ก้อยได้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และมีโอทีด้วย รวมแล้ววันหนึ่งเธอมีรายได้อยู่ที่วันละ 500 บาท แต่โอทีก็ไม่ได้มีทุกวัน เอาเป็นว่า เดือนหนึ่งก้อยมีรายได้ที่หมื่นต้นๆ ที่นี้ก้อยต้องสร้างบัญชีรายจ่ายขึ้นมาแล้วละค่ะ สรุปที่ก้อยมีเงินเข้าบัญชีที่หนึ่งหมื่นสองพันบาทต่อเดือนแน่ๆ แล้วเรามาดูรายจ่ายของเธอกันค่ะ 1.จ่ายค่าผ่อนคอนโด 3500 บาท Show
นี่คือรายจ่ายต่อเดือนที่ก้อยต้องจ่ายเป็นประจำ รวมเป็นเงิน 7500บาท ซึ่งก้อยก็ยังมีเงินเหลืออีก 4500 บาท ที่เงินก้อนนี้แหละที่ก้อยต้องกินต้องใช้ให้ชนเดือน แต่ก้อยก็อยากมีเงินเก็บไว้เผื่อเกิดฉุกเฉินขึ้นถ้าคุณเป็นก้อยจะทำอย่างไรดี….. สมมุติว่า ดิฉันเป็นน้องก้อย ก็จะคิดและวางแผนการเงินในวงเงินที่เหลืออยู่เพียง 4500บาท เราก็ต้องคิดและวางแผนว่า เดือนนี้ต้องใช้จ่ายอย่างจำกัดวงเงินของตนเองให้อยู่ที่วันละไม่เกิน 100 บาท ซึ่งภายในหนึ่งเดือน (30วัน) เราก็จะใช้เงินไปแค่ 3000 บาท สรุปว่า เดือนนี้ก้อยไม่มีหนี้เพิ่มขึ้น แถมยังมีเงินติดบัญชีอีก 1500 บาท ซึ่งก้อยอาจแบ่งเงินส่วนที่เหลือกลับบ้านได้อีก 500 บาท เงินอีก 1000 บาทที่เหลือ ไม่ควรไปยุ่งกับมันอีก ให้ทำเป็นลืมเงินก้อนนั้นไปเสีย ถ้าก้อยบริหารการเงินแบบมีระเบียบแบบนี้ได้ทุกเดือน ก็จะไม่มีหนี้เพิ่มขึ้นแถมยังมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินอีกด้วย
ทีนี้ในทางตรงกันข้าม ลองมาดูคนอีกกลุ่มซิคะว่าเขาจัดการกับเงินเดือน 12000 บาท อย่างไร สมมุติตัวแทนของคนกลุ่มนี้ชื่อ “น้องนก” นะคะ สมมุติว่า นกทำงานที่เดียวกับก้อย รายรับเท่ากัน ค่าเช่าห้องพักและค่าน้ำค่าไฟเท่ากัน แต่นกไม่เคยจัดระเบียบการเงินเลย พอเงินเดือนออกปุ๊บ นกก็จะไปห้างช็อปกระจาย ทั้งเสื้อผ้าที่ออกใหม่ๆรองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางชุดใหม่ๆ โดยที่เธอยังไม่ได้จ่ายสิ่งที่ควรจ่ายเลย แม้แต่ค่าเช่าห้องที่พักอยู่ ดังนั้น รายจ่ายส่วนที่แตกต่างจากก้อยคือ ค่าบัตรเครดิตที่นกจ่ายเวลาไปซื้อของนั่นเอง ดังนั้น สิ่งที่นกต้องจ่ายประจำคือ1.ค่าห้องเช่า 3500 บาท 2.ค่าน้ำ+ไฟ 1000 บาท
รวมรายจ่ายของนกที่ต้องจ่ายประจำคือเดือนละ 10000 บาท ดังนั้น นกจะเหลือเงินให้ใช้ตลอดเดือนเพียง 2000 บาท แล้วต้องทำยังไงดีล่ะคะทีนี้ เพราะเงินเดือนที่ออกมาก็ช็อปแหลกไปซะ 3000 บาท แล้วต้องจ่ายหนี้ประจำไปด้วย เงินที่จะต้องกินต้องใช้ก็ไม่พอ คำถามเดิมค่ะ ถ้าคุณคือนก จะแก้ปัญหายังไงดี? ปัญหานี้ หลายคนคงคิดได้แบบเดียวกันกับดิฉัน นั่นคือ ทางออกแรกคือใช้บัตรกดเงินสด หรือกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้ แต่ในกรณีนี้ ช่างโชคร้ายนักที่วงเงินเต็มไปแล้วทุกบัตร เพราะเธอมีนิสัยการเงินที่ขาดการบริหารจัดการที่ดีมาตลอดนั่นเอง แล้วอาจต้องกู้หนี้นอกระบบ มาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนคงเห็นประโยชน์ของการจัดระเบียบการใช้เงินแล้วนะคะ ว่ายุคนี้เราควรทำตัวอย่างคุณน้องนกหรือแบบน้องก้อยกันดี เราจึงจะมีเงินใช้หนี้ได้ และเหลือไว้ใช้ยามฉุกเฉินอีกด้วยการปลดหนี้ คือบันไดขั้นแรกสู่อิสรภาพทางการเงิน เพราะถึงแม้จะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ แต่ก็ย่อมดีกว่าติดลบ แถมบางคนยังติดลบพร้อมดอกเบี้ยทบต้นทบดอกเข้าไปอีกจากการเป็นหนี้นอกระบบ การกู้เงินปิดหนี้จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่มีภาระหนี้สิน โดยเฉพาะการเลือกเงินก้อนปิดหนี้จากสินเชื่อธนาคารที่วางใจได้ ถือเป็นทางรอดสำหรับคนที่เป็นหนี้นอกระบบในปัจจุบัน คนที่อยากมีเงินใช้หนี้ หลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจที่จะกู้เงินปิดหนี้นอกระบบจากสถาบันการเงิน เพราะกลัวจะไม่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากมีฐานเงินเดือนไม่สูง หรือขาดคนค้ำประกัน แต่ตอนนี้ปัญหาดังกล่าวจะหมดไป ด้วยสินเชื่อเงินด่วนจากธนาคารกรุงไทย ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการกู้เงินด่วน หรือมองหาเงินกู้ฉุกเฉิน เพื่อให้ทันต่อความจำเป็นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น “สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ” “สินเชื่ออเนกประสงค์ 5 Plus” หรือ “สินเชื่อกรุงไทย Smart Money” ซึ่งสินเชื่อเหล่านี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท* โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน สำหรับคนที่ยังลังเลที่จะกู้เงินปิดหนี้นอกระบบจากธนาคาร ลองมาดูกันว่าเงินกู้ในระบบ แตกต่างจากเงินกู้นอกระบบอย่างไร ความแตกต่างของเงินกู้ในระบบและนอกระบบ
ทีนี้ลองมาดูวิธีการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบ กับเงินกู้นอกระบบกันบ้าง วิธีการคำนวณดอกเบี้ยคือ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x ระยะเวลาผ่อน (ปี) กรณีกู้เงินนอกระบบเงินกู้นอกระบบจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายเดือน สมมติอัตราดอกเบี้ยที่ 20% ต่อเดือน กรณีกู้เงินในระบบอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบเป็นอัตราแบบรายปี โดยเรทที่แพงที่สุดตามกฎหมายคือ 28% 4 วิธีปิดหนี้นอกระบบเราขอนำเสนอวิธีหาเงินมาจ่ายหนี้นอกระบบเบื้องต้นง่ายๆ ดังนี้ 1. ลดรายจ่ายหากการเป็นหนี้ของเราเกิดจากการใช้เงินที่มากเกินไป หรือช็อตเนื่องจากไม่มีเงินเก็บ การลดรายจ่ายคือเรื่องสำคัญที่ต้องทำทันที เพื่อให้มีเงินเหลือพอใช้หนี้ และเหลือเก็บไว้ในอนาคต จะได้ไม่ต้องก่อหนี้เพิ่มไม่รู้จบ เคล็ดลับช่วยบริหารค่าใช้จ่ายที่ทุกคนทำได้ ก็คือการทำบันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อให้รู้ว่าเงินของเราหมดไปกับอะไร และมีรูรั่วในการเก็บเงินอย่างไรบ้าง 2. หารายได้เพิ่มเมื่อเงินที่หามาได้ไม่พอสำหรับค่าใช้จ่าย ก็ควรหารายได้เพิ่มขึ้นด้วยการทำอาชีพเสริม หรือเปลี่ยนสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ให้กลายเป็นเงินก้อนปิดหนี้ โดยเริ่มจากสินค้าที่ไม่จำเป็นอย่างเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือสินค้าแบรนด์เนมก่อน 3. ขอคำปรึกษา เจรจาหาตัวช่วยครอบครัวหรือคนสนิทมักจะเป็นคนแรกๆ ที่เรานึกถึงเวลามีปัญหา แต่นอกจากนี้แล้วเราสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้ด้วย โดยเฉพาะหากเป็นหนี้ในระบบ สถาบันการเงินส่วนมากยินดีที่จะช่วยเหลือเสนอทางออกให้กับลูกหนี้อยู่แล้ว เราสามารถขอผ่อนผัน ยืดเวลาชำระหนี้ หรือขอลดดอกเบี้ยบางส่วนได้ 4. เปลี่ยนหนี้นอกระบบ เป็นหนี้ในระบบหากหนี้ที่มีอยู่เป็นหนี้นอกระบบ ควรกู้เงินปิดหนี้ด้วยสินเชื่อจากธนาคาร เพราะดอกเบี้ยถูกกว่าและปลอดภัยกว่าเงินกู้นอกระบบ โดยเฉพาะตอนนี้มีสินเชื่อมากมายที่อนุมัติไว กู้ง่าย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน เป็นทางออกที่ดีที่ช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้ มาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะเริ่มสนใจกู้เงินปิดหนี้กับธนาคารมากขึ้นแล้ว จึงอยากขอแนะนำ 4 สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารกรุงไทย ที่มีให้เลือกหลากหลาย กู้ง่าย และไม่ต้องมีคนค้ำประกัน |