๑. พูดจาไพเราะ ๒. ไม่แย่งกันพูด ๓. พูดด้วยคำสุภาพไม่หยาบคาย ๔. พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ๕. ไม่พูดแทรกจังหวะผู้อื่น ๖. พูดด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ๗. ใช้ความดังของเสียงให้พอเหมาะ ไม่เสียงเบาหรือดังเกินไป ๘. ไม่พูดนินทาว่าร้ายผู้อื่น ๙. เปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถามหรือแสดงความคิดเห็น มารยาทในการพูดมีดังนี้๑.พูดจาไพเราะ ๒.ไม่แย่งกันพูด ๓.พูดด้วยคำสุภาพไม่ยาบคาย ๔.พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวน ๕.ไม่พูดแทรกจังหวะผู้อื่น ๖.พูดด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ๗.ใช้ความดังของเสียงให้พอเหมาะ ไม่เสียงเบาหรือดังเกินไป ๘.ไม่พูดนินทาว่าร้ายผู้อื่น ๙.เปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถามหรือแสดงความคิดเห็น มารยาทในการพูด มารยาทในการพูด หมายถึง ผู้พูดที่มีกิริยาวาจาเรียบร้อย ท่าทางสง่างาม อ่อนโยนสุภาพ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไมใช้ท่าทางประกอบคำพูดให้มากจนเกินไป ย่อมช่วยเสริมสร้างให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อถือเลื่อมใสผู้พูดได้เป็นอันมาก การฝึกฝนให้มีมารยาทในการพูดที่พึงปฏิบัติมีดังต่อไปนี้ ๑ ) ต้องรู้จักกล่าวคำทักทาย ๒ ) ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี ผู้พูดที่ดีต้องเป็นคู่สนทนาที่ดี ให้เกียรติและรับฟังผู้อื่นด้วย กรณีพูดในที่ประชุมเมื่อมีเสียงปรบมือหรือเสียงหัวเราะขณะพูดควรหยุดพูดชั่วคราว รอให้เสียงนั้นเบาลงหรือหยุดจึงค่อยพูดต่อไป ถ้าเป็นระหว่างการสนทนาควรหยุดพูดตามความเหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้สนทนาบ้าง เมื่อพูดจบแล้วหยุดเว้นระยะเล็กน้อย ก้มศีรษะให้แก่ผู้ฟังแล้วกลับไปยังที่นั่ง ๓ ) ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์และน้ำเสียง เมื่อมีผู้ฟังบางคนโห่ร้องหรือล้อเลียนระหว่างพูด อาจทำให้อารมณ์เสียได้ ผู้พูดต้องใจเย็นและควบคุมน้ำเสียงตลอดจนกิริยาวาจาของตนไว้ให้สุภาพเรียบร้อยอยู่เสมอ ทั้งต้องไม่พูดดัดเสียงให้ผิดปกติไปจากน้ำเสียงที่เคยพูดตามปกติในชีวิตประจำวัน ๔ ) ต้องไม่พูดจาดูถูกหรือข่มขู่ผู้ฟัง เมื่อพูดต่อหน้าที่ประชุมไม่ควรพูดอวดตนหรืออวดภูมิ รวมทั้งไม่ควรใช้กิริยาวาจาเชิงดูถูก ก้าวร้าว หรือข่มขู่ผู้ฟังแต่อย่างใด ๕ ) ต้องรู้จักใช้คำสุภาพ เมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกับผู้อื่นระหว่างการสนทนา ไม่ควรพูดจาหยาบคาย รุนแรง แต่ควรรู้จักกล่าวคำขอบคุณ ขอโทษ หรือเสียใจในโอกาสอันเหมาะสม มารยาทในการพูด การพูดมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์เป็นอันมากไม่ว่าจะอยู่ที่ใดประกอบกับกิจการงานใดหรือคบหา สมาคมกับผู้ใด ผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจการงาน การคบหาสมาคมกับผู้อื่นตลอดจนการทำประโยชน์แก่สังคม ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพในการพูดทั้งสิ้น การพูดมีความสำคัญต่อตนเอง เพราะถ้าผู้พูดมีศิลปะในการพูดก็จะเป็นคุณแก่ตนเอง ส่วนในด้านสังคมนั้น เนื่องจากเราต้องคบหาสมาคมและพึ่งพาอาศัยกัน การที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั้นจำเป็นต้องเป็นคนที่ “พูดดี” คือพูดไพเราะน่าฟังและพูดถูกต้องด้วย มารยาทในการพูด การพูดของคนเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ รู้จักกาลเวลา