RAMA Square – กลูตาไธโอน vs คอลลาเจน ช่วยได้จริงหรือไม่ ? 22/07/63 l RAMA CHANNELBreak 2 Better to know Show
ติดตามชมรายการ Rama Square ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00-12.00 น. ทาง True Visions42 และ YouTube Rama Channel ในที่นี้น่่าจะหมายถึงกลูต้าไธโอนและคอลลาเจน ซึ่งสารทั้งสองตัวมีการอ้างสรรพคุณช่วยในเรื่องของการทำให้ผิวขาวและดูเต่งตึงมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคอลลาเจนเป็นสารที่พบได้ในโปรตีนในเนื้อสัตว์ตามปกติอยู่แล้ว แต่กลูตาไธโอนที่ทำให้ผิวขาวหรือซีดลงนั้นเป็นเพียงผลข้างเคียงชั่วคราว ที่ไม่ได้มีประโยชน์ที่แน่ชัดต่อร่างกายในระยะยาว ซึ่งสารทั้งสองตัวจะต้องใช้ตับหรือไตขับออกอยู่แล้วค่ะ ในคนที่มีโรคตับหรือไตผิดปกติอยู่ การใช้ยาใดๆควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น หรือแม้ไม่มีโรคตับหรือไตใดๆ ก็ไม่ควรกินสารใดๆเข้าไปเกินความจำเป็นเพราะอาจจะมีผลต่อตับและไตในอนาคตได้หากมีการใช้ยาสะสมมานานมากๆ เวลาพูดถึงสารอาหารบำรุงผิว เพื่อผิวขาว จะนึกถึงคอลลาเจนและกลูตาไธโอนกันเป็นอันตับต้นๆ เพราะมีการโฆษณากันเยอะมากทั้งจากแบรนด์ชั้นนำ ดารา นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงในวงการ โดยมีการอ้างถึงผลงานวิจัยว่าช่วยให้ขาวขึ้นได้จริง แต่ในขณะเดียวกัน มีแพทย์ เภสัชกร และสื่อออกมาเตือนเรื่องผลิตภัณ์เสริมอาหารชนิดนี้กันอย่างเสมอ แล้วจะเชื่อใครได้บ้างนะ ขอสรุปสั้นๆ
กลูตาไธโอน คือ อะไรกลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองจากสารอาหารพวกโปรตีน หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วต่างๆ กลูตาไธโอนทำให้ผิวขาวได้อย่างไร ?แต่เดิมกลูตาไธโอนถูกนำมาฉีดเข้าร่างกาย เพื่อรักษาโรคบางอย่างให้ผู้ป่วย เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ระบบประสาทบกพร่อง และรักษาความเป็นพิษจากโลหะหนัก ซึ่งไม่ได้นำมาใช้เพื่อให้ผิวขาวโดยตรง ผลข้างเคียงของกลูตาไธโอน คือ จะไปยับยั้นเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ยับยั้งการสร้างเซลล์ผิวสีน้ำตาลดำ ให้สร้างเซลล์ผิวขาวและชมพูได้มากขึ้น การนำสารเข้าร่างกายแบบทาน รับประทานในรูปแบบเม็ดหรือผงละลายน้ำได้ แต่ประสิทธิภาพน้อย เนื่องจากสามารถสลายได้ทันทีเมื่อโดนน้ำย่อย ร่างกายแทบไม่ได้ดูดซึมหรืออาจดูดซับได้น้อยจนแทบไม่ต่างจากอาหารทั่วไป ทำให้ไม่ได้ผลในการเพิ่มผิวขาวตามต้องการ แบบฉีด การฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือกล้ามเนื้อ จะทำให้ได้รับกลูตาไธโอนโดยตรง ซึ่งควรให้แพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญเป็นคนฉีด เพราะการฉีดในปริมาณที่มากเกินไปหรือมีสารปนเปื้อน อาจทำให้เกิดการช็อกจนเสียชีวิตได้ กลูตาไธโอนปริมาณที่เหมาะสมกลูตาไธโอนปริมาณที่เหมาะสมประมาณ 60-250 มิลลิกรัมต่อวัน
อันตรายเมื่อได้รับกลูตาไธโอนมากเกินไปถึงจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่การได้มากเกินไปจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน
การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีกลูตาไธโอนควรเลือกที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะในการทดสอบมีบางยี่ห้อที่ไม่ได้ผสมกลูตาไธโอนเข้าไปจริงตามที่กล่าวอ้าง และบางแบรนด์ผสมสารอันตรายเข้าไป
“กลูต้า" เสี่ยงตาบอด มะเร็งและเสียชีวิต ?
คอลลาเจน คือ อะไรคอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ร่างกายสร้างเองได้ยากมาก เพราะมีโมเลกุลยาวและมีน้ำหนักมาก กระบวนการสร้างซับซ้อนจนอาจถึงขั้นสร้างเองไม่ได้ การทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูงจะช่วยให้ได้คอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสม แต่คนไทยส่วนหนึ่งจะยังกังวลเรื่องโภชนาการ ทำให้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกมาช่วยเพิ่มคอลลาเจน คอลลาเจนมีความจำเป็นต่อร่างกายคอลลาเจนมีประโยชน์มากมาย ช่วยเรื่องเพิ่มกำลังร่างกาย บำรุงผิวหนัง ข้อต่อ รอยเหี่ยวย่น บำรุงหัวใจ และอีกมากมาย สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย
ข้อเสียของคอลลาเจนแบบทาน ส่วนใหญ่สลายจากน้ำย่อยในร่างกายได้ ทำให้ร่างกายดูดซับได้น้อยกว่าปกติ จึงแนะนำให้ทานตอนท้องว่าง เช่น ก่อนทานอาหารเป็นชั่วโมง เพื่อให้ดูดซึมได้ดีขึ้น การทานมากเกินไป ยังอาจทำให้ไตทำงานหนักเกินไป แบบฉีด ทำให้ร่างกายได้รอบคอลลาเจนในปริมาณที่มากกว่า ถึงไม่ผ่านน้ำย่อย แต่อาจเกิดอาการแพ้รุนแรงได้ในบางราย
สรุป ทานเพื่อผิวขาวดีไหม ?ไม่ควรทานคอลลาเจนหรือกลูต้าเพื่อหวังผลให้ผิวขาว เพราะแทบไม่เห็นผล ส่วนใหญ่เป็นการโฆษณาเกินจริงที่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่มากเพียงพอ ถ้ามีความสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทานเพื่อช่วยทดแทนสารอาหารที่ขาดไปทีละน้อย แต่การทานปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพแทน หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องผิวพรรณ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา Fascino ผ่านระบบเทเลฟาร์มาซี
|