แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6 พร้อมเฉลย

แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6 from teerachon

โครงการบูรณาการ แบบทดสอบ โครงการวัดและประเมินผล แบบทดสอบอิงมาตรฐาน เนนการคิด การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีจุดมุงหมายเพื่อใหผูเรียนอานออก เขียนได คิดคํานวณเปน มุงใหเกิดทักษะการเรียนรูตลอดชีวิต เตรียมตัวเปนพลเมืองที่มีคุณภาพ และมีความสามารถในการแขงขันไดในอนาคต การจัดการเรียนรูที่สอดคลองกับจุดมุงหมายดังกลาว จึงควรใหผูเรียนฝกฝนการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิตจริง สามารถคิดวิเคราะหและแกปญหาได ดังนั้นเพื่อเปนการเตรียมความพรอม ของผูเรียน ทางโครงการวัดและประเมินผล บริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด จึงไดจัดทําแบบทดสอบอิงมาตรฐาน เนนการคิด โดยดําเนินการวิเคราะหสาระการเรียนรูที่สําคัญตามที่ระบุไวในมาตรฐานและตัวชี้วัดชั้นปแลวนํามากําหนดเปนระดับพฤติกรรมการคิด เพื่อสรางแบบทดสอบที่มีคุณสมบัติ ดังน�้ แบบทดสอบอิงมาตรฐาน เนนการคิด ที่จัดทําโดยโครงการวัดและประเมินผล บริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด ประกอบดวย แบบทดสอบประจําภาคเรียนที่ 1 และแบบทดสอบประจําภาคเรียนที่ 2 ซึ�งแตละภาคเรียนจะมีแบบทดสอบ 2 ชุด แตละชุดมีทั้ง แบบทดสอบปรนัย และแบบทดสอบอัตนัย โดยวิเคราะหมาตรฐานตัวชี้วัด และระดับพฤติกรรมการคิดที่สัมพันธกับแบบทดสอบไวอยาง ชัดเจน เพื่อใหผูสอนนําไปใชเปนเครื่องมือวัดและประเมินผลผูเรียนไดอยางมีประสิทธิภาพ ที่สอดคลองกับมาตรฐาน ตัวชี้วัดชั้นปทุกขอ ตามระดับพฤติกรรมการคิด ที่ระบุไวในตัวชี้วัด วัดผลการเรียนรู เนนใหผูเรียนเกิดการคิด 1 2 ผูสอนสามารถนําแบบทดสอบน�้ไปใชเปนเครื่องมือวัด และประเมินผล รวมทั้งเปนเครื่องบงชี้ความสําเร็จและรายงาน คุณภาพของผูเรียนแตละคน เพื่อเปนการเตรียมความพรอม นักเรียนใหมีความสามารถในดานการใชภาษา ดานการคิด คํานวณ และดานเหตุผล สําหรับรองรับการประเมินผลผูเรียน ในระดับประเทศ (O-NET) และระดับนานาชาติ (PISA) ตอไป ตารางวิเคราะหแบบทดสอบ ภาคเรียนที่ 1 ชุดที่ ตารางวิเคราะหมาตรฐานตัวชี้วัด ตารางวิเคราะหระดับพฤติกรรมการคิด มาตรฐาน ตัวชี้วัด ขอของแบบทดสอบที่สัมพันธกับตัวชี้วัด ระดับ พฤติกรรม การคิด ขอของแบบทดสอบที่สัมพันธกับ ระดับพฤติกรรมการคิด รวม 1 พ 1.1 1 1 - 19 A ความรูความจํา 6 - 8, 13 - 14, 23, 25 7 พ 4.1 1 20 - 22, 25, 27 - 29, 31, 33 B ความเขาใจ 1, 5, 9, 12, 27, 30, 34, 39 - 40,45 10 6 23 - 24, 26, 30, 32, 34 - 35 C การนําไปใช 32, 35, 41 - 42, 48 5 พ 5.1 2 36 - 50 D การวิเคราะห 2 - 4, 11, 15 - 16, 18 - 19, 21 - 22, 28 - 29, 31, 33, 36, 38, 43 - 44, 46 - 47, 49 21 E การสังเคราะห 24 1 F การประเมินคา 10, 20, 26, 37, 50 5 2 พ 1.1 1 1 - 19 A ความรูความจํา 8, 18 - 19, 34 4 พ 4.1 1 20, 23 - 25, 28, 30 - 31, 35 B ความเขาใจ 1 - 3, 5, 9, 11, 14 - 15, 17, 24, 35 11 6 21 - 22, 26 - 27, 29, 32 - 34 C การนําไปใช 10, 13, 16, 21, 40, 46 6 พ 5.1 2 36 - 50 D การวิเคราะห 4, 6, 12, 20, 22, 23, 25, 28 - 31, 33, 36 - 38, 41 - 43, 45, 47, 49 - 50 22 E การสังเคราะห 27, 32 2 F การประเมินคา 7, 26, 39, 44, 48 5 หมายเหตุ : มีเฉลยและคําอธิบายเชิงวิเคราะห อยูทายแบบทดสอบภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 (1)

