลองเอาศิลปะการตอบปฏิเสธไปลองใช้กันได้นะคะ วธ.และสวนดุสิตโพล ชี้วัยรุ่นจะปฏิเสธหากแฟนขอมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ พร้อมแนะผลสำรวจ 7 วิธีในการปฏิเสธเมื่อแฟนขอมีเพศสัมพันธ์ ส่วนพม. และนิดาโพล เผยวัยรุ่นเลือกแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ด้วยการมอบของขวัญและส่งข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียวันนี้ (14 ก.พ.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรมและสวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน และประชาชนต่อ "วันแห่งความรัก (วันวาเลนไทน์)" จากกลุ่มตัวอย่าง 2,428 คน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พบว่า เด็ก เยาวชนและประชาชนส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับวันแห่งความรัก (วาเลนไทน์) ในปีนี้ร้อยละ 58.61 โดยส่วนใหญ่อยากมอบความรักหรือส่งความรู้สึกที่ดีให้ในวันวาเลนไทน์มากที่สุด ร้อยละ 66.20 คือ พ่อ-แม่ ผู้ปกครอง รองลงมา ร้อยละ 62.16 คนรัก แฟน คู่สมรส คู่ชีวิต ร้อยละ 28.98 เพื่อน ร้อยละ 24.88 ครูอาจารย์หรือผู้มีพระคุณ
ส่วนประโยคหรือคำพูดที่จะใช้บอกรักในวันวาเลนไทน์ปีนี้ กลุ่มตัวอย่างเลือกใช้คำว่า รักนะ รักนะ จุ๊บๆ รักนะตัวเธอ ฉันรักเธอ ฉันชอบเธอ เค้ารักตัวเองนะ เป็นแฟนกันนะ ซารางเฮโย Love you baby เป็นต้น สำหรับคู่รักต้นแบบในความคิดของเด็ก เยาวชนและประชาชน ได้แก่ พ่อรอง-แม่ทุม ฉัตรชัย-สินจัย เคน-หน่อย เจ-ปิ่น หมอโอ๊ค-โอปอล เป็นต้น ส่วนคู่รักดาราวัยรุ่น อาทิ ตูน-ก้อย เวย์-นานา ชมพู่-น็อต มาร์กี้-ป๊อก กุ๊บกิ๊บ-บี้ ณเดช-ญาญ่า ส่วน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์โพล ศูนย์สำรวจความคิดเห็นทางสังคม ร่วมกับ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" เปิดเผย ผลสำรวจ เรื่อง "วาเลนไทน์ของวัยรุ่นไทย รักอย่างไรไม่ให้ทุกข์" สำรวจระหว่างวันที่ 13-22 ธ.ค. 2560 จากวัยรุ่นไทยที่มีอายุระหว่าง 14-19 ปีพบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.25 ระบุว่า สิ่งที่อยากทำมากที่สุดในการแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ คือ มอบสิ่งของ,ของขวัญ รองลงมา ร้อยละ 60.94 ระบุว่า ส่งข้อความทางโซเชียลมีเดีย โดยส่วนใหญ่จะส่งทาง เฟซบุ๊ก ไลน์ ร้อยละ 41.90 ระบุว่า มอบดอกไม้
|