ความเครียดคืออะไรสภาวะความเครียด คือ สภาวะทางอารมณ์และความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นด้วยความกดดัน ความกลัว ความวิตกกังวล จนกระทั้งส่งผลต่อสภาพร่างกาย จิตใจ อารมณ์และความรู้สึก ทำให้เกิดการแสดงออกด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น หงุดหงิดง่าย โมโหร้ายตลอดเวลา เป็นต้น เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มใช้สมองในการคิดวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดเป็นความเครียดเท่ากับคุณกำลังเริ่มทำลายการทำงานของระบบประสาทและสมองของคุณอย่างที่คาดไม่ถึง เพราะนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายผิดปกติ เริ่มจากการผลิตหรือการหลั่งฮอร์โมนที่ผิดเพี้ยน ความเหนื่อยล้าของร่างกาย เริ่มเกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณท้ายทอย การทำงานของลำไส้แปรปรวน ปวดศีรษะเป็นเวลานาน และยิ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการเครียดนอนไม่หลับ เครียดลงกระเพาะได้ Show
ด้วยความน่ากลัวของสภาวะความเครียดที่มีพอ ๆ กับความน่ากลัวของสภาพแวดล้อม ณ ขณะนี้ สิ่งที่จะเข้ามาช่วยบรรเทาความตึงเครียดจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ นั่นก็คือหาจัดสรรกิจกรรมคลายเครียดให้กับตนเองเพื่อสามารถรับมือกับความเครียดและสามารถขจัดความเครียด ก่อให้เกิดวิถีแห่งความสุขและคุณภาพชีิวิตที่ดีขึ้น เมื่อไม่มีความเครียด และนี่คือ 7 วิธีคลายเครียด เพิ่มพลังแห่งความสุขให้พร้อมสู้ชีวิต มีดังนี้สิ่งที่ควรทำ1. ตื่นและเข้านอนเวลาเดิมทุกวันสาเหตุหลักที่มักจะทำให้อารมณ์ของเราแปรปรวนจนกระทั้งเกิดความเครียดที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ สาเหตุนั่นคือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอหรือร่างกายไม่ได้รับการนอนหลับที่เต็มอิ่ม ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจของเราเหนื่อยล้า เกิดการหลั่งฮอร์โมนที่มากเกินความจำเป็นที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียดนอนไม่หลับ ดังนั้น หากต้องการขจัดความเครียดออกไปจากร่างกายและจิตใจของเรา จะต้องอาศัยวิธีการตื่นและเข้านอนในเวลาเดิมทุกวัน จนกระทั้งทำให้ร่างกายสามารถปรับนาฬิกาชีวิตได้อย่างสมดุล เมื่อตื่นนอนในตอนกลางวันจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าสดใสร่าเริง ซึ่งการตื่นนอนตอนเช้าและเข้านอนในเวลาเดิมทุกวัน จะต้องปรับวิธีการนอนให้เป็นไปตามสภาวะธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ใช่การตื่นทำงานในตอนกลางคืนและชดเชยการนอนหลับในตอนกลางวัน เพราะกลไกการทำงานของร่างกายเรานั้น ถูกกำหนดเวลาในการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายไว้แล้ว เวลาที่เหมาะสมในการเข้านอนมากที่สุดคือ ช่วง 4 ทุ่ม และเวลาตื่นนอนที่เหมาะสมที่สุดคือ ช่วง ตี 5 - 6 โมงเช้า นั่นก็เพราะว่าการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ภายในร่างกายของเรานั้น มีระยะเวลาของการทำงานเป็นตัวกำหนด ทิสโก้ออโต้แคช ขอยกตัวอย่างการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายที่บ่งบอกว่า ทำไมเราจึงต้องนอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน นั่นก็คือ ตัวอย่างฮอร์โมนช่วยลดความเครียด
2. ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลเมื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของเราอยู่ในสภาวะที่สมดุล ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถถอยห่างจากความเครียดได้ กิจวัตรประจำวันในทุก ๆ วันที่กระทำจนเป็นสุขนิสัยติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อีกหนึ่งความสำคัญที่เป็นเหตุผลของสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี สิ่งที่เรามักกระทำเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อช่วยขจัดความเครียดได้นั้น คือการดูแลสุขอนามัยของเราให้ดี ซึ่งการจะดูแลสุขอนามัยให้ถูกหลัก สามารถปฏิบัติได้ตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ ดังนี้ 1 ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด 2 รักษาฟันให้แข็งแรงและแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต้อง 3 ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังการขับถ่าย 4 กินอาหารสุกสะอาด ปราศจากสารอันตรายและหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สีฉูดฉาด 5 งดบุหรี่ สุรา สารเสพติด การพนัน และการสำส่อนทางเพศ 6 สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น 7 ป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท 8 ออกกำลังกายสม่ำเสมอและตรวจสุขภาพประจำปี 9 ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ 10 มีสำนึกต่อส่วนรวม ร่วมสร้างสรรค์สังคม อ้างอิงข้อมูลจาก กองสุขศึกษา เมื่อเราสามารถปลูกฝังพฤติกรรมการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลได้ครบ 10 ประการดังกล่าว นั่นคือ สิ่งที่สามารถช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต เพิ่มพลังแห่งความสุข ขจัดความทุกข์ ลดความเครียดได้แน่นอนค่ะ 3. กินอาหารที่มีประโยชน์ให้ตรงเวลา
ยิ่งเครียด ยิ่งมองหาอาหารเข้าปาก นี่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย เมื่อเกิดความเครียดสะสมเป็นระยะเวลานาน ยิ่งเครียดก็ยิ่งทานเยอะขึ้นไปเรื่อย ๆ หลาย ๆ คนคงมองว่าการรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเพื่อช่วยลดความตึงเครียดนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่จะเลือกรับประทานอาหารอย่างไรต่างหากที่จะช่วยลดความเครียดได้จริง แถมเป็นการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วย ทิสโก้ออโต้แคช เราขอแนะนำกิจกรรมคลายเครียดสนุก ๆ ในการเลือกสรรอาหารที่จะรับประทานเพื่อลดความเครียด เพิ่มความสุขให้แก่ตัวเรา
และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารต้องห้ามที่สร้างความเครียดเพิ่มให้แก่ตัวเรา นั่นก็คือ 3 สารอาหารที่ช่วยลดความเครียด
3 สารอาหารต้องห้ามที่เพิ่มความเครียด
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ขยับร่างกายเพียงเล็กน้อยเท่ากับช่วยผ่อนคลายความเครียด อีกหนึ่งกิจกรรมคลายเครียดเพื่อเสริมสร้างความสุข แค่เคลื่อนไหวร่างกายด้วยท่าทางง่าย ๆ อย่างการยืดเส้นยืดสาย เดินไปเข้าห้องน้ำ
การแกว่งแขนไปมา เพียงแค่ 3 - 5 นาทีก็ช่วยลดความเครียดได้ไปอีกนาน หรือการออกกำลังกายอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโยคะ การวิ่ง การว่ายน้ำ และสาระพัดวิธีมากมายในการออกกำลังกายที่จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมาที่เรียกว่า โดพามีน เป็นสารเคมีในสมองที่ช่วยทำให้คุณเกิดความรู้สึกมีความสุข กระปรี้กระเปร่า รวมทั้งอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นจากการออกกำลังกายจะช่วยทำให้สามารถลดความเครียดได้ พร้อมทั้งผลิตฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดต้นตอปัญหาที่เกิดจากความเครียด
