ในงานออกแบบสภาพแวดล้อมภายใน จะต้องมีความเกี่ยวเนื่องกับวัสดุการออกแบบ ราคาวัสดุก็จะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ความสวยงาม นักออกแบบจึงต้องมีความเข้าใจในเรื่องของวัสดุอยู่พอควร ถึงแม้ว่าจะมี Suplier ที่เป็นฝ่ายส่งข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุและราคามาให้ก็ตาม แต่การมีความรู้พื้นฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อจะได้มีหลักการในการเลือกใช้วัสดุได้อย่างมีความเข้าใจครับ
ผนังก่ออิฐในบ้านเรามีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ คือ ผนังก่ออิฐมอญ , อิฐบล็อก , อิฐมวลเบา ในการคำนวณวัสดุจะยึดการก่อฉาบผนังหนา10 ซม. โดยจะต้องคำนวณพื้นที่ของผนังซึ่ง = ความสูงผนัง x ความยาวผนัง
1.1 . การคำนวณวัสดุผนังก่ออิฐมอญ
1.2. การคำนวณวัสดุผนังก่ออิฐบล็อก
1.3 การคำนวณวัสดุผนังก่ออิฐมวลเบา
สำหรับความยาวเสาเอน-ทับหลังยาว 10 ม.
สำหรับงานฉาบผิวบางสกิมโค้ท
ปัจจุบันกระเบื้องยางไวนิลกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงเนื่องจากลวดลายวัสดุที่เหมือนพื้นผิวจริงไม่ว่าจะเป็นลายไม้ หินอ่อน เซรามิก พื้นพรม และยังหมดปัญหาเรื่องน้ำ การบวมน้ำ หลุดร่อน และอายุการใช้งานที่ยาวนานเนื่องจากปลวกไม่กิน 100% การคำนวณวัสดุสำหรับการปูพื้นกระเบื้องยาง เราต้องทราบขนาดห้องแล้วคำนวณพื้นที่ตามตัวอย่างต่อไปนี้
การคำนวณพื้นที่กระเบื้องยางทั้งหมด
= A x B + C x D = ตร.ม.
= 2 x 1.5 + 3 x 4 = 15 ตร.ม.
การคำนวณความยาวบัวเชิงผนัง
= (A + A + B -E) + (C + D + C + G -F)
= (2 + 2 + 1.5 - 1) + (3 + 4 + 3 + 2.5 - 2) = 15 ม.
หลักการคร่าว ๆ ที่ได้เขียนมาแนะนำก็เป็นเกร็ดความรู้พื้นฐานที่คุณสามารถลองนำไปประยุกต์ใช้ได้ครับ
เพราะในโลกของความเป็นจริงการออกแบบที่ดีต้องไม่ฟุ่มเฟือย ต้องมีการวางแผน สามารถคาดการณ์งบประมาณของโครงการได้
คุณภาพ บ้านจะดีหรือไม่ดี สามารถประหยัดพลังงานได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีการก่อสร้าง ความชำนาญงานของช่าง เมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติ คุณภาพของบ้าน ที่สร้างด้วยอิฐมวลเบา และอิฐมอญก่อ 2 ชั้น (มีช่องว่างตรงกลาง) แยกเป็นประเด็นได้ดังนี้ (ดูตาราง ประกอบ)
คุณสมบัติทางกายภาพ อิฐ มวลเบา หนา 10 เซนติเมตร เมื่อรวมน้ำหนักวัสดุรวมปูนฉาบจะหนัก 120กิโลกรัม ในขณะที่อิฐมอญก่อ 2 ชั้น (เว้นช่องว่างตรงกลาง) จะหนัก 180 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักของการก่ออิฐมอญจะมากกว่าทำให้ต้องเตรียมโครงสร้างเผื่อกันรับ น้ำหนักในส่วนนี้ด้วย ทำให้ต้นทุนโครงสร้างเพิ่มขึ้น
