ลดน้ำหนัก เท่า ไหร่ ถึง จะ พอดี

ภายใน 1 เดือนเราสามารถลดน้ำหนักได้มากสุดกี่กิโล?

ในปัจจุบันสังคมของเรากลายเป็นสังคมเทคโนโลยีไปแล้ว พวกเราหลายคนกลายเป็นคนประเภทที่เวลาอะไรแล้วอยากจะเห็นผลลัพธ์เร็วๆ ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรหรอกถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวโทรศัพท์มือถือ แต่การอยากเห็นผลลัพธ์แบบทันทีนั้นมันจะไม่ดีในเรื่องของการลดน้ำหนัก

นี่คือหนึ่งตัวอย่างของการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน (ซึ่งจะส่งผลเสีย)

ผู้ที่คิดสูตรการ “FAD Diets” อ้างว่าสามารถลดน้ำหนักให้เราได้เยอะมาก แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกหิวสุดๆ และในกรณีที่แย่ที่สุดคือเราจะมีพฤติกรรมการกินแบบผิดๆ แถมยังต้องเจอโยโย่เอฟเฟคอีกด้วย

แล้วถ้าอย่างนั้นตัวเลขจำนวนการลดน้ำหนักที่เหมาะสมมันคือเท่าไหร่กัน? อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) บอกว่าควรลดน้ำหนัก 1 – 2 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (0.45 – 0.9 กก. ต่อสัปดาห์)  หมายความว่าโดยเฉลี่ยแล้วถือเป็น 1.8 – 3.6 กก. ต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย

แม้ว่าเราจะเจอวิธีการลดน้ำหนักที่สามารถลดได้เร็ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีต่อสุขภาพหรือจะไม่โดนโยโย่เอฟเฟคในระยะยาว

ลดน้ำหนักในแบบที่ดีต่อสุขภาพ

ลดน้ำหนัก เท่า ไหร่ ถึง จะ พอดี
Designed by Freepik

การลดน้ำหนักสามารถเป็นอะไรที่เรียบง่ายและท้าทายในเวลาเดียวกัน

ตัวเลขนั้นบอกเราว่า เมื่อได้รับแคลอรี่น้อยกว่าที่ร่างกายเราสามารถเผาผลาญได้ในแต่ละวัน ร่างกายก็จะเอาไขมันที่สะสมมาเผาผลาญเป็นพลังงาน น้ำหนักตัว 1 ปอนด์ (0.45 กก.) จะเท่ากับ 3,500 แคลอรี่ ดังนั้นหากต้องการลดน้ำหนัก 0.45 กก. ต่อสัปดาห์ ในแต่ละวันเราจะต้องได้รับแคลอรี่น้อยลงประมาณ 500-1000 แคลอรี่ แต่ทว่าชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะชีวิตเราต้องมีกิจกรรมการเข้าสังคม , มีวันหยุด , การเฉลิมฉลองที่ต้องจัดเลี้ยงอาหาร เป็นต้น

เมื่อเราพยายามที่จะลดน้ำหนัก การมีแผนการคุมอาหารและออกกำลังกายที่ดีและมีเป้าหมายในการมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น ไม่ใช่แค่อยากจะใส่เสื้อผ้าตัวเล็กลงเพียงอย่างเดียว จึงจะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้สำเร็จ และป้องกันไม่ให้น้ำหนักเพิ่มกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้น เราจำเป็นที่จะต้องโฟกัสไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้น และออกกำลังกายให้มากขึ้นด้วย

การฝึก Strength training เช่น การยกเวท หรือการออกกำลังกายแบบใช้ Bodyweight ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบมีความเข้มข้นสูง จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของเราทำงานได้ดีขึ้นและลดน้ำหนักได้มากขึ้น การออกกำลังกายแอโรบิคแบบมีความเร็วคงที่ก็สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้เช่นกัน

“การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญและเพิ่มกล้ามเนื้ออีกส่วนหนึ่งซึ่งจะช่วยให้เรายังคงเผาผลาญแคลอรี่ต่อไปหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จแล้ว” กล่าวโดย ดร.เอมี่ ซีกัล จาก Austin Regional Clinic

ข่าวดีก็คือเราไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักให้ได้ก่อนที่จะได้เห็นผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดี อ้างอิงข้อมูลจาก CDC ระบุว่าถ้าหากเรามีน้ำหนักเกิน การลดน้ำหนักได้ประมาณ 5-10% จะช่วยปรับปรุงความดันโลหิต , ระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน

ทำไมการไดเอทจึงไม่ได้ผล

ลดน้ำหนัก เท่า ไหร่ ถึง จะ พอดี
Designed by schantalao / Freepik

มีเหตุผลที่ถูกเรียกว่า “โยโย่ไดเอท” การอดอาหารนอกจากจะไม่ยั่งยืนแล้ว ยังจะทำให้เรากลับไปมีพฤติกรรมการกินแบบเดิมอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า ทำไมน้ำหนักของเราจึงได้เพิ่มกลับมาหลังจากที่ใช้วิธีการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว อ้างอิงข้อมูลจาก ดร.ปีเตอร์ ลีพอร์ต ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ศูนย์ดูแลโรคอ้วนของศูนย์การแพทย์ Memorial Medical Center ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

เขากล่าวว่า “ร่างกายจะตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อเราลดน้ำหนักได้เร็วเกินไป และมันจะทำให้เรารู้สึกหิว แต่ถ้าหากเราลดน้ำหนักแค่เพียง 1-2 ปอนด์ (0.45 – 0.9 กก.) ต่อสัปดาห์ ร่างกายจะค่อยๆปรับตัว และเริ่มบอกกับตัวเองว่านี่คือน้ำหนักปกติของฉัน และจะไม่ทำให้เราเกิดความรู้สึกหิวแบบสุดๆอันเนื่องมาจากการลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป”

การเลือกแผนการลดน้ำหนัก

ในการที่เราจะลดน้ำหนักและป้องกันไม่ให้มันกลับมาเพิ่มนั้น เราจำเป็นต้องมีแผนการลดน้ำหนักเอาไว้ปฏิบัติตาม

ถ้าหากว่าเราพึ่งจะเริ่มต้นการลดน้ำหนัก หรือเคยพยายามหาแผนลดน้ำหนักแล้ว แต่ยังหาแผนการลดน้ำหนักไม่ได้ ก็ควรที่จะมองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ หมอจะสามารถแนะนำให้เรารู้จักนักโภชนาการที่จะทำงานร่วมกับเรา เพื่อให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ในระยะยาว

นักโภชนาการจะสอนพฤติกรรมการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้กับเรา และสอนให้เราจัดอาหารในจานอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงน้ำตาล , เกลือและไขมันอิ่มตัว ซึ่งมักทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน

บทสรุปส่งท้าย

การที่เราจะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้นั้น เราต้องโฟกัสไปที่การเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ ควรทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและหมั่นออกกำลังกายตลอดชีวิตไปเลย ไม่ใช่ทำแค่เพียงชั่วคราวพอเห็นผลลัพธ์แล้วก็เลิก

คนแต่ละคนจะใช้เวลาในการลดน้ำหนักแค่ไหนนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักส่วนเกินที่เขามี “น้ำหนักไม่ได้เพิ่มขึ้นในชั่วเวลาข้ามคืน และมันก็จะไม่สามารถลดได้ในข้ามคืนเช่นกัน” กล่าวโดย ดร.ซีกัล

ที่มา : https://bit.ly/33mVkcC


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming