การเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นพ่อแม่ไร้กังวัล ด้านมุมมอง ระหว่างครอบครัว โรงเรียน ครู ต้องมีความเข้าใจมีการปรับความเข้าใจ โดยการพูดคุย ใจกว้าง จริงใจต่อกัน การร่วมมือทำกิจกรรมต่างๆในโรงเรียนจะช้วยสร้างความสัมพันธืกันได้เป็นอย่างดี ส่วนบทบาทครอบครัวกับลูกๆนักเรียน พ่อแม่ต้องเข้าใจวัย แต่ละช่วงวัย เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับร่วมแก้ไขปัญหา และให้โอกาสบุตรหลายตนเอง ส่วนบทบาทครูและครอบครัว ต้องมีการตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาผู้เรียนไปในทางทิศใด มีเทคนิควิธีที่จะให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพ และพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง โดยดูได้จาก ผลงาน ชิ้นงาน และการสร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียน ด้านการสื่อสาร ทั้งโรงเรียน ครู และผู้ปกครอง ต้อง มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความไว้ใจ ความเชื่อใจ สื่อสารด้านบวก ให้กำลังใจ เสริมแรง ให้โอกาส มีกลุ่มเฟสบุค ไลน์ ในการพูดคุย อันจะทำให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้ที่ดีได้ ด้านกิจกรรม ควรมีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน เกิดความร่วมมือ ทั้งโรงเเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครอง มีห้องสื่อสารติดต่อกันสม่ำเสมอ เกิดความคุ้นเคย สนิทสนม เข้าใจอันดีต่อกัน จะทำให้เกิดพฤติกรรมในทางบวกได้ดี นอกจากนี้ กิจกรรม เยี่ยมบ้านนักเรียน กิจกรรมประชุมผู้ปกครองชั้นเรียน กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ก็ทำให้เกิดผลดีกับทุกฝ่ายได้ ผลที่ได้รับ เกิดความเข้าใจ เกิดความร่วมมือ เกิดความสนับสนุนที่ดี ระหว่างโรงเรียน ครู ผู้ปกครอง ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมเชิงบวก และเป้นผู้เรียนที่มีคุณภาพ เป็นคนดีขงสังคม ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและโรงเรียน จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียน2 years ago 17724 เรียบเรียง: นางสาวกนกวรรณ สุภาราญ จากการศึกษาประเด็นการมีส่วนร่วม และความร่วมมือระหว่างชุมชนและโรงเรียน พบว่าการมีส่วนร่วมของครอบครัวหรือสมาชิกในชุมชนล้วนมีความสำคัญ และมีอิทธิพลโดยตรงต่อการพัฒนาเด็ก เยาวชน และนักเรียนอย่างครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเรียนรู้ การปฏิบัติตน และการประสบความสำเร็จในชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาเพิ่มเติมยังพบว่าปัจจัยบทบาทของชุมชนหรือสภาพแวดล้อมโดยรอบที่อยู่อาศัยของนักเรียนมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งควรบูรณาการการทำงานควบคู่ไปพร้อมๆ กับบทบาทของโรงเรียนต่อการพัฒนานักเรียนอย่างยั่งยืน “เริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ”
“ความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกัน ประสานทรัพยากรในชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต” ดังนั้น ด้วยผลลัพธ์ความสำเร็จอันเกิดจากความร่วมมือของชุมชน ครอบครัวและนักเรียนที่กล่าวมาในข้างต้น จะกลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนความร่วมมือให้เกิดผลในระยะยาวอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตระหนักในความสำคัญและเป้าหมายของความร่วมมือภายใต้บริบททางสังคมและเศรษฐกิจของตน ทั้งมีความเข้าใจในความต้องการของครอบครัว ชุมชนและโรงเรียนนำข้อมูลที่ได้มาประกอบเข้าด้วยกันผ่านการสื่อสาร การพูดคุยทำความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยสิ่งสำคัญคือจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ผู้มีส่วนร่วมนั้นมีร่วมกันให้ได้ อีกทั้งเป้าหมายร่วมดังกล่าวจะต้องสอดคล้องกับบริบทและจุดแข็งซึ่งแต่ละชุมชนมีอยู่เป็นทุนเดิมพื้นฐาน เมื่อมีเป้าหมาย มีมุมมองที่เห็นพ้องกัน มีแรงผลักดัน และเกิดความใฝ่ฝันที่จะพัฒนาแล้วนั้น การสร้างความร่วมมือให้สำเร็จนั้นจะทำได้ง่ายขึ้น ลักษณะความร่วมมือจะเป็นไปอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เนื่องจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นเกิดความตระหนักและดำเนินการขับเคลื่อนความร่วมมือจากความต้องการของพวกเขาเอง ไม่ใช่การทำตามคำสั่งหรือการบังคับอย่างผิวเผิน ไม่เกิดการเรียนรู้พัฒนาหรือปรับปรุงหาแนวทางแก้ไขข้อผิดพลาดเดิม ๆ เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดียิ่งขึ้น |