ร้อน ใน กิน ไร ดี

     รากบัวมีสรรพคุณในการช่วยลดอาการร้อนใน ช่วยลดไข้และบำรุงโลหิต ซึ่งน้ำรากบัวก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับหน้าร้อนแบบนี้ด้วยค่ะ และนอกจากจะกินน้ำรากบัวแล้ว เมนูรากบัวอื่นๆ หรือเมนูที่มีส่วนผสมของรากบัวก็สามารถช่วยดับร้อนและลดอาการร้อนในในร่างกายได้เหมือนกันค่ะ

         สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาร้อนใน เป็นแผลในปากบ่อยๆ ลองทำตาม 6 วิธีแก้ร้อนในเร่งด่วนที่เราแนะนำกันดูนะคะ แล้วอาการร้อนในจะหายเร็วขึ้นอย่างแน่นอน แต่เมื่อหายแล้วก็อย่าลืมป้องกันให้ดี จะได้ไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกนะคะ อย่างไรก็ตามหากพบว่าอาการรุนแรงขึ้น และเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์ ทำหลายวิธีแล้วก็ยังไม่บรรเทาลง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งเป็นภาวะอันตรายที่จะมองข้ามไม่ได้เลยค่ะ

แผล “ร้อนใน” ที่ทำให้แสบทุกครั้งที่รับประทานอาหาร หรือแม้กระทั่งอยู่เฉยๆ ก็รู้สึกทรมาน เป็นแผลที่หลายคนน่าจะเคยเป็นกันมาบ้าง และรับรู้ถึงความทรมายของเจ้าแผลในปากนี้ได้เป็นอย่างดี บางคนเป็นบ่อย บางคนก็ไม่ค่อยเป็น สาเหตุของแผลร้อนในคืออะไร แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะหายเร็วๆ มาดูวิธีกัน

สาเหตุของแผลร้อนใน

แผลร้อนใน (Aphthous Ulcers) หรือแผลในปาก (Mouth Ulcers) เป็นอาการที่เยื่อบุอ่อนภายในช่องปากอักเสบ บางครั้งอาจเป็นแผลอักเสบที่ค่อนข้างลึก บริเวณที่เกิดแผลสามารถพบเห็นได้ทั่วช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นกระพุ้งแก้ม เพดานปาก เหงือก ลิ้น ฯลฯ มีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น

  • ภูมิต้านทานโรคในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงที่มีประจำเดือนที่ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง

  • เครียดสะสม

  • ดื่มน้ำน้อยเกินไป

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ

  • มีแผลกดทับ หรือเสียดสีจากฟันปลอมที่หลวมเกินไป หรือเหล็กดัดฟันไม่พอดีกับฟัน

วิธีแก้แผลร้อนในให้หายเร็วๆ

  1. วิธีแก้ร้อนในวิธีแรกคือ บ้วนปากด้วยน้ำเกลือทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังอาหารทุกมื้อ

  2. หลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้แผลร้อนในระคายเคือง และแห้งตึงจนเกินไป

  3. เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่มวันละ 2 ครั้ง หรือหลังรับประทานอาหาร

  4. หากมีแผลร้อนในที่ค่อนข้างใหญ่ และลึก จนมีอาการเจ็บปวดมาก สามารถใช้ผ้าสะอาดพันปลายนิ้ว เช็ดทำความสะอาดฟัน เหงือก และซอกฟันแทนการใช้แปรงสีฟันชั่วคราวได้

  5. เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุ

  6. เลือกรับประทานอาหารที่มีลักษณะอ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย

  7. หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารรสจัด (เปรี้ยวจัด เค็มจัด เผ็ดจัด)

  8. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีอุณหภูมิเย็นจัด และร้อนจัด

  9. งดอาหาร และสิ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องปาก เช่น เหล้า บุหรี่ หมากพลู เป็นต้น

  10. ดื่มน้ำผลไม้ไม่แยกกาก เพื่อป้องกันอาการท้องผูก ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่รับประทานอาหารได้ไม่หลากหลาย หรือรับประทานผักผลไม้ได้ไม่มาก จากอาการเจ็บแผลร้อนใน

  11. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อคืน

  12. ออกกำลังกายเป็นประจำ วันละ 30 นาที-1 ชั่วโมง สัปดาห์ละอย่างน้อย 3-4 ครั้ง

  13. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เช็กได้จากสีปัสสาวะ ดื่มน้ำจนกว่าปัสสาวะจะเป็นสีเหลืองอ่อน

