เคลมสายชาร์จ ไอ โฟน กี่ วัน

บล็อกนี้เป็นประสบการณ์ตรงนะครับ เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นในอนาคตเลยมาเล่าให้ฟังครับ เป็นประสบการณ์เคลมสายชาร์จ iPhone 6 ซึ่งเป็นเครื่องของศูนย์ทรูมูฟเอช

เรื่องนี้เกิดจากที่จู่ๆ เมื่อผมเอา iPhone ไปเสียบกับสายชาร์จที่เป็นสายแท้ๆ คู่กล่องมันมาตั้งแต่แรก แล้วขึ้นข้อความว่า “This cable or accessory is not certified and may not work reliably…” หรือแปลเป็นไทยคร่าวๆ ก็คือ มันบอกว่าสายชาร์จนี้เป็นสายเถื่อน ไม่สามารถใช้กับเครื่องนี้ได้ …อ้าว !!  เวรละ ก็เคยใช้อยู่ เป็นแบบนี้ได้ไง ปกติข้อความนี้มันต้องขึ้นกับพวกสายชาร์จถูกๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานหนิ ?

เลยเปิด Google หาข้อมูลดู พบว่าเคสแบบเรามีคนเป็นกันเยอะเหมือนกันแหะ สรุปง่ายๆ คือ สาย Lightning มันเสียอะแหล่ะ คือ ถึงแม้สายไม่ได้ขาดให้เห็นภายนอก แต่เป็นไปได้ว่าชิปภายในอาจเสีย ซึ่งนอกในหลายๆ เว็บก็แนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้นให้ลองทดสอบ เช่น ลองทำความสะอาดหัวต่อ หรือให้ลองปิด/เปิดเครื่องใหม่ดู ปรากฏว่าอาการนี้ก็ยังไม่หาย ทางแก้สุดท้ายก็คือต้องส่งเคลมครับ (ประกันยังไม่หมด)

ลองมาหาข้อมูลเรื่องการส่งเคลมสายชาร์จ iPhone ในกระทู้ Pantip พบว่าขั้นตอนการเคลมก็ดูไม่ยากเท่าไร คือเอาไปให้ที่ศูนย์ดู ถ้ามีปัญหาจริงก็รอ 1-2 สัปดาห์ แล้วจะได้สายใหม่ แต่ปัญหาคือ ตอนที่สายมันพังผมดันกลับบ้านต่างจังหวัด เอาสายชาร์จมาแค่เส้นเดียว แล้วระหว่างนี้ก็เลยต้องไปหาซื้อสายอื่นมาแก้ขัดกันก่อน เดินไปร้านตู้มือถือแถวบ้าน บอกคนขายว่าขอสายที่ดีๆ หน่อย คนขายแนะนำมายี่ห้อ Dapad เส้นละ 250 บาท … บอกตามตรงผมโคตรระแวงเลย ไม่กล้าชาร์จนานๆ ชาร์จได้ 30-40% แล้วพัก ค่อยมาชาร์จต่อ

วันต่อมา มีโอกาสได้ผ่านศุนย์บริการทรูที่ฟอร์จูน พระราม 9 เลยจัดมาเคลมซะเลย โดยคนที่จะมาเคลมสายชาร์จจะต้องเตรียมตัวเครื่อง iPhone ที่คู่กับสายชาร์จอันนี้มาด้วยนะครับ ไปถึงกดบัตรคิว คนเยอะโคตรๆ มีคิวก่อนหน้าผม 15 คนแหน่ะ (เสียกันเยอะจริงๆ)

ก็รอคิวไปประมาณ 20 นาที จึงได้พบพนักงานครับ

ได้เจอพนักงานปุ๊บก็เล่าอาการให้ฟัง พนักงานขอดูตัวเครื่อง เพื่อเช็คว่าซีเรียลเครื่องกับสายตรงกันและเป็นเครื่องขิงศูนย์ทรูจริงหรือไม่ ใช้เวลาไม่นานครับ จากนั้นก็มีลองเทสนิดหน่อยว่าเป็นแบบที่ผมเล่าจริงไหม จากนั้นก็ขอบัตรประชาชนผมไปครับ