ซึ่งการออกกำลังกายนั้นไม่จำเป็นต้องออกกำลังในทุก ๆ วัน แต่ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูอาการเหนื่อยล้าจากความเครียด แต่ต้องระวังในการออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายแต่พอดี ไม่ควรหักโหมจนเกินไปเพราะจากผลดีจะกลายเป็นผลร้ายได้ 5. จัดสรรเวลาสำหรับการทำงานและการพักผ่อนรู้หรือไม่ การทำงานในแต่ละวัน หากไม่ได้จัดสรรเวลา ระวังความเครียดเข้ามาคืบคลานแทนที่ความสดใสร่าเริงในการทำงานของเรา แน่นอนว่า ในหนึ่งวัน เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เป็นเวลาในการทำงานไม่เพียงพอต่อภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการทำงาน หากไม่ได้จัดสรรเวลาที่ชัดเจน อีกทั้งคนเราะสามารถนั่งหรือยืนทำงานเป็นเวลานาน ๆ ได้จริงหรือ เมื่อคำถามนี้ ได้ถูกพิสูจน์ว่าการจดจ่อทำงานในหลาย ๆ ชั่วโมงติดต่อกันนาน ๆ นั้นไม่ได้ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพเท่ากับการทำงานที่มีการจัดสรรเวลาแห่งการพักผ่อน เพราะการพักผ่อนเพียงแค่ 5-10 นาที ในการพักผ่อนร่างกายและสมองของคุณ จะช่วยทำให้คุณเกิดไอเดียในการทำงานเพิ่มมากขึ้นหรือสามารถแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ในการทำงานได้ดี เนื่องจากธรรมชาติของคนเรา ไม่ว่าจะทำงานหักโหมหรือขยันเพียงใด สุดท้ายร่างกายและสมองต้องได้รับการพักผ่อนเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นความเครียดได้เข้ามาแทรกแซงขณะที่กำลังทำงานอยู่แน่นอน เพราะฉะนั้น จึงทำให้เกิดโมเดลต่าง ๆ ที่จะเข้ามาช่วยจัดสรรเวลาในการทำงานและการพักผ่อนเพื่อทำให้สมองปลอดโปร่ง โล่งสบาย ปลอดภัยจากความเครียด ซึ่งวิธีการจัดสรรเวลาในการทำงานควบคู่ไปกับการพักผ่อนนั้น สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
6. หาเวลาทำสิ่งที่ชื่นชอบเมื่อเกิดสภาวะความเครียดเข้ามาแทรกซ้อนในการดำรงชีวิตหรือเวลาในการทำงาน คงเป็นเรื่องน่าหงุดหงิิดไม่ใช่น้อยสำหรับใคร หลาย ๆ คน นอกจากจะทำให้ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตแล้ว เวลาทำงานก็ส่งผลให้สมองตื้อคิดอะไรไม่ออกอีกด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาว่างจากการทำงานหรือเวลาผ่อนคลายในช่วงวันหยุด อย่าพลาดที่จะมองหากิจกรรมคลายเครียด ทำอะไรสนุก ๆ ในสิ่งที่คุณชอบ เพื่อกระตุ้นต่อมความสุข สดใสร่าเริงของตัวคุณขจัดความเครียดได้อย่างสบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ถ่ายภาพ ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ เดินทางไปยังสถานที่ที่ชอบ งานประดิษฐ์ เย็บปักถักร้อยสิ่งของต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อคุณได้ทำกิจกรรมในสิ่งที่ชอบแล้ว ร่างกายก็จะหลั่งสารเอ็นโดฟิลออกมาจำนวนมาก รับรองว่าคราวนี้ คุณจะไม่รู้เลยว่าความเครียดคืออะไร เพราะชีวิตของคุณได้รับการผ่อนคลายไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งการลงมือทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบ นอกจากจะได้ความสุขและรอยยิ้มแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มอบกำไรชีวิตให้กับเรา เช่น การปลูกต้นไม้ สามารถนำต้นไม้ที่ปลูกไปสร้างเป็นธุรกิจขายต้นไม้ การนำชิ้นงานประดิษฐ์ไปขาย การรับจ้างถ่ายภาพ เป็นต้น เรียกได้ว่าเวลาเพียงเล็กน้อยที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบจะมอบคุณค่าและผลพลอยได้ต่อชีวิตของเราได้มากถึงเพียงนี้ 7. พักจากการจ้องหน้าจอบ้างจ้องหน้าจอนาน ๆ ระวังน็อตในร่างกายหลุด ต้องมานั่งไขกันใหม่เพื่อทำให้ร่ายกายไม่ห่อเหี่ยว หลังจากที่จ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ การจ้องหน้าจอโทรศัพท์ หรือแม้กระทั้งการจ้องหน้าจอโทรทัศน์ก็ตาม หากขึ้นชื่อว่าเป็นการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ แล้วนั้น ผลกระทบหลักที่ต้องสร้างความเสียหายมากที่สุดจากการจ้องหน้าจอนาน ๆ นั่นก็คือสายตาหรือดวงตาของเรานั่นเอง