SelectionFile type iconFile nameDescriptionSizeRevisionUserĉข้อสอบสุขศึกษาม6.doc
ดู ดาวน์โหลด136 กิโลไบต์เวอร์ชัน 1Arississĉแบบฝึกหัดสุขศึกษาม.6(2).docx
ดู ดาวน์โหลด29 กิโลไบต์เวอร์ชัน 1Arississĉแบบฝึกหัดสุขศึกษาม.6.docx
ดู ดาวน์โหลด20 กิโลไบต์เวอร์ชัน 1Arississ

2.)ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นลงในช่องแสดงความคิดเห็นที่อยู่ล่างสุด พร้อมทั้งเขียน ชื่อ-นามสกุล เลขที่-ชั้น ให้เรียบร้อย

ตอนที่ 1: จำนวน  30  ข้อ ๆ  แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1.ข้อใดกล่าวถึงกล้ามเนื้อ ไม่ถูกต้อง

  1. เซลล์กล้ามเนื้อจะมีการเพิ่มเมื่อเติบโตเต็มที่และลดจำนวน เมื่ออายุมากขึ้น
  2. กล้ามเนื้อลายที่เห็นเป็นสีขาว จะสามารถหดตัวได้เร็ว  แต่ไม่ทนทานต่อการทำงาน
  3. กล้ามเนื้อหัวใจ คล้ายกล้ามเนื้อเรียบ ทำงานไม่อยู่ในอำนาจจิตใจ หดตัวเป็นจังหวะด้วยตัวเอง
  4. กล้ามเนื้อเรียบ มีลักษณะไม่ลายตามขวาง พบในอวัยวะภายในซึ่งไม่อยู่ในอำนาจจิตใจ เช่น  ลำไส้ใหญ่
  5. กล้ามเนื้อลาย เป็นกล้ามเนื้อทั่วๆไป หรือกล้ามเนื้อแดงของร่างกาย อยู่ในอำนาจจิตใจภายใต้การควบคุมของระบบประสาทส่วนกลาง

2. เมื่อใกล้วันสอบนักเรียนมีความหงุดหงิด วิตกกังวลเนื่องจากร่างกายหลั่งสารใดน้อยลง

1. ซีโรโทนิน เอ็นดอร์ฟิน

2. ซีโรโทนิน อินซูลิน

3. เอ็นดอร์ฟิน กลูคากอน

4.เมลาโทนิน โตปานิน

5.เอ็นดอร์ฟิน ทริปคอน

3. โลหิตดำจากส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น แขน อก คอ ศีรษะ จะผ่านส่วนใดตามขั้นตอนจนกลายเป็นโลหิตแดง    มาที่เดิมได้