  14. พยายามลดความเครียด ด้วยการหากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องที่เครียด

  15. หากแผลร้อนในค่อนข้างใหญ่ และไม่ดีขึ้นหลังจากทำทุกวิธีแล้ว ควรพบแพทย์เพื่อพิจารณายาทาแผลให้หายไวยิ่งขึ้น


**เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการรักษาแผลร้อนใน หรือแผลในปาก

ยังไม่มีรายงานการแพทย์ใดๆ ยืนยันได้ว่า การรับประทานยาขม จะช่วยรักษาแผลร้อนในได้ และเมื่อมีแผลร้อนใน หรือแผลที่อักเสบบริเวณริมฝีปาก ไม่ควรใช้เยนเชี่ยน ไวโอเล็ตทา (Gentian Violet หรือยาม่วง) เพราะจะทำให้ริมฝีปากแตกแห้งมากขึ้น และแผลยิ่งแตกมากขึ้นไปด้วย

แสนจะรำคาญใจเหลือเกินกับแผลร้อนใน นอกจากสร้างความเจ็บปวดทรมานให้กับเราเป็นอย่างมาก ยังขัดขวางการกินอาหารอร่อย ๆ ทำให้อาหารหลาย ๆ อย่างเสียรสชาติไปอีก ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ถึงจะหาย แต่อย่างไรก็ตามการรักษาแผลร้อนในนั้น ขึ้นอยู่พฤติกรรมการดูแลตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทายา การบ้วนน้ำเกลือ รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารบางประเภท สายตามใจปากต้องหยุดก่อน รู้หรือไม่ว่า แต่ก็จะมีอาหารบางอย่างที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยรักษาร้อนในได้เร่งด่วน ทำให้เราไม่ต้องทนเจ็บในช่องปาก ว่าแต่ อาหารแก้ร้อนใน จะมีเมนูอะไรบ้าง? Shopee จะพาไปดู ตามไปดูกันเลย !

Shopee แนะนำ

ร้อน ใน กิน ไร ดี

ครีมทาแผลในปาก ORAL

฿69

ดูสินค้า

ร้อน ใน กิน ไร ดี

ต้าไป่หลิง ยาแก้ร้อนใน

฿550

ดูสินค้า

ร้อน ใน กิน ไร ดี

BONJELA เจลป้ายแผลในปาก

฿159

ดูสินค้า

ร้อน ใน กิน ไร ดี

Curatick แผ่นแปะแผลในปาก

฿33

ดูสินค้า

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

อาหารแก้ร้อนใน ทางลัดช่วยรักษาแผลในปาก

  • รับประทานอาหารอ่อน ๆ และช่วยลดอาการเจ็บแผลในช่องปาก เช่น ผักกาดขาว ตำลึง
  • เลือกทานผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น เช่น แตงกวา ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง ฟักเขียว มะระ แตงโม กีวี่ เป็นต้น
  • อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ถั่วและไข่
  • การดื่มน้ำสมุนไพร อาทิ มะระขี้นก ใบบัวบก รากบัว เก๊กฮวย เป็นต้น
  • อาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง เช่น ตับและอาหารทะเล
  • โฮลเกรน นม เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา
  • ปรับอุณหภูมิร่างกายให้เย็นลงด้วยการดื่มน้ำเปล่าให้มาก

แนะนำ 6 อาหารแก้ร้อนใน ทำง่าย ทานอร่อย

1. แกงจืดมะระ

ร้อน ใน กิน ไร ดี
credit : fondation-wyeth.org

สมุนไพรตัวเก่งอย่าง ‘มะระ’ ถือเป็นยาดีที่ช่วยลดอาการร้อนใน มีสรรพคุณที่สำคัญ คือ เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ แก้กระหาย ลดความร้อนในร่างกาย แก้โรคบิด รักษาหนองฝีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสารอาหารในมะระมีอยู่เยอะมาก ๆ แถมในมะระมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย อาจรับประทานเป็นผลดิบ หรือจะทำเป็นผักต้มลวกจิ้มน้ำพริกก็เลิศ แต่ใครรู้สึกสู้รสขมไม่ไหว แนะนำให้ทำเป็นต้มจืดมะระ ก็จะทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น