แต่ผลเสียจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ ไม่เพียงแค่ดวงตาเท่านั้นที่ได้รับความเสี่ยง อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายของเราก็เสี่ยงไปด้วยเช่นกัน เช่น การที่ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือการปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง เป็นต้น ล้วนได้รับผลเสียมาจากการจ้องหน้าจอทั้งสิ้น เมื่อไหร่ที่ร่างกายของเราได้รับอาการบาดเจ็บ แน่นอนว่า ขณะนั้นเท่ากับเรากำลังร้องเรียกให้ความเครียดเข้าใกล้เรามากขึ้นทุกทีและเมื่อไหร่ที่ความเครียดเข้ามากัดกินเรา เมื่อนั้นจะทำให้ระบบร่างกายของเราทำงานแปรปรวนและผิดปกติไปจากเดิม เพราะฉะนั้นเรามาป้องกันความเครียด โดยการหยุดจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ ด้วยกันนะคะ พร้อมทั้งเลือกวิธีการบริหารดวงตาเพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการจ้องหน้าจอ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีการข้างต้น จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดวงตานั้นแข็งแรงขึ้นและถือเป็นการพักผ่อนสายตาจากการจ้องหน้าจอเพื่อการผ่อนคลาย นอกเหนือจากการบริหารสายตาหรือดวงตาแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถช่วยให้พักสายตาจากการจ้องหน้าจอนาน ๆ ได้ นั่นก็คือ การหากิจกรรมอื่น ๆ ทำ เช่น การลุกไปสูดอากาศเพื่อละจากการจ้อหน้าจอ เป็นต้น สิ่งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันไม่ให้เราต้องพบเจอกับความเครียดนั่นเอง สิ่งที่ไม่ควรทำ1. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถึงแม้ว่าจะมีการพูดถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น
ช่วยขจัดความเครียดและทำให้เกิดความสุขขณะดื่มได้ แต่การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากจนเกินไป ส่งผลต่อระดับความตึงเครียดให้มากขึ้นได้เช่นกัน การดื่มแอลกอฮอล์ จึงเปรียบเสมือนดาบสองคมที่มีทั้งคุณประโยชน์และโทษอยู่ในสิ่งเดียวกัน หากเกิดคำถาม ทำไมการลดความเครียด คือการลด ละ เลิกการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสุดท้ายแล้วฤทธิ์ของแอลกอฮอล์คือพิษร้ายที่น่ากลัว หากเราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนกระทั้งเกิดความมึนเมา นั่นหมายความว่าตัวเราจะไม่สามารถควบคุมสติ
อารมณ์หรือความรู้สึกของเราได้เหมือนเวลาที่เกิดข่าวการทำร้ายร่างกายกันขึ้นเพราะต่างฝ่ายต่างมึนเมา นั่นจึงเป็นเหตุผลชี้ชัดว่าการดื่มเครื่องดื่มแอกกอฮอล์นั้น สร้างความเสียหายและก่อให้เกิดความเครียดได้อย่างไร เพราะฉะนั้นการหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือทางออกในการลดความเครียด เราควรมองหากิจกรรมลดความเครียดและเสริมสร้างความสุขในชีวิตของเราที่จะไม่นำพาโทษมาแก่ตัวเราในภายหลังอย่างเครื่องดื่มแอกกอฮอล์นะคะ 2. การเสพติดสารเสพติดชนิดต่าง ๆสารเสพติดที่ให้ความสุขเราเพียงชั่วขณะ การหลอกล่อให้เราร่าเริงก่อนที่จะทำลายชีวิตทั้งหมดของเราที่มีลงไปในพริบตา เมื่อพูดถึงการเสพติดสารเสพติด จะทำให้นึกถึง ยาเสพติดเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วสารเสพติดนั้นมาในรูปแบบของสสารใด ๆ ก็ตามที่ทำให้เราติดหนึบไม่สามารถเลิกเสพได้ ไม่ว่าจะเป็นสารละเหย ผงเสพติด และสสารประเภทอื่น ๆ ที่เสพเพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงหรือที่เรียกว่า ภาพหลอน ผลลัพธ์ข้างเคียงที่ร้ายแรงมากที่สุดเมื่อตกอยู่ในสภาวะติดสารเสพติด ความรุนแรงที่มักเกิดขึึ้นจากการเสพสิ่งเสพติดเข้าไปลุกลามทำลายระบบประสาทและสมอง เครียดนอนไม่หลับ เกิดการก่อตัวของภาพหลอนในหัวที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบให้เกิดความกลัว