การกันความร้อนหาก เป็นกรณีปกติ “อิฐมวลเบา”จะมีค่าการนำความร้อนที่ต่ำกว่าอิฐมอญ ประมาณ 8-11 เท่า แต่การก่อผนังภายนอกอิฐจะต้องมีความหนา 10 เซนติเมตร และผนังภายในหนา 7 เซนติเมตร ขึ้นไป จึงจะสามารถกันความร้อนได้ดี แต่ในกรณีใช้อิฐมอญก่อ 2 ชั้น ตัวช่องว่างตรงกลาง จะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี และอิฐแถวด้านในไม่สัมผัสความร้อนโดยตรง จึงทำให้คุณสมบัติตรงนี้ของอิฐมอญจะมีความสามารถในการกันความร้อนได้ดีกว่า แต่การเว้นช่องว่างไม่ควรต่ำกว่า 5 เซนติเมตร
การกันเสียง ปกติ อิฐมวลเบาจะกันเสียงได้ดีกว่าอิฐมอญประมาณ 20% แต่ในกรณีใช้อิฐมอญ ก่อ 2 ชั้น ช่องว่างตรงกลางจะทำหน้าเป็นฉนวนกันเสียงได้ดีกว่าเกือบ 2 เท่า แต่อิฐมวลเบาจะลดการสะท้อนของเสียงได้ดีกว่า
การกันไฟ อิฐมอญก่อ 2 ชั้นมีฉนวนตรงกลาง (ช่องว่างตรงกลาง) จะกันไฟได้ดีกว่าอิฐมวลเบาเล็กน้อย
ความแข็งแรง การใช้งานทั่วไปไม่ต่างกัน แต่ผนังอิฐมอญจะเหมาะสำหรับการใช้วัสดุกรุผนังที่มีน้ำหนักมาก เช่น หินแกรนิต หรือหินอ่อน
การก่อสร้าง ความ เรียบร้อยของการก่ออิฐมอญจะขึ้นอยู่กับฝีมือในการก่อให้ได้แนวดิ่งของช่าง ก่อ หากก่อไม่ได้แนวดิ่งและการฉาบความหนาของปูนไม่สม่ำเสมอ อาจจะทำให้ปูนฉาบเกิดการแตกร้าวได้ ใช้เวลาก่อนานกว่าเนื่องจากมีขนาดเล็ก รวมถึงขั้นตอนการเตรียมและจัดเก็บวัสดุซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียวัสดุจาก การก่อสร้างไปมากพอสมควร ในขณะที่อิฐมวลเบาการสูญเสียวัสดุจะน้อยกว่า เพราะขั้นตอนการทำงานง่ายกว่า และวัสดุมีขนาดใหญ่แต่ละก้อนได้มาตรฐานเดียวกัน มีน้ำหนักเบาทำให้ก่อสร้างได้รวดเร็วและเรียบร้อยกว่า
ราคาวัสดุและค่าแรง เมื่อ เทียบราคาวัสดุบวกค่าแรงต่อตารางเมตร อิฐมวลเบาหนา 10 เซนติเมตร ราคาเฉลี่ยประมาณ 360-400 บาท/ตารางเมตร ส่วนอิฐมอญก่อ 2 ชั้น (เว้นช่องว่างตรงกลาง) ราคาจะอยู่ที่ ประมาณ 400-420 บาท/ตารางเมตร
นอกจากนี้การก่ออิฐมอญ 2 ชั้น หากก่อกินพื้นที่ด้านในมาก จะทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านลดลง แต่ปกติโดยทั่วไปช่างจะก่อเต็มหน้าเสา
เปรียบเทียบลักษณะคุณสมบัติอิฐมอญกับคอนกรีตมวลเบา Q-CON
ข้อเปรียบเทียบคุณสมบัติวัสดุอิฐมอญคอนกรีตมวลเบา Q-CONราคา--โครงสร้างบล็อคตันกลวงก่อผนังเป็นผนังรับแรงไม่ได้ได้การดูดซึมน้ำสูงปานกลางความหนาของปูนก่อระหว่างก้อน1.5 เซนติเมตร2.3 มิลลิเมตรความหนาของปูนที่ฉาบ20-25 มิลลิเมตร10 มิลลิเมตรน้ำหนักวัสดุ (กก./ตร.ม.)13045น้ำหนักผนังรวมฉาบปูน 2 ด้าน (กก./ตร.ม.)18090จำนวนใช้งานต่อ 1 ตร.ม. (ก้อน/ตร.ม.)130 – 1458.33ค่ากำลังอัด ( Compressive Strength ) (กก./ตร.ซม.)15 – 4030 – 80ค่าการนำความร้อน ( Thermal Conductivity ) ( วัตต์/ม.เคลวิน )1.150.13ค่าการถ่ายเทความร้อนรวม OTTV ( วัตต์/ตร.ม. )58 – 7032 – 42อัตราการกันเสียง ( STC Rating ) ( เดซิเบล )3843อัตราการทนไฟ ( Fire Rating ) (ความหนา 10 เซนติเมตร)24ความเร็วในการก่อ ( ตร.ม./วัน )6-1215-25เปอร์เซ็นต์สูญเสีย / แตกร้าว10 – 30 %0 – 3 %การติดตั้งวงกบประตู-หน้าต่างหล่อเสาเอ็นทับหลังและต้องมีค้ำยันไม่ต้องเททับหลังและไม่ต้องมีค้ำยัน