2. ถั่วเขียวต้มน้ำตาล

ร้อน ใน กิน ไร ดี
credit : i-kinn.com

ถั่วเขียว ยาแก้ร้อนในมาตั้งแต่โบราณกาล เพราะช่วยลดไข้และความร้อนในร่างกาย ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด โดยในทางการแพทย์ตะวันออกเชื่อว่าถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น สามารถถอนพิษไข้ ลดการอักเสบในช่องปาก อีกทั้งยังบรรเทาอาการร้อนในได้เป็นอย่างดี ทำให้ถั่วเขียวนับเป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสุด ๆ วันนี้เลยนำเสนอถั่วเขียวต้มน้ำตาล แบบลดหวานมาฝากกัน วิธีทำก็ง่าย ๆ มาก โดยล้างถั่วเขียวให้สะอาดและแช่ทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ตั้งหม้อเติมน้ำนำถั่วเขียวใส่แล้วต้มจนเปื่อย เทคนิคการต้มถั่วเขียว คือ ต้องให้ถั่วเปื่อยได้ระดับที่เราต้องการก่อน แล้วค่อยเติมน้ำตาล แค่นี้เป็นอันเสร็จ แอบกระซิบว่ายิ่งถ้าแช่ทิ้งไว้ในช่องฟรีซ ตอนกินสดชื่นสุด ๆ เชียวล่ะ!

3. แตงกวาผัดไข่

ร้อน ใน กิน ไร ดี
credit : sou-dai.com

ผักที่ทั่วโลกคุ้นเคยอย่าง ’แตงกวา’ โดยปกติแตงกวาจะเป็นเครื่องเคียงคู่กับอาหารจานหลัก นิยมทานสด ซึ่งสรรพคุณของเขาก็ปังสุด เพราะเขาช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย และลดการสูญเสียน้ำเมื่ออากาศร้อนจัด ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ฆ่าเชื้อโรค และพร้อมยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก เหมาะกับเป็นผักที่ขึ้นชื่อเรื่องแก้ร้อนในสุด ๆ เลยเชียวล่ะ 

4. แกงจืดตำลึง

ร้อน ใน กิน ไร ดี
credit : wongnai.com

ตำลึง ผักริมรั้วที่โดดเด่นในเรื่องการบำรุงสายตา แต่หารู้ไม่ว่ายังมีคุณสมบัติช่วยดับพิษร้อนภายในร่างกายได้อีกด้วย ด้วยความที่ตำลึงเป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น จึงช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ ไปจนถึงบรรเทาอาการร้อนในได้เลย ตำลึงมักถูกใช้เป็นผักปรุงอาหาร เช่น แกงเลียงตำลึง ต้มเลือดหมู หรือจะเป็นเมนูยอดฮิตอย่างแกงจืดตำลึงที่เราเลือกหยิบมาแนะนำในวันนี้ก็ได้เช่นกัน ส่วนทางด้านยอดและใบตำลึง สามารถใช้กินเป็นผักสด หรืออาจนำไปต้มหรือลวกจิ้มกับน้ำพริก เป็นอาหารแก้ร้อนในที่อร่อยไม่แพ้เมนูอื่น ๆ เลย

5. แกงจืดต้มฟัก 

ร้อน ใน กิน ไร ดี
credit : xn--q3cp7eza.net

ฟักเขียว เป็นผักธาตุเย็น นิยมถูกนำมาใช้ประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาวและหวาน เช่น แกงฟักเขียว แกงไก่ใส่ฟัก แกงเขียวหวานไก่ฟักเขียว หรือเมนูง่าย ๆ อย่างแกงจืดต้มฟักก็ตาม โดยฟักเขียวเขามีสรรพคุณ ดังนี้ ช่วยขับความร้อนภายในร่างกาย แก้ร้อนใน ลดไข้ หรือรักษาไตอักเสบเรื้อรัง บรรเทาอาการไอ ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน รักษาระดับน้ำตาลในเลือด เป้นต้น เรียกได้ว่าฟักเขีบงเป็นผักที่ทรงคุณค่าของแท้เลย

