รถ เข็น พับ ได้ ยี่ห้อ ไหน ดี

การเดินทางออกจากบ้านแต่ละครั้ง ถ้าจำเป็นต้องพาลูกรักออกไปด้วย ทำเอาคุณพ่อคุณแม่คิดหนักกันอยู่ไม่น้อย ไหนจะต้องคอยกังวลเรื่องสถานที่จัดเก็บ พื้นที่ในรถไม่เพียงพอ ที่จะใส่รถเข็นของเจ้าตัวเล็ก หยิบจับอะไรในแต่ละครั้งก็ไม่คล่องตัวเอาซะเลย พ่อพ่อ แม่แม่ ลองนึกภาพตามแล้วก็น่าจะปวดหัวไปตามๆ กันเลยใช่ไหมละคะ

ทีนี่ก็จะเริ่มมองเห็นควาสำคัญ และข้อดีของรถเข็นที่สามารถพับได้กันแล้ว เราลองมาดูเรื่องราวอันตราย ที่คุณพ่อคุณแม่อาจคาดไม่ถึงกันบ้าง ว่าถ้าออกเดินทางแต่ละครั้งแล้วไม่มีรถเข็น ที่สามารถพับได้ อาจจะเกิดเรื่องราวอะไรได้บ้าง

รถเข็นเด็กพับเล็ก เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

“รถเข็น แต่ละคัน ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน ก็เข็นได้เหมือนกันนั่นแหละ” แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งเล็กๆ ที่มองข้าม มักจะสะสมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีเด็กแรกเกิดแล้วละก็ ยิ่งไม่ควรมองข้าม เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าเด็กแรกเกิดมีความบอบบาง ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการมีพัฒนาการที่ผิดปกติ

ดังนั้น การมีความรอบคอบของคุณพ่อคุณแม่จึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะนอกจากลูกจะมีพัฒนาการที่ดีแล้ว เหล่าคุณพ่อคุณแม่ยังเป็นเกราะคุ้มกัน ให้ลูกๆ มีสุขอนามัยที่ดีได้อีกด้วย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจได้มากขึ้น ขอยกตัวอย่างภัยอันตรายไว้ให้ 3 ข้อ ดังนี้

1. กรดไหลย้อนในเด็ก เบาะนอนในรถเข็นเด็ก ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป

กิจกรรมหลักของเด็กทารก ที่ขาดไม่ได้เลยคือการทานนมแล้วนอน แต่นี่แหละคือสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก หากคุณพ่อคุณแม่ออกเดินทางนอกบ้าน พาลูกทานนมแล้วเผลอวางนอนในรถเข็น บอกเลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะถ้าหากเลือกรถเข็นทั่วไป ที่ไม่สามารถปรับเบาะในระดับ 170 องศาได้ ต้องคอยระมัดระวังเรื่องกรดไหลย้อนในเด็กให้ดี เพราะถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ นอนหลับในรถเข็น ให้คอยสังเกตการหายใจ หากมีการหายใจลำบาก หรือหายใจตื้นระหว่างการนอนหลับ ก็อาจเสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ เด็กทารกคลอดก่อนกำหนดอาจมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคปอดเรื้อรังร่วมด้วย เพราะหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างยังเติบโตไม่เต็มที่ แค่คิดเหล่าแม่ๆก็เสียวหัวใจแล้ว

อ่านบทความกรดไหลย้อนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/gerd-children

2. ที่บังแดดของรถเข็นเด็ก ไม่มีคุณภาพ ลูกรักมีโอกาสเป็นต้อกระจกที่ดวงตาได้

แค่ข้อแรกก็ยังหายใจไม่ทั่วท้อง เจอข้อสองถึงกับต้องกลั้นหายใจอ่านเลยทีเดียว คุณพ่อคุณแม่อย่ามัวเพลิดเพลินไปกับแสงแดด เพราะอย่าลืมนะคะว่าแสงแดดก็มีโทษอยู่เหมือนกัน ผิวของเด็กๆ อย่างที่ทราบกันดีว่ามีความบอบบางมากๆ บ้านไหนมีลูกๆ อายุน้อยกว่า 6 เดือน ยิ่งไม่ควรถูกแสงแดดโดยตรง เพราะนอกจากมะเร็งผิวหนังที่ว่าน่ากลัวแล้ว ต้อกระจกที่ดวงตาของลูกน้อยน่ากลัวยิ่งกว่า การเลือกที่บังแดดของรถเข็น ควรเลือกเส้นใยที่หนาแน่น แสงแดดผ่านได้น้อย หรือเวลาที่คุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อรถเข็น ลองให้พี่ๆ พนักงานทดสอบการบังแดดได้ แต่งานนี้อาจจะต้องเลือกซื้อในร้านที่มีพื้นที่เพียงพอต่อการทดสอบนะคะ เลือกซื้อรถเข็นเพื่อลูกๆ ทั้งที ตรวจสอบให้ละเอียดทุกจุดไปเลย