1. หัวใจห้องบนซ้าย – ล่างซ้าย – ปอด – หัวใจห้องบนขวา – ล่างขวา – ไปเลี้ยงร่างกาย

2. หัวใจห้องล่างซ้าย – บนซ้าย – ปอด – หัวใจห้องบนขวา – ล่างขวา – ไปเลี้ยงร่างกาย

3. หัวใจห้องบนขวา – ล่างขวา – ปอด – หัวใจห้องบนซ้าย – ล่างซ้าย – ไปเลี้ยงร่างกาย

4. หัวใจห้องล่างขวา – ล่างซ้าย – ปอด – หัวใจห้องล่างซ้าย – ล่างขวา – ไปเลี้ยงร่างกาย

5. หัวใจห้องบนขวา – ล่างซ้าย – ปอด – หัวใจห้องบนซ้าย – ล่างขวา – ไปเลี้ยงร่างกาย

4.    ข้อใดเป็นการใช้ทักษะปฏิเสธที่ไม่เหมาะสม

1.  ปฏิเสธด้วยคำตอบน่าเชื่อถือ ท่าทีจริงจัง

2.  เมื่อถูกรบเร้า ให้หลีกเลี่ยงและปฏิเสธด้วยถ้อยคำสุภาพ

3.  แสดงพฤติกรรมที่สุภาพในการปฏิเสธควบคู่กับคำพูด

4.  พูดตัดบท แสดงความไม่พอใจและตอบโต้ทันที

5.  ปฏิเสธด้วยถ้อยคำสุภาพและอ้างเหตุผล

5. เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ ข้อใดอาจเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ได้

  1. ลุกหนีทันทีเมื่อพูดปฏิเสธแล้วก็ควรลุกออกห่างทันที  อย่าใจอ่อน อย่ากลัวว่าเขาจะโกรธหรือเกรงใจกัน
  2. ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือใช้สิ่งเสพติด  และมีความระมัดระวังดื่มน้ำและอาหารที่รับประทาน
  3. ไปเที่ยวในที่ปลอดภัย  เช่น สวนสาธารณะ  สถานที่เปิดเผย  และไม่พยายามเข้าไปอยู่ในที่ลับตาคนสองต่อสอง
  4. วางแผนการตัดสินใจ  ก่อนตัดสินใจไปเที่ยวกับแฟน   ควรคิดให้รอบคอบว่าควรใกล้ชิดกับแฟนได้แค่ไหน   ควรระมัดระวังตัว
  5. รู้จักปฏิเสธ  เมื่อถูกแฟนจับมือถือแขน สัมผัสร่างกายและพยายามกระตุ้นอารมณ์ทางเพศต้องพูดเสียงดังฟังชัดและน้ำเสียงหนักแน่น  จริงจัง
6. ทักษะการตัดสินใจ หมายถึง ความหมายในข้อใด  จึงจะ ถือว่าถูกต้องที่สุด1. ความสามารถในการหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ได้2. ความสามารถในการปฏิบัติพฤติกรรมทางเพศได้3. ความสามารถในการเลือกกระทำหรือไม่กระทำได้4. ความสามารถในการล่อลวงเพศตรงได้เป็นอย่างดี5. ความสามารถในการคิดและตัดสินใจ

7. วัฒนธรรมต่างชาติที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของเด็กวัยรุ่นเกิดจากสาเหตุใดมากที่สุด

1. หนังสือและสิ่งพิมพ์ต่างๆ

2. การสื่อสารที่ไร้พรมแดน

3. ความเจริญทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

4. ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์

5. โทรศัพท์มือถือ

8. การวางแผนการดูแลสุขภาพเพื่อให้มีสุขภาพดีด้วยการรับประทานอาหารครบทุกหมู่และออกกำลังกายด้วยการเดินจะได้ประโยชน์มากที่สุดข้อใด