6. รากบัวสด

ร้อน ใน กิน ไร ดี
credit : prayod.com

รากบัวสมุนไพรสารพัดประโยชน์ ป็นพืชชนิดหนึ่งที่คนจีนนิยมรับประทานกันมานาน มีรสหวานมัน มีฤทธิ์เย็นช่วยขับความร้อนในร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย ดับพิษร้อนให้ปอดชุ่มชื้น แก้ไอ ช่วยลดความดันโลหิต เป็นต้น เมนูที่นิยมทำกันมากก็คือ รากบัวเชื่อม และน้ำรากบัว เติมน้ำตาลนิดหน่อย กลายเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้สดชื่นได้ แต่สำหรับคนที่อยากทานเพื่อบรรเทาอาการร้อนใน แนะนำให้ทานรากบัวสด มีฤทธิ์แก้ร้อนในได้ดีกว่าน้ำต้มรากบัว ข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านกระเพาะ ไม่ควรรับประทานน้ำรากบัวที่คั้นสดโดยตรง 

อาหารที่เลี่ยงได้เลี่ยง! เมื่อเป็นอาการร้อนใน

จากที่เรารู้ไปแล้วว่าอาหารชนิดไหนที่ช่วยบรรเทาอาการร้อนในกันไปแล้ว ก็มาต่อกันในส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงกันบ้าง 

  • กลุ่มอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น เงาะ ทุเรียน ฝรั่ง ลำไย ลิ้นจี่ ขนุน หรือองุ่น
  • อาหารที่มีรสจัดจ้านหรืออาหารเผ็ดร้อน เช่น หอม ขิง กระเทียม
  • อาหารที่มีไขมันสูงหรือปรุงโดยผ่านความร้อนมาก
  • อาหารกรดสูงหรืออาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่น สับปะรด ส้ม ส้มโอ มะนาว 
  • อาหารประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มรสซาบซ่า 
  • งดสิ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องปาก เช่น เหล้า บุหรี่ หมากพลู เป็นต้น
  • ของทอด ของมัน ขนม น้ำตาล 

ดับร้อนให้ร่างกายด้วยการเลือกทานอาหารแก้ร้อนใน 

อาการร้อนใน โดยทั่วไปมักจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย แต่ปกติแล้วจะหายได้เอง โดยเลือกใช้ยาสามัญประจำบ้าน หรืออาศัยการรับประทานอาหารแก้ร้อนในก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการร้อนในอาจจะใช้เวลาในการหาย แต่เราสามารถเลือกทานอาหารที่พอจะช่วยบรรเทาเจ็บปวดทรมานได้ แต่อย่างไรก็ตามควรคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสม ประกอบกับการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ อย่าลืมสังเกตตัวเองด้วยว่าแผลมีการลุกลามไปยังบริเวณอื่น ๆ ใกล้เคียง หรือมีอาการต่อมน้ำเหลืองบวมโตร่วมด้วยหรือไม่ หากรู้สึกผิดปกติในกรณีใดกรณีหนึ่ง ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที หากชะล่าใจ อาจนำไปสู่โรคภายในช่องปากที่รุนแรงได้ ใครกำลังเป็นร้อนในให้รีบสังเกตตัวเองด่วน! และรู้จักกับชนิดของแผลร้อนใน พร้อม 10 วิธีแก้ร้อนใน รักษาแผลร้อนในให้หายไวที่สุด ได้ที่ Shopee Blog

เป็นร้อนในกินของทอดได้ไหม

รักษา 'ร้อนใน' ด้วยการปรับพฤติกรรม ดังนี้ – งดอาหารของทอด ของมัน ขนม น้ำตาล ทุเรียน ลำไย – หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น กระเทียม หอม ขิง

เป็นร้อนในกี่วันถึงจะหาย

-แผลร้อนในที่ไม่รุนแรง ขนาดเล็ก 1 เซนติเมตร มักจะหายเองภายใน 7-10 วัน -หาก 7-10 วันไม่หาย หรือมากกว่า 2 สัปดาห์ไม่หาย อาจจะไม่ใช่แผลร้อนในแต่อาจเป็นมะเร็งช่องปากระยะเริ่มแรกได้ดังนั่นหากแผลมีอาการแสบร้อน เกิน 2 สัปดาห์ ต้องได้รับการตรวจจากแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อหารอยโรค หรือตัดชิ้นเนื้อเพื่อวินิจฉัยโรคต่อไป

กินผักอะไรแก้ร้อนใน

ผักแก้ร้อนใน 7 ชนิด รักษาแผลร้อนใน 1. ดอกแค 2. มะระ 3. แตงกวา 4. ปวยเล้ง 5. ใบบัวบก 6. ตำลึง 7. ชะอม.
ทานผักแก้ร้อนใน ช่วยดับร้อนให้ร่างกาย แผลร้อนในหายเร็ว!.