แผน สุขศึกษา โรคความดันโลหิตสูง

                                         แผนการให้ความรู้โรคความดันโลหิตสูงภายใน 1 ชม.

                                    กลุ่มหมาย ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 30 คน

                                            สถานที่ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

                                            วันที่ 22 เมษายน 2559    เวลา 08.00 น.-09.00 น.

                                                       ผู้ให้ความรู้ นางสาวนวินดา หลังเสด

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

1.         ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงสามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้

2.         ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูงสามารถปรับตัวได้

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

เนื้อหา

กิจกรรมให้       ความรู้

สื่อการสอน

การวัดและประเมินผล

หมายเหตุ

สวัสดีค่ะ ทุกท่านดิฉันชื่อ

นางสาวณัติญา  สังเกตุเป็นนักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

วันนี้มีความรู้สึกยินดีและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาให้ความรู้เรื่อง โรคความดันโลหิตสูง

แก่ท่านที่มีความสนใจ ณ ที่นี้ และบางท่านอาจมีความรู้อยู่แล้วบ้างในเรื่องโรคความตวามดันโลหิตน่ะค่ะ

-ผู้ให้ความรู้แนะนำตนเอง กล่าวทักทายผู้ฟังสร้างสัมพันธภาพมีการถามชื่อกันและให้ผู้ให้ความรู้พูดเรื่องสนุกเพื่อให้ผู้ฟังเกิดการหัวเราะและมีความสนใจในกิจกรรมที่จะเริ่มบรรยายความรู้ต่อไป

-ใช้ตัวผู้สอนเป็นสื่อในการสร้างบรรยากาศให้ผู้ร่วมกิจกรรม

-เพลงเพื่อใช้ในการสร้างสัมพันธภาพ

-สังเกตความสนใจของผู้เข้าร่วมรับฟังการบรรยาย

-สังเกตจากการซักถามของผู้ฟัง

-10 นาที

-ผู้พูดต้องเตรียมความพร้อมก่อนบรรยาย

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

เนื้อหา

กิจกรรมให้       ความรู้

สื่อการสอน

การวัดและประเมินผล

หมายเหตุ

1.เพื่อให้ผู้ฟังมีความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง

2.เพื่อให้ผู้ฟังสามารถบอกถึงอาการของโรคความดันโลหิตสูงได้

3.เพื่อให้ผู้ฟังสามารถบอกถึงสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงได้

4.เพื่อให้ผู้ฟังมีความรู้และสามารถรู้ถึงวิธีการรักษาของโรคความดันโลหิตสูงได้

5.เพื่อให้ผู้ฟังสามารถนำไปปฏิบัติได้

ความดันโลหิตสูง

ทุกๆคนต้องมีความดันโลหิต เพราะความดันโลหิต จะเป็นแรงผลักดัน ให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนั้นทุกคนควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับความดันโลหิต และรักษาให้ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะความดันโลหิตสูงจะทำให้เกิดหลอดแข็งและตีบ เมื่อหัวใจบีบตัวหัวใจจะบีบเลือดไปยังหลอดเลือดแดง ทำให้เกิดความดันโลหิตซึ่งเกิดจากการบีบตัวของหัวใจ และแรงต้านทานของหลอดเลือด หัวใจคนเราเต้น 60-80ครั้ง ความดันก็จะเพิ่มขณะที่หัวใจบีบตัว และลดลงขณะที่หัวใจคลายตัว ความดันโลหิตของคนเราไม่เท่ากันตลอดเวลาขึ้นกับท่า ความเครียด การออกกำลังกาย การนอนหลับ ค่าปกติของคนเราคือ120/80 มิลิเมตรปรอท แต่ไม่ควรเกิน140/90 หากสูงกว่านี้แสดงว่าคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูงโรคความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคอัมพาต โรคหัวใจเป็นโรคที่มีอัตราตายสูง

-อาการของโรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ เนื่องจากความดันโลหิตจะเพิ่มอย่างช้าๆทำให้ร่างกายโดยเฉพาะหลอดเลือดปรับตัวทันขึงไม่มีอาการ ผู้ป่วยความดันโลหิตส่วนใหญ่จะมาด้วยโรคแทรกซ้อนโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นความดันโลหิตสูง ดังนั้นจึงแนะนำให้วัดความดันทุก ปีสำหรับคนที่ความดันโลหิตปกติ อาการที่ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่พาผู้ป่วยมาโรงพยาบาลได้แก่ปวดศีรษะ เลือดกำเดาไหล

มึนงงDizziness

 ตามัว

-สาเหตุของความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงมีอยู่ 2 ชนิดได้แก่ โรคความดันโลหิตที่ไม่ทราบสาเหตุPrimary hypertensionหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าessential hypertensionเป็นความดันโลหิตสูงที่พบมากที่สุด กลุ่มนี้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดมักจะมีสาเหตุหลายองค์ประกอบรวมกัน พบว่าผู้ป่วยร้อยละ 95 เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มนี้ แต่มักจะพบว่าผู้ป่วยกลุ่มความดันโลหิตสูงนี้มีความสัมพันธ์กับปัจจัยดังต่อไปนี้