1. กระดูกยาว

2. มวลกระดูกหนาแน่นขึ้น

3. กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น

4. เอ็นและข้อต่อแข็งแรงขึ้น

5. ร่างกายมีความแข็งแรง

9. หลักของการสร้างมนุษย์สัมพันธ์คือข้อใด

1. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

2. เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม

3. เอาใจเขามาใส่ใจเรา

4. ยกตนข่มท่าน

5. น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า

10. ข้อใดเป็นสมรรถภาพทางกายที่นักกีฬาแบดมินตัน ควรมีมากที่สุด

1.ความเร็ว

2.ความแข็งแรง

3.การทรงตัวที่ดี

4.ความอ่อนตัว

5.คล่องแคล่วว่องไว

11.คุณสมบัติข้อใด ควรนำมาใช้ในการเล่นกีฬาประเภททีม

1.ความเสียสละ

2.ความสามัคคี

3.ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

4.ความขยันหมั่นเพียร

5.เอาใจเขามีใส่ใจเรา

12. ในการเล่นกีฬา เมื่อเกิดอุบัติเหตุข้อเท้าเคล็ด นักกีฬาควรปฏิบัติอย่างไร

1.หยุดพัก  ใช้ความเย็นประคบ  ปล่อยให้ขาห้อยลง

2.หยุดพัก  ใช้ความร้อนประคบ  ยกขาให้สูงขึ้น

3.หยุดพัก  ใช้ความเย็นประคบ  ยกขาให้สูงขึ้น

4.หยุดพัก  ใช้ความร้อนประคบ  ปล่อยให้ขาห้อยลง

5.หยุดพัก  ใช้ความเย็นสลับร้อนประคบ  ยกขาให้สูง

13. การอบอุ่นร่างกายในข้อใด เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นฟุตบอล

1.หมุนคอ  วิ่งรอบสนาม  สะพานโค้ง  วิดพื้น

2.วิ่งรอบสนาม  หมุนคอ  ลุก – นั่ง  สะพานโค้ง

3.วิ่งรอบสนาม  หมุนคอ  หมุนข้อเท้า  เหยียดขา

4.ลุก – นั่ง  วิดพื้น  หมุนคอ  เหยียดขา

5.วิ่งกลับตัว  กระโดด  หมุนแขน

14. กีฬาชนิดใดที่มีการตัดสินลูกออกแตกต่างจากกีฬาอื่น

1.บาสเกตบอล

2.วอลเลย์บอล

3.ตะกร้อ

4.ฟุตบอล

5.ฮอกกี้

15. หลักในการออกกำลังกายให้หัวใจแข็งแรง  ใช้ตัวอักษรย่อตามข้อใด

1.  FITG

2.  FITT

3.  FIIT

4.  FITI

5.  FTTI

16.  การออกกำลังกายแบบใดเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก

1. วิ่ง 100 เมตร ใช้เวลา 20 วินาที

2. กระโดดค้ำถ่อได้สูง 5 เมตร

3. ยกน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม

4.  ขี่จักรยานด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลา 30  นาที

5. กระโดดไกลได้ไกลถึง 15 เมตร

17. นักเรียนฝึกออกกำลังกายด้วยการวิดพื้นเป็นประจำจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพของกล้ามเนื้อส่วนใดมากที่สุด

1.กล้ามเนื้อต้นขา

2.กล้ามเนื้อหลัง

3.กล้ามเนื้อหน้าท้อง

4.กล้ามเนื้อแขน

5.กล้ามเนื้อน่อง

18. การวิ่งกลับตัว ต้องอาศัยสมรรถภาพทางกายด้านใด

1.ความคล่องตัว

2.ความทนทาน

3.ความเร็ว

4.ความอ่อนตัว

5.ความแข็งแรง

19. การแสดงกระบี่กระบองมีลำดับขั้นตอนอย่างไร

1.การขึ้นพรหม  การถวายบังคม  การรำ  การเดินแปลง  การตี

2.การถวายบังคม  การขึ้นพรหม  การรำ  การเดินแปลง  การตี

3.การขึ้นพรหม  การรำ  การถวายบังคม  การเดินแปลง  การตี

4.การถวายบังคม  การรำ  การขึ้นพรหม  การเดินแปลง  การตี

5.การตี  การรำ  การขึ้นพรหม  การถวายบังคม

20. เมื่อนักเรียนไปใช้บริการรักษาสิวในร้านเสริมสวย ในฐานที่เป็นผู้บริโภค นักเรียนมีวิธีการปกป้องสิทธิ

