พื้นที่สัญจรในครัวเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนออกแบบครัวควรจำรูปสามเหลี่ยมการใช้งานให้ขึ้นใจ จะช่วยให้ใช้งานครัวได้สะดวกขึ้น มุมของสามเหลี่ยมจะตรงกับตู้เย็น อ่างล้างจาน และเตา ทั้งสามสิ่งนี้แทนค่าการใช้งานของส่วนเก็บ ส่วนล้าง และส่วนปรุง ข้อดีของสามเหลี่ยมนี้ยังช่วยลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากครัว จึงใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้ขนาดของพื้นที่และรูปแบบครัวก็ควรสอดคล้องกันด้วย เพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น Show
เราสามารถจัดครัวได้กี่รูปแบบ1. ครัวแนวตรง แถวเดียว เหมาะสำหรับครัวที่มีพื้นที่จำกัด และมีรูปร่างของห้องยาวและแคบ 2. ครัวแบบตัวแอล (L) รูปแบบนี้จะสามารถเข้ากับพื้นที่บ้านโดยทั่วไปและใช้งานสะดวกที่สุด 3. ครัวแนวตรง 2 แถว คล้ายกับแบบแรก แต่เพิ่มตู้ด้านตรงข้ามเพื่อให้ได้ประโยชน์ใช้สอยมากขึ้นฃ 4. ครัวแบบตัวยู (U) เหมาะสำหรับห้องครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการใช้งานในครัวที่หลากหลาย 5. ครัวแบบมีเกาะกลาง ส่วนเกาะกลางที่เพิ่มขึ้นมาสามารถใช้เป็นที่เตรียมอาหารหรือดัดแปลงเป็นโต๊ะรับประทานอาหารได้ เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ครัวกว้างๆ กำหนดระยะ (ด้านหน้า ด้านข้าง)เมื่อกำหนดระยะและความสูงของอุปกรณ์ต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบระยะและความสูงต่างๆนั้นให้ถูกต้องอีกครั้ง ระยะและความสูงเหล่านี้สามารถแปรเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน ดังนั้นในการออกแบบจึงไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับมาตราฐานแต่เพียงอย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตาม การกำหนดระยะและความสูงของอุปกรณ์ให้เหมาะกับผู้ใช้งานนั้น ก็ควรคำนึงถึงในเรื่องของสัดส่วนของพื้นที่ใช้สอยว่ามีขนาดเหมาะสมและสวยงามเพียงใดหรือไม่ เพื่อความลงตัวในทุกสัดส่วน ระยะใช้สอยของพื้นที่ปรุงอาหาร ควรเว้นพื้นที่ว่างทั้งสองด้านของเตาไม่น้อยกว่า 45 เซนติเมตร เพื่อใช้วางหม้อ กระทะ หรืออาหารที่เพิ่งปรุงเสร็จจากเตา ส่วนหัวเตาก็ควรมีขนาดประมาณ 75 -100 เซนติเมตร ประกอบด้วยหัวเตาขนาดต่างๆกัน ควรเว้นระยะของอ่างล้างจานข้างใดข้างหนึ่งอย่างน้อยประมาณ 75 เซนติเมตร เพื่อไว้วางของที่ล้างเสร็จแล้ว ตู้สูงและตู้เก็บของระยะความสูงจากเคาน์เตอร์ถึงตู้อยู่ที่ 40 – 50 เซนติเมตร อาจปรับได้ตามความสูงของผู้ใช้งาน ควรให้อยู่ในระยะพอดีกับมือจับตู้ ไม่ควรให้ผู้ใช้งานต้องเหยียดสุดแขนหรือเขย่างเพื่อหยิบของ เคาน์เตอร์ความสูงเคาน์เตอร์ระยะมาตาฐานอยู่ที่ 85 – 110 เซนติเมตร แต่อาจปรับระยะให้เข้ากับความสูงของผู้ใช้งานได้ เช่น เมื่อยกศอกในระดับใช้งานบนเคาน์เตอร์แล้วต้องอยู่ในระยะที่ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป จะได้ไม่ปวดหลังหากต้องทำครัวนานๆ ส่วนความลึกของเคาน์เตอร์ระยะมาตราฐานอยู่ที่ 60 เซนติเมตร แต่อาจปรับให้พิดีตามความถนัดในการยืนของผู้ใช้งานได้ เคาน์เตอร์รับประทานอาหารการทำเคาน์เตอร์รับประทานอาหารระยะความสูงมาตราฐานอยู่ที่ 75 -112 ซม แต่อาจปรับให้เข้ากับระยะของผู้ใช้งานก็ได้ โต๊ะรับประทานอาหารโต๊ะรับประทานอาหารมีหลายแบบทั้งแบบ 2 ที่นั่งจนไปถึง 8 ที่นั่ง โดยระยะความสูงมาตราฐานเ เก้าอี้จากระดับพื้นถึงที่นั่งจะอยู่ที่ 40 เซนติเมตร และจากระดับที่นั่งถึงโต๊ะอยู่ที่ 30 เซนติเมตร ส่วนโต๊ะจากระดับพื้นถึงพื้นที่บนโต๊ะอยู่ที่ 70 เซนติเมตร