-การรับประทานอาหารเค็มซึ่งจากการศึกษาพบว่าการรับประทาน อาหารเค็ม จะมีส่วนทำให้เกิดความดันโลหิตสูง

-กรรมพันธุ์ เชื่อว่าพันธุกรรมจะมีผลต่อระบบฮอร์โมนทำให้มีการหลั่งสารเคมีมากไปRenin angiotensinมากทำให้ความดันโลหิตสูง

-ความผิดปรกติของหลอดเลือดเนื่องมาจากโรคอ้วน อายุมาก เชื้อชาติ และการขาดการออกกำลังกาย

-โรคไต ผู้ป่วยที่มีหลอดแดงที่ไปเลี้ยงไตตีบทั้งสองข้างมักจะมีความดันโลหิตสูง

-การวินิจฉัยความดันโลหิตสูง

สิ่งที่สำคัญของการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูง คือต้องบอกให้ได้ว่าเป็นโรคหรือไม่ ความรุนแรงของโรคความดันโลหิตเป็นอย่างไร นอกจากนั้นจะต้องตรวจหาสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ตรวจอวัยวะต่างๆว่าได้ผลกระทบจากโรคความดันโลหิต และตรวจว่ามีโรคแทรกซ้อนจากความดันหรือยัง

-การรักษา

การรักษาโรคความดันโลหิตสูงแบ่งได้เป็น การรักษาที่ไม่ใช้ยาได้แก่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการรักษาด้วยยา นอกจากนั้นจะต้องรักษาโรคแทรกซ้อน และการป้องกันโรคแทรกซ้อนที่จะเกิด

-เคล็ดลับในการรักษาความดันโลหิตสูง

ตรวจวัดความดันเป็นระยะ

รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ โดยการลดน้ำหนักลง 10%สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน

งดอาหารเค็มหรือเกลือไม่ควรได้รับเกลือเกิน 6 กรับต่อวัน

รับประทานอาหารไขมันต่ำ

งดการสูบบุหรี่

รับประทานยาตามแพทย์สั่ง

ไปตามแพทย์นัด

ออกกำลังกายตามแพทย์แนะนำโดยการออกกำลังวันละ 30-45นาทีสัปดาห์ละ 3-5 วัน

รับประทานอาหารที่มีเกลือโปแตสเซียม

แนะนำให้พาพ่อแม่พี่น้องและลูกไปตรวจวัดความดันโลหิต

-สัญญาณเตือนภัยของโรคแทรกซ้อนเฉียบพลัน

โรคความดันโลหิตสูงจะมีโรคแทรกซ้อนเฉียบพลัน ที่สำคัญคือหัวใจและสมอง โรคระบบทั้งสองจะมีอาการเตือนล่วงหน้า ก่อนที่จะเกิดความพิการ เช่นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะมีอาการเจ็บหน้าอกเป็นหลัก ส่วนโรคหลอดเลือดสมองจะมีอาการอ่อนแรง หรือเดินเซ เป็นต้นผู้ที่เป็นโรคความดันต้องเรียนรู้

-จะให้ผู้ฟังขึ้นมาเล่าถึงประสบการณ์การเป็นโรคความดันลิตสูง ว่าการเป็นโรคความดันโลหิตสูงเนี่ยเราจะสามารถอยู่และปรับตัวอย่างไรเพื่อให้เรานั้นใช้ชีวิตอย่างปกติ

-และนำเล่นเกมส์เล็กๆน้อยเพื่อให้บรรยากาศไม่น่าเบื่อ

-พักกินขนมว่าง

-power point

-วิดีโอ

-แผ่นพับ

-ตัวอย่างการเป็นโรคความดันโลหิต

ภาพประกอบ

-.สังเกตุความสนใจของผู้เข้าร่วมรับฟัง

-กระบวน

การแลกเปลี่ยน

ประสบการณ์

-การกล้าที่จะออกมาแชร์ความรู้สึก

-ผู้ฟังสามารถเข้าใจถึงกรเป็นโรคความดันโลหิตสูง

-ให้ความรู้ประมาณ20นาที

- ให้ผู้ฟังออกมาเล่าแชร์ประสบการณ์10นาที

-เล่นเกมส์เละพักกินขนมว่าง 5นาที

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

เนื้อหา

กิจกรรมให้       ความรู้

สื่อการสอน

การวัดและประเมินผล

หมายเหตุ

-จะพูดคุยสรุปกิจกรรม

-ให้เสนอความคิด ที่มีต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง

-แจกของที่ระลึกใน

-ตัวผู้ให้ตวามรู้

-ตัวผู้ฟัง

-ของที่ระลึก

-การแสดงความคิดเห็นของผู้ฟัง

-พูดคุยสรุป5นาที

-เสนอควมคิดเห็น5นาที

-แจกของที่ระลึก5นาที

อ้างอิง

http://siamhealth.net/public_html/Disease/heart_disease/Hypertension/index.htm

http://siamhealth.net/public_html/Disease/heart_disease/Hypertension/symtom.html

http://siamhealth.net/public_html/Disease/heart_disease/Hypertension/cause.html