3. ระบบ Security ต้องมี ล้อรถไม่ดี อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด

ถ้าคุณพ่อคุณแม่บ้านไหน ทราบกันดีว่าลูกๆ สุดที่รักอยู่ไม่นิ่งแล้วละก็…ห้ามมองข้ามข้อนี้เด็ดขาด เพราะหลักๆ แล้วที่สุดของความอันตราย มักจะถูกปล่อยผ่านกันที่ตรงนี้ ก่อนอื่นต้องขยายความให้ฟังก่อนว่า ถ้าระบบการล็อคล้อ และเข็มขัดนิรภัย (Seat belt) ของรถเข็นไม่มีประสิทธิภาพแล้ว จะเกิดเหตุร้ายอะไรตามมาได้บ้าง ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่พาลูกๆไปในที่ๆ มีผู้คนเยอะๆ มากหน้าหลายตา ลองนึกภาพตาม ถ้าลูกสามารถปลดสายเข็มขัดนิรภัยเองได้ จะเกิดอะไรขึ้น!! แน่นอน ลูกหาย!! และเหตุการณ์หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป แทบไม่อยากจะคิดกันต่อเลยใช่ไหมล่ะ แล้วถ้าต่อให้เข็มขัดนิรภัยถูกออกแบบดี และสวยงามแค่ไหน แต่ล้อไม่สามารถล็อคได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเกิดเรื่องราวอะไรได้อีก ลูกเกิดพลิกตัวหน้าคว่ำไปกับพื้น เรียบร้อย นอกจากเสียงร้องจ๊ากกกแล้วนั้น ต้องพาไปเอ็กซเรย์กันยกใหญ่ คอยลุ้นกันจนใจเสีย ว่าลูกรักจะได้รับผลกระทบกระเทือนตรงจุดไหนในร่างกายอีกบ้าง

เป็นอย่างไรกันบ้างหลังจากอ่านครบ 3ข้อ หายใจทั่วท้องกันไหมคะ สุดท้ายแล้วไม่มีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหน อยากให้เกิดเหตุการณ์ตามที่กล่าวมาข้างต้นแน่นอน ดังนั้นความรอบคอบในการเลือกซื้อของให้ลูกควรมาเป็นอันดับหนึ่ง อย่าปล่อยผ่านแม้แต่เรื่องเล็กๆ เพราะผลที่ตามมาอาจจะทำให้คุณไม่มีวันลืม และเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้นะคะ

ประเทศไทย มีรถเข็นเด็กพับเล็กแบรนด์ไหนบ้าง ที่สามารถพับได้เล็ก และผ่านมาตราฐานระดับสากล จนพกติดขึ้นเครื่องบินได้

ต้องขอเกริ่นก่อนว่าแบรนด์รถเข็นสำหรับเด็ก( Baby Stroller ) มีมากมายหลากหลายแบรนด์ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกซื้อเต็มไปหมด แต่ถ้าพูดถึงรถเข็นที่สามารถพับได้ ในเมืองไทยเราก็มีนำเข้าอยู่ไม่กี่แบรนด์ วันนี้ abc the baby ขอแนะนำแบรนด์รถเข็นที่ขึ้นชื่อว่า พับได้ กางง่าย พกพาขึ้นเครื่องได้ มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้พิจารณา จะมีแบรนด์อะไรมา Update บ้าง และแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นอย่างไร ตามมาดูได้เลยค่ะ

1. GB Pockit Air

หากพูดถึงรถเข็นเด็กพับได้ ต้องหนีไม่พ้นประเทศเยอรมันนี แบรนด์ GB รุ่น Pockit Air ที่ใครๆ ก็ใช้กันทั่วโลก เพราะถือว่าเป็นรถเข็นเด็กพับได้รุ่นแรก และรุ่นเดียว ที่ออกแบบมาตอบโจทย์พ่อแม่ยุคใหม่ น้ำหนักเบา พับเล็ก พับง่าย พับได้ในมือเดียว แถมรองรับน้ำหนักได้ถึง 27 กิโลกรัม

ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ บุกน้ำ ลุยทราย ไปได้หมดทุกที่ ใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถพกพาขึ้นเครื่องได้ รับรองว่าถูกใจคุณพ่อคุณแม่นักเดินทางแน่นอน หลายๆ ท่านอาจเกิดความสงสัยว่า รถเข็นที่พับได้โครงสร้างจะแข็งแรงหรือไม่ ระบบความปลอดภัยจะดีหรือเปล่านะ อย่ารอช้าที่ไขทุกข้อสงสัย ตามมาดูกันเลย