อ่านเพิ่มเติม :HUMAN SCALE สัดส่วนมนุษย์กับการออกแบบ : ห้องน้ำHUMAN SCALE สัดส่วนมนุษย์กับการออกแบบ : ห้องนอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือการออกแบบภายในขั้นพื้นฐานหลักการพิจารณาเบื้องต้น สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ห้องครัวที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย จะต้องออกแบบให้ถูกต้องตามสรีรศาสตร์ หรือ Ergonomic ซึ่งหมายถึง การศึกษาสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อความเหมาะสมกับการทำงานหรือการใช้งาน หากต้องออกแบบห้องสักห้องหนึ่ง อย่างห้องครัว ที่ทุกคนในบ้านต่างต้องใช้งานร่วมกัน เพื่อให้ได้ระยะต่างๆ อย่างเหมาะสม Ergonomic ถือเป็นจุดเริ่มต้นการออกแบบที่สำคัญในการออกแบบส่วนต่างๆ ให้สัมพันธ์กับการใช้งาน ทั้งระยะการหยิบจับสิ่งของได้สะดวก และปลอดภัยต่อผู้ใช้งานเอง ห้องครัวถือเป็นอีกส่วนสำคัญภายในบ้านที่ต้องใส่ใจรายละเอียดไม่ต่างจากห้องอื่น ยิ่งใครเป็นสายชอบทำอาหาร ทำกับข้าวด้วยแล้ว การรู้ความสูงเคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสมกับตนเองและคนในบ้านย่อมช่วยให้เกิดความสะดวกมากขึ้น สนุกกับการรังสรรค์เมนูแสนอร่อยได้ทุกวัน คำถามคือ ขนาดเคาน์เตอร์ครัวที่ตอบโจทย์ควรเป็นเท่าใด ติดตั้งตามขนาดเคาน์เตอร์ครัวมาตรฐานเลยดีหรือไม่ มาหาคำตอบได้เลย หลักการเลือกขนาดเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสมการศึกษาแนวทางสำหรับเลือกขนาดของเคาน์เตอร์ครัวให้เกิดความเหมาะสมต่อการใช้งาน จะช่วยสร้างผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ ได้ครัวตามที่คาดหวังไว้ ทำเมนูแสนอร่อยดังใจปรารถนา ซึ่งหลักการที่อยากบอกต่อ มีดังนี้เลย 1. คำนึงถึงรูปแบบของห้องครัวก่อนปกติในการใช้เคาน์เตอร์ครัวจะแยกออกเป็น 3 ส่วน ประกอบไปด้วย ส่วนเก็บ (ตู้เย็น, ตู้กับข้าว), ส่วนปรุง (เตาแก๊ส, อุปกรณ์หุงต้ม) และส่วนล้าง (ซิ้งค์ล้างจาน) ดังนั้นการมีรูปแบบของห้องครัวที่ชัดเจนจะช่วยกำหนดความสูงและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ความสูงเคาน์เตอร์ครัวด้านบนและด้านล่างหลังจากกำหนดรูปแบบครัวได้แล้ว คราวนี้ก็เข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาความสูงเคาน์เตอร์ครัวทั้งส่วนด้านบนและด้านล่าง ดังนี้ 2.1 ความสูงด้านล่างปกติแล้วขนาดเคาน์เตอร์ครัวมาตรฐานควรอยู่ราว 85-110 เซนติเมตร ความลึกชนกำแพงอีกด้าน 60 เซนติเมตร แบบนี้ทุกคนจะใช้งานได้รวมถึงเด็ก อย่างไรก็ตามกรณีคนในบ้านที่ทำครัวประจำตัวสูง 175-180 เซนติเมตร เคาน์เตอร์ควรปรับให้สูงราว 155 เซนติเมตร และถ้าคนสูงเกิน 185 เซนติเมตร แนะนำให้ปรับขนาดของเคาน์เตอร์เป็น 160 เซนติเมตร จะช่วยให้หยิบจับอุปกรณ์สะดวกกว่า ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ ให้ปวดหลัง ปล. การเทียบความสูงของตัวเคาน์เตอร์กับคนทำครัวอีกวิธีง่าย ๆ ให้ลองยืนแล้วก้มลงในระยะที่กำหนดว่าพอดีมากน้อยแค่ไหน จะช่วยปรับสัดส่วนได้แม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม 2.2 ความสูงด้านบนการติดตั้งตู้ชั้นลอยเก็บของควรมีระยะสูงจากท็อปเคาน์เตอร์ครัวอย่างน้อย 40-70 เซนติเมตร ระยะความลึกราว 20 เซนติเมตร จะช่วยให้ยื่นมือหยิบ-เก็บของต่าง ๆ ได้สะดวก รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องศีรษะกระแทกด้วย อย่างไรก็ตามหากรู้สึกว่านี่ยังไม่ใช่ระยะที่ตอบโจทย์ก็ทดลองเอื้อมหยิบจับตามระยะมือจริงได้เลย 3. ระยะด้านหน้าและด้านข้างของเคาน์เตอร์ที่เหมาะสมนอกจากความสูงเคาน์เตอร์ครัวแล้ว การกำหนดขนาดเคาน์เตอร์ทั้งด้านหน้าและด้านข้างก็ต้องเหมาะกับพื้นที่และสัมพันธ์ต่อกันด้วย คำแนะนำคือบริเวณประกอบอาหารควรเว้นระยะ 2 ด้านของเตาแก๊สอย่างน้อย 45 เซนติเมตร เพื่อการวางกระทะ หม้อ หรืออาหารที่พึ่งปรุงเสร็จได้ง่าย อีกปัจจัยสำคัญอย่าลืมเว้นระยะของตัวอ่างล้างจานด้านหนึ่งไว้ด้วยประมาณ 75 เซนติเมตร สำหรับใช้วางเครื่องครัวที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อย ข้อควรระวังเกี่ยวกับเคาน์เตอร์ครัวข้อควรระวังเกี่ยวกับเคาน์เตอร์ครัว ไม่ใช่แค่การติดตั้งขนาดเคาน์เตอร์ครัวมาตรฐาน หรือการทำระดับความสูงให้เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังมีบางเรื่องที่ควรคำนึงถึงเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน นั่นคือ ตู้เย็น ตู้กับข้าว หรือตู้เก็บของแนะนำให้อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าครัวมากที่สุด เว้นระยะด้านขวาของเคาน์เตอร์ไว้ 40-60 เซนติเมตร เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับวางสิ่งของที่หยิบออกมาจากตู้เหล่านั้น เครื่องดูดควันติดตั้งให้ห่างจากเตาไฟ 50-70 เซนติเมตร อีกสิ่งที่อยากให้ระวังเกี่ยวกับเคาน์เตอร์ครัวนั่นคือเหล่าบรรดาอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลาย เช่น เตาอบ, เตาไมโครเวฟ, หม้อหุงข้าว ฯลฯ ควรจัดวางให้ความสูงอยู่ในระดับเดียวกับเคาน์เตอร์ หรือบางชิ้นจะวางไว้บนท็อปเคาน์เตอร์เลยก็ได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ต้องก้มหรือเอื้อมมือจนเกิดความยุ่งยาก ส่วนอุปกรณ์อื่นที่เก็บเข้าตู้ เข้ากล่องได้ หากไม่ได้ใช้งานแล้วอย่าลืมเก็บอย่างมีระเบียบเรียบร้อย ทั้งหมดนี้คือข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับการประเมินความสูงเคาน์เตอร์ครัวและการวางแผนติดตั้งขนาดเคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสม ไม่ว่าบ้านขนาดใดก็สามารถมีห้องครัวตามสไตล์ที่ตนเองต้องการได้ ยิ่งคนชอบทำอาหารด้วยแล้วนี่เสมือนเป็นสวรรค์ที่ต้องออกแบบให้ตอบโจทย์กับตนเองมากที่สุด ท็อปครัว กว้างเท่าไร- เคาน์เตอร์ส่วนใหญ่จะมีด้านกว้าง 0.60 เมตร อย่างตัวนี้ปูท็อปเคาน์เตอร์ครัวด้วยหินแกรนิต นั่นแสดงว่าหินแกรนิตยื่นออกจากผนัง 60 เซนติเมตร ส่วนตัวด้านกว้างของเคาน์เตอร์จะลดลงมาอยู่ที่ 0.585 เมตร ฉะนั้นเราควรเทปูนกว้างไม่เกิน 0.57 เมตรครับ แต่ถ้าท็อปเคาน์เตอร์ปูด้วยกระเบื้องเราสามารถปรับเป็น 0.59 เมตรได้เลยครับ
ปกติเคาเตอร์ครัวจะสูงกี่เซนติเมตรโดยปกติแล้วความสูงเคาน์เตอร์ครัวตามมาตรฐานควรจะอยู่ที่ 85 – 110 เซนติเมตร และความลึกของเคาน์เตอร์ครัวนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 60 เซนติเมตร เพื่อให้ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับความสูงของผู้ใช้งานด้วย เช่น หากผู้ใช้งานเป็นคนค่อนข้างสูงหากมีความสูงประมาณ 175-178 เซนติเมตร เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างควร ...
ซิ้งล้างจานควรสูงกี่เซนสำหรับซิงค์หรืออ่างล้างจาน ควรจะมีความลึกเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ซม. และความสูงอยู่ที่ 85 ซม. นอกจากนี้ ยังควรมีการ์ดหลังสูง 15 ซม.
พื้นของห้องครัวแบบใดมีความเหมาะสมมากที่สุดดังนั้นพื้นห้องครัวควรเลือกพื้นที่มีความทนทานสูง ทนรอยขีดข่วน กันความชื้น กันคราบเปื้อน และทำความสะอาดง่าย แนะนำวัสดุปูพื้นที่เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องเซรามิก พื้นคอนกรีต หรือปูนขัดมันก็ได้
|