พนักงานเดินกลับเข้าไปในห้อง หายไป 5 นาที เดินออกมาพร้อมกับสายชาร์จอันใหม่ !!! โอ้ววว เปลี่ยนให้ทันทีเลย ไม่ต้องรอ 1-2 สัปดาห์เหมือนที่ใน Pantip บอก !! (คือ เหนือความคาดหมายมากครับ)

จากนั้น ก็รอพนักงานคีย์ซีเรียลสายอันใหม่ เข้ากับซีเรียลไอโฟนของเรา (เพื่อมีปัญหาอีกจะได้มาเคลมได้) เป็นอันเรียบร้อยครับ ใช้เวลาตั้งแต่กดบัตรคิว ประมาณ 40 นาที (รอ 30 นาที คุยกับพนักงานอีก 10 นาที) ได้สายชาร์จมาใหม่กิ๊ง ยืดอายุไปได้อีกน้อยๆ ก็ครึ่งปี 5555 (คือสายอันเดิมมันก็เริ่มอ่อนแล้ว อีกไม่นานคงหัวขาด)

ขั้นตอนการเคลมสินค้า Apple ต้องเริ่มจากไหน และต้องทำอย่างไรบ้าง 

ขั้นตอนการเคลมสินค้า Apple หลังจากที่คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับ วิธีการเคลมสินค้า Apple ต่อจากนั้นก็ควรรู้เรื่องขั้นตอนต่างๆในการเคลมสินค้า Apple ในวันนี้ผมจึงจะขอแนะนำและให้ความรู้เบื้องต้น แก่ท่านผู้อ่านไว้นะครับ โดยขั้นตอนการเคลมสินค้าสำหรับผลิตภัณฑ์Apple มีดังนี้ครับ

1.สถานที่รับบริการเคลมสินค้าApple 

อย่างแรกเลยคุณต้องรู้จักสถานที่รับบริการ สำหรับสถานที่ในการเข้ารับบริการนั้น มีการแบ่งตามประเภทอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ครับ

• สำหรับ Mac, iPod, iPad ไม่ว่าจะซื้อกับ Online Store ตัวแทนจำหน่าย หรือเครือข่าย, iPhone ที่ซื้อกับ Online Store, Apple Watch, ผลิตภัณฑ์ Beats, เครื่องที่เข้าข่ายมีปัญหาตามโครงการเปลี่ยนทดแทนอุปกรณ์ หรือเครื่องนอกทุกชนิด ให้เรานำไปรับบริการที่ ตัวแทนบริการหลังการขายแต่งตั้งจาก Apple (Apple Authorized Services Provider / AASP) ซึ่งเราสามารถตรวจสอบที่ตั้งได้โดยตรงที่ https://locate.apple.com/th/th/ โดยเลือกส่วนบริการ และผลิตภัณฑ์ที่เราจะนำเข้ารับบริการ โดยแนะนำให้เข้ารับบริการก่อนเวลา 20.00 น. เนื่องจากระบบส่วนใหญ่จะปิดเวลา 21.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดทำการของตัวแทนหลายๆ แห่งพอดี เว้นแต่ว่ากรณีที่ตัวแทนมีการปิดเพื่อปรับปรุงระบบ ตัวแทนจะแจ้งให้ทราบหน้าร้านก่อนเสมอครับ 
• สำหรับ iPhone ที่ซื้อกับเครือข่าย หรือตัวแทนจำหน่าย (ไม่ว่าตอนเราจะใส่ซิมอะไรอยู่ให้เรานำเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการของเครือข่ายที่เป็นเจ้าของเครื่อง โดยแนะนำให้ไปรับบริการก่อนเวลา 17.00 น. เนื่องจากหลังจากนั้นจะเป็นการเช็คสต็อกสินค้า และไม่สามารถเบิกสินค้าได้ ในส่วนของศูนย์บริการที่มีการให้บริการหลังการขายนั้น จะมีดังนี้ครับ
           > เครื่องจาก AIS ให้รับบริการที่ AIS Shop หรือ Serenade Club ทุกสาขา
           > เครื่องจาก dtac ให้รับบริการที่ ศูนย์บริการลูกค้า dtac Hall หรือ dtac Service Hall ทุกสาขา
           > เครื่องจาก TrueMove H ให้รับบริการที่ ทรูช็อป ทุกสาขา 