ดูวีดีโอ คลิ๊ก https://youtu.be/oBVD5vP9ZGY

การันตีได้เลยว่า GB Pockit Air มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาเพียง 4.7 กิโลกรัม ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นได้ง่ายๆ คือหนักเท่าขวดน้ำขนาด….เพียง 3 ขวดเท่านั้น เรียกได้ว่า เป็นการบุกเบิกนวัตกรรมรถเข็น พับเล็กของโลกเลยก็ว่า นวัตกรรมเหล่านี้ทำให้รถเข็นเด็กแบรนด์ GB รุ่น Pockit Air ได้ถูกบันทึกลงในหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Guinness World Records ปี 2014 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนที่สามารถเข้ามาทำลายสถิตินี้ได้

ระบบบความปลอดภัยของ GB Pockit Air สามารถหมุนและล็อคได้อย่างง่ายดาย แม้พื้นถนนไม่เรียบ พาลูกเที่ยวได้สนุกมากขึ้น เพราะมาพร้อมกับที่บังแดด ปกป้องแสงแดดจากดวงอาทิตย์ และสามารถพับเก็บหรือวางตั้งได้เดี่ยวๆ ไม่ต้องกลัวโค่นล้ม (รถเข็นเด็กGBเขายืนได้นะ)

2. Babyzen YOYO

รถเข็นพับได้ จากประเทศฝรั่งเศส บ้านไหนมีลูกน้อย วัยแรกเกิด Babybyzen ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ได้รับการขนานนามว่า สามารถพกพาขึ้นเครื่องได้ วัสดุแข็งแรงทนทานด้วย Aluminum alloy, stainless steel และ fibre-glass reinforced technical plastics เบาะรองนอน ปรับระดับเอนได้ 145 องศา รองรับน้ำหนักได้ถึง 22 กิโลกรัม มีช่องสำหรับใส่สัมภาระที่รับน้ำหนักได้ 5 กิโลกรัม ระบบโช้ค 4 ล้อ มั่นใจได้ ทุกการเคลื่อนที่

ดูวีดีโอ คลิ๊ก https://youtu.be/deczodrK_kY

สมกับเป็นรถเข็นพับเล็ก No.1 จากฝรั่งเศส พับกางได้ ในพริบตา พาลูกน้อยออกท่องเที่ยวที่ไหนก็ได้ พร้อมกับสายสะพายบ่าที่สะดวกสบายมากๆ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ถอดซักได้เลย สะดวก ครบครัน

3. Doona

สัมผัสการเดินทาง แบบครบวงจร สมบุกสมบันแค่ไหนก็ไม่กลัว ตอบโจทย์คุณแม่สุดๆ เพราะเจ้ารถเข็น Doona สามารถย้ายจากคาร์ซีท ไปยังรถเข็นได้ ในพริบตาเดียว ปรับด้ามเข็นตามความสูงของคุณแม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรระหว่างวัน หรือเดินทางด้วยรถยนต์ Doona ก็เอาอยู่…

ดูวีดีโอ คลิ๊ก https://youtu.be/WxkJZFjz-rg

แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในรถเข็น ที่มีความยืดหยุ่นสูง เรื่องมาตรฐานการรับรอง ได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด ผ่านกระบวนการรับรองที่จำเป็นทั้งหมด รับประกันในความปลอดภัยระดับสูง ด้วยฟังก์ชั่นการทำงาน ระบบไฮบริด ที่เป็นเอกลักษณ์ รถเข็นเด็ก Doona จึงได้รับการทดสอบผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุด ในสหรัฐอเมริกา และยุโรป (คันเดียวจบ ครบ คุ้มสุดๆ)

4. Cybex

อีกแบรนด์ชั้นนำของรถเข็น ที่เหมาะกับการท่องเที่ยว เพื่อให้ลูกรักของ คุณพ่อ คุณแม่ได้ออกไปสู่โลกกว้าง ด้วยน้ำหนัก เพียง 9 กิโลกรัม เบาะนั่งผ้าตาข่าย ระบายอากาศ ช่วยระบายความร้อนของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี สามารถปรับเอนได้ถึง 4 ระดับ โดยใช้มือข้างเดียว หลังคากันแดดของ Cybex สามารถกัน UPF50+ หมดกังวล เรื่องแสงแดดไปได้เลยค่า

ดูวีดีโอ คลิ๊ก https://youtu.be/6JEeSI_i8TM

โครงสร้างของตัวรถ บอกเลยว่าพรีเมี่ยมสุดๆ ระบบการสั่นสะเทือนของตัวล้อ MIOS ถูกออกแบบมาให้เข้ากับชีวิตสมัยใหม่ มีความนุ่มนวล เข็นได้เงียบสงบ สะดวกสบาย คุณพ่อ คุณแม่ ท่านไหนอยากสัมผัสความกระฉับกระเฉง บอกเลยว่า Cybex เค้าก็เลิศ เพราะตลอด 10ปี ที่ผ่านมาได้รับคะแนนมาตราฐานสูง จากหน่วยงานทดสอบอิสระ และได้รับรางวัล RedDat Awards อีกด้วย