ของตนเองอย่างไร

1. เลือกร้านที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้การรับรอง

2. เลือกร้านที่มีชื่อเสียง และมีสาขาเปิดบริการมาก

3. เลือกร้านที่มีแพทย์และพยาบาลที่มีใบอนุญาตทำการ

4. เลือกร้านที่มีแพทย์ที่มีใบประกอบโรค และใบอนุญาตทำการ

5. เลือกร้านที่เพื่อนไปใช้บริการสิวหายใบหน้าสวย

21. สถานการณ์ที่เป็นปัญหาด้านสุขภาพมากที่สุด

  1. สภาพสิ่งแวดล้อม
  2. ความรู้ของประชาชน
  3. สุขลักษณะนิสัยของประชาชน
  4. ความยากจนของประชาชน
  5. การกระจายของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่ทั่วถึง

22. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง

1.พันธุกรรม

2.การติดเชื้อไวรัส

3.การสูบบุหรี่จัด

4.ความเครียด

5.กินอาหารที่มีไขมันสูง

23. ข้อใดต่อไปนี้เป็นการประเมินผลกระทบจากพฤติกรรมเสี่ยงของอุบัติเหตุทางอ้อม

1.ค่ารักษาในโรงพยาบาล

2.ค่าฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ

3.ความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวและผู้เป็นที่รัก

4.ชดเชยระหว่างการเจ็บป่วย

5.ค่าพาหนะเดินทางไปโรงพยาบาล

24. การปฏิบัติตนในข้อใดของนายเอกที่จัดเป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ

1.การเข้านอนหลังเวลา 21.00 น. ทุกวัน

2.การนวดตนเองเมื่อมีอาการปวดกล้ามเนื้อ

3.การซื้อยาแก้ท้องเสียมารับประทานเมื่อมีอาการท้องร่วง

4.การรับประทานอาหารประเภทแหนมสด ก้อยปลา

5.การรับประทานผักและผลไม้สด

25.  ในเมืองใหญ่ ๆ มักประสบปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพในข้อใด

  1. อากาศเป็นพิษ
  2. โรคระบาด
  3. การกำจัดขยะผิดวิธี
  4. คนเห็นแก่ตัว

5. แหล่งน้ำเสีย

26. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของผู้นำกิจกรรม

1. เตรียมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะใช้ในกิจกรรม

2. มีความรู้ในเรื่องการปฐมพยาบาลและวิธีการป้องกันการบาดเจ็บ

3. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบกิจกรรม

4. ขณะร่วมปฏิบัติกิจกรรมต้องให้ความสำคัญต่อกระบวนการกลุ่ม

5. กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม

27.  ในกรณีที่มีสายไฟฟ้าขาดพาดอยู่บนรถที่นักเรียนนั่งอยู่ภายใน นักเรียนจะออกจากรถด้วยความปลอดภัยอย่างไร

1. เปิดประตูออกมาตามปกติ

2. ทุบกระจกให้แตกแล้วออกมาทางหน้าต่างรถ

                3. ใช้ผ้าแห้งหรือกระดาษจับประตูรถ เปิดรถแล้วกระโดดออกมา

4. นั่งรอในรถจนกว่าจะมีคนมาช่วย

5. ช่วยเหลือโดยจับสายไฟที่พาดอยู่ออก

28. แม่วัย 17 ปี ก่อคดีฆาตกรรมฆ่าลูกแล้วเอาศพใส่ตู้เย็น  เพราะโกรธสามีที่ทะเลาะกันแล้วสามีไม่ยอมกลับบ้าน  จากข่าวดังกล่าวนักเรียนคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหา ในครอบครัวนี้