2.รายละเอียดและระยะเวลาในการดำเนินการ 
สำหรับรายละเอียดการดำเนินการนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าเช่นกัน ดังต่อไปนี้ 

• Macbook  คือ การซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ในส่วนที่มีปัญหาทุกกรณี ยกเว้นอะแดปเตอร์จะเป็นการเปลี่ยนให้ใหม่ โดยถ้ามีอะไหล่ในสต็อกก็ดำเนินการให้ในทันที แต่ถ้าไม่ก็จะใช้เวลาในการรออะไหล่ประมาณ 3-5 วันทำการ ซึ่งในช่วงนั้นเราสามารถขอเครื่องกลับมาใช้งานก่อนได้ 
• iPod, iPad, iPhone ที่รับบริการที่ AASP, Apple Watch – จะเป็น การเปลี่ยนเครื่องให้ใหม่ทุกกรณี หรือถ้าเป็นอุปกรณ์เสริม ก็จะเปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นใหม่ให้เลย เช่นกัน โดยจะใช้เวลาในการรอสินค้าใหม่ประมาณ 3-5 วันทำการ เว้นแต่ว่าถ้ามีของในสต็อก ก็ดำเนินการให้ทันที 
• iPhone เครือข่ายนั้น จะเป็นการเปลี่ยนเครื่องให้ใหม่ทุกกรณี หรือถ้าเป็นอุปกรณ์เสริม ก็จะเปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นใหม่ให้เลยเช่นกัน โดยถ้าเราไปก่อนเวลา และศูนย์มีของ ก็จะเปลี่ยนเครื่องให้ในทันทีโดยไม่ต้องทำอะไร ถ้าไม่มีของก็ใช้เวลาในการรอสินค้าประมาณ 3-5 วัน เว้นแต่ว่าถ้าเป็นสาขาในต่างจังหวัด ก็จะเป็นการส่งเครื่องเข้าตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ เช่น AIS ส่งเข้า WDS, dtac ส่งเข้า แผนกนำเข้าอุปกรณ์ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี หรือ TrueMove H ส่งเข้า True Distribution เป็นต้น ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการ 2-3 อาทิตย์ถึงจะทราบผล 
• แต่ถ้าเป็นกรณีการ Replacement คือ จะใช้เวลาในการดำเนินการ 5-7 วันเป็นอย่างต่ำ เนื่องจากตัวเครื่องจะต้องส่งเข้า Apple เพื่อรับการวิเคราะห์อย่างละเอียดจากวิศวกรของ Apple อีกครั้ง และเมื่อการวิเคราะห์ผ่านก็จะส่งเครื่องกลับมาให้ใหม่ และแน่นอนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั้งโลก ก็ต้องใช้เวลาในการดำเนินการนานเป็นพิเศษ 

3.วิธีการเข้ารับบริการ
หลังจากที่เราทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการเข้ารับบริการ ซึ่งแต่ละที่มีรูปแบบการรับบริการที่ไม่เหมือนกันนัก แต่จะมีรายละเอียดที่คล้ายๆ กันดังต่อไปนี้ครับ

3.1 เตรียมความพร้อม โดยดูจากอาการที่จะเข้ารับบริการ ซึ่งสิ่งที่ต้องใช้มีดังนี้ครับ 

• กรณีเสียที่ตัวเครื่องอย่างเดียว – ให้นำเครื่องไปพร้อมบัตรประชาชน
• กรณีเสียที่อุปกรณ์ที่มากับกล่อง – ให้นำเครื่อง และอุปกรณ์ที่มีปัญหา ไปพร้อมกับบัตรประชาชน 
• กรณีเสียที่อุปกรณ์ที่ซื้อแยกต่างหาก – ให้เอากล่องตัวจริง และใบเสร็จรับเงินตัวจริงไปแสดงเป็นหลักฐานด้วย 