และที่สำคัญต้องคำนึงถึงมารยาทที่ดีในการพูดด้วย 1. มารยาทในการพูดระหว่างบุคคล 2. มารยาทในการพูดในที่สาธารณะ มารยาทในการพูดระหว่างบุคคล มีดังนี้ 1. เรื่องที่พูดควรเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีความสนใจและพอใจร่วมกัน มารยาทในการพูดในที่สาธารณะ การพูดในที่สาธารณะต้องรักษามารยาทให้มากกว่าการพูดระหว่างบุคคล เพราะการพูดในที่สาธารณะนั้นย่อมมีผู้ฟังซึ่งมาจากที่ต่าง ๆ กัน มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ และพื้นฐานความรู้ ความสนใจและรสนิยมต่างกันไปมารยาทในการพูดระหว่างบุคคลอาจนำมาใช้ได้และควรปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้ 1. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยเหมาะแก่โอกาสและสถานที่ “มารยาทเป็นเรื่องสำคัญ”ข้อควรคำนึงในการสื่อสารด้วยการพูด การพูดที่ดีไม่ว่าจะเป็นการพูดในโอกาสใด หรือประเภทใด ผู้พูดต้องคำนึงถึงมารยาทในการพูด ซึ่งจะมีส่วนส่งเสริมให้ผู้พูดได้รับการชื่นชมจากผู้ฟัง ซึ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในการพูด มารยาทที่สำคัญของการพูดสรุป ได้ดังนี้
หลักการของการพูด มีผู้ให้หลักเกณฑ์ไว้หลายแบบด้วยกัน แต่ก็มีแนวคล้าย ๆ กันแต่จะขอยกแนวทางอย่างย่อ ๆ มาให้พิจารณาเป็นหลักยึด ดังต่อไปนี้ หลักสิบประการของสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
ของฝาก จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก “สุภาษิตสอนหญิง” เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก “พระอภัยมณี” การสนทนา
คือ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในสิ่งที่สนใจร่วมกันความ คิดเห็นนั้นอาจจะเห็นพ้องต้องกัน คล้อยตามกันหรืออาจขัดแย้งกันก็ได้ การ สนทนาอาจจะมีบุคคลเพียงสองคนหรืออาจจะมีจำนวนเป็นกลุ่ม ซึ่งหากมีจำนวน มากขึ้นตามไปด้วย เพราะแต่ละคนย่อมแสดงความรู้สึกนึกคิดของตนออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของ กลุ่มเพื่อนฝูง มนุษยสัมพันธ์ หมายถึง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การที่จะมี สัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้อื่นได้นั้น ต้องเกิดจากความพึงพอใจ ความรักใคร่ ความศรัทธา และความจริงใจ ซึ่งการสร้างสัมพันธภาพที่ดี ควรตั้อยู่บน องค์ประกอบดังต่อไปนี้ 1. ต้องรู้จักเข้าใจตนเอง ข้อควรปฏิบัติในการสนทนา 1. อย่าทำตัวเป็นผู้รู้ไปทุกเรื่อง หรือถ่อมตนจนเหมือนคนโง่ ปี ๒๕๔๙ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้จัดทำองค์ความรู้ เรื่อง มารยาทไทยประกอบด้วย การกำหนด ความหมาย ขอบข่าย ลำดับความสำคัญ และการปรับปรุงรายละเอียดการปฏิบัติท่ามารยาทไทย เรื่องการแสดงความเคารพ ซึ่งจัดทำโดย คณะกรรมการดำเนินงานด้านมารยาทไทยโดยมี นายพะนอม แก้วกำเนิด เป็นประธานในการดำเนินงาน และได้ประชุมปฏิบัติการเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๔๙ ณ ห้องประชุมกองอำนวยการร่วม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการจัดทำองค์ความรู้ดังกล่าว ก็เพื่อธำรงรักษาวัฒนธรรมด้านมารยาทไทยอันเป็นรูปแบบปฏิบัติของคนไทยให้คงอยู่คู่ชาติไทย ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงเนื้อหาและการปฏิบัติให้มีความเหมาะสมกับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น มารยาท คือ พฤติกรรมที่แสดงออก เป็นระเบียบแบบแผน การประพฤติที่ดีงาม แสดงถึงความสุภาพเรียบร้อย |