หลายคนอาจจะคิดว่าความร่ำรวยเงินทองคือ บ่อเกิดของความสุข แต่คุณจะมีความสุขกับเงินที่หามาได้อย่างไร หากสุขภาพไม่เอื้ออำนวย ต้องเข้าโรงพยาบาลไปพบหมอมากกว่าได้เดินทางไปแหล่งท่องเที่ยว สุขภาพจึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องให้ความสำคัญทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งก็สามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 1.ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานให้ตรงเวลา ในทุก ๆ มื้อพยายามทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่อย่างพอเพียงตามความต้องการของร่างกาย และควรทานให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน โดยมื้อเช้าถือว่าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดจึงไม่ควรที่จะงด ส่วนมื้อเย็นควรทานแต่น้อยและไม่ควรทานหลัง 6 โมง เพราะหากทานดึกเกินไปใกล้เวลานอน อาจทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ 2.ดื่มน้ำให้พอเพียง พยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำอย่างพอเพียงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งในเรื่องของสุขภาพและความสวยความงาม ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตเป็นไปอย่างปกติ ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่น ดูสดใสเปล่งปลั่ง 3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควรหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยให้สดชื่นผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง ช่วยให้ปอดและหัวใจทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยสลายไขมัน ซึ่งจะช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย 4.นอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียง นอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง การนอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงไม่เพียงแต่ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นแจ่มใส มีพลังในการทำงานและการใช้ชีวิต 5.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เป็นที่รู้กันว่า การสูบบุหรี่และดื่มเหล้านั้นเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งตับ มะเร็งปอด การหลีกเลี่ยงหรือพยายามลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้คุณมีสุขภาพดีขึ้น เพราะหากคุณไม่รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายก็ย่อมเป็นการลดปัจจัยที่จะมาทำลายสุขภาพของคุณนั่นเอง 6.รักษาสุขภาพจิตให้ดี การมีสุขภาพจิตที่ดีย่อมส่งผลให้สุขภาพร่างกายดีไปด้วย และการมีสุขภาพจิตที่ดีนั้นก็สามารถทำได้โดยการทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ หากิจกรรมที่ชอบทำ ฝึกสมาธิปฏิบัติธรรม เป็นต้น 7.ให้เวลากับคนในครอบครัว ความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว เป็นแหล่งที่มาอีกแห่งหนึ่งของความสุข การให้ความสนใจกับธุระการงานจนลืมที่จะแบ่งเวลาให้กับคนในครอบครัวย่อมทำให้ความสุขในครอบครัวลดน้อยลง ใส่ใจกับครอบครัวให้มากขึ้น สร้างความสมดุลให้กับชีวิตส่วนตัวและการทำงาน เท่านี้คุณก็หาความสุขได้ในทุก ๆ วันได้แล้ว สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์และการมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณสามารถสัมผัสกับความสุขที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่มันยังเป็นแหล่งกำเนิดของความสุขด้วยตัวของมันเอง และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไรถ้าคุณจะหันมาใส่ใจกับสุขภาพเสียแต่บัดนี้ เพื่อที่คุณจะได้มีความสุขได้มากขึ้นในทุกวันที่ผ่านไป “You are what you eat” คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็เป็นอย่างนั้น ถ้าใครที่อยากมีสุขภาพดี แข็งแรง ไร้โรคภัยก็ต้องหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น อย่าเอาแต่กินอร่อยปาก แต่ลำบากกาย แถมทำร้ายสุขภาพด้วย เป็นแบบนั้นคงไม่ดีแน่ ช่วงนี้จึงหลายคนก็เริ่มให้ความสนใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น อาจจะออกกำลังกายวันละนิด พอให้เหงื่อได้ออกบ้าง ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกกินแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์ ใครถ้าอยากมีสุขภาพดี ห้ามพลาดบทความนี้เชียวนะ เรามีเคล็ดลับ 7 วิธีกินอย่างไรให้สุขภาพดี มาแจกให้กับทุกคน ถ้าอยากรู้แล้วจะมีอาหารประเภทอะไรบ้าง ตามมาดูกัน 7 วิธีกินอย่างไรให้สุขภาพดี กินอาหารดีมีประโยชน์ ห่างไกลจากโรคภัย1.กินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ แน่นอนว่าถ้าจะมีสุขภาพดีได้ ก็ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งเรื่องนี้เรามักถูกสอนมาตั้งแต่เด็กจนโต ว่าในแต่ละวันควรต้องบริโภคอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ โดยสามารถเลือกเมนูอาหารในแต่ละมื้อให้มีความหลากหลาย ไม่จำเจจะได้ไม่เบื่ออาหาร ส่วนเรื่องปริมาณการกินนั้น จะต้องดูที่น้ำหนักตัวแต่ละคน ซึ่งถ้าใครรู้ตัวว่าเริ่มจะอ้วนแล้ว ให้ลดปริมาณลงเพื่อให้เหมาะสม ไม่ใช่ว่ากินอาหาร 5 หมู่แล้ว จะกินเท่าไหร่ก็ได้ ปริมาณการกินก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม 2.ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน น้ำ เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ ให้อดข้าวยังพอไหว แต่ถ้าร่างกายขาดน้ำ อาจทำให้เกิดโรคภัยแบบไม่รู้ตัวก็ได้ และการน้ำดื่มน้ำที่ดีนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะดื่มน้ำอะไรก็ได้ แต่จะต้องดื่มน้ำเปล่าเท่านั้น เพราะน้ำที่ดีที่สุดก็คือ “น้ำเปล่า” ควรดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิห้องจะดีต่อร่างกายมากที่สุด ถ้าหลีกเลี่ยงน้ำเย็นได้ก็ดีมาก ๆ และควรจะดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร หรือประมาณ 8 แก้ว เพราะร่างกายของเราจะต้องสูญเสียน้ำในแต่ละวันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.5-1.5 ลิตร ดังนั้นถ้าสามารถดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน ก็จะช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ยังช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น หัวใจทำงานได้ปกติ ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และยังดีต่อระบบขับถ่าย อีกทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ป้องกันเรื่องริ้วรอยและผิวแห้งกร้าน ฉะนั้น ถ้าสาว ๆ อยากมีผิวสวยก็ต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ น้า 3.ควรเลือกกินข้าวเพื่อสุขภาพ เมื่อข้าวคือเมนูอาหารจานหลักของคนไทยทุกมื้อ อาจทำให้หลีกเลี่ยงที่จะไม่กินข้าวไม่ได้ แต่คุณสามารถเลือกกินข้าวได้ เนื่องจากข้าวมีให้เลือกหลากประเภท เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวซ้อมมือ ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวสีนิล และข้าวมันปู เป็นต้น ถ้าเลือกกินได้แนะนำให้กินข้าวที่ไม่ขัดให้เป็นสีขาว เพราะจะมีค่าน้ำตาลต่ำ มีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนและใยอาหารมากกว่าข้าวขัดสีจนขาว หรือถ้าเบื่อข้าวก็อาจจะเปลี่ยนมากินอาหารแป้ง เช่น ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน บ้างก็ได้ เพื่อความหลากหลายจะได้ไม่จำเจกับอาหาร 4.กินผักและผลไม้เป็นประจำทุกวัน สาว ๆ คนไหนอยากจะสวยจากภายในสู่ภายนอก ควรจะต้องเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ต้องกินให้เยอะ ๆ กินทุกวันได้ยิ่งดี บางคนอาจจะมีผลไม้ไว้ตบท้ายทุกมื้อ หรือจะกินผลไม้ช่วงระหว่างวันก็ได้ ทำให้ไม่หิวง่าย อิ่มท้องตลอดเวลา ซึ่งพืชผักและผลไม้ยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร อีกทั้งยังมีสารอื่นที่ไม่ใช่สารอาหาร เช่น สารแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์ ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีความชุ่มชื้น ผิวไม่แห้งเหี่ยว แลดูอ่อนเยาว์ ดังนั้น สาวคนไหนอยากมีผิวพรรณสวย ควรต้องกินผักและผลไม้เยอะ ๆ น้า 5.อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เหมาะสำหรับคนกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อาจจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถกินอาหารเสริมเพิ่มเติมได้ ซึ่งอาหารเสริมก็มีให้เลือกหลายชนิด จะที่ทั้งบำรุงผิวพรรณ บำรุงสมอง เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง คือถ้าร่างกายเราขาดอะไรก็สามารถกินอาหารเสริมเพื่อทดแทนสิ่งนั้นได้ เช่น ไม่ชอบกินหรือผลไม้ ทำให้ร่างกายขาดวิตามินซี ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ก็สามารถเลือกกินอาหารเสริม Successmore นี้ได้ ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายประเภท เช่น คอลลาเจน หรือน้ำว่านหางจระเข้ เป็นต้น แม้ว่าอาหารเสริมจะมีประโยชน์ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงก็ตาม แต่การกินก็ควรจะให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม 6.งดหรือหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือหวานจัดจนเกินไป รสชาติการถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หลายอาจคิดว่าต้องกินแต่อาหารที่มีรสจืด ๆ ทำให้ขาดอรรถรสในการกิน ก็อย่างที่บอกเลยว่ากินอาหารอร่อย รสชาติถูกปาก แต่ลำบากร่างกาย เสี่ยงเป็นโรคภัยตามมาทีหลังอีก อย่างถ้ากินหวานมากเกินไป อาจต้องเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือถ้ากินเค็มจัดเกินไป โรคไตอาจจะถามหาได้ หรืออาจจะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ ฉะนั้น ควรกินอาหารที่มีรสชาติกลาง ๆ ไม่ต้องเน้นรสหวานหรือเค็ม และถ้าเลี่ยงอาหารทอดด้วยก็จะดีมาก ๆ หรือถ้าอยากกินอาหารประเภททอด ลองเปลี่ยนมาใช้เป็นหม้อทอดไร้น้ำมันก็ดีไม่น้อย ยิ่งช่วง WFH ก็ได้เห็นเมนูใหม่ ๆ ที่ทำจากหม้อทอดไร้น้ำมันกันเพียบ รสชาติอร่อย แถมสุขภาพยังดีด้วย 7.รู้ปริมาณอาหารในการกินแต่ละวัน การรู้ปริมาณอาหารในการกินแต่ละวัน ก็จะช่วยทำให้มีสุขภาพดีได้ ซึ่งก่อนอื่นเลยจะต้องคำนวณหาปริมาณที่เหมาะสมกับวัย เนื่องจากร่างกายแต่ละคนจะต้องการพลังงานไม่เท่ากัน ถ้าอยู่ในช่วงวัยเด็ก ผู้หญิงวัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ระดับพลังงานที่จะอยู่ที่ 1600 กิโลแคลอรี ถ้าอยู่ในช่วงวัยรุ่น ผู้ชายวัยทำงาน พลังงานที่ต้องการอยู่ที่ 2000 กิโลแคลอรี แต่ถ้าเป็นคนที่ต้องใช้พลังงานเยอะ ๆ อย่างนักกีฬา เกษตรกร หรือกรรมกร พลังงานที่ต้องการก็จะเยอะหน่อยอยู่ที่ 2400 กิโลแคลอรี เมื่อรู้แล้วว่าร่างกายของเราต้องการพลังงานเท่าไหร่ คราวนี้ก็จะได้เลือกกินอาหารได้ให้สมดุลกับความต้องการของร่างกาย เพียงแค่นี้ก็จะช่วยทำให้มีสุขภาพดีได้ แถมยังไม่อ้วนอีกด้วย ใครอยากมีสุขภาพดี ต้องสร้างขึ้นมาเอง ทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิต ก็หวังว่าบั้นปลายชีวิตจะได้สุขสบาย แต่กลับต้องนำเงินมาหมดกับค่ารักษาพยาบาล ดังนั้น ถ้าใครอยากมีร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพดี ไม่มีโรคภัยมาเยือนให้ต้องกังวลใจ ลองนำเคล็ดลับ 7 วิธีกินอย่างไรให้สุขภาพดีมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของคุณ ถ้าใครสามารถทำตามได้ครบทุกข้อ รับรองว่าจะต้องมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง มีผิวพรรณสวยงาม แถมหุ่นยังดีไร้ไขมันอีกด้วย นอกจากกินอาหารดีมีประโยชน์แล้ว ก็อย่าลืมหมั่นออกกำลังกายวันละนิดกันด้วยนะ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งร่างกายไว้ต่อสู้กับโควิด-19 Shopee 9.9 Super Shopping Day แคมเปญโปร 9.9 สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! มหกรรมสินค้าลดราคาจัดเต็ม เริ่มต้นเพียง 9.- ถูกคุ้มทุกวันตลอดทั้งแคมเปญ! พร้อมรับโปรโมชั่นส่งฟรีขั้นต่ำ 0.- และพิเศษกว่าที่เคย เก็บโค้ดส่วนลดสูงสุดถึง 999.- ช้อปได้กับโปรหลากหลายสุดโดนใจ ช้อปได้แล้วตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. - 9 ก.ย. นี้ที่ Shopee 9.9 Super Shopping Day! |