5. Keenz

รถเข็นพับเล็กอีกแบรนด์ ที่จะไม่พูดถึง ไม่ได้ นั่นก็คือ รถเข็นพับได้ แบรนด์ Keenz จากเกาหลีใต้ ที่โด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา เหมาะกับการใช้งานทั่วไป นอนราบได้ สูงสุด 175 องศา ตะกร้าใส่ของ สามารถจุของได้ถึง 45 ลิตร งานนี้ต้องถูกใจคุณแม่นักช็อปแน่นอน และสามารถรับน้ำหนักลูกรักได้เยอะ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุ 5ปี

ดูวีดีโอ คลิ๊ก https://youtu.be/jWIZlsCzDpk

ออกแบบสำหรับการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้ไกล เดินทางทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แตกต่างด้วยความแข็งแรง ของระบบแกนล้อขนาดใหญ่ เข็นลื่น แบรนด์ Keenz เป็นแบรนด์รถเข็นเด็ก ที่มีกลุ่มผู้ใช้ทั่วโลก คุณภาพมาตราฐานสากล ได้ใบรับรองอีกมากมาย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ แบรนด์รถเข็นเด็กพับได้ทั้ง 5แบรนด์ มีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันไป คุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบ้านได้เลยนะคะ แอดมินหวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อรถเข็นให้ลูกรักได้ง่ายมากขึ้นนะคะ

เคล็ดลับ เลือกซื้อรถเข็นให้ถูกใจลูกน้อย

แอดขอเพิ่ม เคล็ดลับ ให้อีกสักนิดนะคะ ซึ่งเคล็ดลับที่ว่าก็คือ การเลือกซื้อรถเข็น ให้ถูกใจลูกน้อย คุณลูกปลื้มปริ่ม คุณพ่อ คุณแม่ ก็จะได้สบายใจไปด้วย รับรองว่าทำตามนี้ ลูกจะติดรถเข็นตัวโปรด จนไม่อยากให้คุณพ่อ คุณแม่อุ้มเลยล่ะค่า ว่าแต่ จะมีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลย

1. เริ่มจากการสังเกตลูกน้อยมองดูวิว ทิวทัศน์ ได้อย่างตื่นตา ตื่นใจหรือเปล่า เพราะในช่วงวัยนี้ เป็นวัยที่ชอบมอง อยากรู้ อยากเห็น และต้องการเรียนรู้ไปกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ดังนั้น การเลือกซื้อรถเข็น ควรพิจารณาที่บังแดดให้ลูกน้อยด้วย ว่าจะบังวิว จนมองแทบไม่เห็นอะไรเลยหรือเปล่า
2. สมัยนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งสกปรก ฝุ่น มลพิษ บนท้องถนนเยอะมากๆ การสังเกตระดับความสูงของล้อรถเข็น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะถ้าหากระดับความสูงของตัวรถเข็น อยู่ในระดับที่เตี้ยใกล้พื้นมากเกินไป สิ่งสกปรกต่างๆ ก็อาจจะเข้าสู่ตัวลูกน้อยได้ง่ายมากขึ้น บางครั้งถ้าบนพื้นมีแมลง หรือสัตว์มีพิษ เท้าของลูกใกล้พื้นผิวถนนมากไป แล้วลูกๆ เหลือบไปเห็นเข้า นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ลูกไม่ยอมนั่งรถเข็นอีกเลยก็ได้นะคะ
3. ลูกจะอุ่นใจมากกว่า ถ้าได้เห็นหน้าคุณพ่อ คุณแม่ ในขณะที่เข็นรถเข็น การเลือกซื้อรถเข็นของเจ้าตัวเล็ก ให้เลือกแบบหันหน้าเข้าหาคุณแม่ได้ และสภาพดินฟ้า อากาศ เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ ในช่วงฤดูฝน ฝนจะตกช่วงไหนบ้าง ก็ไม่ทราบได้ การใช้ผ้าคลุมกันฝน ที่สามารถคลุมรถเข็นได้ทั้งคัน ก็จะช่วยให้ลูกน้อยไม่ได้สัมผัสกับละอองน้ำฝน ที่เราก็ไม่รู้ว่าจะมีเชื้อโรคอะไรปะปนมาอีกบ้าง

ภายในร้าน abc the baby ยังมีรถเข็นเด็ก ของใช้สำหรับแม่และเด็ก ให้คุณพ่อ คุณแม่ ได้เลือกซื้อกันอย่างครบวงจร สามารถดูรายละเอียดสินค้าภายในร้าน เพิ่มเติมได้ที่ https://www.abcthebaby.com/