3.2 กรอกรายละเอียดล่วงหน้า เมื่อไปถึงศูนย์ฯ บางตัวแทนจะมีใบแจ้งซ่อมให้เรากรอกล่วงหน้า ให้เรากรอกรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

• สำหรับบุคคลทั่วไป ให้กรอก ชื่อ – นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมลที่ติดต่อได้ 
• สำหรับนิติบุคคล ให้กรอก ชื่อนิติบุคคล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 
• Password หรือ Passcode เข้าเครื่อง (ถ้ามี แต่แนะนำให้ปลอดออกก่อนถ้าทำได้) 
• อาการเสียโดยสังเขป 

จากนั้นให้หยิบบัตรคิวเพื่อรอเข้ารับบริการ แต่สำหรับบางศูนย์ ให้เราเข้าไปนั่งคอยได้เลย และจะมีพนักงานคอยเรียกอยู่ตลอด

3.3เมื่อเข้ารับบริการ 

• พนักงานจะตรวจสอบรายละเอียดคร่าวๆ จากใบแจ้งซ่อม และตรวจสอบอายุการรับประกันจาก Serial Number 
• พนักงานจะถามข้อมูลคร่าวๆ ให้เราตอบไปตามความจริง (จะแถเล็กๆ ก็ได้ แต่มิควรเกินเลยจากประเด็นไปมากนัก) 
• กรณีเป็นการ Replacement พนักงานจะตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง ก่อนดำเนินการ 

เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น พนักงานจะแจ้งรายละเอียดการดำเนินการ และค่าบริการแบบคร่าวๆ (ถ้ามี) โดยให้เราพิจารณาก่อน 

3.4 เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เราจะถูกร้องขอให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 

• ถ้าเป็น Macbook  ให้คุณหยิบฮาร์ดดิสก์ไปด้วย ให้แบ็คอัพเครื่องหนึ่งครั้ง แต่ถ้าไม่ได้เอาไปด้วย ให้ทำใจได้เลยว่าข้อมูลหายหมด เพราะในเอกสารจะมีช่องให้ลงชื่อรับทราบเรื่องข้อมูลอาจจะหายในระหว่างการซ่อมอยู่ด้วย และทางศูนย์จะไม่รับผิดชอบถ้าเกิดข้อมูลหายขึ้นมา 
• ถ้าเป็น iPhone/iPod/iPad  ให้คุณปิดฟังก์ชัน Find my และล็อกเอาท์ออกจาก iCloud เพราะเป็นการเปลี่ยนเครื่อง 
• ถ้าเป็น Apple Watch/Beats 86IdHไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นนะครับ แค่เดินมายื่นให้พนักงานแล้วยิ้มสวยๆ บอกว่าของเคลมสินค้าก็พอครับ 

3.5 พนักงานจะพิมพ์เอกสาร ให้คุณหนึ่งชุด ให้อ่านรายละเอียดให้ครบว่าพนักงานจะดำเนินการอย่างไร และมีรายละเอียดในขั้นตอนการรับเครื่องอย่างไร (เช่นต้องรับเครื่องภายในกี่วันหลังจากซ่อมเสร็จ) เมื่ออ่านครบแล้วให้เราลงชื่อรับทราบ และเก็บใบนี้เอาไว้ให้ปลอดภัยที่สุด ถ้าเกิดใบแจ้งซ่อมหาย ให้แจ้งความกับตำรวจที่โรงพัก เพื่อเอาบันทึกประจำวันมาใช้เป็นหลักฐานในการรับเครื่องแทน

