Show ช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ อาจทำให้เป็นหวัด คัดจมูก ได้ง่าย ๆ สำหรับใครที่เป็นอยู่อยากหายไวไว ต้องตามมาดู วิธีแก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล อย่างเห็นผลกันดีกว่า! อาการคัดจมูก (Stuffy nose) น้ำมูกไหล (Runny nose) มักเกิดขึ้นจากโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ภูมิแพ้ หรือในบางกรณีอาจเกิดขึ้นจากโรคปอดด้วย อาการคัดจมูกเป็นสาเหตุทำให้รูจมูกเกิดการอักเสบ หลอดลมตีบ หรือมีน้ำมูกแห้ง ๆ กีดขวางทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบาก และนอนหลับไม่สนิท ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ทั้งการเปลี่ยนพฤติกรรม รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ และการทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือสมุนไพรเพื่อช่วยลดหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล อย่างมีประสิทธิภาพ 7 วิธีลดหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล จากการปรับพฤติกรรมตนเอง1. ไม่เปิดพัดลมใส่ตัวตรง ๆ - ถ้าไม่อยากเป็นหวัดอีก อย่าเปิดพัดลมใส่ตัวตรง ๆ เพราะ คนเราเวลานอนหลับ เลือดลมจะน้อย พอโดนความเย็นเข้าไปจะทำให้ร่างกายเราสู้ความเย็นไม่ได้ จึงทำให้เป็นหวัด นั่นเอง 2. ไม่เปิดแอร์คอนดิชันเนอร์เย็นจนเกินไป - เหตุผลเดียวกันกับข้อที่ 1 ถ้าร่างกายเรารับความเย็นมาก ๆ ถ้าไม่แข็งแรงพอ ก็จะเป็นหวัดได้ 3. เลิกบุหรี่ - ควันบุหรี่จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณจมูกเกิดการระคายเคืองอย่างมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มีอาการปวดศีรษะอยู่บ่อยครั้ง และมีอาการไอเรื้อรัง นอกจากจะทำให้เป็นหวัด และหลอดลมอักเสบง่ายแล้ว ยังก่อโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตามมาอีกด้วยนะ 4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ - เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ถ้ามีภูมิต้านทานดี โอกาสที่จะเป็นหวัด คัดจมูก ก็น้อยลง 5. อาบน้ำอุ่น ลดอาการคัดจมูก - การอาบน้ำ หรือแช่น้ำอุ่นอย่างน้อย 5-10 นาที สามารถลดอาการคัดจมูกได้ โดยน้ำอุ่นจะกระตุ้นการระบายของน้ำมูก และบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ และไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป 6. หลีกเลี่ยงเชื้อโรค และการตากฝน - ในช่วงหน้าฝน ลมพายุจะพัดพาเชื้อโรคมาเกาะที่ตัวเรา จึงทำให้เชื้อโรคเหล่านี้ เข้าสู่ทางโพรงจมูกเราได้ง่าย ฉะนั้น เมื่อถึงบ้านควรรีบอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สะอาด เพื่อเอาเชื้อโรคออกจากร่างกายเรานั่นเอง 7. สวมใส่หน้ากากอนามัย - หน้ากากอนามัยนอกจากจะช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ได้แล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้รับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดไข้หวัดได้อีกด้วย แล้วยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเปลี่ยน ก็จะมีลมพายุพัดพาเอาเชื้อโรคมาติดเราได้ง่าย ฉะนั้น การใส่หน้ากากอนามัยจึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีไม่ให้จมูกของเราสูดเอาเชื้อโรคเข้าไปนั่นเอง วิธีแก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล 7 วิธีลดหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ด้วยวิธีธรรมชาติ1. นอนพักผ่อนให้มาก ๆ - เมื่อมีไข้หวัด แปลว่าร่างกายเราอ่อนแอ ควรพักการทำงาน และไม่เครียด แล้วนอนพักผ่อนให้มาก ๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รักษาตนเองตอนนอน แต่ระวังอย่านอนเปิดลมจ่อที่ตัว หรืออย่าเปิดแอร์เย็นเกินไป 2. ดมน้ำมันยูคาลิปตัส - น้ำมันชนิดนี้มีประโยชน์มากสำหรับสำหรับคนที่มีอาการคัดจมูก และน้ำมูกไหล สามารถลดอาการได้ทันที ด้วย 3 วิธีง่าย ๆ ดังนี้
3. สูดดมไอน้ำ - การสูดดมไอน้ำ จะทำให้โพรงจมูกสะอาด และช่วยลดเมือกลงได้ สามารถใช้กับคนทั่วไปได้ แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ผู้มีความผิดปกติทางระบบประสาท คนที่มีความดันไม่ปกติ
4. ใช้สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก - สเปรย์น้ำเกลือจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้รูจมูก และช่วยขจัดขี้มูก และน้ำมูกออกไป ก่อนใช้สเปรย์น้ำเกลือ ควรศึกษาวิธีใช้ให้ถูกต้อง อาจสอบถามเภสัช หรือศึกษาจากคลิปการสอนใช้สเปรย์น้ำเกลือเสียก่อน 5. สั่งน้ำมูกอย่างถูกต้อง - การสั่งน้ำมูกจะช่วยให้โพรงจมูกโล่ง แต่ควรระวังอย่าสั่งน้ำมูกแรงเกินไป เนื่องจากแรงดันจากการสั่งน้ำมูกแรงเกินไปนั้น สามารถส่งผลกระทบต่อหู ทำให้เกิดอาการปวดหูได้ ดังนั้นจึงควรสั่งน้ำมูกเบา ๆ และเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ข้อแนะนำ : ควรสั่งน้ำมูกโดยนำนิ้วกดที่รูจมูกข้างหนึ่ง และใช้กระดาษทิชชูค่อย ๆ สั่งน้ำมูกออกมาจากรูจมูกอีกข้างหนึ่ง ทำซ้ำอีกข้างหนึ่งเหมือนกัน ควรล้างมือก่อนทุกครั้งที่สั่งน้ำมูก เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการติดเชื้อจากแบคทีเรีย และไวรัส 6. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ - การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับโพรงจมูก ช่วยระบายน้ำมูก และป้องกันเสมหะไหลลงคอ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้อีกด้วย ให้เติมเกลือทะเล ½ ช้อนชาลงไปในน้ำอุ่น และคนเรื่อย ๆ จนกระทั่งเกลือละลาย กลั้วคอด้วยน้ำเกลือประมาณ 1-2 นาที แล้วจึงบ้วนทิ้ง 7. ใช้น้ำเกลือล้างจมูก - เช่น สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก สเปรย์น้ำเกลือจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้รูจมูก และช่วยขจัดขี้มูก และน้ำมูกออกไป ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกในผู้ที่มีการอักเสบของเยื่อบุในโพรงจมูก สามารถใช้กับผู้ที่มีอาการแพ้น้ำมูกไหลได้ ข้อแนะนำ : ควรสอบถามวิธีใช้กับเภสัชกรก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเราใช้ได้อย่างถูกวิธี และสเปรย์พ่นจมูกบางประเภทอาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย หรือก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ควรมองหาสเปรย์ที่ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์ 0-3 % เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการระคายเคือง 4 วิธีลดหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์1. ทานซุปอุ่น ๆ - สามารถต่อต้านการอักเสบ กระตุ้นให้เหงื่อออก และทำให้น้ำมูกระบายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้โพรงจมูกโล่ง และหายใจสะดวกมากขึ้น ควรทานซุปในขณะที่ยังอุ่นอยู่ และควรทานซุปวันละ 1-3 ครั้ง จนอาการดีขึ้นหรือหายเป็นปกติ อาจเพิ่มสมุนไพรต่าง ๆ เช่น พาร์สลีย์ หรือใบไธม์ และผักอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย 2. ทานวิตามินซีอย่างเพียงพอ - วิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่สำคัญ ที่จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ผู้ที่ได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ จะทำให้ไข้หวัดหายเร็วขึ้น และลดความรุนแรงของอาการคัดจมูกได้ โดยปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวัน คือ รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2-3 ครั้ง วิตามินซีที่มาจากแหล่งธรรมชาติ ได้แก่ พริกหยวกแดง พริกหยวกเขียว ส้ม ส้มโอ เกรปฟรุต มะนาว เลมอน ผักปวยเล้ง บรอกโคลี กะหล่ำดาว สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี มะเขือเทศ มะม่วง มะละกอ และแคนตาลูป อ่านบทความเพิ่มเติม ---> ผักผลไม้วิตามินซีสูง เพื่อสุขภาพดีๆ ห่างไกลหวัด วิธีแก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล 3. หอมแดง - สูตรเด็ดจาก สสส. หอมแดงเป็นสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคหวัด ภูมิแพ้ และอาการคัดจมูก ทานแล้วยังทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
4. ขิง - ขิงมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังต้านเชื้อรา ขับพิษออกจากร่างกายได้ดี
จึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเสริมภูมิต้านทานได้เป็นอย่างดี 2 วิธีแก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ด้วยการทานยา1. ทานยาลดไข้ ลดน้ำมูก - ยาลดไข้หวัดในปัจจุบัน จะมีแบบสูตรผสม ที่มักประกอบด้วยยาจำนวน 2-3 ชนิด ใน 1 เม็ด ได้แก่ ยาแก้ปวด ลดไข้, ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก และอาจผสมยาแก้คัดจมูกในสูตรยาด้วย ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยากลุ่มนี้ คือ
ดีคอลเจน ชนิดเม็ด (DECOLGEN)
เหมาะกับผู้เป็นไข้หวัดที่มีอาการแพ้ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปวด น้ำมูกไหล จาม เป็นต้น 2. ทานยาแก้แพ้ - ถ้าอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลมาจากอาการแพ้ ควรกินยาแก้แพ้ที่มีส่วนผสมของ ลอราทาดีน จะช่วยลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ทำให้ง่วงนอนอีกด้วย อ่านบทความเพิ่มเติม ---> ยาแก้แพ้ มีกี่ชนิด และควรเลือกอย่างไรดี? วิธีแก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล อ้างอิง : ถามหมอออนไลน์ ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่ ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…Facebook : GEDGoodLife |