วิตกกังวล กดดันชีวิต ความรู้สึกและอารมณ์ที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นต้นตอของสภาวะความเครียดทั้งสิ้น และเมื่อไม่สามารถหลุดพ้นจากสารเสพติดได้ หมกมุ่นอยู่กับสิ่งเสพติดจนทำให้กลายเป็นบุคคลที่ปีกตัวออกห่างจากทุกสิ่งอย่างรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือเกิดการปฏิเสธเข้าร่วมกับคนในสังคม ทำให้ตนเองเกิดความโดดเดี่ยว จะเห็นได้ว่า เมื่อไหร่ที่ชีวิตของเราเริ่มเข้าไปคลุกคลีกับสารเสพติด สิ่งเสพติดต่าง ๆ จะค่อย ๆ พรากทุก ๆ อย่างไปจากตัวเรา จนทำให้เราเกิดความเครียดที่ไม่สิ้นสุดและอาจนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้ เพียงแค่เราขยับถอยห่างหรือตัดขาดจากสิ่งเสพติด เราจะสามารถยับยั้งความเครียดไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเรา เมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกว่าตนเองกำลังจะตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด เกิดความกังวลใจ เกิดความกลัวหรือเกิดความไม่สบายใจในเรื่องใด ๆ ก็ตาม เราจะสามารถหลุดพ้นมาจากความตึงเครียดได้ด้วย 7 กิจกรรมช่วยลดความเครียดที่ทิสโก้ออโต้แคชนำเสนอให้ทุก ๆ คนในข้างต้น รวมทั้งสิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรทำเพื่อให้เราห่างไกลจากความเครียด ไม่ว่าในชีวิตของเรา จะต้องพบเจอกับอุปสรรคหรือสถานการณ์ใดก็ตามที่ไม่พึงประสงค์ ทิสโก้ออโต้แคช เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสามารถฝ่าฟันกับความยากลำบากเหล่านี้ไปได้ จงเชื่อมั่นเสมอว่าฟ้าหลังฝนที่สว่างสดใสรอเราอยู่เสมอ อีกหนึ่งเคล็ดลับสุดยอดที่สามารถช่วยลดความเครียดทิ้งท้ายไว้ในบทความนี้ นั่นก็คือ การที่เราสามารถปรับความคิดและเปลี่ยนมุมมองในเรื่องบางเรื่องที่มันทำร้ายเรา ให้มองหาข้อดีที่ได้เรียนรู้จากสิ่งนั้น เพียงเท่านี้ก็บอกลาความเครียดได้ไปอีกนาน ความเครียดมีผลต่อสุขภาพอย่างไรผลของความเครียดต่อชีวิต
ผลต่อสุขภาพทางกาย ได้แก่ อาการไม่สบายทางกายต่างๆเช่น ปวดหัว ปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆของร่างกาย ความผิดปกติของหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ อาการท้องผูกท้องเสียบ่อยๆ นอนไม่หลับ หอบหืด เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ
จัดการกับความเครียด ได้อย่างไร1. ออกกำลังกาย คลายเครียด ... . 2. นั่งสมาธิ ฝึกจิต ลดเครียด ... . 3. จัดสรรเวลาในชีวิตประจำวัน ... . 4. ผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง ... . 5. ปรับเปลี่ยนความคิด. ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างไรทางด้านจิตใจและอารมณ์ ความเครียดอาจทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถจัดการกับชีวิตตนเองทำให้ขาดสมาธิ วิตกกังวล โมโหง่าย จิตใจขุ่นมั่ว ในบางรายที่ต้องเผชิญกับภาวะเครียดเป็นเวลานาน ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น จะทำให้เซลล์ประสาทฝ่อและลดจำนวนลง และยังมีผลต่อการทำงานของระบบสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ ...
ความเครียดมีอะไรบ้างความเครียดเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยใหญ่ๆ นั่นคือ ปัจจัยภายนอก เช่น เรื่องงาน การหย่าร้าง ความขัดแย้งในความสัมพันธ์ การย้ายบ้าน เป็นต้น. ปวดหัว ปวดตามร่างกาย. ลำไส้ทำงานปั่นป่วน มีปัญหาการย่อยอาหาร ท้องเสีย. ใจสั่นง่าย เหงื่อออก. อ่อนล้า ไม่อยากทำอะไร. ความดันโลหิตสูง. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ. โรคหัวใจ. โกรธ หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ง่าย. |