3.6 เมื่อการดำเนินการเสร็จสิ้น คุณควรปฏิบัติดังข้อต่อไปนี้ 

• ให้ตรวจสอบสภาพเครื่องก่อน ว่ามีรอยอะไรเพิ่มเติมจากวันที่ส่งซ่อมหรือไม่
• กรณีเปลี่ยนเครื่องใหม่ ให้ทดสอบหน้าจอแสดงผล และฟังก์ชันการใช้งานเหมือนซื้อเครื่องใหม่ 
• ลงชื่อในช่องรับสินค้า พร้อมกับเก็บใบแจ้งผลการซ่อมเอาไว้ด้วย (ใช้เป็นหลักฐานในการขอเงินคืน ถ้ามีการรันโครงการเปลี่ยนทดแทนขึ้นมา) ซึ่งอันนี้สำคัญครับต้องเก็บไว้ให้เรียบร้อย ไม่ให้หายเลยนะครับ 

แต่ถ้าหากสมาร์ทโฟนของคุณมีปัญหา และ อยากจะซ่อม ผมขอแนะนำ ร้านซ่อมไอโฟนอุบลราชธานี แจ๊คเซอร์วิส (Thailand)  เรามีบริการรับซ่อมโอโฟน ipad imac Macbook อุปกรณ์เสริม ผลิตภัณฑ์ Apple สมาร์ทโฟนอื่นๆ ทุกชนิด และให้คำปรึกษา คำแนะนำ รวมถึงความรู้ต่างๆที่เกี่ยวกับการใช้งาน ร้านเรายังมีบริการหลังการซ่อม โดยที่คุณสามารถเช็คราคาสินค้าต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น ราคาซ่อม ราคาอะไหล่ (เรามีทั้งแท้และเทียม) เราสามารถซ่อมได้ทุกปัญหา และอาการเสียที่คุณเจอมา โดยที่คุณไม่ต้องกังวลเลย ไม่ว่าจะเป็นปัญหา สมาร์ทโฟนตกน้ำ, เปิดไม่ติด, ทัสกรีนเสีย, ไม่มีสัญญาณ, ภาพไม่ติด, ไมค์ไม่ดัง, กระดิ่งไม่ดัง, ลำโพงไม่ดัง, หน้าจอแตก, กระจกแตก, ซ่อมบอร์ดไอโฟน, ยกชิพIC, เปลี่ยนIC,  เปลี่ยนชิพไวไฟ, ชิพการ์ดจอ VGA Power IC, ซ่อม Macbook, จอขาว, จอค้าง, บูทค้างติดโลโก้ itune, เปลี่ยนคีย์บอร์ด Macbook, อัพเกรดเครื่อง, เพิ่มความจำ, เพิ่มRam, อับเกรด SSD, ลงโปรแกรม OSX, เครื่องติดรหัส Bios Icloud, รับลอกกระจกไอโฟน, เปลี่ยนกระจกแท้, เปลี่ยนจอไอแพด, และเปลี่ยนทัสกรีนทั้งหมดนี้เราซ่อมให้ท่านได้รับรองคุณภาพ มาตรฐานการซ่อม โดยช่างที่ชำนาญงาน มีประสบการณ์การซ่อมมามากกว่า 1,000 เครื่อง รับรองได้ว่าท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ 

เรามีบริการซ่อมอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น เปลี่ยนกล้อง ซ่อมจอ ซ่อมบอร์ด ซ่อมแผงวงจร เปลี่ยนแบต เป็นต้น อีกทั้งเรายังมีประสบการณ์ การซ่อมไอโฟนทุกอาการเสีย มาเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี รวมทั้งมีบริการที่ได้รับมาตรฐาน ที่ได้รับการยอมรับ ทั้งจากทางเรา และจากการยอมรับของลูกค้า ทำให้คุณมั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ร้านซ่อมไอโฟนอุบลราชธานี แจ๊คเซอร์วิส (Thailand) เรารับซ่อมไอโฟน ซ่อมไอแพด ซ่อม imac ซ่อม Macbook ซ่อมสมาร์ทโฟนทุกชนิด และผลิตภัณฑ์ Apple ทุกชนิด สนใจสอบถามติดต่อเราสิครับที่ 

สายชาร์จไอโฟนรับประกันกี่วัน

เคลมสายชาร์จไอโฟน ได้ที่ไหน

สายชาร์จไอแพดสามารถเคลมได้ไหม

เคลมไอโฟนใช้เวลากี่วัน